ถอดวาล์วน้ำออกจากเครื่องยนต์มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

ช่วยอธิบายสักนิดเถอะ อยากรู้ ขอบคุณครับ

 

ข้อดีคือน้ำใหลสะดวกครับ เหมาะสำหรับรถที่ให้รอบสูงตลอดเวลา
ข้อเสีย เครื่องยนต์สึกหลอเร็วกว่าปกติเนื่องจากไม่ถึงอุณหภูมิทำงาน
เปลืองน้ำมันเนื่องจากเวลาเครื่องเย็น การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงจะหนากว่าปกติครับ เพื่อให้ถึงอุรหภูมิทำงาน แต่เมื่อเราถอดออกแล้วการถึงอุณหภูมิทำงานจะใช้เวลานานกว่าเดิมครับ

ปล ข้อเสียน่าจะมีมากกว่าข้อดีนะครับ

 

วาล์วน้ำทำหน้าที่
- ทำให้เครื่องถึงอุณหภูมิ ที่ถูกต้องได้รวดเร็ว
- ทำให้เครื่อยนต์ ไม่สึกหรอไว
- ทำให้ประหยัดน้ำมัน
- ทำให้เครื่องยนต์ ไม่ร้อนจัดกรณี หม้อน้ำเล็กเกินไป โดยจะกักน้ำให้คาอยู่ในหม้อน้ำระยะหนึ่ง เพื่อเอาความร้อนออกจกน้ำ รถบางยี่ห้อ ที่หม้อน้ำเล็กๆ ถ้าถอดออกจะ โอเว่อร์ฮีท ถ้าใส่แล้วหาย เพราะถ้าถอดออก ความร้อนจะสะสมในน้ำไปเรื่อยๆ ไม่มีการเอาออก เพราะมันวิ่งผ่านหม้อ
- การสตาร์ทเครื่องยนต์หลังจากจอดรถทิ้งไว้จนเครื่องเย็นแล้ว จะทำให้เครื่องยนต์มีความร้อนจนถึงอุณหภูมิทำงานเร็วขึ้นกว่าไม่มีวาล์วน้ำ
- ควบคุมอุณภูมิของน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ให้คงที่ตามที่เครื่องยนต์นั้นๆ ออกแบบมา


*** เครื่องยนต์จะทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพเมื่อมีความร้อนอยู่ในช่วงอุณหภูมิที่ได้รับการออกแบบมาแล้ว
ถ้าความร้อนขึ้นจนฮีท อย่างแรกที่ผมทำคือถอดวาล์วน้ำออก แล้วเข้าอู่ที่ใกล้ที่สุดครับ
ข้อความบางส่วนเอามาจาก web volvo ครับ

 

นี่จากอีก WEB นึงครับ
หน้าที่ของ วาล์วน้ำ คือรักษาอุณหภูมิน้ำที่ขังอยู่ในเสื้อสูบให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสมน่าจะประมาณ 80-90 องศาซี เพื่อลดการสึกหลอภายในห้องเผาใหม้ และทำให้การสันดาบภายในมีประสิทธิผลดีขึ้น
ถามว่า ถ้าถอดออกแล้วมีผลกับเครื้องยนตร์เวลาใช้งานหรือไม่?
ผล อุณหภูมิใช้งาน(Working temperature)จะใช้เวลานานขึ้น ถ้าขับรถทางไกลน้ำจะใหลเวียนผ่านรังผี้งตลอดเวลาอุณหภูมิน้ำในเสื้อสูบจะลดต่ำกว่าอุณหภูมิใช้งานนานทำให้สึกหลอ (อันนี้คิดเองนะครับถ้าในเครื่องหัวฉีด Sensor อ่านได้ว่าอุนณหภูมิต่ำเครื่องเย็นก็จะเพิ่มการฉีดน้ำมันคือต้องการส่วนผสมหนาขึ้นทำให้สิ้นเปลืองหรือไม่)
สรุปว่าห้ามถอดครับ
วาล์น้ำเสีย(เปิดไม่หมด)ก็จะทำให้น้ำที่จะถูกส่งไประบายความร้อนที่รังผึ้งไปน้อยลงก็สามารถทำให้เครื่องร้อนได้ครับ

 

""""

ไม่มีอะไรดีคับอย่าดิ้รนเดี๋ยวงานเข้า....

 

อุณหภูมิของเครื่องยนต์ถ้าเย็นไปก็ไม่ดี ร้อนจัดก็แย่ครับ

 

ไม่ได้ดิ้นรน แต่สำนักแต่งรถที่ผมไปโมเครื่องมา ดันถอดวาล์วน้ำออกจากเครื่องรถผมไปนานแล้ว มันน่าไหมเนี่ย

 

เผาบ้านมันเลยพี่ เดี่ยวช่วย อิอิ

 

ถ้ารถใช้งานทุกวันไม่ได้ใช้รอบเครื่องสูงๆตลอดเวลาไม่ควรถอดหรอกครับ

 

ของผมก้อถอดนะ b16b+b20

 

รถผมไม่มีแล้วถอดนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยครับ

ใช้รถทุกวันครับ บนถนนและในสนาม

 

ขอเข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้ด้วยคนคับ

 

ของผม เคยวาง B20+B16 อู่ก็ถอดออกครับ

 

ปกติเห็น 16+20 ก็ถอดเรียบหมดอ่าครับ

 

อืม............ดูจากกระทู้ของพวกที่ทำ B16+B20 แล้ว รู้สึกว่าจะถูกถอดวาล์วน้ำออกหมด ถ้าอย่างงั้นก็คงไม่แปลกที่เครื่องของผมถูกถอดออกไปเช่นกัน ขอบคุณครับที่ช่วยตอบกันเข้ามา

 

ผมตอนแรกถอด แต่ตอนนี้ใส่แล้วครับ แต่เจาะรูที่วาวน้ำด้วยกันมันไม่เปิด
ไม่ไหวครับ ขับเป็น 10 กิโลเลยกว่าเครื่องจะถึงอุณหภูมิทำงาน
อ้อ เครื่อง b20 +18 ครับ

 

เห็นด้วยกับวิธีนี้ครับ คนรู้จักบอกมาอีกทีเจาะรูกันวาล์วตายแล้วจะได้ไม่ฮีทแต่ถอดออกเลยนี่เค้าคงมีเหตุผลแหละแต่เราไม่รู้

 

โดนมากะตัวเองเลยครับ เครื่องฮีท แลยจอดรอเครื่องเย็น พอดีเจอช่างขี่มอไซด์ผ่านมา ถอดดู จึงรู้ว่า วาวล์น้ำโดนถอดออก
ช่างบอกว่า ถ้าเป็น โตโยต้า มิตซู ถอด ได้ แต่ฮอนด้า ถอดแล้วจบเลยเครื่องความร้อนสูง โชคดีฝาสูบไม่โก่งรอดไป

 

งงอะแล้วมันฮีทได้ไง

 

ผมให้ข้อมูลเพิ่มนะครับ ก่อนอื่นก็ต้องรู้จุดประสงค์ของมันก่อน
//////
วาล์วน้ำก็มีไว้เพื่อควบคุมอุณหภูมิของเครื่องให้เข้าสู่จุดทำงานให้เร็วที่สุด
พอคุณ start เครื่องตอนเครื่องเย็น วาล์วน้ำปิดตัวอยู่ อุณหภูมิเครื่องจะเพิ่มขึ้น
เร็ว เพื่อให้เข้าสู่จุดทำงานของเครื่องยนต์ให้เร็วที่สุด ปกติของ Honda ออกแบบไว้ที่ประมาณแถวๆ 90 องศา(เป็นอุณหภูมิของน้ำที่จุดวัด standard) ส่วน วาล์วน้ำถูกออกแบบให้เริ่มเปิดที่ 78 องศา และเปิดมากสุดที่ 90 องศานะครับ
เพราะฉะนั้นแสดงว่า honda ต้องการให้วาล์วน้ำ
คุมอุณหภูมิของน้ำ(ความร้อนเครื่อง) ไว้ที่ ไม่เกิน 90 นิดๆ ในสภาพการใช้งาน
ปกติอุณหภูมิจะเพิ่มไปเมื่อถึง 93 องศา พัดลมจะเริ่มทำงาน ครับ และเป่าจนน้ำ
ลดอุณหภูมิลงไปแถว 89 - 90 องศา และถ้าคุณวิ่งรถติดๆ มันก็จะขึ้นใหม่
เป็นแบบนี้ไป แต่ถ้าคุณขับทางไกลวิ่งเร็วๆ หรือ หน้าหนาวนี่ อุณหภูมิของ
น้ำจะไม่ขึ้นไปไม่ถึง 93 หรอกครับ มีแต่ละ ลดลง ต่ำกว่า 90 องศาคราวนี้
วาล์วน้ำจะเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิให้กลับมาแถวๆ 90 ใหม่ โดย หรี่ ระยะเปิด
ของวาล์วน้ำ เพื่อให้น้ำ flow เข้าเครื่องน้อย อุณหภูมิจะได้ไหล กลับมาที่
แถว ๆ90 ใหม่ ซึ่งการขยายตัวของแหวน หรือ โลหะอื่นๆ อยู่ที่จุดที่การสึก หรอ
ต่ำสุด
ที่นี้ถ้าถอดมันออกไป นี่เวลาวิ่งในเมืองรถติด อุณหภูมิ จะอยู่แถว 90+ ตลอด
เพราะไม่มีลมพัด การมีหรือไม่มีก็ไม่ต่าง แต่ถ้า วิ่งทางไกล ถ้าคุณมี
water temp คุณจะเห็นว่า อุณหภูมิของน้ำลดต่ำลงเรื่อยๆ จะอยู่แถวๆ 80 นิดๆ ยากมากๆ ที่มันจะกลับมาแถวๆ 90 ครับ เพราะไม่มีวาล์วน้ำหรี่การไหลของน้ำเข้าเครื่องที่นี้เครื่องคุณก็จะสึกหรอมากขึ้นกว่าปกติอีกสักหน่อย แต่อาจจะรู้สึกว่ามันแรงขึ้นอีกนิด (ถ้าขึ้นไดโนวัด) เพราะ
กระบอกสูบ ยังขยายตัวไม่มาก ระยะแหวนกับสูบยังน้อย กำลังอัดจึงดี
ในกรณีรถแข่งเขาต้องการลดอุณหภูมิลงกว่าปกติสักหน่อย เพราะเวลาซัดใน
Circuit ความร้อนต้องสูงกว่าปกติอยู่แล้ว มีหรือไม่มีจึงไม่มีผลเท่าไร
เพราะฉะนั้นจะเอาออกหรือไม่เอาออกก็ลองตัดสินใจดูครับ ว่าเราะต้องการแบบไหน
อิอิ...

 

เอ๋ะ....แล้วงี้เครื่องรถผมมันไม่สึกหรอหมดแล้วหรือ ก็โดนถอดวาล์วน้ำออกไปตั้งหลายปีดีดักแล้วเนี่ย แต่ไม่รู้นะยังไม่เห็นความผิดปรกติของเครื่องในส่วนของแรงม้า แรงบิด เลย อ้อ! แต่เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเครื่องเคย Overheat ซึ่งอาจจะมาจากสาเหตุของการถอดวาล์วน้ำออกอย่างที่มีบางคนบอกไว้ในกระทู้ข้างบนก็อาจเป็นได้ หรือเสี่ยหน่อยมีอะไรเพิ่มเติมตรงนี้ไหม

 

ถอดวาล์วน้ำไม่ทำให้ overheat หรอกครับ น่าจะเป็นจากสาเหตุอื่นมากกว่า
เพียงแต่ผมติงกรณี ที่ไม่มีวาล์วน้ำ
1.ตอน start แล้วเครื่องร้อนช้า
2.ตอนวิ่งทางยาวเมื่อฝนตก หรือ หน้าหนาวอากาศเย็น อุณหภูมิน้ำจะต่ำลงไปมากกว่าจุดทำงานปกติ
ของมันนะครับ ตรงนี้เคยทดลองแล้วครับ ถอดวาล์วน้ำวิ่งตอนฝนตกหนักๆ อุณหภูมิน้ำเคยลงไปถึง
70 ต้นๆ เลยนะครับ

 

ขอบคุงคับ

 

ผมว่าเค้าออกแบบมามันต้องมีเหตุผลของตัวมันเอง
จะถอดหรือจะใส่ ผลภายภาคหน้ามันต้องมีแน่
รถแทบทุกยี่ห้อก็มีเหมือนกัน น่าคิดนะเนี่ย

 

...ถอดThermostat..ออก...ก็ไม่ได้..สร้างความเสียหายอะไรกับเครื่องยนต์มากมายนักหรอกครับ.....อย่าวิตกจนเกินเหตุ....บ้านเรา..มันเมืองร้อน.......สมัยก่อน..รถญี่ปุ่นที่มาขายบ้านเรา..ก็ยังไม่มี..Thermostat..มาเลย....ระบบนี้มาถูกเปิดเผยเพราะรถเยอรมัน....ญี่ปุ่นเห็นว่าดี..เลยเอาด้วย...

...สำหรับผม...เครื่องเคยจบเห่...เพราะมันมาแล้ว....วาล์วน้ำ(Thermostat)...ตัวละไม่กี่ร้อย....มันสามารถ..ทำให้รถคุณ...วางเครื่องใหม่ได้เลย....

...ทุกวันนี้...เลยเลือกที่จะถอดออก...เพื่อความสบายใจ...เวลาต้องเดินทางไกลๆ.....ต่อให้เครื่องโครตอึดขนาดไหน....เจอวาล์วน้ำตาย...เสร็จทุกราย....

...เพียงแต่ว่า...ถอดวาล์วน้ำออกแล้ว...ต้องรู้จักการวอร์มเครื่อง...และการขับขี่ที่ไม่กระแทกกระทั้น...ขณะที่เครื่องยังไม่ได้อุณหภูมิ...

...การที่เราติด Water Temp ก็สามารถช่วยได้ในระดับหนึ่ง...ทำให้เราสามารถขับรถโดยควบคุมอุณหภูมิของน้ำในระบบได้...

 

เข้ามาศึกษาหาฟามรู้ครับ

 

....ถ้าเป็นผม...ผมจะถามช่างคนนั้นว่า....อู่พี่อยู่ที่ไหน...จะได้บอกเพื่อนๆถูก.....จะได้ไม่หลงเข้าไป...

 

บางคนอาจจะบอกว่า ถอดแล้วไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย มันก็ใช่ครับ มันไม่ได้เห็นผลทันที แต่มันเกิดการสึกหรอที่มากกว่าที่ควรจะเป็น ก็คล้ายๆ กับเราไม่ค่อยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนั่นแหละครับ มันก็ใช้ได้ ไม่พัง แต่มันก็สึกหรอไปเรื่อยๆ อายุเครื่องมันก็สั้นกว่าปกติ

เรื่องอายุของ วาวล์น้ำ ถ้าใช้น้ำยาระบายความร้อนในระบบ ไม่ได้เติมน้ำเปล่า อายุการใช้งาน นานมากๆ ครับ นอกเสียจากว่า วาวล์น้ำตัวนั้นมันมีข้อบกพร่อง อายุจะสั้น แต่ถ้าเราเติมน้ำเปล่า หรือเครื่องมีการฮีต จากการที่ไม่มีน้ำระบายความร้อน วาวล์น้ำอายุสั้นแน่นอนครับ เนื่องจากว่า ในระบบมันจะเกิดตระกรัน เกาะอยู่ที่ตัววาวล์น้ำ ทำให้เกิดความฝืดเวลาเปิดปิด และก็เสียในที่สุด ส่วนกรณีที่ฮีตไม่มีน้ำในระบบ ทำให้อุณหภูมิของวาวล์น้ำสูงเกินไปมาก และขาดการหล่อลื่น ทำให้แว๊กภายในตัววาวล์น้ำเสื่อมสภาพ ทำให้วาวล์น้ำเสียได้อีกเหมือนกัน

สำหรับการถอดวาวล์น้ำ สำหรับบางเครื่อง อาจจะทำให้อุณหภูมิเครื่องมีปัญหาได้ เพราะว่า
วาวล์น้ำ เวลาปิด มันจะทำให้น้ำระบายความร้อน วนอยู่ในตัวเครื่อง จนกว่าอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นจนถึงจุดที่วาวล์น้ำทำงาน น้ำในเครื่องก็จะถูกระบายออกไปที่หม้อน้ำ (บางรุ่นจะเปิดให้น้ำจากหม้อน้ำที่ระบายความร้อนแล้วเข้ามา) ในขณะนั้น ด้านหนึ่งของวาวล์น้ำ จะเริ่มไปปิดช่องที่น้ำระบายความร้อนวนอยู่ในเครื่อง เมื่ออุณหภูมิสูงมากๆ เครื่องต้องการระบายความร้อนออกสูงสุด วาวล์น้ำจะเปิดให้น้ำในเครื่องระบายออกมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็จะปิดช่องน้ำที่วนระบายอยู่ในเครื่อง

คราวนี้ปัญหามันก็จะเกิดเวลาที่ถอดวาวล์น้ำออก จะมีน้ำอยู่สองส่วน ส่วนหนึ่งระบายไปที่หม้อน้ำ อีกส่วนจะวนอยู่ในเครื่อง ซึ่งก็มักจะเป็นส่วนบนของฝาสูบ น้ำที่วนมันก็จะร้อนขึ้นเรื่อยๆ ถึงจะมีน้ำจากส่วนที่ระบายความร้อนมาแล้วมาช่วยลดความร้อนด้วยก็ตามแต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอ เพราะในส่วนของฝาสูบน้ำเป็นส่วนที่ได้รับความร้อนมากที่สุด ดังนั้นการเกิดอาการเครื่องฮีตจึงอาจจะเกิดขึ้นได้แม้ว่าจะถอดวาวล์น้ำออก ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่า สัดส่วนของน้ำที่ระบายความร้อนจากหม้อน้ำ กับ น้ำที่วนอยู่ภายในเครื่อง ส่วนไหนที่มีสัดส่วนมากกว่ากัน ซึ่งแต่ละรอบความเร็ว และอุณหภูมิของน้ำระบายความร้อนในแต่ละสภาพการณ์แตกต่างกัน

เมื่อตัวแปรมันมีหลายตัว มันก็จะยากที่ควบคุมให้มีประสิทธิภาพได้ดีได้ การใช้วาวล์น้ำเพื่อกำหนดให้มีค่าคงที่อยู่ในช่วงที่เหมาะสม น่าจะดีกว่าการไม่ใส่วาวล์น้ำครับ

ผมว่า ถ้าจะถอดออก หาวาวล์น้ำซิ่ง มาใส่ดีกว่านะครับ ราคาก็ไม่กี่พัน ควรจะได้ผลที่ดีกว่าการไม่ใส่วาวล์น้ำเลย สำหรับรถที่มีการจูนกล่อง หรือ กล่องพ่วง อุณหภูมน้ำที่ไม่คงที่ ทำให้จูนได้ยากขึ้นด้วยครับ อาจจะได้ผลที่ออกมาได้ไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะได้

 

ความรู้ทั้งน้านเลย ผมเคยได้ยินเค้าว่า วาร์วน้ำช่วยกระจายแรงดันน้ำให้ไหลทั่วเครื่องอย่างสม่ำเสมอ และถ้าถอดออกจะทำให้น้ำไประบายความร้อนที่สูบสี่น้อยลงจิงปะครับ

 

ของผมช่างก้เจาะรูที่วาวน้ำให้อ่ะครับ ร้อนช้าจิงๆคับ เป็นอะไรหรือป่าวคับ
เครื่องเดิม vtec คับ