โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 ธันวาคม 2551 14:10 น. ปิยสวัสดิ์ ผวารัฐสั่งถอน ปตท.ออกจากตลาดหุ้น ค้ากำไรเกินควร บนหลังคนไทย ดำเนินธุรกิจแบบผูกขาดทั้งก๊าซและน้ำมัน แถมมีแหล่งผลิตในประเทศ แต่คนไทยต้องใช้เชื้อเพลิงแพงกว่าตลาดโลก แนะให้ยกเลิกภาษีน้ำมัน-ลอยตัวก๊าซ แอลพีจี อ้างราคาตอนนี้ ถือว่าถูกมากแล้วแล้ว พร้อมสนับสนุนการปรับขึ้นราคาก๊าซ เอ็นจีวี กิโลกรัมละ 11 บาท นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงแนวคิดรัฐบาลที่จะเพิกถอน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เนื่องจากที่ผ่านมา ปตท.ไม่สามารถดูแลผู้บริโภคได้ ทั้งราคาน้ำมัน และราคาก๊าซในประเทศ ที่ต้องใช้สูงกว่าตลาดโลก โดยช่วงที่ตลาดโลกปรับขึ้น ปตท.กลับประกาศขึ้นราคาทุกวัน แต่พอราคาในตลาดโลกลดลง ปตท.กลับไม่ค่อยปรับราคาลงตามตลาดโลก ทั้งที่เป็นผู้ทำธุรกิจผูกขาด นายปิยสวัสดิ์ ให้เหตุผลในการคัดค้านการเพิกถอน ปตท.ออกจากตลาดหุ้น โดยเสนอแนะให้รัฐบาลใช้ทางเลือกอื่น อาทิ การกำหนดกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลเพื่อให้เป็นธรรมแก่บริโภคและผู้ลงทุน ซึ่งต้องเร่งดำเนินการ คือ การออกกฎเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ในการกำกับดูแลกิจการก๊าซธรรมชาติของ ปตท.เพื่อให้การประกอบธุรกิจ การกำหนดราคาและเงื่อนไขในการจำหน่ายก๊าซให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เป็นการสร้างการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม มีคุณภาพบริการที่ดี นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ ยังได้เสนอมาตรการที่รัฐบาลควรดำเนินการใน 99 วันแรกของปีหน้า โดยแนะนำว่า รัฐบาลควรลอยตัวก๊าซหุงต้ม (LPG) โดยสั่งยกเลิกการกำหนดราคาก๊าซ LPG ทั้งภาคขนส่งและครัวเรือน เพราะไม่สามารถควบคุมการลักลอบถ่ายเทก๊าซ และจำมีการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อขอรับเงินส่วนต่างจากอัตรากองทุนที่อุดหนุนราคาที่ต่างกัน นายปิยสวัสดิ์ กล่าวถึงเหตุผลในการประกาศลอยตัว LPG เพราะเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันลดลง จากระดับสูงสุดที่ 924 ดอลลาร์ต่อตัน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา เหลือเพียง 338 ดอลลาร์ต่อตัน ในเดือนธันวาคม 2551 หรือคิดเป็น 11.7 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมแนะนำให้กำหนดสูตรราคา ณ โรงกลั่นที่ชัดเจน ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV ควรปฏิบัติตามเกณฑ์ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เช่น การปรับราคาจากกิโลกรัมละ 8 บาท 50 สตางค์ เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 11 บาท และปรับขึ้นไม่เกินครึ่งหนึ่งของราคาดีเซล เพราะราคาในปัจจุบันถูกเกินควรจากการอุดหนุน ถึงแม้จะปรับราคาขึ้นไปถึง 3 บาท 50 สตางค์ แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าดีเซล นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ ยังเสนอให้รัฐบาลปรับภาษีสรรพาสามิตน้ำมันมาอยู่ระดับเดิมในทันที ซึ่งอาจมีผลกระทบกับราคาขายปลีกบ้าง แต่ก็สามารถลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ส่วนนโยบายพลังงานทดแทนควรเร่งส่งเสริมแก๊สโซฮอล์ อี 20 และอี 10 ที่มีค่าออกเทน 91 ให้มีการใช้เพิ่มขึ้น สำหรับน้ำมันอี 85 ควรวางแผนระยะยาว เพราะต้องคำนึงถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ นอกจากนี้ ควรกำหนดให้น้ำมันดีเซล บี3 ซึ่งมีการเติมสัดส่วนของไบโอดีเซลสูงขึ้น ให้เป็นมาตรฐานสำหรับผู้ใช้ ตั้งแต่ 1 เมษายนปีหน้า และปรับเป็น บี4 และ บี5 ในปีถัดไป เพราะการตึงตัวของน้ำมันปาล์มดิบลดลงไปมาก
ปากดีนัก ไอ้ควย มึงจะไปเดือดร้อนควยไรล่ะ แดกแต่กำไร ได้คืบจะเอาศอก ไอ้หน้าเหี้ย ถอด แม่งออกไปซะ ก่อนประเทศจะชิบหายหนักกว่านี้ เพราะมีคน เหี้ยๆ แบบนี้