เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรมธรรม์รถยนต์กันบ้างดีกว่า

แน่นอนว่าเรื่องของการทำ ประกันรถ นั้นเป็นเรื่องที่เราควรใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากว่ามันมีส่วนสำคัญที่จะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับเราได้หากรถยนต์เราเกิดเสียหายเป็นอะไรขึ้นมา ฉะนั้นหากประกันรถหมดอายุก็ควรที่จะไป ต่อประกันรถยนต์ ไว้กด้วย แต่ทั้งนี้เราก็ต้องดูด้วยว่า กรมธรรม์ รถยนต์ ที่เราได้ทำเอาไว้นั้นมันมีเงื่อนไขความคุ้มครองครอบคลุมมากแค่ไหน ซึ่งถ้าหากว่าเป็น ประกันชั้น 1 นั้น เราก็ไม่ต้องห่วงอะไร เพราะมันคุ้มครองมากที่สุดแล้ว แต่ถ้าทำประกันชั้นรองนั้นก็ต้องดูข้อยกเว้นการคุ้มครองให้ดี รวมถึงการดูด้วยว่า ประกันรถยนต์2ที่ไหนดี หรือประกันรถยนต์ที่ไหนดีเพื่อเราจะได้ไม่ต้องเจอปัญหางี่เง่าเวลาเราแจ้งเคลมประกันรถนั่นเอง
ซึ่งในวันนี้นั้นสำหรับใครก็ตามที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยงกับเรื่องของกรมธรรม์รถยนต์นั้นเราก็มีข้อมูลมาฝากกันด้วย โดยกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์นั้นก็คือ เงื่อนไขต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความครอบคลุมของประกัน การพิจารณาเพิ่มลดค่าเบี้ยประกัน การจ่ายค่าสินไหมทดแทน ข้อยกเว้นที่จะไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทน รวมถึงเงื่อนไขการเวนคืนประกัน ซึ่งเราไปดูรายละเอียดแต่ละอย่างกันเลยดีกว่า
1. ความครอบคลุมของประกัน อย่างที่รู้กันว่า ประกันภัยรถยนต์นั้นมีหลายประเภทซึ่งจะมีความคุ้มครองต่างกัน โดยประกันชั้น 1 ครอบคลุมมากที่สุดแล้วก็ลดหลั่นลงมาในชั้น 2 และ 3 แต่โดยหลักแล้วก็จะคุ้มครองชีวิตผู้ขับขี่ ผู้โดยสารเหมือนกัน จะต่างกันที่เงื่อนไขการคุ้มครองทรัพย์สินว่าจะคุ้มครองทั้งของผู้ทำประกัน และคู่กรณีด้ววหรือไม่
2. การเพิ่มลดค่าเบี้ยประกัน โดยทางบริษัทประกันก็จะนำเรื่องของประวัติการขับขี่ในปีที่ผ่านมามาพิจารณา ซึ่งถ้าหากว่าเราไม่ได้แต้งเคลมเลย หรือเคลม 1-2 ครั้ง เราก็อาจจะได้ลดค่าเบี้ยประกัน แต่ถ้าหากแจ้งเคลมบ่อยมาก ๆ อาจจะถูกเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันเพิ่มก็ได้
3. การจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งจะแบ่งเป็นส่วนของการประกันชีวิตและทรัพย์สิน ถ้าเป็นกรณีประกันชีวิตก็จะดูว่าเสียชีวิต พิการ หรือบาดเจ็บ เป็นต้น ถ้าเป็นทรัพย์สินก็จะดูว่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน เกินทุนประกันไหม
4. ข้อยกเว้นที่จะไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทน ก็อย่างเช่น เมาแล้วขับ การใช้รถผิดประเภท หรือค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้ทำประกันจะต้องจ่ายร่วมด้วย เป็นต้น ฉะนั้นเราควรศึกษาในเงื่อนไขข้อนี้ให้ละเอียดจนเข้าใจอย่างถ่องแท้
5. การเวนคือประกันภัย ซึ่งก็คือ การขอยกเลิกประกัน อย่างเช่น ถ้าจ่ายค่าเบี้ยประกันไปแล้วไม่พอใจในเงื่อนไขกรมธรรม์จะขอทำเรื่องยกเลิกประกัน ผู้ทำประกันจะได้รับเบี้ยประกันคืนบางส่วน แต่ทั้งนี้ก็เป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทด้วย
และสำหรับการคุ้มครองภัยนั้นมันก็จะเริ่มต้นเมื่อผู้ทำประกันชำระค่าเบี้ยให้กับบริษัทประกันแล้ว ทั้งนี้ไม่ว่าจะชำระหมดหรือชำระเพียงบางส่วนเท่านั้น (ผ่อนชำระเป็นจำนวนงวดที่บริษัทประกันกำหนด) แม้ว่าเอกสารกรมธรรม์จะยังไม่ถูกส่งมาถึงผู้ทำประกันก็ตามแต่ หรือแม้ว่าเอกสารกรมธรรม์จะสูญหายไป แต่ตราบใดที่ความคุ้มครองเริ่มแล้วก็จะยังคุ้มครองจนครบอายุสัญญา แต่ถ้าหากเอกสารหายเราก็ควรรีบแจ้งบริษัทประกันด้วย