อิมแพ็ค สปีด พาร์ค ลุยดึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เจาะ 2 กลุ่มสำคัญ กลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (อินเซนทีฟ) และกลุ่มลูกค้าองค์กร ล่าสุดเปิดสนามต้อนรับ กลุ่มอินเซนทีฟจากฮ่องกง 200 ท่านมาทดสอบความเร็ว พร้อมเดินหน้านำเสนอแพ็กเกจใหม่ Drive and Dine ได้สนุกกับการขับรถโคาร์ทและรับประทานอาหารนานาชาติ หวังดึงชาวต่างชาติที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วยตนเอง (เอฟไอที) ทั้ง ฮ่องกง ไต้หวัน ตั้งเป้าหมาย เพิ่มยอดงานและจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ให้ได้ 10% จากปี 2560
นางสาวปิยะธิดา ธุระชน ผู้อำนวยการ ฝ่ายลีเชอะแอนด์เอนเตอร์เทนเม้นท์ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหาร อิมแพ็ค สปีด พาร์ค สนามโกคาร์ทมาตรฐานริมทะเลสาบเมืองทองธานี เปิดเผยถึงแผนธุรกิจปี 2561 ของอิมแพ็ค สปีด พาร์ค ว่า ได้วางกลยุทธ์เจาะตลาดดึง 2 กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (กลุ่มอินเซนทีฟ) กับ กลุ่มองค์กรที่มาเช่าพื้นที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่อิมแพ็ค สปีด พาร์ค เพื่อผลักดันรายได้ของอิมแพ็ค สปีด พาร์คให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 3-4 เท่า ตั้งเป้าหมายภายในปี 2561 ลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มนี้จะต้องเพิ่มขึ้น 10 % จากปี 2560
ทั้งนี้ภาพรวมตั้งแต่การเปิดให้บริการของอิมแพ็ค สปีด พาร์ค ตั้งแต่ในเดือนธันวาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน มีกลุ่มอินเซนทีฟ และกลุ่มลูกค้าองค์กรที่เป็นกลุ่มชาวต่างชาติ มาใช้พื้นที่ของอิมแพ็ค สปีด พาร์ค จัดการแข่งขันหรือจัดงานเลี้ยงต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 10 งาน อาทิ งาน Thank you Dinner SIMA ASEAN 2017, งาน เปิดตัวรถแบรนด์ Kawasaki, งาน Young Entrepreneur Thai Chamber of Commerce และล่าสุด กับการต้อนรับ กลุ่มอินเซนทีฟทัวร์ชาวฮ่องกง กว่า 200 คน จากบริษัท CITI-AIA Hong Kongที่มาสนุกสนานกับกิจกรรมทดสอบความเร็วของรถโกคาร์ทไฟฟ้าแห่งแรกของเอเชีย ซึ่งการขับรถโกคาร์ทนี้ถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมการท่องเที่ยวสำคัญบริษัทวางแผนไว้ ร่วมกับกิจกรรมท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ การเรียนมวยไทย การนวดแผนโบราณแบบไทย เป็นต้น
อย่างไรก็ตามแผนการตลาดที่จะเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยวให้เป็นไปตามเป้าหมายการเติบโต 10% คือ เน้นจัดทำแพ็กเกจใหม่ๆ กระตุ้นความสนใจแก่นักท่องเที่ยว เบื้องต้นได้ออกแพ็กเกจใหม่ คือ "Drive and Dine" ณ อิมแพ็ค สปีด พาร์ค โดยจะให้สิทธิประโยชน์กับบริษัททัวร์หรือองค์กร ที่จองแพ็กเกจแบบกลุ่มตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป สามารถขับโกคาร์ได้ถึง 2 session และสามารถรับประทานอาหารมื้อเย็นที่ร้านอาหารบรีซ คาเฟ่ แอนด์ บาร์ ได้ด้วย ซึ่งแพ็กเกจดังกล่าวถือเป็นการออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความสนใจกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง หรือ นักท่องเที่ยวกลุ่มเอฟไอที โดยเฉพาะจากฮ่องกง ไต้หวันและจีน ที่นิยมเดินทางมากับกลุ่มเพื่อนเพื่อมาขับรถโกคาร์ท จนทำให้ในปัจจุบัน สัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีสัดส่วนถึง 50% จากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่มาใช้บริการที่อิมแพ็ค สปีด พาร์ค แล้ว
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบแพ็คเกจ "Exclusive Rate" หรือแพ็กเกจเหมาจ่ายปิดสนาม เพื่อจัดกิจกรรมในแบบส่วนตัว ภายใต้ข้อกำหนดลูกค้ากลุ่มไม่ต่ำกว่า 50 คน ความพิเศษของแพ็กเกจดังกล่าว สามารถใช้บริการโกคาร์ทไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ถือเป็นการรวมตัวเฉพาะกลุ่มให้ร่วมสนุกสนานไปกับการแข่งขัน และกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กรได้มากขึ้น
"ในปัจจุบันอิมแพ็ค สปีด พาร์ค วางแผนเจาะตลาดดึงนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้มีการหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ในการวางแผนประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอาเซียนให้รู้จักอิมแพ็ค สปีด พาร์ค นำร่องประชาสัมพันธ์ในตลาดนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและสิงคโปร์ ที่ได้เริ่มส่งข้อมูลของอิมแพ็ค สปีด พาร์ค ไปให้ทางสำนักงานททท.ที่ประจำในสองประเทศได้รับทราบแล้ว"
ทั้งนี้ในตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มอินเซนทีฟ ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ประเทศไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ ได้วางแผนให้กลุ่มการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่จะผลักดันให้รายได้เข้าประเทศไทย โดย ในปีงบประมาณ 2560 ประเทศไทยต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ รวมทั้งสิ้น 1,276,411 คน สร้างรายได้ 104,641 ล้านบาท และหนึ่งในจำนวนนั้น มีนักเดินทางกลุ่มอินเซนทีฟกว่า 271,793 คน สร้างรายได้ 16,696 ล้านบาท โดย 5 อันดับ ประเทศที่มีจำนวนนักเดินทางกลุ่ม อินเซนทีฟเข้าประเทศไทยสูงสุดเรียงตามลำดับในปีที่ผ่านมา ได้แก่ จีน อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
อิมแพ็ค สปีด พาร์ค ลุยดึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งเป้าหมาย เพิ่มยอดงานและจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ให้ได้ 10%
การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 23 พฤษภาคม 2018
ความคิดเห็น
การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 23 พฤษภาคม 2018