​

ในงานเปิดตัวรถรุ่นล่าสุด 'ปอร์เช่ 911 จีที 3' (Porsche 911 GT3) มีการเปิดเผยว่ารถทุก 8 คันจาก 10 คันที่ออกจากสายการผลิตจะติดตั้งมาพร้อมยางสมรรถนะสูงพิเศษ 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 เอ็น 1' (MICHELIN Pilot Sport Cup 2 N 1) ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ โดยใช้ยางล้อหน้าขนาด 245/35 ZR20 และยางล้อหลังขนาด 305/30 ZR20

ยาง 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 เอ็น 1' ซึ่งออกแบบมาเพื่อรถ 'ปอร์เช่ 911 จีที 3' โดยเฉพาะ เป็นยางสำหรับสนามแข่งที่ใช้งานบนถนนได้ (Road-Legal Track Tires) รุ่นล่าสุดของมิชลิน เมื่อเปรียบเทียบกับยางรุ่นก่อนหน้าที่ใช้ชื่อรุ่น 'เอ็น 0' จะพบว่ายางรุ่น 'เอ็น 1' ให้สมรรถนะที่เหนือกว่าในด้านเวลาต่อรอบ (Lap Time) เสถียรภาพการทรงตัว และการบังคับควบคุมแบบรถสปอร์ต นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงความสมดุลของทั้งสมรรถนะความปลอดภัยและความเพลินเพลินในการขับขี่ เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวันบนถนนและการขับขี่บนสนามแข่งที่สมรรถนะทุกด้านของยางถูกผลักดันถึงขีดสุด

โครงการร่วมพัฒนายางรุ่นนี้ใช้เวลาถึง 2 ปีครึ่งในการพัฒนาและปรับปรุงยางล้อให้มีคุณสมบัติตามที่ทีมวิศวกรของปอร์เช่กำหนดไว้สำหรับรถ 'ปอร์เช่ 911 จีที 3' จนได้ผลิตภัณฑ์ยางที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะสูงมาก ให้สมรรถนะการใช้งานคงที่สม่ำเสมอ และมีความสมดุลระหว่างล้อหน้าและล้อหลังที่ดีเยี่ยม ทั้งยังมีความต้านทานการหมุนตามมาตรฐานข้อกำหนดของยุโรป (R117-2)

​

กระบวนการพัฒนาที่ใช้เวลายาวนานเช่นนี้ทำให้เกิดการผลิตและทดสอบยางต้นแบบกว่า 350 เส้น โดยมีการทดสอบอย่างหนักหน่วงบนสนามแข่ง ณ ศูนย์ทดสอบของมิชลินที่เมืองลาดูซ์ (Ladoux) ประเทศฝรั่งเศส และบนสนามแข่งที่เมืองเนือร์บูร์ก-ริง (Nürburgring) ประเทศเยอรมนี และเมืองนาร์โด (Nardo) ประเทศอิตาลี

ยางล้อรุ่นนี้ได้นำหลากหลายนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เกิดจากกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาใช้ อาทิ เทคโนโลยี Multi-Compound ที่ใช้เนื้อยางต่างสูตรกันบริเวณด้านในและด้านนอกของหน้ายางเพื่อให้มีสมรรถนะในการยึดเกาะสูงและสม่ำเสมอในทุกสภาพอากาศ ทั้งยังใช้นวัตกรรมหน้าสัมผัสแบบแปรผัน Track Variable Contact Patch 3.0 ที่ช่วยปรับแรงกดบนหน้าสัมผัสอย่างเหมาะสมเพื่อให้ปริมาณเนื้อยางที่สัมผัสพื้นถนนหรือสนามแข่งคงที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะวิ่งทางตรงหรือเข้าโค้ง

ทั้งนี้ ปอร์เช่ได้เลือกใช้ยางมิชลินเป็นยางมาตรฐานที่ติดตั้งมาพร้อมรถปอร์เช่รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่น อาทิ 918 Spyder, Cayman GT 4 และ 911 GT3 RS สะท้อนถึงความไว้วางใจที่มีต่อสมรรถนะของยางมิชลินอย่างเต็มเปี่ยม