แนะนำ 5 ประโยชน์จากประกันออมทรัพย์ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด

การสนทนาใน 'สินค้าทั่วไป ไม่มีหมวดหมู่' เริ่มโดย waanbotan_, 8 กันยายน 2023

< Previous Thread | Next Thread >
  1. waanbotan_

    waanbotan_ New Member Member

    0
    0
    0
    ธนาคารก่อนหน้านี้อาจจะมีเพียงผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเงิน แต่ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ด้านความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยไปพร้อมกับการตอบสนองด้านการออมเงินได้ในเวลาเดียวกันด้วย ซึ่งนั่นก็คือ ประกันสะสมทรัพย์ กรุงไทย ที่สามารถผสมผสานคุณลักษณะของประกันภัยเข้ากับการออมทรัพย์ไว้ได้อย่างลงตัว

    ประกันออมทรัพย์ หรือหลายๆ คนเรียกว่าประกันสะสมทรัพย์ นั้นคุ้มค่าอย่างไร เราได้รวบรวมประโยชน์ของ ประกันสะสมทรัพย์ มาเฉลยให้ทุกคนได้ทราบพร้อมกันที่นี่แล้ว


    1. รับเงินคืนเมื่อครบอายุสัญญา
    หลายคนที่เคยทำประกันเดี่ยว ๆ เช่น ประกันอุบัติเหตุ กรุงไทย ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ประกันโรคร้ายแรง ประกันPA จะทราบดีว่าเมื่อจ่ายเบี้ยรายปีไปแล้วไม่เกิดอาการบาดเจ็บหรืออาการเจ็บป่วยไม่เข้าหลักเกณฑ์ของแผนประกันนั้น ๆ หลังจากครบอายุสัญญากรมธรรม์ก็ต้องจ่ายค่าเบี้ยรายปีรอบใหม่ ไม่ได้รับเงินค่าเบี้ยประกันจากรอบปีเก่าคืนกลับมา แตกต่างจากประกันแบบออมทรัพย์ที่เมื่อครบรอบอายุสัญญาตามกำหนดในกรมธรรม์ เช่น 10 ปี 15 ปี 20 ปี ก็จะได้รับเงินคืนตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ ซึ่งมักจะเป็นอัตราที่เพิ่มจากเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปแล้วทั้งหมด อาจไม่มากเท่าผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนประเภทอื่น ๆ แต่มักถูกคาดการณ์ไว้แล้วว่าสามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้

    1. รับเงินคืนตามรอบที่กำหนด
    สำหรับผู้ทำประกันชีวิตแบบออมทรัพย์จะได้รับมากกว่าเงินคืนเมื่อครบอายุสัญญาตามข้อ 1 โดยมีโอกาสที่จะได้รับเงินคืนตามรอบที่กำหนด ยกตัวอย่างเช่น ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ Life Save Plus 15/5 จากธนาคารกรุงไทย ซึ่งกำหนดไว้ว่าผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินคืนสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 5 – 9 จำนวน 2.5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 10 – 14 จำนวน 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    1. ให้ความคุ้มครองยาวนานกว่าจำนวนปีที่จ่ายค่าเบี้ย
    กลับไปดูที่ตัวอย่างเดิมนั่นคือประกันชีวิตสะสมทรัพย์ Life Save Plus 15/5 จากธนาคารกรุงไทย เราจะเห็นตัวเลข 15/5 อยู่บนชื่อของผลิตภัณฑ์ ตัวเลขด้านหน้าบ่งบอกถึงจำนวนปีที่ให้ความคุ้มครอง ตัวเลขด้านหลัง ใช้บ่งบอกจำนวนปีที่ต้องชำระค่าเบี้ย นั่นหมายความว่าประกันชีวิตสะสมทรัพย์ Life Save Plus 15/5 กำหนดให้จ่ายค่าเบี้ยเพียง 5 ปี แต่ให้ความคุ้มครองยาวนานถึง 15 ปีนั่นเอง

    1. เลือกรอบชำระค่าเบี้ยได้
    โดยทั่วไปประกันชีวิตสะสมทรัพย์จะเปิดโอกาสให้ชำระค่าเบี้ยเป็นรายปี แต่ก็มีหลายแผนที่เปิดโอกาสให้เลือกรอบจ่ายในลักษณะอื่นด้วย เช่น ราย 3 เดือน ราย 6 เดือน ซึ่งหากจะให้แนะนำควรเลือกจ่ายเป็นรายปีจะดีกว่า เนื่องจากทางบริษัทประกันภัยอาจคิดค่าเบี้ยราย 3 เดือน และราย 6 เดือน สูงกว่ารายปีนั่นเอง

    1. ลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท
    นอกจากจะได้รับประโยชน์ด้านความคุ้มครองและผลตอบแทนแล้ว ยังมีสิทธิได้รับผลประโยชน์ทางภาษีด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องมือลดหย่อนภาษีเงินได้สามารถใช้ประกันชีวิตสะสมทรัพย์มาช่วยได้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการวางแผนภาษี


    แต่นอกจากข้อดีแล้วก็อาจจะมีข้อด้อยที่มีอยู่บ้าง เพราะหากเปรียบเทียบวงเงินคุ้มครองของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์กับประกันภัยประเภทอื่น ๆ ซึ่งให้ความคุ้มครองโดยตรงเลือกประกันชีวิตแบบไหนดี เช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ประกันโรคร้ายแรง ประกันPA ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย จะพบว่าประกันที่ให้ความคุ้มครองโดยตรงมักให้วงเงินคุ้มครองได้สูงกว่า ดังนั้นผู้ต้องการผลตอบแทนสูงหรือต้องการความคุ้มครองในวงเงินสูง จึงควรพิจารณาในจุดนี้ร่วมด้วยเช่นกัน โดยสามารถศึกษาข้อมูลประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ https://krungthai.com/th/personal/insurance/health/detail/514 หรือเลือกประกันชีวิตแบบไหนดี ที่ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1243
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้