คือว่าตอนนี้ใช้เครื่อง evo 3 อยู่ เปลี่ยนเป็นลูก 2j แล้วรู้สึกว่า รถ วิ่งอืดๆ นะครับต้องเอา boot ขึ้น เท่าไหร่ครับ ตอนนี้ boot เดินนะครับ (โบเดิมครับ)
กำลัง อัด ของ เครื่อง จะ ลดลง ไป พอสมควร อ่ะ ครับ ถ้าใช้ ลูก 2j เพราะ หัว ลูกสูป มัน เตี้ย ลง อ่ะ ครับ คงต้อง ปรับจูน ใหม่ ครับ ใช้ กล่อง อ่ะไรอยู่ ครับ ถ้า กล่อง เดิม ก็ จูนรอม ก็ ได้ครับ ลองเช็ค กำลังอัด ของเครื่อง ดู ด้วย นะ ครับ ว่า เท่าใหร่
ตาม บ๊อบ เลย คับ ถ้าใส่ไป แบบ ไม่เปลี่ยน ปะเก็น หรือ เซ็ท กำลังอัด มันจะอีด กว่าเดิมคับ ไม่ก็ขยับบูส ขึ้นหน่อยนะคับ
เครื่อง 63 na ใส่รถผมอีกคันเกียร์ออโต้เดิมๆ พี่ที่อู่เขาก็คว้านกระบอกสูบในลูก 2 J ผมก็ถาม ว่าใส่แล้วจะมีผลต่อกำลังอัดอะไรยังไงบ้างพี่เขา บอกว่า ทำได้อยู่ 2 แบบคือ ไสฝาสูบเพื่อลดกำลัง อัด แต่จะทำให้ตั้งทามมิ่งยาก กับเปลี่ยนจุดหมุน ของสลักลูกสูบ ให้เยื้องไปดด้านบนเพราะลูกสูบ ของ 2 J สลักมันใหญ่กลึงเป็นบูททองเหลือง เยื้องขึ้นไปด้านบน เพื่อให้ลูกสูบมันลงมา ข้อดี อีกอย่างคือ มันหมุนได้คล่องขึ้น อ๋อ ปาดกระโปรง ลูกสูบด้วยเพราะเวลาเลื่อนลงมาล่างสุดจะติดข้อ เหวี่ยงหรือไงนี่แระ รายละเอียดประมาณนี้ฟังมา อีกที่ ยังไม่รู้เลยเสร็จแล้วมันจะเดินเบานิ่ง เนียน หรือเปล่า เพราะมันเอาหลายเครื่องมารวมกันเช่น ฝาสูบอีโว 3 คันพอทไอดีไอเสียแบบรถแรลลี่+ เสื้อสูบVR4 เพราะมีออยเจ็ทเสปร์ย+สายไฟกล่อง RVR + ท่อไอดีรุ่นไหนไม่รู้ + ลูกสูบแหวนของ 2J+คอยจุดระเบิดของอีโว ชนเกียร์ออโต้เดิมในฮุนได โซนาต้า ปล เพื่อนคนไหนเปลี่ยนแล้วอยากทราบว่าเวลาใส่ ลูก 2 J แล้วอัตรากินน้ำมันมากกว่าเดิมไหม กับ รอบเดินเบามันนิ่งเหมือนเครื่องเดิมๆอ่ะป่าวอ่ะครับ
อย่างที่เพื่อนๆด้านบนบอกครับ อืดแน่นอน กำลังอัดมันต่ำลง ลูกJ+ประเก็น1.2+ฝาสูบเดิม กำลังอัดจะอยู่ราวๆ 8.5-8.6 ถ้าเทียบกับ กำลังอัดเดิมเครื่อง 3 จะอยู่ 8.9-9.0 เครื่อง 2 อยู่ 8.8 ใส่ลูกเจ ถ้ายังไม่จูน จะมีอาการต้นไม่มีแรงครับ เพราะกำลังอัดต่ำ แต่ข้อดีคือกำลังอัดต่ำปลายสามารถดันไฟและปรับบูสท์เพิ่มได้เยอะและไม่พัง ต้องแก้โดยไปจูนใหม่ แต่ตอนนี้ต้องรู้ขนาดปะเก็นให้ได้ก่อนครับ ว่า 1 มม. 1.2 หรือ 1.4 เวลาจูนจะได้คำนวณกำลังอัดตอนจูนได้
อันดับแรกๆในการทำลูกเจ คือ ต้องกำหนดสเป็คเครื่องให้ได้ก่อนครับ พังไม่พังอยู่ตอนนี้แหละครับ หลายๆอู่ไม่ชอบคำนวณกัน 1. เทอร์โบ A/R เท่าไร 2. จะบูสท์สูงสุดเท่าไร 3. จะใช้น้ำมันออกเทนเท่าไร พอได้โจทย์ทั้ง 3 ข้อ จึงมากำหนด ปริมาตรต่างๆ ดังนี้ เพื่อหากำลังอัดที่เหมาะสม เพื่อให้แรงและไม่พัง 1. ปริมาตรฝาสูบ 2. ปริมาตรปะเก็น ต้องเลือกขนาดความหนา ให้พอดีกับบูสท์สูงสุดที่ใช้ครับ 3. ปริมาตรหัวลูกสูบ 4. ปริมาตรห้องเผาไหม้ เมื่อเราได้ปริมาตรทั้ง 4 ส่วน แล้ว จึงจะสามารถหาอัตราส่วนการอัดของห้องเผาไหม้ได้ครับ ว่าจะกำหนดไปที่เท่าไร ยกตัวอย่าง กำหนด อัตราส่วนการอัดของห้องเผาไหม้ที่ 8.6 สำหรับออกเทน95 ฉะนั้น อัตราส่วนการอัดของห้องเผาไหม้ ตอนบูสท์สุงสุด คำนวณอย่างหยาบๆ = 8.6*3 =25.8 ซึ่งเมื่อคูณอัตราบูสท์ที่ใช้ประมาณ 1.2 เข้าไป จะได้ 25.8*1.2 = 30.9 เป็นกำลังอัดสุดท้ายตอนบูสท์สูงสุด แต่มีข้อกำหนดว่า บูสท์ 1.2 ของเทอร์โบแต่ละขนาดเช่น A/R 50 A/R60 A/R 70 มีความหนาแน่นของอากาศไม่เท่ากันอีก ของคำนวณให้ดีครับ ถ้ากำลังอัดสุดท้าย สูงเกินไป ก็เพิ่มประเก็นหนาเป็น1.4 เพื่อลดกำลังอัดแทน อย่าไปปาดฝาสูบครับ ไม่งั้นไม่จบ และตอนประกอบเครื่องต้องแก้สลักลูกสูบเพื่อกันปัญหาลูกสูบตบข้างให้ดีครับ ** พังไม่พัง อยู่ที่ขั้นตอน กำหนดสเป็คเพื่อประกอบเครื่องนี้แหละครับ *** ส่วนแรงไม่แรง ยกให้เป็นหน้าที่ของคนจูน *** แต่จากประสบการณ์ผม ถ้าแรง+ไม่พัง คนจูนและคนประกอบต้องคุยกันให้จบก่อนประกอบเครื่องครับ หรือเป็นคนเดียวกันเลยยิ่งดีครับ เมื่อก่อนลูกเจผมเจอปัญหาบ่อยมาก บูสท์หนักซัก 1.7 บาร์ มีปัญหาตลอด อะไรซักอย่างต้องพัง ท่อนล่าง+ลูก ซัก 3 ชุดเห็นจะได้ จนได้พี่ตุ๋ย ให้ตำราของแก พร้อมสอนวิธีการวัดและออกแบบอัตราส่วนการอัดของห้องเผาไหม้ด้วยหลอดแก้ววัดปริมาตร เพื่อกำหนดสเป็คเครื่อง จนเข้าใจแล้วครับว่าเมื่อก่อนทำไมมันถึงพังบ่อย ตอนนี้ผมกลับไปเล่นลูก 85 มิล.ปกติแล้วครับ ถ้าจะเล่นลูก 86มิล ของเป็นลูก Custom Made ดีกว่า ไว้ถ้ามีโอกาศเจอกัน จะเอาวิธีการคำนวณไปอธิบายให้ครับ เพราะต้องทำความเข้าใจกันนานทีเดียว
ขอแจมด้วยคนนะครับพี่ๆ พอดีใช้ vr4 เครื่อง63t อยู่น่ะ ใส่ลูกสองเจอยู่ คืออยากรู้ว่าถ้าบูทสัก 1บาร์เลยอ่ะ เครื่องเดิมไม่ได้จูนไม่ได้ทำอาไรเลยน่ะ มันได้รึป่าวครับ หรือถ้ายังไงขอเบอร์พี่หน่อยสิครับ อยากโทรไปขอความรู้น่ะครับ
ลูกเจ กำลังอัดเครื่องประกอบมาที่ 8.5-8.6 รับบูสท์ที่ 1.7ได้ ถ้าประกอบมาที่ 8.8 บูสท์ที่ 1.2-1.4 ได้ ส่วนจะพังหรือไม่ ต้องหาปั๊มติ๊ก-หัวฉีด-เรกูเรเตอร์ มาจ่ายน้ำมันให้พอตามบูสท์ที่ปรับขึ้นครับ บูสท์ 1 บาร์ น้อยมากครับ ถ้าน้ำมัน+ไฟ+อากาศ ปกติ ก็สบายไม่พังหรอกครับ
ต้องหยดน้ำวัดซีซี แต่ละส่วน ตั้งแต่ตอนประกอบเครื่อง ถ้าประกอบเครื่องมาแล้วไม่สามารถวัดได้เลย ได้แต่คำนวณได้หยาบๆ
พี่ชื่อโอ๋หรือเปล่าครับพอดีผมติดตามเวบนี้อยู่เรื่อยๆน่ะครับ เห็นพี่ตอบคำถามได้ทุกเรื่องน่ะครับ ผมจึงอยากรบกวนขอเบอร์โทรพี่หน่อยน่ะครับ เผื่อผมจะรบกวนขอคำปรึกษาหน่อยน่ะครับ ขอบคุณครับ + อ้างถึง ตอบกลับ