REVIEW: UNICHIP Piggyback Foundation

สวัสดีครับ ก่อนอื่น ออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ใช่ผู้รู้ แต่เป็นเพียงคนใช้ที่พอจะได้รับข้อมูลและลองเล่นดูบ้างเท่านั้น แต่ก็อยากจะเอามา Share ให้ได้อ่านกันดูเพระาว่า คงหาดูหาอ่านยากเหมือนกันกับของแบบนี้

มาเริ่มกันก่อนเลย คือ Unichip เป็นกล่อง พ่วงจาก ECU เดิมที่มาจากโรงงานเพื่อที่จะ หลอกสัญญาณจาก Senser ที่อ่านค่าต่างๆ เพื่อที่จะทำให้เราสามารถปรับค่าส่วนผสม ของน้ำมัน และ Timing การจุดระเบิดได้ ซึ่งก็เรียกกัน ทั่วๆ ไปว่า Piggy Back

สำหรับ Unichip ก็เป็น Piggyback อีก ยี้ห้อหนึ่งที่สามารถใช้งานกับรถยนต์ได้หลายประเภทและยี้ห้อ เริ่มต้น จาก http://www.dastek.co.za/ เป็นต้นกำหนดของ Unichip ที่ใช้กันครับ ซึ่งกล่อง Unichip ก็เป็นกล่อง ทำงานคล้ายๆ กับทาง E-Manage ที่เรารู้จักๆ อยู่แต่หลักการในการ จับสัญญาณ จะแตกต่างกัน โดยที่ Unichip จะอาศัย สัญญาณจาก Crank Senser มาเป็นตัวควบคุมการปรับ Timing ของ การจุดระเบิด แต่ถ้าเป็น E-Manage จะเป็นการควบคุมอีกแบบหนึ่ง

สำหรับบ้านเราตัวแทนจำหน่าย ก็มีอยู่อย่างเป็นทางการ ก็คือ GT-One และ พี่หมู MageFire ที่เป็นตัวแทนในบ้านเรา

ข้อดีที่สุดที่ผมชอบและเห็นว่าแตกต่างจากกล่องญี่ห้ออื่นๆ คือ Unichip สามารถถอดออกแล้วทำเป็นรถเดิมได้เลย ซึ่งง่ายมากๆ เพียงแต่เสียบตัว Terminator เข้าไปหลังจากถอดก่อนออกก็ ทำงานได้แล้ว ซึ่งกล่องญี้ห้ออื่นก็จะไม่มี ตัวนี้แถมมาให้ด้วย (เดี่ยวจะได้เห็นรูปอีกที)

สำหรับกล่อง Unichip ที่เห็นในตลาดตอนนี้ก็จะมี เริ่มตั้งแต่ 16 bit, 32bit, Q32bit, Plug&Play 32bit ซึ่งรุ่นที่เคยมีขายในเมื่องไทยแล้วยังขายอยู่ก็จะมี ดังนี้

16 bit ตอนนี้ไม่มีขายแล้วสำหรับของใหม่ จะมีแต่ของมือสองนะ
32 bit ผมติดว่าก็ไม่น่าจะมีขายแล้วเช่นกันสำหรับของใหม่ แต่ของมือสองยังคงเห็นบ้างในเวปต่างๆ
Q32 bit ตัวนี้คือรุ่นที่เค้าทำตลาดกันอยู่ในปัจจุบัน
Plug&Play 32bit ไม่มีขายในเมืองไทยนะ

สำหรับความแตกต่างกันนั้น สำหรับรุ่น 16 bit และ 32 bit ในเรื่องของ ฟังก์ชั่นใช้งานหลักๆ ไม่มีความแตกต่างกันมาก เพียงแต่ว่าตัว CPU ของ กล่องความละเอียดต่างกันเท่านั้นครับ ซึ่งแตกต่างจาก Q มากสำหรับ 16 และ 32 เนื่องจาก Q นั้นสามารถ โหลด Map ลงไปได้ถึง 4 Map และสามารถสร้าง Switch เลือก Map ได้เลยและสำหรับ Q จะสามารถใช้กับรถได้ทุกรุ่นและสามารถ upload firmware ใหม่ๆ เพิ่มเข้าไปได้ด้วย พูดง่ายๆ ฟังค์ชั่นพอๆๆ กับ E-Manage Ultimate หรือ F-Con SZ หรือ IS เลยแต่ว่าก็คงมีลูกเล่นที่แตกกต่างกัน อยู่บ้างแหละ

สำหรับข้อดีอีกอย่างของ Unichip ที่ผมเห็นและฟังค์ชั่ที่ ผมชอบเรียกว่าเหยียบมิดเลย กล่องจะจับการทำงานของ คันเร่งและ Switch Map ไปอีกอันให้ทันทีซึ่งก็เหมือนมี 2 Map ในหนึ่ง Profile เลยก็อาจจะเรียกแบบนั้นได้ครับ เนืองจากในการขับปกติ ของเลยก็อาจจะไม่ได้เหยียบกันมิดก็จะใช้ Map แบบหนึ่ง แต่พอเหยียมมิดเนี้ย มัน Switch ให้อีก Map หนึ่งเลย ก็ ดึงดี เหมือนกันแหละ ถ้าจูนดีนะ

สำหรับหรับความละเอียดในการจูนนั้นผมว่า ก็ไม่ได้แตกต่างกัน มากนักสำหรับกล่อง Piggy Back ในยี้ห้ออื่นๆ ซึ่งถ้าสนใจสอบถามเพิ่มเติม ก็บอกกันมาครับ ผมบอกเท่าที่ผมรู้ให้ได้เท่านั้นแหละ ครับ

มาดูรูปกันดีกว่าครับ

ตัวนี้ต้องขอ เครดิตให้พี่ศร นะครับเจ้าของกล่องใบนี้ ในรูปจะเป็นลักษณะของ กล่องรุ่น 16Bit นะครับและเป็น Type D สำหรับ Civic Dimension ครับ


ตรงนี้คือจุด interface ของกล่องกับตัวสายไฟที่ต้องไปเชื่อมกับ ECU เดิมของรถครับ


รุ่นต่อมาก็เป็นตัว 32 bit ครับ Type D เหมือนกันใส่ Civic Dimension ครับ

ตรงนี้คือจุด interface ของกล่องกับตัวสายไฟที่ต้องไปเชื่อมกับ ECU เดิมของรถครับ จะเห็นว่า interface port จะเหมือนกันสำหรับ 16 bit และ 32 bit


รุ่นต่อมาก็เป็นตัว Version Q 32bit ครับ

ตรงนี้คือจุด interface ของกล่องกับตัวสายไฟที่ต้องไปเชื่อมกับ ECU เดิมของรถครับ สำหรับ Q จะแตกต่างกับทั้ง 2 รุ่นที่ผ่านมาเลย ครับสังเกตุดู


เทียบให้เห็นๆ กับระหว่าง interface ของ 32bit กับ Q32bit ครับ



อันนี้เป็นชุดสายไฟ ของ Q ครับ เห็นน้อยเส้นแบบนี้แหละครับ คุมได้หมด


มาแล้วครับสำหรับพระเอกของเรา ถ้าหากว่า ไม่มีเจ้านี้ เอาก็ไม่สามารถ ถอดกล่องออกได้โดยที่ไม่ต้องรื้อสายไฟ ที่พ่วงกับ ECU ออกได้นะครับ มันคือ Terminator ครับ ตัวที่แสดงให้ดูเป็นของรุ่น 16bit และ 32bit ครับ




ลองอ่านกันดูเล่นๆ ถูกผิดไง ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

 

Is the unichip good for the k20A3? Anyone here using it on a ES K20A3? How is the tuner in Thailand for unichip? Good or not? Thanks