ศึก ซูเปอร์ เอ็นดูรานซ์ 10 ชั่วโมง 2017 เปิดประสบการณ์ใหม่วงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ด้วยรถแข่งมากถึง 55 คัน ในเกมการแข่งขันที่ดราม่าสุดๆ ตลอดทั้ง 10 ชั่วโมง สถานการณ์ลุ้นแชมป์พลิก 15 วินาทีสุดท้าย “สานนท์ จีเอฟพีที เอสแอล ออโต้สไลด์” รถพังขณะเป็นผู้นำส่ง “อินเนอร์ ไลน์” ผงาดแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรูปแบบมาราธอนระดับอินเตอร์เนชั่นแนล รายการ ซูเปอร์ เอ็นดูรานซ์ 10 ชั่วโมง 2017 (Super Endurance 600 Minutes 2017) ดวลความโหด 10 ชั่วโมงเต็มเมื่อวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร มีรถแข่งเข้าร่วมสูงถึง 55 คัน จากทั้งสิ้น 3 รุ่น
ตำแหน่งโพลในคลาสสูงสุดอย่าง ดิวิชั่น 2 เป็นของ รถแข่ง ฮอนด้า ดีซี5 หมายเลข 132 จากสังกัด สานนท์ จีเอฟพีที เอสแอล ออโต้สไลด์ ที่ขับโดยนักขับมากประสบการณ์ของไทยอย่าง พิษณุ ศิริมงคลเกษม, ภิษณุ ภูษิตานนธกูร, เกริกพงษ์ รัตนา และ เดชาธร ภู่อัครวุฒิ
ออกสตาร์ทเรซนี้ด้วยการขยับขึ้นนำของรถแข่ง โตโยต้า อัลติส หมายเลข 123 จาก กาซู ทีม ไทยแลนด์ ที่ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ มานัต กุละปาลานนท์ ในชั่วโมงแรก ทว่าหลังจากนั้น รถแข่ง โตโยต้า อัลเทซซ่า หมายเลข 111 ของ อินเนอร์ ไลน์ ที่ขับโดย เดวิช อยู่เป็นสุข, ชานน อัศวสังสิทธิ และ วรุฒ กานต์วิศิษฎ์ ก็ขยับขึ้นรั้งจ่าฝูงในชั่วโมงที่ 2 ก่อนจะรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 7 ชั่วโมงแรก
โดยใน 3 ชั่วโมงสุดท้ายถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกมใน ดิวิชั่น 2 ซึ่งเจ้าของโพลอย่างรถแข่ง ฮอนด้า ดีซี 5 หมายเลข 132 จาก จากสังกัด สานนท์ จีเอฟพีที เอสแอล ออโต้สไลด์ ที่มีปัญหาการรีดความเร็วในช่วงแรก แต่จากการวางแผนที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้สามารถขยับขึ้นเป็นผู้นำได้สำเร็จในชั่วโมงที่ 9 และทำท่าจะคว้าแชมป์ได้อย่างแบเบอร์ เนื่องจากนำจนถึงนาทีสุดท้าย ทว่า 15 วินาทีสุดท้ายเกมก็กลับมาพลิกอีกครั้ง เมื่อรถแข่งของ สานนท์ จีเอฟพีที เอสแอล ออโต้สไลด์ ขับผ่านเส้นสตาร์ท-ฟินิช แต่กลับมีปัญหาเครื่องยนต์อย่างไม่คาดคาิด ไฟลุกในห้องเครื่องและไม่จบการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย
ส่งผลให้แชมป์ในเรซนี้ตกเป็นของ รถแข่ง โตโยต้า อัลเทซซ่า หมายเลข 111 ของ อินเนอร์ ไลน์ ที่ขับโดย เดวิช อยู่เป็นสุข, ชานน อัศวสังสิทธิ และ วรุฒ กานต์วิศิษฎ์ ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 10 ชั่วโมง 3 นาที 33.121 วินาที คว้าแชมป์ในรุ่น ดิวิชั่น 2 ไปครองอย่างสุดมันส์ ทำจำนวนรอบทั้งสิ้น 288 รอบสนาม คิดเป็นระยะทาง 1,311.552 กิโลเมตร
ขณะที่อันดับ 2-3 ในดิวิชั่น 2 ตกเป็นของรถแข่ง 2 คันจาก ทีม เอ็นด์เลส นำโดย ฮอนด้า ดีซี5 หมายเลข 145 ขับโดย ขับโดย 3 นักขับฮ่องกงอย่าง ชุง ฉี ซิง, ยู หลุง และ แมน ทิง ยู ในอันดับ 2 ตามด้วยทีมเมทอย่างรถแข่ง ฮอนด้า ดีซี5 หมายเลข 106 ขับโดย 4 นักขับ ฮ่องกง อย่าง ชิง พาค โฮ พาร์คอล, หลี ล็อค บุน, ชุง ชุน นัม และ คริส โชว์ ตามเข้าป้ายในอันดับ 3
ด้านการลุ้นแชมป์ในดิวิชั่น 3 ตกเป็นของรถแข่ง โตโยต้า อัลติส หมายเลข 237 จาก กาซู ทีม ไทยแลนด์ ที่ออกนำได้ในชั่วโมงแรก ก่อนจะร่วงลงไปอยู่กลุ่มกลาง และจากการวางแผนที่ดีของทีม ส่งผลให้ นาโอกิ คาวามูระ ชาวญี่ปุ่น ร่วมงานกับ 3 นักขับไทยอย่าง กรัณฑ์ ศุภพงษ์, สุพงศ์ ขำต้นวงษ์ และ อาทิตย์ เรืองสมบูรณ์ ช่วยกันไล่บี้คู่แข่งจนสามารถขึ้นมายืนโพเดี้ยมสูงสุดได้สำเร็จ ด้วยจำนวนรอบทั้งสิ้น 276 รอบสนาม คิดเป็นระยะทาง 1,256.904 กิโลเมตร ด้วยเวลา 10 ชั่วโมง 4 นาที 13.208 วินาที
ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของรถแข่ง โตโยต้า อัลติส หมายเลข 238 จาก กาซู ทีม เอเชีย ที่ขึ้นนำได้ตลอดช่วงชั่วโมงที่ 6-9 ก่อนจะร่วงลงไปจบเรซในอันดับ 2 จากผลงานของ ธีระเวทย์ พุกพิบูลย์ ที่ร่วมงานกับ แดเนียล จูเลียน มิรันด้า ชาวฟิลลิปปินส์, มาร์ค ดาร์วิน ชาวมาเลเซียน และ ดีมาส เอกิล รามาดานี ชาวอินโดนีเซียน ตามหลังแชมป์ 4 รอบสนาม ขณะที่อันดับ 3 เป็นของรถแข่ง ฮอนด้า แจ๊ซ หมายเลข 248 จาก อาร์เอ็มไอ เรซซิ่ง ทีม ขับโดย พงศ์เทพ วชิรรุ่งเรือง, สิทธิรณ พรหมสมบัติ และ ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ ที่ไล่จีจื้นขึ้นมาในช่วงสุดท้าย ตามหลังแชมป์ 8 รอบสนาม
โดยการแข่งขันอีกรุ่นที่มีสถานการณ์พลิกไปมาจนถึงรอบสุดท้ายคือคลาสเล็กสุดอย่าง ดิวิชั่น 4 เมื่อรถแข่ง ฮอนด้า ซิตี้ หมายเลข 345 จาก เทอิน ทีม ไทยแลนด์ ที่นำมาตลอดครึ่งทางการแข่งขัน แต่พลาดท่าร่วงลงไปอยู่อัน 2-3 ในชั่วโมงที่ 7-9 สามารถตีตึ้นกลับขึ้นมาจากการขับของ อาคิระ วาตานาเบ้ และ ฮิเดฮารุ คูโรกิ ร่วมงานกับนักขับไทย 2 คน อย่าง ธนสิทธิ์ ปัญญาทรานนท์ และ ยศรัญ แสนสุข ไล่แซง รถแข่ง ฮอนด้า แจ๊ซ หมายเลข 331 จาก 33 ออโต้ เงา กลการ ที่ขับโดย 2 พี่น้อง ชนุชา-ชนินชา ปัญญารุ่งเจริญ และ นราศักดิ์ อิทธิริทพงษ์ กับนักขับญี่ปุ่นอย่าง โทห์จิโร่ อาซูมะ ได้ในช่วงท้าย คว้าแชมป์ไปครองด้วยเวลาเหนือกว่าเพียง 24.955 วินาที เท่านั้น ส่งผลให้ 33 ออโต้ เงา กลการ คว้าอันดับ 2 ไปครอง
สำหรับอันดับ 3 ของรุ่น ดิวิชั่น 4 ตกเป็นของ รถแข่ง โตโยต้า ยาริส หมายเลข 387 จาก ซี ฟอน เรซซิ่ง ทีม ขับโดย 2 นักขับไทยอย่าง ชัญญบุศย์ ธนะพาสุข และ พุทธมนต์ ธนะพาสุข ที่ไล่ตีตื้นขึ้นมาในช่วงโมงสุดท้าย ได้ขึ้นโพเดี้ยมในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 6 รอบสนาม
ทั้งนี้ ศึก ซูเปอร์ เอ็นดูรานซ์ 10 ชั่วโมง 2017 นับเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ในฐานะรายการแข่งขันรถยนต์มาราธอนที่มีระยะเวลายาวนานที่สุดถึง 10 ชั่วโมง ครั้งแรกในรอบ 30 ปีของเมืองไทย พร้อมกับมีรถแข่งเข้าร่วมการแ ข่งขันถึง 55 คัน แสดงให้ถึงการเติบโตของแวดวงมอเตอร์สปอร์ตไทยอย่างชัดเจน
สามารถติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว ได้ทาง www.superturbothailand.com และ Facebook: Super Turbo Thailand
"ซูเปอร์ เอ็นดูรานซ์ 10 ชม." ยิ่งใหญ่! รถแข่ง 55 คันดวลเดือดสุดดราม่า "สานนท์" ดวงแตก! ไฟไหม้รอบสุดท้าย "อินเนอร์ ไลน์" พลิกผงาดแชมป์
การสนทนาใน 'Super Turbo Thailand' เริ่มโดย News, 21 ธันวาคม 2017
ความคิดเห็น
การสนทนาใน 'Super Turbo Thailand' เริ่มโดย News, 21 ธันวาคม 2017