ใครเคยขับทั้ง 2 คันนี้ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับว่าต่างกันยังไง เพื่อประกอบการตัดสินใจ 200sx ก็น่าสนถ้าทำต่อและดริฟ แต่คิดว่าเอาเข้าจริงๆคงจะเสียดายยาง และน้ำมัน mr2 มันก็สวยดีอ่ะครับ มันเหมือนยานอวกาศดี ไม่รู้จะจีบใครดีช่วยแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณครับ
เอาง่ายๆ นะครับ ถ้าจะเล่น MR2 เมื่อเทียบกับ 200sx ต้องมีข้อกำหนดคร่าวๆ คือ - เดินทางแต่ละครั้งไม่เกิน 2 คน - ยอมรับได้เรื่องอะไหล่บางชิ้น หายาก และราคาค่อนข้างสูง - ของแต่งตรงรุ่น หายาก - มีเสียงลมเข้า น่ารำคาญพอสมควร (เป็นทุกคัน มากน้อย แล้วแต่) และน้ำรั่วเวลาฝนตกด้วย (เฉพาะรุ่นที่เป็นหลังคา T-bar) - อู่ที่ชำนาญ MR2 พอมีอยู่ แต่ไม่เยอะ - หลุดแล้วแก้ยากครับ เนื่องจากการกระจายน้ำหนักที่เป็นกลางของมัน ทำให้เวลารถหมุน แล้วจุดหมุนมันอยู่ตรงกลาง ตรงนี้จะมองเป็นข้อเสีย หรือจะมองว่ามันท้าทายก็ได้ แล้วแต่คนครับ ถ้าพอรับได้ก็จัดได้เลยครับ ตอนนี้มีขายอยู่หลายคัน สวยๆ ด้วย ส่วน 200sx ผมเคยใช้ตอนออกป้ายแดงอ่ะครับ รูปทรงสวย ภายในกว้าง นั่งสบาย แต่ความรู้สึกในการขับ ก็เหมือนรถขับหลังสมรรถนะสูงๆ รุ่นอื่นๆ ครับ
ใช้มาแล้วทั้ง2รุ่นเลยครับ ปัจจุบันใช้ MR2 อนาคตกำลังจะไปสอย MR-S - รูปทรง แล้วแต่คนชอบครับ - การเกาะถนน MR2เกาะกว่า ส่วนมากที่บอกว่าMR2หลุดแล้วแก้ยากเป็นเพราะว่ารถมันเกาะมาก ถ้าทำให้มันหลุดได้ก็ต้องมีแรงเหวี่ยงที่สูงมาก แรงเหวี่ยงที่ทำให้MR2หลุดได้ไม่ว่ารถอะไรก็แก้ยากทั้งนั้นครับ(หมายถึงการหลุดแบบไม่ตั้งใจนะ) - เครื่องยนต์ เครื่องเดิมๆMR2วิ่งดีกว่า เพราะตัวรถน้ำหนักเบากว่า การส่งกำลังดีกว่า การกระจายน้ำหนักดีกว่า แต่bodyของ200พัฒนาเครื่องยนต์ได้ไกลกว่าในงบประมาณที่เท่ากัน - ชุดแต่ง ของแต่ง 200มีให้เลือกมากกว่า - ความสะดวกสบาย 200มีมากกว่า ห้องโดยสารมีพื้นที่มากกว่า - ปัญหาจุกจิก ผมว่าถ้าได้รถที่สมบูรณ์มา มันก็ไม่จุกจิกทั้งคู่ - การเก็บเสียง พอกันทั้งคู่ - MR2 แอร์เย็นกว่า ห้องโดยสารมันเล็ก รถผม T-Bar ฝนตกหนักแค่ไหนน้ำไม่รั่ว เปิดได้ตามปกติทั้ง2ฝั่ง มันมีวิธีทำ ยกเว้นเจอเครื่องฉีดน้ำแรงๆฉีดอัดที่ขอบกระจกเจอแบบนี้200ก็เข้า ส่วน200ถ้ายางขอบซันรูฟไม่ดี ก็รั่วเหมือนกันครับ ส่วนตัวชอบ MR2 มากกว่าในเรื่องของการออกแบบที่เป็น สปอร์ทแท้ๆ เครื่องวางกลาง ขับหลัง และที่สำคัญคือ นั่ง2คนเท่านั้น รับเฉพาะคนรู้ใจ รถมันหาดูยากไม่โหล ราคาไม่ตก ผลพลอยได้ ผับเลิกแล้วสาวจะอ้อนให้ขนฝูงเพื่อนไปกินข้าวต้มต่อนี่ลืมไปได้เลยทางสะดวกไม่มีก้าง เวลาจะไปไหนกับกลุ่มเพื่อนก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะบอกให้เอารถเราไปเพราะยังไงก็นั่งไม่หมด แต่เราก็จะใจดีเสมอบอกไปรถกูคันเดียวก็ได้5555 ผมใช้เครื่อง GE วิ่งดี กดก็มา ไม่อืด กำลังเครื่องเหลือเฟือและประหยัด แต่ยังไงก็แรงสู้เครื่องTurboไม่ได้ เพื่อนชอบด่าว่ารถเห็นแก่ตัว(แต่ตอนซื้อรถก็ไม่มีใครช่วยออกตังค์ซักคน)
เยี่ยมคับ ชอบทั้ง 2 เลย ตอนนี้ใช้ 200 อยู่คับ แต่อยากได้ Mr2 อีกสักคัน มาไว้เป็นเพื่อนน้อง 200 ลูกรัก...
ต้อง MR2 ครับไปไหนมาไหนมีแต่ คนมอง โดยเฉพาะ ฝรั่งไม่รู้เป็นไร ชอบ ทัก จัง สงสัย ท่าจะเก่าได้จัย อิอิ mr2 ชัวครับ
MR2 จงเจริญ ยิ่งได่เครื่อง 3S-GTE Non-Air Flow ไปเนี่ยนะ แรงเลย แต่เรื่องอู่นี่ก้ต้องหาอู่ที่ชำนาญหน่อย อะไหล่ถ้าหาได้ร้านที่มีจิงๆ ก้หาไม่ยากนะคะ ขับมาจะ 5 ปีและ มีแค่เปลี่ยนของเก่าที่มันเสื่อมสภาพตามกาลเวลา เรื่องปันหาก้ไม่ค่อยมีนะคะ มีแต่ช่วงฝนตกบ่อยนี่พวกไฟรีเรย์จะเสียบ่อยกันหน่อย ไอ้ที่อาการไฟ P/S ขึ้นตรงหน้าปัด T^T แต่ของเอ๋เคยเป็นและหาย MR2 หน้าเบา ขับต้องระวังหน่อย มิฉะนั้นจะท้ายปัดได้ >x< รูปทรงรถ ไม่เหมือนชาวบ้านเค้าดี มีเอกลักษณ์ ไฟป๊อปอัพก้ทำเป็นตาปรือได้โดยที่ไม่ต้องติดอุปกรณ์เสริม บวกด้วยจำนวนรถ MR2 ก้ไม่เยอะมาก เห็นไม่บ่อยตามท้องถนน รถนู๋วางมาสมบูรณ์มั้ง เลยไม่มีปันหาไรอ่ะค่ะ แต่เรื่องยางขอบประตูถ้าหมดอายุแล้วขับไปจะมีเสียงลมเข้าดังหน่อย ยิ่งเวลาฝนตกเตรียมผ้าไว้ได้เลย แฮะๆ น้ำหยดติ๋งๆแน่ๆ 200 ถ้าขับก้ต้องวาง SR โบหย่ายๆ หน่อยถึงขับมันส์+แรง อะไหล่ก้หาได้ง่ายกว่า MR2 ถึงจะมีปันหาเยอะกว่าหน่อย แต่ก้ชอบ อิอิ เคยเป็นรถในฝันมาก่อน หลงรักเลยตอนแรกที่เห็น ตอนนี้ได้ขับจนได้ คันนี้สวยจิงๆ แฮะๆ ภูมิใจในรถตัวเอง + อ้างถึง ตอบกลับ