FORD เดินหน้าเปิดสายการผลิต "Ranger Raptor" ณ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ พร้อมส่งมอบสิงหาคมนี้

การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 6 กรกฎาคม 2018

โดย News เมื่อ 6 กรกฎาคม 2018 เมื่อ 01:32
  1. News

    News Active Member Super Moderator

    1,005
    3
    38
    [​IMG]

    Ford Motor Company เปิดสายการผลิตของ Ford Ranger Raptor รถกระบะสายพันธุ์ใหม่อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ณ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม จังหวัดระยอง

    หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการและเปิดรับจองเป็นครั้งแรก ในงาน Bangkok International Motorshow 2018 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Ford Ranger Raptor รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงจากโรงงานรุ่นแรกของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก จะพร้อมส่งมอบให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้

    [​IMG]

    ด้วยการผสมผสานดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance) และสมรรถนะเหนือชั้นที่สะท้อนนิยาม "เกิดมาแกร่ง" ของ Ford Ranger ได้อย่างลงตัว Ford Ranger Raptor คือมาตรฐานใหม่ของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง โดดเด่นด้วยโลโก้ฟอร์ดแบบตัวพิมพ์ใหญ่ภาษาอังกฤษอันเป็นเอกลักษณ์บนกระจังหน้า ซึ่งสื่อถึงความดุดันของรถกระบะสายพันธุ์ใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี

    "Ford Ranger Raptor คือที่สุดของ Ford Ranger ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดัน และสมรรถนะเชิงออฟโรดที่เหนือชั้น Ranger Raptor คือรถกระบะสายพันธุ์ใหม่แห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก อย่างแท้จริง" นางสาวยุคนธร "วิคกี้" วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน กล่าว

    Ranger Raptor มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เพื่อมอบขุมพลังสูงสุดถึง 213 แรงม้า (157 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงถึง 500 นิวตันเมตร

    นอกจากนี้ Ranger Raptor ยังได้รับการออกแบบให้ช่วงล่างยกสูงขึ้น และมีระยะช่วงล้อที่กว้างกว่าเดิม พร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX เพื่อซับแรงกระแทก ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการทรงตัวและการควบคุมรถ แม้ในสภาพถนนแบบออฟโรดสุดหฤโหด

    [​IMG]

    Ranger Raptor มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) สำหรับโหมดการขับขี่ทั้งหมด 6 รูปแบบ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย รวมถึงโหมดบาฮา ซึ่งเหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ

    ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อค ทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง จึงช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น แม้ในระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วสูง

    พวงมาลัยของ Ranger Raptor มาพร้อมกับแป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ที่ผลิตจากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบา ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วตามความต้องการในทุกสภาพถนน

    นอกจากนี้ Ranger Raptor ยังมาพร้อมกับแผงกันกระแทกด้านล่างอันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยปกป้องห้องเครื่องจากการกระแทก โดยผลิตจากเหล็กกล้า (High-strength steel) ที่มีความหนา 2.3 มิลลิเมตร และมีความทนทานสูงตามมาตรฐานของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance)

    [​IMG]

    เทคโนโลยีอัจฉริยะใน Ford Ranger Raptor ได้แก่:
    • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
    • ระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก
    • ระบบซิงค์ 3 (SYNC™ 3) หน้าจอทัชสกรีน พร้อมเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-Fi
    • ระบบแผนที่นำทาง
    • กุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ
    • ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift
    • ไฟหน้าแบบ HID
    • ไฟเดย์ไลท์แบบ LED
    • ไฟตัดหมอกแบบ LED
    • บันไดข้างรถอะลูมิเนียมอัลลอย
    • กันชนหน้าที่ทนทาน สำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
    • ล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง All-terrain BF Goodrich 285/70 R17
    Ranger Raptor มีสีภายนอกให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey) ซึ่งเป็นสีใหม่พิเศษเฉพาะของ Ranger Raptor สีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) และ สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White)

    Ranger Raptor จะผลิตที่โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยในปี 2558 ฟอร์ดได้ประกาศเพิ่มการลงทุน 186 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 6,269 ล้านบาท ที่โรงงานเอฟทีเอ็ม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต Ford Ranger ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
     

ความคิดเห็น

การสนทนาใน 'News' เริ่มโดย News, 6 กรกฎาคม 2018

แบ่งปันหน้านี้