ทัศนคติ กับการขับรถ(แล้วคุณจะไม่เครียด)

สวัสดีครับ พ่อ แม่ พี่ น้อง ทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องดีๆ มาเล่าให้ฟัง

เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่นทัศนคติ ในการขับรถ ครับ

คือ ผมต้องขับรถทำงาน ในกรุงเทพ ทุกวันๆ สภาพการจราจร กับเพื่อนร่วมทาง

ทั้ง Taxi / รถตู้ / รถเมล์ / และอื่นๆ อีกหลากหลาย

เพื่อนๆ หลายๆคนน่าจะเคยเป็นนะครับ กลับมาถึงบ้านแล้วปวดหัว

เพราะไหนจะเครียดกับงานมาแล้ว ยังต้องมาเครียดกับเรื่องบนถนนอีก

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมขับรถพาแม่ไปซื้อของปรากฏเหมือนเดิมแท็กซี่ ปาดหน้า

ผมก็รู้สึกฉุนนะ เพราะเกือบชน (ปาดจากขวา เข้ามารับคนเลนซ้ายแบบจอดเลย)

แม่ผมก็คงจะเริ่มรู้แล้วว่าผมหงุดหงิด แม่จึงพูดกับผมว่า

" ลูก....ลูกจะหงุดหงิดไปทำไม เราเครียด เราร้อน เราก็เป็นอยู่คนเดียว

ไม่มีใครมาเดือดมาร้อนกับเราด้วยหรอกนะ ใจเย็นๆปล่อยเขาไป"

อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ ผมก็ลองเปลี่ยนความคิดดู "ปล่อยเขาไป"

ปรากฏว่า มันรู้สึกสบายใจขึ้นมาก กลับบ้านแล้วไม่เครียด

ใครจะแทรก ใครจะเบียด จะปาดหน้า ก็ปล่อยเขาไปก่อน ช่างมันไม่รีบ

เพื่อนๆ ก็ลองดุนะครับ ทุกวันนี้จะได้ลดเรื่องเครียดๆ ลงบ้าง

ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ

 

พยายามอยู่เหมือนกันครับแต่ของผมต้องใช้เวลานีสนึง

เก็บกดมาหลายครั้งและ อิอิ

 

ต้องคิดในแง่บวก.....

 

ปกติก้อเป็นแบบคุณนะครับ...ปล่อยเขาาไป... แต่เจอบางกรณีมันก้อสุดจะทนกับผู้ร่วมใช่ท้องถนนด้วยกันครับ

 

คิดได้ก็ดีครับ แต่บางทีมันก็ฉุนไม่รู้ตัว ผมว่าพวกแท็กซี่พ่อแม่ไม่สั่งสอนเนี่ยแหละ แม่งตัวทำรถติดเลย

 

เคยใช้ความคิดนี้เหมือนกานนะ ใครจะขับยังไง ไม่สนใจ ถ้ารีบไปก่อนเลย ก็สบายใจดี...............

 

ถ้าปาดมาโดยไม่มีเจตนาก็ปล่อยวางได้ แต่ถ้ามันจงใจนี่สิ...

 

บางทีก็ยอม แต่บางคันก็ขับจนทนไม่ไหว

 

ตั้งแต่ขับเส้นเจริญนครบ่อยๆ นี่ทำให้ผมกลายเป็นคนขับช้า และ ใจเย็นลงเยอะครับ เจอทุกรุปแบบ

จนตอนนี้คิดว่าไปช้าๆดีก่า ไม่ต้องรีบ ไม่หงุดหงิด ขับตามไปเรื่อยๆ ฟังเพลง ชิล ชิล สบายใจ

เหอๆ นั่งหงุดหงิด จริงครับ เป้นอยุ่คนเดียวพวกที่ปาด แทรกมั่วๆ มันไม่คิดหรอก ครับ เหอๆ ใจเย็นดีที่สุด ใครจะเข้าก็เข้ามาๆ ผมเบรคให้เลย

 

เคยเป็น เคยทำนะคร๊าบ แต่ทำได้เฉพาะตอนมีคนไปด้วย

ถ้าขับคนเดียว แล้วเจอแบบนี้มันก้อมีบ้าง แต่ก้อไม่มากถ้าไม่รีบ

แต่จิงๆแล้ว ถ้าทุกๆคนพยายามทำให้ได้ ผมว่าหลายๆอย่างลดลงเยอะเลย

 

ผมเห็นด้วยนะครับ เมื่อก่อนยอมรับครับว่าผมนี้ใครขับรถไม่ดีมีกดตามไปเล่น งานตลอด ถึงขั้นเกือบตายก็มี (ไปโดนของจริงเข้าให้ดีนะที่หลบทัน) แต่หลังจากมีลูกแล้วก็เปลี่ยนครับ แต่บอกก่อนนะครับว่า เปลี่ยนก่อนที่จะมีลูกมาได้ 1 ปีแล้วละ มันก็ทำให้เราไม่ต้องกังวลนะถ้าเราคิดว่ามันไม่ได้ทำให้รถเราต้องเฉี่ยวชนหรือไม่มีอะไรเสียหายก็ ปล่อยไปหรือเบรคจอดข้างทางสักพัก แล้วตั้งสติ ได้ก็ขับต่อไปครับ

 

ปกติถ้าเข้าไม่น่าเกรียจมากและเปิดไฟเลี้ยวขอทาง....ผมก็ให้ทุกครั้ง...
แต่ไอ้พวกที่ไฟเลี้ยวไม่เปิดแซงคิวจะเข้าอย่างเดียว...ผมก็ไม่ให้เหมือนกัน...

ผมว่าเราน่าจะมาสร้างค่านิยมกันใหม่นะคับ...
ผมเคยเจอมาหลายครั้งแล้วเห็นเราเปิดไฟเลี้ยง....แล้ววิ่งเข้ามาอย่างวัวกระทิงเห็นผ้าแดงเลย..ทั้งๆทีก่อนเราจะเปิดไฟเลี้ยวขอทางก็ขับดีๆอะ...555...งง...

เพราะเจอแบบนี้กันบ่อยหรือเปล่าเราไม่เปิดไฟเลี้ยวกัน...จนกลายเป็นค่านิยมว่าอย่าเปิดเดี๋ยวมันไม่ให้เข้า...มันก็เลยกลายเป็นการปาดกันเพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะเข้า...ผมว่ามันเป็นค่านิยมทีผิดนะ...หรือผมคิดมากไป...

เปิดไฟเลี้ยวขอทางกันเถอะนะคับ...ทางผู้ผลิตเขาทำมาให้ใช้...อย่าให้มันเป็นออ๊ฟชั่นเสริมเลย...ที่จะมีก็ได้ไม่มีก็ได้...

 

ถูกครับ ความเครียด ความโกรธอยู่ที่ตัวเรา ส่วนคู่กรณี ไม่ได้รู้สึกกับเราด้วย แล้วเราจะเก็บมันไว้ทำไม

 

โกรธคือโง่โมโหคือบ้า แต่ผมก็อดโมโหไม่ได้

 

พยายามทำนะ แต่ไม่ได้ สักที ... แต่ก็จะพยายามต่อไป

 

ผมกำลังพยายามอยู่คับ สักวันต้องทำให้ได้คับ แต่ปัจจุบันไม่เคยทำได้เลย

 

คว้า ไม่จะลงจากรถละคับ พอได้ยินเสียงแม่ บอก อย่าลูก!! เหมือนมีใครเอาน้ำเย็นมาสาดหัว สติกลับมา

วันนั้เลยไม่มีเรื่อง อารมณ์ชั่ววูบ อาจทำให้เราเสียใจทีหลังได้อย่างมากมายนะครับ ไม่ว่าด้วยการกระทำหรือวาจา

---------- เพิ่มกระทู้เมื่อ 00:22:33 ---------- กระทู้ก่อนหน้านี้ เมื่อ 00:21:35 ----------

คว้า ไม่จะลงจากรถละคับ พอได้ยินเสียงแม่ บอก อย่าลูก!! เหมือนมีใครเอาน้ำเย็นมาสาดหัว สติกลับมา

วันนั้เลยไม่มีเรื่อง อารมณ์ชั่ววูบ อาจทำให้เราเสียใจทีหลังได้อย่างมากมายนะครับ ไม่ว่าด้วยการกระทำหรือวาจา

 

ขันติ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนานๆไป ขันแตกแน่ๆๆ

 

เคยเจอบ่อย .... จนลองวิธีใหม่ๆ คือ อยากเปลี่ยนไปเลนขวา ก็เปิดไฟเลี้ยวซ้าย ... ถ้าอยากเปลี่ยนไปเลนซ้าย ก็เปิดไฟเลี้ยวขวา

ได้ผลแหะ ไม่มีรถคันหลังเร่งขึ้นมาด้วย

แต่ขอโทษครับ ขับรถเองประสาทจะกิน มึน ทำได้อยู่วันเดียว ก็ขอกลับไปขับแบบคนปกติแบบเดิมดีกว่า


อ้อ อีกอย่างครับ บนทางด่วน เลนขวาเป็นเลนที่คนขับรถเยอะที่สุด ช้าที่สุด ถัดมาก็เลนกลาง ใครอยากไปเร็วกว่านั้นต้องไปไหล่ทาง .... โอ้ เยี่ยม ต้องหาซื้อรถพวงมาลัยซ้ายสักคัน คงได้ความรู้สึกเหมือนขับในไฮเวย์ที่ อเมริกา


อย่าไปซีเรียสนะครับ

 

อ่านแล้วรู้สึกรักแม่มากขึ้นครับ ไม่มีใครหวังดีกับเราเท่าแม่อีกแล้ว

 

พี่กล้วยทำจิงๆหรอคับพี่...555..

 

ใจเย็นๆขับแล้วสบายใจ

 

อ่านความเห็นข้างบนเรื่องเปิดไฟเลี้ยวแล้วขำ ไม่คิดว่าจะมีคนรู้สึกเหมือน ๆ ผมเลยนะ เปิดปุ๊บ แม่ม ปรี่เข้ามาปั๊บ ถ้ายังไม่เปิด มันก็ขับเฉย ๆ

ในสภาวะการจราจรกรุงเทพฯ ทุกวันนี้ เครียดกันแทบทุกคนครับ ใครทำได้ก็ถือว่าดีครับ แต่ผมคนนึงล่ะที่บางทีก็ไม่ไหวเหมือนกัน

 

แซงไป มุดไป ผมไม่เคยซีเรียสแฮะ

แต่ที่ซีเรียสมากคือพวกรถสาธารณะที่จอดแช่คาป้ายเนี่ย

เข้าใจว่าทำมาหากิน แต่รถติดๆเนี่ยเพราะพวกมันทั้งนั้น

จอดรอคาป้าย เหมือนรอโคตรพ่อโคตรแม่มันมาขึ้นยังงั้นแหละ

ทำมาหากิน แต่ไม่สนคนอื่นเดือดร้อนเนี่ย โคตรเลวเลย

อีกพวกคือช้าแล้วแช่ขวาเนี่ย แย่มากๆ

พอเรามุด เพราะมันช้าหมด 3 เลน

ก็กลายเป้นเราขับรถอันตราย

แต่คนเหล่านี้ไม่ย้อนดูตัวเองว่าขวางไม่สนโลก

ยกไฟก็ไม่หลบ ขวางมันไปยังงั้นแหละ

เซ็ง คิดแล้วอยากลาออก มาอยู่บ้านเฉยๆ

จะได้ไม่เครียด กับพวกคนขับรถเฮงซวย

 

ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับอารมณ์ และสถานการณ์

 

ขอน้องรับไปปติบัติตามครับ

 

ปล่อยหมดครับตอนนี้ เส้นรามอินทรา เกษตร นวมินทร์นี่ ถ้าไม่ปล่อย มีเส้นเลือดในสมองปรี๊ด กันมั่งละครับพี่น้อง