ชี้จุดเด่นของ ประกันชั้น 1, 2 และ 3 เลือกประกันแบบไหนให้คุ้ม

การสนทนาใน 'สินค้าทั่วไป ไม่มีหมวดหมู่' เริ่มโดย nemophilanie, 22 มิถุนายน 2023

< Previous Thread | Next Thread >
  1. nemophilanie

    nemophilanie Member Member

    127
    0
    16
    เมื่อเราซื้อรถยนต์ใหม่ได้ 1 ปีผ่านไป สิ่งที่ทำให้หลายคนต้องมานั่งปวดหัวคือ จะต่อประกันแบบไหนดีที่คุ้มและไม่แพง? จะซื้อ ประกันชั้น 1 หรือชั้น 2 / 3 ดี ? ต่อแบบเดิมกับบริษัทประกันภัยเดิม หรือจะเปลี่ยนบริษัทรับประกันใหม่ดี? วันนี้เรามีข้อมูลที่เจ้าของรถทุกคนต้องรู้ก่อนทำประกันภัยรถยนต์ เชื่อว่าถ้าคุณรู้ข้อมูลเหล่านี้คุณจะหายปวดหัวและเลือกประกันภัยที่คุ้มและดีที่สุดให้กับรถและตัวคุณเองได้อย่างแน่นอน


    ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง

    การซื้อ ประกันชั้น 1 ของ SCB Protect ให้คุณเข้าใจไว้เลยว่า เขาให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกเรื่องที่ประกันทุกแบบมี ได้แก่

    - ความคุ้มครองชีวิต ค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ ค่าชดเชยกรณีที่สูญเสียอวัยวะ ของผู้ขับขี่ ผู้โดยสารและบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุ จากรถที่เอาประกัน

    - คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกันทุกกรณีทั้งแบบบที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี

    - ค็มครองความเสียหายของรถคู่กรณี

    - คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบ

    - คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกันกรณีสูญหาย ไฟไหม้ และน้ำท่วม

    เรียกง่ายๆ คือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองความเสียหายรถที่เอาประกันทั้งกรณีที่กำลังขับขี่บนถนน และความเสียหายที่อาจเกิดกับรถที่จอดอยู่นิ่ง ๆ ด้วยนั่นเอง


    แล้ว ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครองต่างจาก ประกันชั้น 1 อย่างไรบ้าง

    ประกันรถชั้น 2 ของ SCB Protect มีความคุ้มครองเกือบเหมือนกับ ประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ต่างกันที่ ประกันชั้น 2 ไม่คุ้มครองกรณีรถโดนน้ำท่วม และกรณีรถที่เอาประกันไปเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น จะไม่ได้รับความคุ้มครองทุกกรณี แต่รถคู่กรณีที่ชนยังได้รับความคุ้มครองอยู่



    ประกันรถยนต์ชั้น 3 ต่างกับ ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันชั้น 1 อย่างไร

    ก่อนจะเปรียบเทียบประกันชั้น 3 กับประกันชั้น 1 เรามาดูความแตกต่างของประกันชั้น 3 กับประกันชั้น 2 ก่อนว่าต่างกันอย่างไร เพราะถ้าเราเห็นความต่างของประกัน 2 ประเภทนี้ เราจะไม่มีคำถาม ประกันรถชั้น 3 ต่างกับ ประกันชั้น 1 อย่างไร

    ประกันรถยนต์ชั้น 3 มีความคุ้มครองคล้ายกับ ประกันรถยนต์ชั้น 2 คือความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สินของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร บุคคลภายนอก และรถของคู่กรณีอยู่ในความคุ้มครองเหมือน ประกันชั้น 2 แต่ไม่คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกันทุกกรณีไม่ว่าจะชนแบบมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี คือหากมีความเสียหายเกิดขึ้นกับรถ เจ้าของรถต้องซ่อมรถเอง ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย รถโดนน้ำท่วม รถไฟไหม้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถเอาประกันภัย เจ้าของรับผิดชอบเองทุกรณี



    ควรเลือกทำประกันแบบไหนให้คุ้มและดีที่สุด

    ทำประกันแบบไหนดีที่สุด คือ เลือกประกันที่คุ้มครองแบบครอบคลุมความเสียหายหากเกิดเหตุ คือประกันที่ดีที่สุด เพราะเรามีบริษัทประกันมาช่วยรับความเสี่ยงในความเสียหายนั้นแทนเรา

    แล้วจะเลือกทำประกันแบบไหนให้คุ้ม หากจะพูดแบบกำปั้นทุบดินจะให้คุ้มต้องเกิดเหตุ เราผู้เอาประกันถึงจะคุ้มกับเบี้ยที่จ่ายไป แต่จะมีเจ้าของรถสักกี่คนที่อยากให้เกิดความเสียหายกับรถของตัวเอง เชื่อว่าทุกคนไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุ แต่ถ้าเกิดแล้วไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องความเสียหายที่ต้องมาซ่อมรถตัวเองและรถคู่กรณี ทั้งค่าชดเชยที่ต้องจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ นี่ต่างหากคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของการซื้อประกันภัยรถยนต์


    ในการเลือกทำประกัน แม้ว่าเจ้าของรถจะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่การทำประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทก็มีเงื่อนไขในเรื่องของอายุรถยนต์ที่จะรับประกันว่า ประกันชั้น 1 รับช่วงอายุไม่เกินกี่ปี ประกันชั้น 2 รับช่วงอายุรถยนต์กี่ปี หากรถที่ใช้งานมานาน มีอายุเกินจากที่กำหนด อาจจะไม่สามารถเลือกประกันที่ตัวเองต้องการได้เนื่องจากอายุการใช้งานเกิน ประกันที่ซื้อได้คือ ประกันรถชั้น 3 แม้จะเป็นประกันชั้น 3 ก็ยังดีกว่าไม่มีความคุ้มครองเลย หากประวัติการขับขี่ดี บางบริษัทยังสามารถซื้อ ประกันรถยนต์ชั้น 3 พลัสได้ ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำว่าให้เปรียบเทียบข้อมูลและความคุ้มครองหลาย ๆ บริษัท เพื่อให้ได้ประกันที่ดีที่สุดที่เจ้าของรถจะซื้อได้นั่นเอง
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้