ความรู้เกี่ยวกับล้อแมกซ์คับเชิญอ่าน

การสนทนาใน 'Primera & Presea Club' เริ่มโดย Porrasit, 16 มกราคม 2009

< Previous Thread | Next Thread >
  1. Porrasit

    Porrasit New Member Member

    226
    0
    0
    ก่อนอื่นต้องขออนุญาติ ... ก่อนนะคับรวมถึงพี่ J-Golf ด้วยนะคับ คือผมเห็นว่ากระทู้ของพี่เค้ามีประโยชน์จิงๆเลยอยากให้พี่ๆน้องๆเพื่อนๆชาวพรีเซียได้อ่านกันบ้างน่ะคับ


    เริ่มละนะ

    ล้อแม็ก มิใช่แค่ความสวย

    คนไทยดำรงชีวิตควบคู่กับความรักสวยรักงาม แม้แต่รถยนต์ คนไทยก็อดปรับโฉมให้สวยสุดเฉียบไม่ได้ล้อแม็ก- มิได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพการทรงตัว และอายุการใช้งานของรถยนต์อีกด้วย

    พื้นฐาน
    โดยผิวเผินแล้ว ล้อแม็กอาจเป็นเพียงอุปกรณ์ประดับรถยนต์ให้สวยงามเท่านั้น แต่เบื้องลึกมีผลกระทบทั้งด้านเด่นและด้อยอีกมากมาย เพราะล้อแม็กต้องถูกห่อหุ้มด้วยยางที่หมุนอยู่ตลอดการขับเคลื่อน และยึดติดอยู่กับระบบช่วงล่างซึ่งทำหน้าที่หลักในการทรงตัว

    พื้นฐานของล้อแม็กถูกพัฒนาขึ้นต่อเนื่องจากการใช้กระทะล้อเหล็กแบบดั้งเดิม โดยนำวัสดุที่มีน้ำหนักเบามาผลิตเป็นกระทะล้อ แทนการผลิตแบบเหล็กอัดขึ้นรูปแล้วนำมาเชื่อมประกบกัน แมกนีเซียมเป็นวัสดุที่ถูกนำมาผลิตแทนเหล็กเป็นกระทะล้อแบบใหม่ ตั้งแต่หลายสิบปีที่ผ่านมาการลดน้ำหนักกระทะล้อลงมีหลายจุดประสงค์ อาจมีเพียงจุดประสงค์เดียวหรือหลายจุดประสงค์ร่วมกัน จากคุณสมบัติเด่นของล้อแม็กดังนี้

    ช่วยระบายความร้อน
    เหล็กอมความร้อนมากกว่าแมกนีเซียมหรืออะลูมินั่มอัลลอย เมื่อกระทะล้อร้อน ยางก็ร้อนตาม และจานเบรก-ผ้าเบรกที่อมความร้อนก็จะลดแรงเสียดทานในการเบรกลง จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่ง

    ลดภาระระบบช่วงล่าง
    เช่นเดียวกับการยืดแขนตรงออกไปแล้วมีสิ่งของหนักหรือเบาแขวนอยู่ที่มือ สิ่งของน้ำหนักเบาย่อมเบาแรงและขยับแขนได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นยังเพิ่มอายุการใช้งานของระบบช่วงล่างได้เล็กน้อยอีกด้วย

    ลดแรงต้านการหมุน
    กระทะล้อและยางที่มีน้ำหนักมากย่อมหมุนได้ยากกว่า หากลดแรงต้านได้ อัตราเร่งจะดีขึ้น และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

    สามารถเพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ
    เพื่อใส่จานดิสก์เบรกขนาดใหญ่มากๆ หรือเพื่อความสวยงาม โดยยังสามารถควบคุมน้ำหนักของกระทะล้อไว้ได้จากวัสดุน้ำหนักเบา จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่ง หรือรถยนต์ทั่วไปที่อยากเพิ่มความสวย หรืออยากใส่ยางแก้มเตี้ยลงแต่ต้องการรักษาเส้นรอบวงเดิมไว้

    ความสวยงาม
    วัสดุที่นำมาผลิตล้อแม็กมีสีเงินวาววับ และสามารถออกแบบลวดลายได้หลากหลาย ต่างจากกระทะล้อเหล็กที่ต้องพ่นสีทับและมีลวดลายจำกัด แท้จริงแล้วจุดประสงค์นี้เป็นผลพลอยได้ แต่กลายเป็นจุดเด่นหลักของล้อแม็กไปแล้ว
    ขนาด
    การระบุขนาดของล้อแม็กมีอยู่ 2 จุดมีหน่วยเป็นนิ้ว คือ เส้นผ่าศูนย์กลาง หรือเรียกสั้นๆ ว่าขอบ...นิ้ว เช่น 13, 15,...นิ้ว ต้องพอดีกับเส้นผ่าศูนย์กลางของยาง (มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร) ที่จะนำมาใส่ และความกว้างหรือเรียกสั้นๆ ว่ากว้าง...นิ้ว มีหน่วยจำนวนเต็มหรือ .5 เช่น 5, 5.5, 8,...นิ้ว เกี่ยวข้องกับหน้ากว้างของยางที่จะนำมาใส่ เมื่อเรียกรวมกันจะระบุบนตัวล้อแม็ก เช่น ขนาด 6 X 15 นิ้ว หมายความว่าหน้ากว้าง 6 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว

    ในรถยนต์คันเดียวกัน ล้อแม็กที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางมาก ยิ่งสวย และมีราคาแพง ต้องใช้ยางแก้มเตี้ย คด-แตกง่าย ส่วนล้อแม็กหน้ากว้าง ดูดุดันเต็มซุ้มล้อ แต่ยางอาจติดตัวถังด้านในหรือขอบบังโคลนด้านนอก เป็นภาระกับช่วงล่างมากขึ้น
    ระยะ PCD
    PCD-PITCH CIRCLE DIAMETER หมายถึง ระยะห่างของรูนอตบนตัวล้อแม็กและดุมล้อที่ต้องเท่ากัน โดยวัดจากกึ่งกลางรูนอตทุกตัวลากเส้นเป็นวงกลม แล้ววัดผ่านเส้นผ่าศูนย์กลาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ถ้าเป็นจำนวนเลขคู่ 4 หรือ 6 รูนอตต่อ 1 ล้อ ก็สามารถวัดจากกึ่งกลางรูนอตด้านหนึ่งไปยังด้านตรงข้ามได้เลย แต่ถ้าเป็นจำนวนเลขคี่ 3 หรือ 5 รูนอต ต้องวัดจากแนววงกลมกึ่งกลางรูนอตผ่านเส้นผ่าศูนย์กลาง

    รถยนต์ขนาดเล็กมักมี 4 รูนอตต่อ 1 ล้อ และรถยนต์ขนาดใหญ่ขึ้นไปมักมี 5-6 รูนอต เพื่อความแน่นหนาในการยึดล้อเข้ากับดุมล้อ ระยะ PCD
    ของรถยนต์รุ่นใหม่แบบ 4 รูนอต นิยมที่ 100 มิลลิเมตร ส่วนระยะ PCD อื่นมีมากมาย เช่น 98, 108, 110, 114.3 (มาจาก 5 5/8 นิ้ว), 120, 130 มิลลิเมตร ฯลฯ

    หากล้อแม็กกับดุมล้อมีระยะ PCD ไม่ตรงกัน มีหลายวิธีดัดแปลง เช่น เจาะดุม เจาะล้อแม็ก คว้านรูนอตเดิมแล้วอัดบู๊ชแบบเยื้อง และใส่อแดปเตอร์ ฯลฯ แต่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจด้อยกว่ามาตรฐานจนเกิดอาการล้อสั่นหรือไม่ได้สมดุลขึ้นได้ และยังมีล้อแม็กหลายยี่ห้อหลายรุ่นให้เลือกอีกมากที่มีระยะ PCD ตรงกับดุมล้อ หากชอบล้อแม็กลวดลายนั้นจริงอาจดัดแปลงได้ แต่ต้องใช้ฝีมือช่างและความละเอียดมากๆ (กลายเป็นเรื่องปกติของวงการตกแต่งรถยนต์ของคนไทยไปแล้ว)

    ปัจจุบันล้อแม็กหลายรุ่นมีการเจาะรูนอตไว้เผื่อสำหรับรถยนต์หลายรุ่นมาเสร็จสรรพ เช่น 1 วง มี 8 รูนอต โดย 4 รูนอตมีระยะ PCD 100 มิลลิเมตร และอีก 4 รูนอตมีระยะ PCD 114.3 มิลลิเมตร หรือล้อแม็กหลายรุ่นไม่มีการเจาะรูไว้เลย เพื่อให้เลือกเจาะเองได้ตามสะดวกก็มี

    ออฟเซต
    OFFSET-ออฟเซต คือ ตำแหน่งของหน้าแปลนด้านหลังของล้อแม็กที่ต้องยึดติดกับดุมล้อ เมื่อเปรียบเทียบกับกึ่งกลางล้อแม็กด้านขวาง ระบุเป็นบวกหรือลบด้วยหน่วยมิลลิเมตรบนตัวล้อแม็กด้านหน้าหรือด้านหลัง เช่น 0, +30, -25 ฯลฯ ล้อแม็กที่มีค่าออฟเซตเท่ากัน อาจยื่นออกมาจากดุมล้อไม่เท่ากัน ถ้าความกว้างของล้อแม็กไม่เท่ากัน เช่น ล้อแม็ก 2 วง มีค่าออฟเซต 0 มิลลิเมตรเท่ากัน คือ หน้าสัมผัสของล้อแม็กกับดุมอยู่ตรงกลางพอดี แต่วงหนึ่งมีความกว้าง 6 นิ้ว กับอีกวงมีความกว้าง 7 นิ้ว วงแรกจะยื่นออกมาจากดุม 3 นิ้ว และวงหลังจะยื่นออกมา 3.5 นิ้ว ทั้งที่มีค่าออฟเซต 0 มิลลิเมตรเท่ากัน
    ค่าออฟเซตน้อยหรือลบมากเกินไป
    ล้อแม็กจะยื่นออกมาจากดุมล้อมาก แต่ถ้ามีระยะออฟเซตมากหรือบวกมากเกินไป ล้อแม็กจะหุบเข้าไปในตัวถัง เช่นล้อแม็ก 2 วงมีขนาดเท่ากันทุกอย่าง ทั้งเส้นผ่าศูนย์กลางและหน้ากว้าง ยกเว้นค่าออฟเซต ล้อแม็กวงหนึ่ง -20 มิลลิเมตร และอีกวง +10 มิลลิเมตร วงแรกเมื่อใส่เข้ากับตัวรถยนต์จะยื่นออกมามากกว่าอีกวง 30 มิลลิเมตร (-20+10=30 มิลลิเมตร)

    รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังมักกำหนดให้ใช้ล้อแม็กที่มีค่าออฟเซตเป็นลบ หรือบวกไม่มากนัก ดูแล้วล้อแม็กจะเป็นหลุมลงไป และรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า (หรือขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นใหม่) มักใช้ล้อแม็กค่าออฟเซตเป็นบวก ดูแล้วล้อแม็กจะหน้าเต็มๆ เพราะในการออกแบบและทดสอบพบว่า ล้อแม็กที่มีค่าออฟเซตมากหรือบวกมาก เมื่อยางแตกรถยนต์จะเสียการทรงตัวน้อย

    การเปลี่ยนล้อแม็กวงโตกับยางแก้มเตี้ย เช่น ล้อแม็กขอบ 16-17 นิ้ว กับยาง 45-50 ซีรีส์ ตามความนิยมเพิ่มความสวย คนส่วนใหญ่มักมีมุมมองเบื้องต้นว่ายางจะติดขอบบังโคลนด้านใน เพราะมีขนาดล้อแม็กเพิ่มขึ้น ทั้งที่อาจเกี่ยวข้องกับค่าออฟเซตที่น้อยเกินไป ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการยื่นหรือหุบเข้าไปของล้อแม็กกับขอบบังโคลนของตัวถัง เช่น เปลี่ยนล้อแม็กวงโตแล้วยางกระแทกขอบบังโคลนเมื่อรถยนต์ถูกโหลดลดความสูงหรือยุบตัวมากๆ ทำให้หลายคนรีบสรุปว่าล้อแม็กมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากเกินไป เช่น ขอบ 16-17 นิ้ว ทั้งที่จริงแล้วอาจมีปัญหามาจากค่าออฟเซต ในความเป็นจริง ยางจะติดขอบบังโคลนด้านในหรือเปล่า ? อยู่ที่ 2 กรณีหลัก คือ ขนาดของล้อแม็กและยาง และค่าออฟเซตของล้อแม็ก

    ถ้าไม่เลือกล้อแม็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่เกินไป เช่น โตโยต้า โคโรลล่า เลือกล้อแม็กขอบ 15-16 นิ้ว แล้วยางยังกระแทกขอบบังโคลนด้านในโดยส่วนใหญ่จะเกิดปัญหาจากค่าออฟเซตไม่เหมาะสม คือ ล้อแม็กและยางจะยื่นเลยออกมานอกแนวขอบบังโคลน เมื่อโหลดลดความสูงของตัวถังลงมาหรือรถยนต์ยุบตัวมากๆ ขอบบังโคลนด้านในจะกระแทกกับยางจนเกิดเสียงดังและยางเสียหาย

    ยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนว่า แม้จะใส่ล้อแม็กแค่ 13 นิ้ว แต่ถ้าออฟเซตลบมากๆ จนล้อแม็กยื่นออกมาเลยขอบบังโคลนด้านใน ยางก็ยังมีโอกาสถูกกระแทกได้การเลือกเปลี่ยนล้อแม็กขนาดใหม่ ควรอ้างอิงค่าออฟเซตกับล้อแม็กมาตรฐานเดิม โดยอ่านจากตัวล้อแม็กบริเวณด้านหน้าหรือด้านหลังตามหลักการ ไม่ควรเลือกล้อแม็กที่มีค่าออฟเซตต่างจากมาตรฐานเดิมเกิน 5-10 มิลลิเมตร แต่ในทางปฏิบัติสามารถประยุกต์ได้ ล้อแม็กที่ใส่แล้วสวยคือใส่แล้วดูเต็มบังโคลน แต่เมื่อรถยนต์ยุบตัว ยางต้องไม่กระแทกกับขอบบังโคลน หรือเรียกกันกลายๆ ว่า ปริ่มขอบบังโคลน

    การเลือกแบบประยุกต์หรือสูตรสำเร็จก็คือ ลองใส่ล้อแม็กพร้อมยาง แล้วนำรถยนต์ขับเดินหน้า-ถอยหลังสัก 4-5 ครั้ง เพื่อให้ช่วงล่างปรับเข้าสู่ระยะปกติ หาคนนั่งในรถยนต์บนเบาะหลัง 2-3 คน พร้อมขย่มตัวถังเหนือล้อหลัง แล้วดูว่าริมขอบบังโคลนด้านในยุบลงมากระแทกยางหรือเปล่า ถ้าสามารถพับหรือเจียร์ขอบบังโคลนด้านในหลบได้ก็จัดการไปเลย โดยต้องระวังไม่ให้สีด้านนอกเสียหาย แต่ถ้าติดมาก คือพับหรือเจียร์ขอบบังโคลนด้านในแล้วยังไม่น่าจะพ้น ก็หมดสิทธิ์ใส่ล้อแม็กชุดนั้น แม้ตัวรถยนต์ไม่ได้โหลดลดความสูงลง แต่ก็ต้องทดลองขย่มเผื่อไว้สำหรับการบรรทุกหนักหรือการกระแทกที่อาจเกิดขึ้นได้

    ค่าออฟเซตมากหรือบวกเกินไป
    ล้อและยางจะหุบเข้าไปในตัวถัง ดูไม่สวย อาจติดช่วงล่างบางชิ้น ฐานล้อระหว่างซ้าย-ขวาน้อยลง และสูญเสียประสิทธิภาพการทรงตัวลงไป

    การดัดแปลงค่าออฟเซต
    ความอยากสวยห้ามกันยาก เมื่อล้อแม็กลวดลายนั้นประทับใจมาก แต่ค่าออฟเซตน้อย-มากเกินไป จนล้อหุบ-ล้น หรือระยะ PCD ไม่เท่ากัน หรือจำนวนรูนอตไม่เท่ากันระหว่างดุมล้อกับล้อแม็ก สามารถดัดแปลงในหลายกรณีได้ดี แต่บางกรณีแย่และควรหลีกเลี่ยง

    ค่าออฟเซตน้อยหรือติดลบเกินไป
    ถ้าล้อแม็กจะล้นออกมาเกินปกติ แสดงว่าค่าออฟเซตน้อยหรือติดลบเกินไป เมื่อรถยนต์ยุบตัวลงหรือโหลด ยางอาจกระแทกกับขอบบังโคลนด้านใน ถ้าติดหรือกระแทกไม่มาก ก็สามารถพับหรือเจียร์ขอบบังโคลนหลบได้ แต่ต้องระวังไม่ให้สีด้านนอกเสียหายถ้ายังไม่พ้นลองพลิกดูด้านหลังล้อแม็กบริเวณหน้าสัมผัส ว่ามีเนื้อหนาพอจะเจียร์ให้บางลงสัก 2-3 มิลลิเมตรได้ไหม ถ้าเจียร์ได้ก็ยังพอเพิ่มค่าออฟเซตให้ล้อหุบเข้าไปได้อีกเล็กน้อย แต่ต้องแน่ใจว่าล้อแม็กจะไม่บางเกินไปจนแตกหักง่าย

    ค่าออฟเซตมากไป
    หากล้อแม็กหุบเข้าไปเกินปกติ แสดงว่าค่าออฟเซตมากไป กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับปัญหายางกระแทกขอบบังโคลน แต่อาจดูไม่สวย และล้อหรือยางจะติดขัดกับช่วงล่างบางชิ้นหรือซุ้มล้อด้านใน ถ้าไม่มาก สามารถใช้แผ่นอะลูมิเนียมรองแบนกลมบางๆ สเปเซอร์-SPACER ซึ่งมีจำนวนรูให้นอตร้อยผ่านเท่ากับระยะ PCD แทรกระหว่างล้อแม็กกับดุมล้อ เพื่อให้ล้อแม็กล้นออกมามากขึ้น

    ถ้ารองสเปเซอร์ไม่หนานัก ยังใช้นอตล้อเดิมได้และไม่ค่อยมีผลต่อการแกว่ง แต่ถ้าต้องรองหนากว่า 10 มิลลิเมตร (1 เซนติเมตร) ต้องเปลี่ยนนอตล้อยาวขึ้นหรือแบบพิเศษ เพื่อให้มีเกลียวยาวยึดได้แน่น แต่ยังเสี่ยงต่อการแกว่งหรือสั่นถ้าต้องรองสเปเซอร์หนามากเกิน 20-30 มิลลิเมตร อาจมีการใช้สเปเซอร์พิเศษ ที่มีนอตล้อเพิ่มอีกชุด (ดูคล้ายอแดปเตอร์ แต่จำนวนรูนอตและระยะ PCD เท่าเดิม) โดยมีตัวสเปเซอร์แบบหนายึดเข้ากับดุมด้วยนอตล้อชุดเดิม แล้วมีนอตล้อชุดใหม่ยื่นออกมาจากสเปเซอร์เพื่อยึดกับล้อแม็ก

    ตัวสเปเซอร์แผ่นรองแทรกควรมีน้ำหนักเบาที่สุด เพราะแค่มีการยื่นออกมาของล้อแม็กมากๆ ก็สร้างภาระให้กับช่วงล่างมากอยู่แล้ว เมื่อต้องเสริมแผ่นรองหนาพิเศษก็ยิ่งมีน้ำหนักมาก สร้างภาระมากขึ้นไปอีก
    ระยะ PCD ไม่ลงตัวหรือจำนวนรูนอตไม่เท่ากัน
    ไม่ใช่ใส่แล้วล้อแม็กหุบหรือล้นเกินไป แต่ยังใส่ล้อแม็กเข้าไปไม่ได้เลย เพราะรูนอตบนล้อแม็กกับดุมล้อไม่ตรงกันการแก้ไขมี 3 วิธีหลัก คือ แก้ไขล้อแม็ก แก้ไขดุมล้อ หรือทำอแดปเตอร์แทรก

    แก้ไขล้อแม็ก
    มีหลายวิธี เช่น 4 รูนอต PCD ใกล้เคียงกัน แล้วมีค่าออฟเซตเหมาะสมอยู่แล้ว เช่น 4 รูนอต PCD 100 แก้ไขเป็น 114.3 มิลลิเมตร หรือ 120 แก้ไขเป็น 114.3 มิลลิเมตร มักดัดแปลงด้วยการคว้านรูนอตเดิมบนล้อแม็กให้ใหญ่ขึ้น แล้วอัดบู๊ชเหล็กใหม่เข้าไปให้ได้ระยะหากเนื้อของล้อแม็กด้านข้างรูนอตยังเต็มหรือเหลือพอทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง สามารถเจาะรูเพิ่มจากเดิมได้ แต่ต้องได้ศูนย์และตรงกับระยะ PCD พอดี

    หากไม่สามารถขยายรูนอตและใส่บู๊ชใหม่ได้ หรือไม่มีเนื้อของล้อแม็กให้เจาะรูใหม่ได้ อาจใช้วิธีเชื่อมอุดรูนอตเดิมแล้วเจาะรูนอตใหม่ ทำได้ แต่ต้องมั่นใจว่าเนื้อวัสดุที่เชื่อมอุดผสานกับเนื้อวัสดุเดิมโดยไม่เปราะ และการเจาะรูนอตใหม่ต้องได้ศูนย์จริงๆ

    แก้ไขที่ดุมล้อ
    มักทำไม่ค่อยได้ เพราะไม่ค่อยมีเนื้อโลหะให้เยื้องหรือเจาะรูนอตใหม่ได้ แต่ถ้าทำได้ ต้องแน่ใจว่าได้ศูนย์จริงๆ
    ทำอแดปเตอร์-ADAPTER
    อแดปเตอร์ คือ แผ่นรองหนา 1-3 นิ้ว ผลิตจากเหล็กหรืออะลูมิเนียม สำหรับแทรกระหว่างล้อแม็กกับดุมล้อที่มีระยะ PCD หรือจำนวนรูนอตไม่เท่ากัน มีรูสำหรับยึดอแดปเตอร์เข้ากับดุมล้อ 1 ชุด บนด้านนอกของอแดปเตอร์มีเกลียวหรือนอตล้อสำหรับยึดกับล้อแม็ก

    ไม่ต้องดัดแปลงทั้งดุมล้อและล้อแม็ก แต่ล้อแม็กชุดนั้นต้องมีค่าออฟเซตมากหรือบวกมากเกินไป คือ ใส่ล้อแม็กแล้วหุบเข้าไปมาก เพราะการทำอแดปเตอร์แทรกต้องมีความหนาเพิ่มขึ้น ทำให้ล้อแม็กยื่นออกจากตัวรถยนต์มากขึ้น หากล้อแม็กยื่นออกมามากอยู่แล้ว เมื่อทำอแดปเตอร์แทรกในความหนา 1-2 นิ้ว ก็ยิ่งล้นออกมาจนเกิดปัญหา

    หากเลือกใช้วิธีนี้ นอกจากล้อแม็กชุดนั้นต้องมีค่าออฟเซตมากหรือบวกมาก อแดปเตอร์ต้องมีการเจาะรูนอตได้ศูนย์ และมีน้ำหนักไม่มากจนสร้างภาระกับระบบช่วงล่างมากเกินไป

    อย่ามองข้ามขนาดรูกลางของล้อแม็ก
    รถยนต์ทุกคันต้องมีแกนกลางของดุมล้อนูนออกมา เพื่อสวมทะลุเข้าสู่รูกลางบนตัวล้อแม็ก นอกจากต้องมีระยะ PCD, ค่าออฟเซต และขนาดโดยรวมของล้อแม็กเหมาะสมแล้ว ขนาดรูกลางของล้อแม็กต้องกว้างเท่ากันพอดีกับแกนดุมล้อ เพื่อป้องกันการสะบัดหรือแกว่งของล้อแม็ก แม้นอตล้อจะยึดแน่นอยู่แล้วก็ตาม หากขนาดรูกลางของล้อแม็กเล็กเกินไป ย่อมสวมเข้ากับดุมล้อไม่ได้ ต้องกลึงคว้านด้วยความละเอียดให้มีขนาดรูกลางเท่ากับแกนดุมล้อพอดี อย่าให้หลวมถ้าขนาดรูกลางของล้อแม็กใหญ่กว่าแกนดุมล้อ ควรอัดบู๊ชหรือคว้านแล้วอัดบู๊ชให้พอดีกัน เพื่อป้องกันการแกว่ง

    หากต้องการรองสเปเซอร์หนุนล้อแม็กออกมาในล้อหน้า หรือเมื่อต้องรองหนาถึง 1 เซนติเมตรขึ้นไป ด้านในของสเปเซอร์ต้องมีขนาดพอดีกับแกนดุมล้อ ส่วนด้านนอกต้องมีบ่ายื่นออกมาเป็นแกนสำหรับใส่ล้อแม็กสวมเข้าไป ในขนาดเท่ากับขนาดรูกลางของล้อแม็ก คือ สวมแล้วแน่นทั้งตัวสเปเซอร์กับดุมล้อและสเปเซอร์กับรูกลางล้อแม็ก เช่นเดียวกับการรองอแดปเตอร์เปลี่ยนระยะ PCD หรือจำนวนนอตล้อ แกนกลางก็ต้องสวมกันได้แน่นพอดีทุกจุดทั้งนอกและใน

    ล้อแม็กจำเป็นแค่ไหน?
    รถยนต์ทั่วไปและการใช้งานปกติไม่จัดจ้านนัก คุณสมบัติด้านความเบาและการระบายความร้อนที่ดี มีความจำเป็นน้อยมาก อีกทั้งยังแตกหรือคดง่ายเมื่อถูกกระแทกแรงๆ อีกด้วย ในหลายประเทศที่ผู้บริโภคใช้รถยนต์เพื่อการใช้งาน มิใช่เพื่อศักด์ศรีแบบคนไทย รถยนต์หลายรุ่นแยกล้อแม็กออกมาเป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้งพิเศษ ไม่ได้ติดตั้งมาให้เสร็จสรรพ แต่ทางฝ่ายผู้ผลิตรถยนต์ก็ต้องการเพิ่มความสะดุดตา เพื่อสร้างจุดเด่นหวังผลทางการตลาด และผู้บริโภคเองก็รักสวยรักงาม ปัจจุบันล้อแม็กจึงได้รับความนิยมเพราะความสวยงามเป็นหลัก

    เลือกอย่างไร
    มีหลายวิถีทางเลือก โดยเฉพาะด้านลวดลายและความสวยงาม คงไม่มีเครื่องมือหรือหลักการตัดสินชัดเจน เพราะรสนิยมย่อมมีความแตกต่างกันเปลี่ยนล้อแม็ก แต่ใช้ยางขนาดเดิม... เปลี่ยนล้อแม็กพร้อมยางขนาดใหม่

    การเปลี่ยนล้อแม็กกับยางขนาดเดิมเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย หรือเพราะไม่อยากสวยมาก หรือต้องการรักษาความนุ่มนวลของแก้มยางและเส้นรอบวงของยางไว้ให้ใกล้เคียงกับยางขนาดมาตรฐานเดิม ไม่ค่อยมีความสวยเพิ่มขึ้นนัก นอกจากเดิมเป็นกระทะล้อแบบเหล็ก ถ้าเดิมเป็นล้อแม็กที่ลวดลายไม่ขัดสายตานัก ไม่เปลี่ยนจะดีกว่า

    การเปลี่ยนล้อแม็กวงโตพร้อมยางขนาดใหม่ เป็นทางเลือกในด้านความสวยงามที่ชัดเจนกว่าในกรณีแรก

    แม้อดีตเมื่อกว่า 10-15 ปีที่แล้ว มีแฟชั่นการตกแต่งรถยนต์ด้วยล้อแม็กกว้างแต่วงเล็กกับยางแก้มเตี้ย ล้นออกมานอกตัวถัง หรือประกบกับยางเส้นอ้วนแก้มมน เน้นความเตี้ยของตัวรถยนต์โดยไม่สนใจรักษาเส้นรอบวงของยางเลย ในปัจจุบันมีข้อสรุปแล้ว และคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือย้อนยุค คือ ล้อแม็กวงโต เส้นผ่าศูนย์กลางมากๆ กับยางแก้มเตี้ย-ซุกใต้ขอบบังโคลน

    ยิ่งใช้ล้อแม็กวงโตๆ กับยางแก้มเตี้ยๆ ยิ่งสวย เพราะล้อแม็กมีความวาววับสวยสะดุดตา และยางแก้มเตี้ยมีขอบสีดำบางไม่หนาทึบต่อสายตา รับกับความวาวนั้นได้ดี แต่ต้องมีขอบเขตของความเหมาะสมในการเลือก เช่น

    ล้อแม็กวงโตเส้นผ่าศูนย์กลางมาก ยิ่งมีน้ำหนักมาก แทนที่จะเบากว่ากระทะล้อเดิม กลับหนักและสร้างภาระในการขับมากกว่าเดิม ต้องระมัดระวังตลอด เพราะอาจคดหรือแตกง่ายจากการกระแทกหรือตกหลุม ยางแก้มเตี้ยมากเท่าไร ยิ่งซึมซับแรงกระแทกได้น้อยกว่ายางแก้มสูง ในการใช้งานจะส่งความกระด้างขึ้นมาได้มาก และทำให้ล้อแม็กคดหรือแตกง่าย น้ำหนักโดยรวมของล้อแม็กและยาง ถ้ามากกว่ากระทะล้อและยางชุดเดิม จะส่งผลให้ระบบช่วงล่าง เช่น ลูกหมาก บู๊ช และลูกปืนล้อ มีอายุการใช้งานสั้นลง แต่ก็ไม่ได้พังลงในทันที

    ถ้าเส้นรอบวงของยางน้อยกว่าขนาดมาตรฐาน อัตราเร่งจะดีขึ้น แต่สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ความเร็วปลายลดลง มาตรวัดความเร็วชี้เกินความเร็วจริง (ไมล์อ่อน) หากเส้นรอบวงของยางมากกว่าขนาดมาตรฐาน อัตราเร่งจะแย่ลง มาตรวัดความเร็วชี้น้อยกว่าความเร็วจริง (ไมล์แข็ง) แต่คงไม่สำคัญเท่ากับความสวยงามที่อยากให้เพิ่มขึ้น

    ทางเลือกเพื่อความสวย
    เปลี่ยนครั้งเดียวจบ และต้องทำใจกับจุดด้อย !เมื่อทราบดีว่าสูตรสำเร็จอยู่ที่ล้อแม็กวงโตกับยางแก้มเตี้ย จึงควรกำหนดขนาดของล้อแม็กที่คิดว่าสวยให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่อยากได้และใส่ได้ จำไว้เสมอว่า ยิ่งวงใหญ่ยิ่งสวย แต่ก็อย่าให้ใหญ่เกินตัวถัง เช่น โตโยต้า โคโรน่า ไม่ควรมองล้อแม็กต่ำกว่าขอบ 16 นิ้ว ถ้าอยากสวยแบบสะใจ

    ตลาดล้อแม็กที่เน้นความสวยในปัจจุบันเริ่มที่ขนาด 15 นิ้ว ไล่ขึ้นไปถึง 16, 17 และ 18 นิ้ว หรือกว่านั้น ไม่ควรเลือกล้อแม็กขนาดเล็กกว่าความเหมาะสม ควรลองนำไปเทียบกับตัวรถยนต์ แล้วถอยออกมามองห่างๆ เพื่อวิเคราะห์ถึงความสวย โดยทั่วไปแล้วน่าจะเริ่มที่ขนาด 15-16 นิ้วขึ้นไป

    สาเหตุที่แนะนำล้อแม็กวงโตแบบครั้งเดียวจบ ก็เพราะว่ามีตัวอย่างมากมาย อาจด้วยความต้องการประหยัด หรือความกลัวอาการกระด้าง แต่ท้ายที่สุด หากอยากสวยจัดก็ต้องถอดล้อแม็กชุดนั้นออก แล้วเปลี่ยนใส่ชุดใหม่ขนาดใหญ่กว่าเดิม โดยที่ชุดเดิมนั้นตีราคาเทิร์นได้น้อยมากหรือต้องฝากขาย อันเป็นเรื่องปกติของร้านขายล้อแม็ก ผลคือเสียเงิน 2 ต่อเพราะความลังเล หากรักจะสวยแล้ว อย่ากังวลถึงเรื่องเงินมากนัก เพราะล้อแม็กขนาด 15 และ 16 นิ้ว หรือขนาด 16 และ 17 นิ้ว เมื่อรวมราคาทั้งชุดเข้าไป มีความแตกต่างด้านราคาทั้งของล้อแม็กและยางน้อยมาก ถ้าชอบและใส่ได้ เลือกแบบครั้งเดียวจบไปเลยดีกว่า เพราะอย่างไรก็ถูกกว่าการตีราคาเทิร์นเปลี่ยนล้อแม็กพร้อมยางภายหลัง

    อย่ากังวลกับจุดด้อยมากนัก ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ อยากสวยก็ต้องทำใจว่า ล้อแม็กยิ่งวงโตยิ่งคดง่าย ในการขับต้องตาไวมือไว หลบหลุมหลบเนินให้ดี ส่วนยางนั้น แก้มยิ่งเตี้ยยิ่งสวย แต่ก็ยิ่งซึมซับแรงสั่นสะเทือนได้น้อย ซึ่งก็ไม่ได้น้อยมากจนน่าตกใจ

    อายุการใช้งานของระบบช่วงล่างเมื่อใส่ล้อแม็กวงโตเข้าไปก็ไม่ได้สั้นลงมากมาย เปรียบเทียบแล้วไม่น่าเกิน 10-20 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่มีทางเกิน 30 เปอร์เซ็นต์ไปได้ ไม่เช่นนั้นคงเห็นรถยนต์มที่ใส่ล้อแม็กวงโตหรือออฟโรดบิ๊กฟุต ช่วงล่างพังคาถนนกันบ่อยๆ

    แท้เทียมดังเด่นใหม่เก่า
    ล้อแม็กปลอมหรือเลียนแบบมีมากมาย เพราะล้อแม็กลายสวยรุ่นยอดนิยมของแท้ที่มีราคาแพง เมื่อนำมาลอกเลียนแบบก็ไม่ยาก และมีต้นทุนใกล้เคียงกับการผลิตล้อแม็กลวดลายพื้นๆ ราคาถูกและขาดความนิยม เพราะค่าแม่พิมพ์และวัสดุไม่เกี่ยวข้องกับลวดลายของล้อแม็กมากนัก ในเมื่อต้นทุนเท่ากันก็เลือกผลิตล้อแม็กของปลอมรุ่นเด่นๆ ดีกว่า ควรหลีกเลี่ยงล้อแม็กปลอมหรือลวดลายเลียนแบบ เพราะไม่มีคุณค่าทางความสวยงามและอาจเกิดอันตราย เพราะมักผลิตจากโรงงานขนาดเล็กไร้มาตรฐาน ล้อแม็กอาจคดหรือแตกง่าย และเมื่อมีการแลกเปลี่ยนหรือเทิร์นจะมีราคาเหลืออยู่น้อยมาก หรือร้านไม่รับเทิร์นเลย เพราะสามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่าล้อแม็กปลอม ลายอะไรก็ว่ากันไป ไม่มีทางหลอกตากันได้ ต่างจากตอนซื้อที่ผู้ขายมักจะยุกันไปต่างๆ นานา

    ควรเลือกล้อแม็กของแท้ยี่ห้อมาตรฐาน อาจไม่ใช่รุ่นดังยี่ห้อเด่น แต่ก็มีความมั่นใจในคุณภาพได้มากกว่า ดูรายละเอียดได้ที่ตัวล้อแม็ก โดยต้องมีตัวอักษรบอกยี่ห้อชัดเจน (มักเป็นตัวนูน) มีตัวอักษรย่อบอกมาตรฐาน และสภาพโดยรวมต้องเรียบร้อย เช่น JWL ฯลฯ เพราะล้อแม็กปลอม แม้เลียนแบบมาเหมือนเปี๊ยบ แต่มักไม่ค่อยกล้าระบุยี่ห้อชัดเจนหรือเป็นตัวนูน

    ล้อแม็กมือสองอาจน่าสนใจ
    ระหว่างล้อแม็กมือสองของแท้ กับล้อแม็กมือหนึ่งของปลอม ควรเลือกแบบแรกหรือยี่ห้อไม่ดังแต่แท้ดีกว่า อย่ากังวลกันมากนักกับคำร่ำลือว่าล้อแม็กเก่านั้นต้องถูกย้อมแมว เพราะล้อแม็กไม่ใช่อุปกรณ์ที่มีการสึกหรอ อาจบิดคดได้บ้าง แต่ถ้าไม่หนักหนาก็เรียกได้ว่ายังปกติ และไม่มีขอบเขตด้านอายุการใช้งาน 10 ปีก็ยังปรับสภาพมาใช้กันได้

    ล้อแม็กมือสองมีหลายสภาพ ทั้งบิดคดมาหนักแล้วถูกนำมาซ่อมย้อมแมว (มีเพียง 10-20 เปอร์เซ็นต์ในตลาด) และแบบโทรมเฉพาะภายนอกแล้วตกแต่งได้เหมือนใหม่ การเปลี่ยนล้อแม็ก ส่วนใหญ่มักมีเหตุผลมาจากความอยากให้รถยนต์สวย ไม่ค่อยเปลี่ยนเพราะล้อแม็กเสียหายมากๆ

    ถ้าเลือกอย่างรอบคอบก็จะได้ล้อแม็กมือสองสภาพดีในราคาเพียง 40-60 เปอร์เซ็นต์ของราคาล้อแม็กใหม่ พลิกดูให้ดีทุกมุมในทุกวง ว่าวงไหนมีร่องรอยการกลึงเรียบจนมีสันเหลี่ยมแตกต่างจากวงอื่นไปหรือเปล่า ถ้ามีก็มองข้ามชุดนั้นไปได้เลย

    หากยังกังวลกับสภาพของล้อแม็กมือสอง ลองดูสิว่า เคยเห็นรถที่ขับแล้วล้อแม็กแตกคาตาหรือประสบด้วยตัวเองมากี่ครั้ง ถ้าไม่ชนหนักหรือตกหลุมแรงจัดๆ ล้อแม็กไม่แตกกระจายแน่นอน

    สำหรับล้อแม็กที่ถูกเปลี่ยนออกเพราะอยากเปลี่ยนขนาดเพื่อความสวย เช่น รถยนต์ใหม่ป้ายแดง ล้อแม็กจากโชว์รูมขนาด 14 นิ้ว เปลี่ยนเป็น 16-17 นิ้ว บางคันใช้มาไม่กี่สัปดาห์ก็เปลี่ยนออก หรือเปลี่ยนล้อแม็กลายใหม่ไปแล้วไม่ประทับใจ ล้อแม็กเก่า กรณีนี้น่าสนใจ เพราะสภาพยังดีแต่ราคาไม่แพง

    แหล่งใหญ่ของร้านล้อแม็กใหม่และล้อแม็กมือสองอยู่บริเวณเชียงกง ปทุมวัน และวงเวียน 22 กรกฎาคมนอกจากนั้นก็กระจัดกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะร้านล้อแม็กใหญ่ๆ

    เมื่อโทรมก็เสริมสวยได้
    ล้อแม็กมีอายุการใช้งานไม่จำกัด และน่าจะเกิน 10-20 ปี ถ้าไม่แตกสามารถซ่อมแซมหรือปรับสภาพได้ ถ้าเบื่อก็สามารถเทิร์นเพื่อแลกซื้อชุดใหม่ออกมาได้ เพียงแต่จะได้ราคาต่ำกว่าตอนใหม่กว่าครึ่ง

    ถ้ายังไม่เบื่อ แต่ล้อแม็กโทรมแล้วจากกรด-ด่าง ปัสสาวะสุนัข หรือเพียงขอบบิ่น ก็สามารถเสริมสวยหรือปรับสภาพได้ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ปัดเงาและพ่นสี ซึ่งอาจสลับแบบกันได้ เช่น เดิมพ่นสีมาเปลี่ยนเป็นปัดเงา หรือเดิมปัดเงาเปลี่ยนเป็นพ่นสี แล้วแต่เนื้อโลหะเดิมหรือความเหมาะสมด้านความสวย

    ค่าใช้จ่ายการปรับสภาพประมาณวงละ 300-500 บาท รวมถึงการแตกและบิดคด ซ่อมได้เกือบทุกรูปแบบ แหล่งใหญ่อยู่บริเวณวงเวียน 22 กรกฎาคม หัวลำโพง เข้าจากทางแยกวัดเทพศิรินทร์กระจายกันออกไป

    ไม่ว่าจะเลือกล้อแม็กลวดลายใดก็ตาม อย่าเลือกเพราะความสวยเพียงอย่างเดียว ความปลอดภัยสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด !


    ปล.อ่านเสดไปเช็คสายตาด้วยนะคับผมปวดตา
     
  2. pOR...

    pOR... New Member Member

    836
    2
    0
    ความรู้ล้วนๆ ขอบคุณคร้าบ :D
     
  3. PeMhom

    PeMhom New Member Member

    1,163
    3
    0
    คลับเราได้จอมข้อมูลคนใหม่แว้ว..:D:D






    เออ...นี่..ท่าน..ตกลงUser Name ท่านอ่านว่าอะไรอ่ะ..ผมเรียนมาน้อย..สะกดยังไงก็ได้..ปอ-ลา-สิต..
     
  4. Porrasit

    Porrasit New Member Member

    226
    0
    0
    น่านแหละคับ ผมชื่อปอคับ ชอบใช้ยูเสอ ว่า ปอ ระ สิต อิอิ
     
  5. PeMhom

    PeMhom New Member Member

    1,163
    3
    0

    อ้าว....เหรอ....


    ฮืม..ปรสิต..คือ..สิ่งมีชีวิตที่เหมือน..กาฝาก..ใช่ป่ะ..เคยดู..เอเลี่ยน..อยู่:D:D:D
     
  6. Porrasit

    Porrasit New Member Member

    226
    0
    0

    ปรสิต ก็คือ สัตว์ที่ต้องพึ่งพาอาศัยสิ่งมีชีวิตอื่น (Host) ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารหรือที่พักเพื่อการอยู่รอดโดยปรสิตอาจเข้าไปอยู่ในหรือนอกร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่น โดยที่ตัวมันเองเป็นฝ่ายได้รับผลประโยชน์แต่เพียงฝ่ายเดียว

    กำและ พี่หม่อมเดวก็ไม่มีคนคบผมอะดิ
     
  7. vynnz

    vynnz New Member Member

    727
    4
    0
    เดี๋ยวมาดูตัวอย่างล้อ และวิธีการคำนวณของจริงได้ที่รถผมเลยครับ หุหุ
     
  8. Porrasit

    Porrasit New Member Member

    226
    0
    0
    ดีคับผมอ่านเฉยๆนึกภาพไม่ออก อิอิ เดวจาถอดออกมาวัดกันเลย หุหุจะจะไปเลย
     
  9. Porrasit

    Porrasit New Member Member

    226
    0
    0
    เรื่องของยาง อีก

    แถมอีกนิสส จาก ... โดยคุณ nvyangyont


    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาง
    หลายเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ ยังมีความเข้า ใจผิดในวงกว้าง จนบางคนฝังความคิดว่าเป็นหลักการที่ถูกต้องจริงๆ ไปแล้ว

    ในโลกการสื่อสารที่ฉับไว ในโลกแห่งเทคโนโลยี ไม่มีคำว่าสายเกินไปหากต้องการลบความเข้าใจผิดเหล่านั้น

    อ่านบทความ รวมความเข้าใจผิดเรื่อง...ยาง

    โดย MGR ONLINE

    ความกว้างของยาง/ความกว้างของหน้ายาง

    ความเข้าใจผิด : บนแก้มยางจะมีการระบุขนาด ต่างๆ ของยางเส้นนั้นไว้อยู่เสมอ สำหรับยางทั่วไปจะมีการระบุรายละเอียดที่คุ้นเคยกันตามตัวอย่าง เช่น 205/60R15

    ตัวเลข 3 หลักแรกนี้เองที่หลายคนเข้าใจผิด โดยเข้าใจว่าเป็นความกว้างของหน้ายางที่สัมผัสถนน มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ในกรณีตัวอย่างนี้ คิดว่ายางเส้นนี้มีหน้ากว้าง 205 มิลลิเมตร

    ความเป็นจริง : ตัวเลข 3 หลักแรกนี้ เป็นความกว้างของยาง ไม่ใช่ความกว้างของหน้ายางที่สัมผัสพื้น วิธีการตรวจสอบง่ายๆ ตัวเลข 3 หลักนี้ ก็คือ นำยางเส้นนั้นใส่กับกระทะล้อที่มีขนาดเหมาะ สมกันตามมาตรฐานที่วงการยางกำหนดและสูบลม วัดความกว้างของยางจากส่วนที่กว้างที่สุด ซึ่งมักจะ เป็นส่วนโค้งของแก้มยางที่ป่องออกมา จากแก้มข้างหนึ่งมายังอีกข้างหนึ่ง โดยวัดรวมทุกอย่างที่กว้าง ที่สุด ถ้าบังเอิญมีตัวอักษรตัวเลขหล่อนูนออกมา ก็ ต้องวัดรวมด้วย แล้วก็จะได้ค่าความกว้างนั้นออกมา

    ตัวเลข 3 หลักแรกที่ระบุไว้ เช่น 205 จะเป็นความกว้างของยางในส่วนที่ป่องที่สุด ซึ่งเป็นแก้มยาง ส่วนความกว้างของหน้ายางจริง จะไม่มีการกำหนดไว้ และเท่าที่ทลองวัดดู ก็จะแคบว่าตัวเลขความกว้างของยางที่ระบุไว้ 10-30 มิลลิเมตร

    นั่นหมายความว่า สมมุตติยางที่ระบุความกว้าง ไว้เท่ากัน แต่ต่างรุ่นต่างยี่ห้อกัน ความกว้างของยาง บริเวณแก้มจะต้องเท่ากัน แต่ไม่แน่ว่าความกว้างของยางจะต้องเท่ากัน เพราะพบว่ายางรุ่นสปอร์ตหรือเน้นสมรรถนะสูง จะมีความกว้างของหน้ายางใก้ลเคียงกับตัวเลขความกว้างของยางมากกว่ายางรุ่น พื้นๆ สำหรับใช้งานทั่วไป

    หากไม่เชื่อบทความนี้ ให้เอาไม้บรรทัดหรือตลับเมตรไปวัดรอยฝุ่นบนหน้ายางได้เลย แล้วจะพบว่า แคบกว่าตัวเลขที่ระบุไว้มาก วัดยังไงก็ไม่เท่ากัน แต่พอเล็งๆ แถวแก้มยาง ก็พบว่ากว้างพอกับตัวเลข 3 หลักแรกที่ระบุไว้จริงๆ



    ตัวเลขซีรีส์ ต้องคำนวนก่อน

    ความเข้าใจผิด : จากตัวอย่าง 205/60R15 ตัวเลข 2 หลักชุดที่ 2 คือ 60 หมายถึงซีรีส์ของยาง หลายคนเข้าใจผิดว่า ยางที่มีตัวเลขซีรีส์มาก จะต้องมีแก้มสูงกว่ายางที่มีซีรีส์น้อยกว่าเสมอ

    ความเป็นจริง : ตัวเลขซีรีส์ หมายถึง ความสูงของแก้มยางคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของความกว้างของยาง หากต้องการทราบความสูงจริงของแก้มยาง ก็ต้องมีการคำนวณก่อน

    จากตัวอย่าง ยางเส้นนี้ มีความสูงของแก้มยาง เป็น 60 เปอร์เซ็นต์จากความกว้าง 205 มิลลิเมตร คำนวนโดยนำ 205 X (60/100) = 123 มิลลิเมตร

    ถ้าไม่ผ่านการคำนวณ จะสรุปลอยๆ ไม่ได้ว่า ยางซีรีส์ 65 จะมีแก้มยางจริงสุงกว่ายางซีรีส์ 60 หากมีความกว้างของยางต่างกัน

    เช่น ยาง 205/60R13 มีแก้มสูง 205 X (60/100) = 123 มิลลิเมตร ส่วนยาง 185/65R13 มีแก้ม สูง 185 X (65/100) = 120.25 มิลลิเมตร มีแก้มจริงเตี้ยกว่าทั้งที่มีตัวเลขซีรีส์เป็น 65 มากกว่าเส้นแรกอยู่ 5 ซีรีส์

    ถ้าจะเดาความสูงของแก้มยาง ก็ต้องดูตัวเลข 3 หลักแรกความกว้างของยางด้วย แต่ถ้าจะให้แม่นยำก็ต้องนำไปคำนวณก่อน



    ยางที่ใช้กับกระทะล้อขอบใหญ่กว่า ยางต้องใหญ่กว่า

    ความเข้าใจผิด : ในกรณีที่จะเปลี่ยนล้อแม็กให้มีขาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้น ตามสไตล์ล้อแม็กวงโต+ยางแก้มเตี้ย เช่น ล้อเดิมขอบ 14 นิ้ว จะเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นขอบ 16 นิ้ว หลายคนเข้าใจผิด โดยรีบสรุปว่ายางที่ใช้กับกระทะล้อขอบ 16 นิ้ว ต้องมีขนาดใหญ่กว่ายาง 14 นิ้ว ไปมองไปอิงกับตัวเลขขอบกระทะล้อทั้งที่นั่นคือ วงในของยาง ไม่ใช่วงนอก

    ความเป็นจริง : ยางจะมีเส้นรอบวงมากหรือมีความสูงโดยรวมเท่าไร ไม่เกี่ยวกับขนาดของกระ ทะล้อหรือเรียกกันว่าขอบกี่นิ้วนัก เพราะต้องขึ้นอยู่กับความสูงของแก้มยาง ซึ่งก็ขึ้นกับความกว้างและซีรีส์นั่นเอง

    ยางขอบ 17 นิ้ว ซีรีส์น้อยแก้มเตี้ยบางเฉียบ อาจจะมีเส้นรอบวงน้อยและมีความสูงโดยรวมน้อย กว่ายางขอบ 14 นิ้ว ซึ่งมีซีรีส์มากและแก้มสูงก็เป็นได้



    ยางเปอร์เซ็นต์ เมินได้เลย

    ความเข้าใจผิด : เป็นที่เข้าใจว่า ยางเปอร์เซ็นต์ คือ ยางมือสอง คนส่วนใหญ่มองว่าเมินยางเปอร์ เซ็นต์ไปได้เลย เพราะคิดว่าล้วนเป็นยางมือสองที่ได้มาจากเจ้าของเดิมถอดทิ้งหรือถอดขายให้ ร้านในราคาถูกๆ เพื่อเป็นส่วนลดในการซื้อยางใหม่ ยางจึงน่าจะหมดสภาพแล้ว หากฝืนซื้อมาใช้งานต่อก็จะเสี่ยงต่ออันตราย

    ความเป็นจริง : ยางเปอร์เซ็นต์หลายสิบเปอร์เซ็นต์ที่ขายอยู่ทั่วไป เกือบหมดสภาพแล้วจริงๆ หากใครซื้อมาใช้ก็เสี่ยงอันตราย แต่ไม่ใช่ว่าทุกเส้นจะไม่น่าสนใจ

    เพราะในกรณีที่เป็นยางซึ่งถูกเปลี่ยน เพราะเจ้าของอยากเปลี่ยนขนาดยางหรือล้อแม็ก ทั้งที่ยังไม่หมดสภาพ ยางเปอร์เซ็นต์เส้นนั้นก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ บางครั้งรถป้ายแดงขับออกมาจากโชว์รูมได้ไม่กี่วัน ก็เปลี่ยนยางเดิมออกแล้ว หรือใช้ยางเดิมได้ไม่กี่เดือน ก็อยากเปลี่ยนล้อแม็กวงโต+ยางแก้มเตี้ยตามแฟชั่น ก็อาจจะถอดยางชุดเดิมขายลดราคากับทางร้านหรือประกาศขายเองเป็นยาง เปอร์เซ็นต์

    บางครั้งยางก็ถูกเปลี่ยนออก เพราะความหวาดกลัวเกินไป ทั้งจากตัวเองหรือคำแนะนำที่ผิดๆ ว่ายางรถยนต์ใช้ได้แค่ 2 ปี หรือไม่เกิน 40,000 กิโลเมตร ทั้งที่ความจริงใช้ได้นานกว่านั้น ยางชุดนั้นจึงยังไม่หมดสภาพแต่กลับถูกเปลี่ยนออก ซึ่งเมื่อนำออกขายเป็นยางเปอร์เซ็นต์ ภสพาจึงยังดีอยู่ และสามารถใช้ต่อได้อีก

    การเลือกใช้ยางเปอร์เซ็นต์ หากดูอย่างละเอียด รอบคอบ และเลือกยางที่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนเพราะหมด สภาพ โดยเฉพาะยางที่ถูกเปลี่ยนเพราะเจ้าของเดิม อยากเปลี่ยนขนาด บางครั้งก็น่าสนใจ



    เปลี่ยนยางทิ้งเร็วเกินไป

    ความเข้าใจผิด : คนส่วนใหญ่เชื่อและได้รับ คำแนะนำที่ผิดๆ ว่ายางรถยนต์ต้องเปลี่ยนตามระยะทางเท่านั้นเท่านี้ หรือไม่เกินกี่ปีต้องเปลี่ยนออก แม้ว่า+++ยังไม่หมด หรือยังดูดีอยู่ก็ต้องเปลี่ยนออก หลายคนเชื่อปักใจ เพราะหวาดระแวงกลัวยางระเบิดแล้วอันตราย

    ความเป็นจริง : จริงอยู่หากยางระเบิดแล้วจะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือความยุ่งยาก ต้องเปลี่ยนยางกลางทาง แต่การใช้อะไรแล้วเปลี่ยนทิ้งทั้งที่ยังไม่หมดสภาพ เสียดายทั้งเงินทั้งทรัพยากรของโลกที่ต้องเสียไปด้วยความหวาดระแวง

    ผู้ผลิตยางรถยนต์ส่วนใหญ่ แม้ว่าอยากจะขายยางเส้นใหม่เร็วๆ ก็ยังไม่เคยมีคำแนะนำให้เปลี่ยนยางเมื่อครบ 3 ปี หรือเมื่อเกิน 50,000 กิโลเมตรหรือต่ำกว่านั้นเลย มีแต่การแนะนำว่า สามารถใช้งานได้จน+++จะสึกถึงสัญลักษณ์ที่จุดลึกสุดของร่องยาง และถ้า+++ยังไม่หมด หากดูแล้วไม่มีการแตกร้าวปริบวม ก็สามารถใช้ต่อได้จน+++สึกถึงระยะข้างต้น โดยไม่จำกัดปีที่ใช้

    ค้นหาทั้งจากเอกสารหรือถามจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของผู้ผลิตยางโดยตรง ก็บอกอย่างนี้ทั้งนั้น พอถามแบบกลางๆ ว่า งั้นของคำตอบที่คนทั่วไปอยากทราบได้ไหม เขาก็บอกว่า 3 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร หาก+++ยังไม่หมด ยางส่วนใหญ่ (หากยางเส้นนั้นไม่ได้ใช้งานหนักบนทางวิบาก หรือได้รับการกระแทกบ่อย) น่าจะยังไม่หมดสภาพ และน่าจะใช้ได้อีกไม่น้อยกว่า 1-2 ปีขึ้นไป หรืออีกหลาย หมื่นกิโลเมตร และพอถามย้ำอีก เขาก็บอกว่า ประ มาณว่าถ้า+++ไม่หมดยางน่าจะใช้ได้เกิน 60,000 กิโลเมตรหรือแถวๆ 5 ปีได้สบาย และก็บอกทิ้งท้ายว่า ถ้า+++ไม่หมด และดูสภาพแล้วยังปกติ ก็ยังใช้ต่อได้อีก

    ขนาดฝ่ายผู้ผลิตที่อยากขายยางใหม่ให้ได้มากๆ ยังมีคำแนะนำให้ใช้งานได้นานกว่าความเชื่อของคนทั่วไป ดังนั้นก่อนที่จะเปลี่ยนยางใหม่ ก็ควรแน่ใจว่ายางเส้นเดิมหมดสภาพและไม่น่าเสี่ยงใช้งานต่อแล้ว ไม่ใช่เปลี่ยนเพราะความหวาดระแวง ทั้งที่เพิ่งผ่านการใช้งานเกินครึ่งมาไม่เท่าไร



    ยางเก่าเก็บไม่น่าสน

    ความเข้าใจผิด : เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า ยางรถยนต์ที่ถูกเก็บสต็อกไว้ สามารถหมดสภาพได้ แม้จะยังไม่เคยใช้งานก็ตาม แต่ตัวเลขจำนวนเดือนปีที่จะถือว่าไม่น่าซื้อใช้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนตั้งใจว่า ผลิตเกิน 3 เดือนจะไม่ซื้อ บางคน 6 เดือน หรือบางคน 1 ปีกว่าๆ ยังรับได้ ความเข้าใจผิดก็คือ คนที่หวาดระแวงเกินเหตุ เก็บเกิน 3-6 เดือนไม่เอาแล้ว ทำเป็นว่ายางรถยนต์จะเน่าง่ายๆ แบบขนมเค้กหรือต้องรอของที่อบเสร็จกันหน้าเตาเลย

    ความเป็นจริง : ข้อมูลจากผู้ผลิตยางรถยนต์ หากเก็บโดยไม่โดนความร้อนจัดเย็นจัด ไม่ถูกสารเคมี และจัดวางอย่างเหมาะสม จะสามารถเก็บ สต็อกได้นานถึงกว่า 5 ปีก็ยังมี โดยไม่เสื่อมสภาพ สามารถนำมาใช้งานได้

    ส่วนที่ตั้งแง่ว่าเกิน 3-6 เดือนจะไม่ซื้อ สงสัยต้องตระเวนหากันเหนื่อย ถ้ามีคนเข้าใจผิดกันมากๆ สงสัยอีกหน่อยต้องเหนื่อยไปดักซื้อหน้าโรงงานกันเลย ผลิตมาเก็บไว้ หากขายไม่ดี เกิน 6 เดือนแล้วจะขายไม่ออก

    ถ้าคิดว่าคำแนะนำนั้นเป็นเพราะกลัวขายยางเก่าเก็บไม่ได้ ก็ย้อนไปอ่านกรณีที่แนะนำอายุการใช้งานของยาง ก็ยาวนานเช่นเดียวกัน ในฐานะของผู้บริโภคลดลงมาเหลือ 3 ปีก็คงรับได้ จึงสรุปว่า ยางรถยนต์ที่ถูกเก็บไว้ไม่เกิน 3 ปี ยังสามารถซื้อมาใช้งานได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลอะไร หรือถ้ายังกลัว ก็สักไม่เกิน 2 ปียังรับได้ แต่ถ้าวิตกจริต เก็บมาแถวๆ ไม่เกิน 1 ปี หรือเกินเล็กน้อย ก็คงสบายใจได้



    ยาง+++หมดลื่น

    ความเข้าใจผิด : ยาง+++หมดหรือยางหัวโล้น จะลื่น นึกไปถึงหัวคนว่าโล้นแล้วต้องลื่น ถ้าจะให้ถูกต้อง ต้องบอกว่าลื่นบนถนนเปียก แต่บนถนนแห้งจะเกาะถนนดีกว่าบางมี+++ลึก

    ความเป็นจริง : ยางรถยนต์เกาะถนนได้โดยหน้าสัมผัสซึ่งทำหน้าที่เป็นเฟืองยางขนาดจิ๋วถี่ๆ ผังลงไปบนพื้นถนน ยิ่งมีหน้าสัมผัสมากก็ยิ่งมีเฟืองมาก เกาะถนนได้ดี ส่วนร่องยางที่มีนั้นเตรียมไว้ให้รีดน้ำออกจากหน้าสัมผัสของยาง หรือให้น้ำแทรกตัวเข้าไปอยู่ชั่วคราวได้

    ร่องยางส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นทรงตัว U แต่เป็น กึ่งตัว V ปากร่องกว้างกว่า ยอดของแท่ง+++ยางจึงแคบกว่า เมื่อยางสึกลงไปร่องตื้นหรือเกือบหมด หน้าสัมผัสยางจึงมีมากที่สุด เพราะฐานของแท่ง+++ยางกว้างกว่าตอนที่ยังไม่สึกมาก หากเนื้อยางยังไม่แข็งมาก ยางที่+++เกือบหมดหรือหมด แต่ยัง ไม่ทะลุ จะเกาะถนนแห้งได้ดีกว่ายางมี+++มีร่องลึก เพราะเรื่องพื้นที่ของหน้าสัมผัสที่แตกต่างกัน แต่จะลื่นกว่าเมื่อเจอถนนเปียก เพราะไม่มีร่องยางช่วยรีดน้ำ หน้ายางจะมีชั้นฟิล์มของน้ำคั่นอยู่ จะสัมผัสถนนไม่เต็มที่

    ดังนั้นถ้าจะบอกว่ายางหัวโล้นขับแล้วลื่น ต้องระบุด้วยว่าบนถนนแห้งหรือเปียก



    ยางนอกดีกว่า

    ความเข้าใจผิด : หลายคนยังเข้าใจว่ายางที่ผลิตจากนอกหรือต่างประเทศจะมีคุณภาพดีกว่ายางไทย

    ความเป็นจริง : ไม่ว่าจะผลิตจากประเทศใด หากมองถึงคุณภาพ ก็ต้องว่ากันเป็นรุ่นๆไป จะบอก ไม่ได้ว่ายางญี่ปุ่นดีกว่าไทย ยางไทยดีกว่ายางมาเล-เซีย โลกเทคโนโลยีเชื่อมกันแล้ว การถ่ายทอดการพัฒนาการผลิตล้วนทำได้ถ้าตั้งใจจะทำ



    ยางนอกเก่าเก็บ

    ความเข้าใจผิด : คิดว่าต้องขนส่งทางเรือมา ข้ามน้ำข้ามทะเลมา กว่าจะเอามาจากโรงงาน ขนขึ้นและเดินทางในเรือ ออกจากไทย คงเก่าเก็บมาก

    ความเป็นจริง : หากมีการจัดการที่ดี รวมเวลา ทุกขั้นตอน ไม่ว่านำยางมาจากประเทศใด รวมขน ส่งถึงร้านยางทั่วไปในไทย ไม่น่าใช้เวลาเกิน 1 เดือน บางยี่ห้อคุยว่าครึ่งเดือนก็ถึงแล้วในกรณีที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งก็จริงเพราะใช้เวลาเดินเรือไม่กี่วันเท่านั้น ส่วนการขาขึ้นเรือหรือขนออกจากท่าเรือ ก็ใช้เวลาขั้นตอนละ 1-2 วันเท่านั้น



    ยางยี่ห้อไม่ดัง คุณภาพต่ำ

    ความเข้าใจผิด : ถ้าไม่ใช่ยี่ห้อดังติดหัวแถว คุณภาพจะต่ำ อีกทั้งยังเปรียบเทียบจากราคาที่ถูกกว่าของยี่ห้องดังๆ ก็เดาไปว่าของถูกแต่ดีไม่มีในโลก

    ความเป็นจริง : ยางรถยนต์ไม่ได้มีแค่ 2 ยี่ห้อ และยี่ห้อที่ไม่ดัง ก็อาจมีคุณภาพดีใช้ได้ เพียงแต่ไม่ติดกระแสหรือไม่โหมโฆษณามาก ทั้งที่คุณภาพดี แต่แพ้กระแสความเชื่อ และไม่ต้องเสียค่าโฆษณามาก ก็เลยตั้งราคาได้ต่ำ หากเลือกอย่างรอบคอบ ก็อาจจะได้ยางคุณภาพดีราคาถูกก็เป็นได้



    ซื้อยางในศูนย์บริการเร่งด่วนถูกกว่า

    ความเข้าใจผิด : มีการเปิดศูนย์บิการซ่อมรถยนต์แบบเร่งด่วนหลายสาขาหลายที่ และมักจะเน้นการขายยางรถยนต์ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มีการแข่งขันมากมาย มียางให้เลือกหลายยี่ห้อและจัดข้อเสนอพิเศษมากมาย ทั้งลดราคาทั้งแถม ซื้อ 3 แถม 1 หรืออะไรอีกสารพัด หลายคนจึงคิดว่า จะมีราคาถูกกว่าร้านยางห้องแถวทั่วไป

    ความเป็นจริง : เท่าที่เคยตรวจสอบราคา พบว่ามีน้อยครั้งมากที่จะมีราคาจริงในการซื้อยางถูกกว่าการซื้อยางตามร้าน ทั่วไป น่าแปลกทั้งที่สั่งซื้อยางในจำนวนมากกว่า แต่ทำไมขายถูกกว่าไม่ได้ คงเป็นเพราะค่าลงทุนด้านสถานที่และเครื่องมือมากกว่านั่นเอง



    ปะยาง แบบยิงยางเส้นอุด รั่วง่าย

    ความเข้าใจผิด : ทั้งคำแนะนำจากร้านปะยางหรือดูด้วยสายตา ก็ชวนให้คิดว่าการปะยางแบบยิงยางเส้นเข้าไปเบ่งตัวในรูรั่วน่าจะมีโอกาสรั่ว แบบซึมๆ ได้ในบางครั้ง หรือเมื่อใช้ไปนานๆ เพราะไม่มีการปะแบบอุดกาวหรืออัดแน่นให้เป็นชิ้นเดียวกันแต่อย่างไร

    ความเป็นจริง : น่าแปลกที่ผู้ผลิตยางแนะนำการปะยางแบบนี้เป็นมาตรฐาน และไม่แนะนำการปะยางแบบสตีมอัดทับรูรั่วด้วยยางแผ่นและความร้อน เพราะจะทำให้ยางแข็งหรือบวมได้ สวนทางกับร้านปะยางที่พยายามจะให้ปะแบบสตีม ที่ทำเงินได้มากกว่า และดูแน่นหนากว่า

    หลายเรื่องในโลกรถยนต์ มีความเข้าใจผิดกันอยู่ และไม่ใช่เรื่องน่าอายถ้าจะทำความเข้าใจให้ถูกต้อง


    ผมขอเสริมเรื่องปะยางอีกเล็กน้อยนะครับการอุดยางแบบปะสตีมนอกจากทำให้เนื้อ ยางบริเวณที่ปะเสียสภาพลงเนื่องจากความร้อนแล้ว ถ้าร้านใช้ยางแผ่นใหญ่ปะ และเป็นล้อหน้าคุณต้องถ่วงล้อใหม่ หรือต้องสับไปใช้เป็นล้อหลังแทน เพราะการปะเเบบนี้จะทำให้ยางไม่ได้ดุลเกิดอาการพวงมาลัยสั่นได้ที่ความเร็ว ระดับหนึ่งครับ
     
  10. theeagleone

    theeagleone New Member Member

    113
    0
    0
    ขอบคูณมากเลยครับ ที่ให้ความรู้ที่ดีครับ เพราะคิดจะเปลี่ยนยางอยู่ครับ สุดยอดๆๆๆๆๆ
     
  11. Porrasit

    Porrasit New Member Member

    226
    0
    0

    ผมก็อยากเปลี่ยนอยู่แต่ช่วงนี้ ต้องจัดการให้มันวิ่งได้ก่อนค่อยแต่งทีละนิส อิอิ
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้