อธิบายประกันรถยนต์ แบบไหนตอบโจทย์ความคุ้มครองกว่ากัน

การสนทนาใน 'สินค้าทั่วไป ไม่มีหมวดหมู่' เริ่มโดย nemophilanie, 17 สิงหาคม 2023

< Previous Thread | Next Thread >
  1. nemophilanie

    nemophilanie Member Member

    116
    0
    16
    หลายคนที่กำลังเลือกซื้อประกันรถคงสับสนเพราะมีหลายประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะ ประกันชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 แล้วก็ยังมีประกันชั้น 2 พลัส และ ประกันรถชั้น 3 พลัสอีก จนไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี วันนี้เรามีรายละเอียดเกี่ยวกับประกันรถยนต์แต่ละแบบให้เข้าใจง่าย ๆ ก่อนซื้อประกันรถยนต์กัน

    ขอเรียงลำดับตามค่าเบี้ยประกันรายปีจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด ดังนี้

    · ประกันชั้น 1

    · ประกันชั้น 2 พลัส

    · ประกันชั้น 3 พลัส

    · ประกันชั้น 2

    · ประกันชั้น 3

    ในส่วนความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของคู่กรณีและความรับผิดชอบต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตของผู้ขับขี่ รวมถึงผู้โดยสารในรถของผู้เอาประกันและรถของคู่กรณีนั้น ประกันทุกแบบให้ความคุ้มครองในส่วนนี้เหมือนกัน

    ความแตกต่างของประกันแต่ละแบบนั้นอยู่ที่ความคุ้มครองรถยนต์คันที่เอาประกันภัย ซึ่งต่างกัน ดังนี้

    · ประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ SCB Protect ให้ความคุ้มครองมากที่สุด ทั้งรถคันที่เอาประกันภัยทุกกรณีทั้งอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี เช่น ชนกำแพง ต้นไม้ เสาไฟ ขอบทางเท้า และยังให้ความคุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายและไฟไหม้ด้วย

    · ประกันชั้น 2 พลัส ให้ความคุ้มครองรถคันที่เอาประกันภัยกรณีรถยนต์สูญหายและไฟไหม้เช่นเดียวกับประกันชั้น 1 ในกรณีอุบัติเหตุจะคุ้มครองเฉพาะที่มีคู่กรณีเท่านั้น แต่หากสามารถบอกเลขทะเบียนรถที่ชนกับเราได้ก็จะถือว่ามีคู่กรณี

    · ประกันชั้น 2 ถึงจะมีชื่อว่า ชั้น 2 แต่เบี้ยประกันจะต่ำกว่าประกันชั้น 3 พลัส เนื่องจากไม่มีความคุ้มครองรถยนต์คันที่เอาประกันกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยจะให้ความคุ้มครองรถยนต์กรณีสูญหายหรือไฟไหม้เท่านั้น

    · ประกันชั้น 3 พลัส ให้ความคุ้มครองรถคันที่เอาประกันภัยกรณีอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น เช่นเดียวกับ ประกันรถชั้น 2 พลัส หากระบุเลขทะเบียนรถที่ชนกับเราได้ก็ถือว่ามีคู่กรณี แต่ ประกันชั้น 3 พลัส ของ SCB Protect จะต่างจากประกันชั้น 2 พลัส ที่ไม่คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายและไฟไหม้

    · ประกันรถชั้น 3 เป็นประกันรถยนต์ที่ไม่มีความคุ้มครองให้รถที่เอาประกัน ต่างจาก ประกันชั้น 3 พลัส ตรงความคุ้มครองรถยนต์คันที่เอาประกันเท่านั้น

    ความหมายของความคุ้มครองรถยนต์คันที่เอาประกันหมายถึงการซ่อมรถยนต์เมื่อเกิดความเสียหาย ดังนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุแม้รถยนต์จะไม่ได้รับความคุ้มครอง แต่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารของรถยนต์คันที่เอาประกันก็ยังได้รับความคุ้มครองหากบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    การเลือกซื้อประกันรถยนต์มีสิ่งที่ต้องพิจารณา ดังต่อไปนี้

    1. อายุของรถยนต์

    2. ความชำนาญของผู้ขับขี่

    3. ความคุ้มครองที่ต้องการ

    4. โอกาสเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายกับรถยนต์

    5. ค่าเบี้ยประกัน

    ยกตัวอย่าง รถยนต์ใหม่ป้ายแดง ผู้ขับขี่ยังไม่ชำนาญ เดินทางบ่อย แนะนำให้เลือกประกันชั้น 1 เพื่อความสบายใจในทุกกรณี แต่หากรถยนต์ใช้งานมานานแล้ว ผู้ขับขี่มีความชำนาญ แนะนำให้เลือก ประกันชั้น 3 พลัส เพื่อประหยัดค่าเบี้ยประกัน เป็นต้น

    การเลือกประกันรถยนต์ให้คุ้มค่าจึงควรเลือกความคุ้มครองที่เราต้องการเปรียบเทียบกับเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย แต่ไม่ว่าจะเลือกประกันรถยนต์ชั้นไหน ควรเปรียบเทียบความคุ้มครองกับเบี้ยประกันของแต่ละแผนจากหลายบริษัทเงื่อนไขตามที่ต้องการ การซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ช่วยให้การเปรียบเทียบง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และได้รับกรมธรรม์เร็วขึ้นด้วย เลือกความคุ้มค่าจากแผนประกันแล้ว ควรเลือกความคุ้มค่าจากช่องทางที่เราซื้อประกันด้วย
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้