ปั๊มติ๊ก (Fuel Pumps) -------------------------------------------------------------------------------- ปั๊มติ๊ก คืออะไร และทำไมถึงเรียกว่า ปั๊มติ๊ก วันนี้ช่างฮอนด้าคาร์ส์จะมาไขข้อข้องใจให้ทราบกัน ปั๊มติ๊ก เป็นชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของปั๊มน้ำเชื้อเพลิงในรถเก๋งที่ใช้น้ำมันเบนซิน และสาเหตุที่มีชื่อเรียกอย่างนั้นก็เพราะ แต่เดิมลักษณะการทำงานของปั๊มน้ำมันเชื้อ เพลิง ใช้หลักการของการตัดต่อกระแสไฟที่ป้อนให้กับขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้แผ่นไดอะเฟรมขยับตัวเข้าออก เมื่อประกอบเข้ากับชุดลิ้นปิดเปิด การขยับตัวของแผ่น ไดอะเฟรมจะเกิดแรงดูดและแรงดันทำให้สามารถดูดน้ำมันเชื้อเพลิงจากถังป้อนให้กับระบบเชื้อเพลิงได้ การทำงานของแผ่นไดอะเฟรมดังกล่าวจะมีเสียงดัง "ติ๊ก ๆ" เราเลย เรียกปั๊มตัวนี้ว่าปั๊มติ๊ก แต่ในปัจจุบันปั๊มชนิดนี้หาได้ยากแล้ว รถเก๋งส่วนใหญ่จะมีปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดขับด้วยเฟืองและมอเตอร์ไฟฟ้าประกอบเป็นชุดเดียวกันกับชุดลูกลอยวัดระดับน้ำมันและติดตั้งอยู่ในถังน้ำมันเชื้อเพลิง ปัญหา ของผู้ใช้รถก็คือ จะทราบได้อย่างไรว่า ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหรือทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะถ้าเป็นปั๊มติ๊กแบบสมัยก่อน ถ้าไม่มีเสียงติ๊ก ๆ ให้ได้ยินก็สันนิษฐานได้ เลยว่าปั๊มเสีย แต่ปั๊มรุ่นใหม่ นี้จะไม่มีเสียงอะไรให้ได้ยินเลย แต่จะมีอาการอยู่สองสามอย่างที่แสดงว่าปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงผิดปกติ อย่างแรกก็คือ เครื่องยนต์ดับไปเฉย ๆ แต่ เมื่อทิ้งไว้สักครู่จะสตาร์ตได้อีก หรือเมื่อเร่งเครื่องยนต์แรง ๆ จะมีอาการสะดุดแล้วดับไป หรือมีอาการที่เรียกว่าเร่งไม่ขึ้น ทั้งหมดนั้นเป็นอาการผิดปกติของระบบน้ำมันเชื้อ เพลิงทั้งสิ้น วิธีแก้ไขมีอยู่ประการเดียวคือ รีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบถ้าปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงเสียก๋คงต้องเปลี่ยนใหม่ หรือถ้าเป็นเพราะท่อทางน้ำมันเชื้อเพลิงหรือไส้กรองตัน ช่างจะได้ทำความสะอาดเสีย การอุดตันของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเกิดจากสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนมากับน้ำมัน ป้องกันได้ง่าย ๆ โดยหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันที่ไม่มีชื่อผู้ผลิตหรือ สถานีบริการน้ำมันที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะถังบรรจุอาจเกิดสนิมปนมากับน้ำมันเชื้อเพลิงที่เราเติมได้ [ คัดลอก จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2542] ที่มา http://www.elib-online.com/cars/oeo_pump01.html ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง http://images.google.co.th/imgres? imgurl=http://www.aa1car.com/library/returntype_efi.gif&imgrefurl=http://www.aa1car.com/library/fuel_pump_diagnose.htm&usg=__5LhiIDUOV9yLY3M46FsCivxDw Gg=&h=354&w=300&sz=44&hl=th&start=3&um=1&tbnid=mnM4G6Eji1WJHM:&tbnh=121&tbnw=103&prev=/images%3Fq%3Dfuel%2Bpump%26hl%3Dth% 26sa%3DN%26um%3D1 http://images.google.co.th/imgres? imgurl=http://www.aa1car.com/library/fuelpump_cutaway.jpg&imgrefurl=http://www.aa1car.com/library/fuel_pump.htm&usg=__FmQg_RgjOaLY4zAluvZXXTyMo44= &h=370&w=660&sz=185&hl=th&start=125&um=1&tbnid=Jex6-H0mnf6-zM:&tbnh=77&tbnw=138&prev=/images%3Fq%3Dfuel%2Bpump%26ndsp%3D18%26hl% 3Dth%26sa%3DN%26start%3D108%26um%3D1 การทำงาน ภายใน วิธีการการเปลี่ยน 1. นำเบาะนั่งหลังออกก่อนครับ เพราะเจ้าปั๊มจะอยู่ใต้เบาะนั้นเอง 2. เมื่อนำเบอะนั่งหลังออกแล้ว จะเห็นว่ามีแผ่นเหล็กตรงกลางใต้เบาะนั่งหลังเป็นรูปวงรี 3. อ้าวเตรียมไขควงมาไขน๊อต สี่ตัว 4. เสร็จแล้วก็เปิดฝาออก จะพบกับสายไฟ ท่อต่างๆ 5. ให้ดึงปลั๊กไฟออก โดยเปิดยางหุ้มออก แล้วกดไปที่ตัวล๊อกข้างๆ 6. จากนั้นจะเห็นปลั๊กสีเขียวอ่อน และท่อยางที่ต่อกับตัวปั๊ม โดยกดตัวล๊อกทั้งสองข้างที่ปลั๊กเขียวอ่อนออก (ในส่วนท่อเส้นนี้ ถ้าขับรถมาแล้วดับเครื่องได้ไม่นาน เมื่อถอด ออกใหม่ๆจะมีน้ำมันเชื้อเพลิงออกมามากนะครับ ไม่ต้องตกใจปล่อยให้มันไหลออกไปจนหมด แต่ถ้าให้แนะนำ ควรจดรถทิ้งไว้นานๆก่อนแล้วค่อยมาทำจะดีกว่าครับ) โดยหาผ้าซักชิ้นมาคอยซับน้ำมันที่ออกมา 7. จากนั้นให้นำคีมปากใหญ่ๆหน่อยมาบีบตัวล๊อกของท่ออีกตัวออก แล้วดึงท่อยางออก (ท่อนี้จะไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิงครับ สบายหน่อย) 8. จากนั้นใช้ประแจเบอร์สิบ นำน๊อตหกตัวออกมา 9. แล้วค่อยๆนำปั๊มออกมา โดยต้องระวังนิดนะครับ หมุนไปทางซ้ายที หมุนไปทางขวาที จนออกมาดังรูป 10. จะเห็นปั๊มตัวเป็นๆแล้วครับ มันเป็นอย่างนี้เอง สีทองๆ 11. ยังไม่เสร็จนี้คือการเริ่มต้นครับ เพราะเราจะต้องนำปั๊มของเจ้า J มาเปลี่ยน จึงต้องทำการสลับร่างเปลี่ยนรักกันครับ โดยดึงปลั๊กสายไฟออก 12. จากนี้เราจะนำตัวปั๊มออกมาจากโครงเหล็ก โดยให้จับที่ตัวปั๊มแล้วหมุนไปหมุนมาจนตัวปั๊มออกจากโครงเหล็ก (ระวังนิดนะครับ) 13. จากนั้นให้นำคีมบีบเอาตัวล็อกสายยางออก แล้วดึงตัวปั๊มสีทองออกมา 14. จากนั้นเราจะต้องเปลี่ยนผ้ากรอง โดยใช้ไขควงตัวเล็กงัดสลักออกมา (ต้องระวังเป็นพิเศษครับ ถ้าไม่ชำนาญจะเอาออกยากหน่อยครับ) 15. เมื่อเอาตัวสลับล๊อกกลมๆออกได้ก็จะพบกับปั๊มของ EK ดังรูปภาพครับ 16.จากนั้นก็มาที่ตัวปั๊มที่เราเตรียมสำหรับจะเปลี่ยนครับ ในที่นี้จะเป็นของ JZ ครับ จะเป็นสีอกกดำๆ 17. ส่วนมาที่มาจะมีกรองติดมาด้วยครับ แล้วแต่ร้านที่เค้าขาย ถ้าขยันเค้าจะถอดจนเหลือแค่ตัวปั๊มครับ ถ้าไม่ขยันก็ติดมาทั้งยวงเลย มาต่อโดยการเอาสลักล๊อกของ JZ ออก เพื่อนำผ้ากรองของ EK มาใส่แทน (มันจะพอดีกันเลยครับ สงสัยโรงงานผลิตเดียวกัน) แล้วใส่สลักล๊อกกลมเข้าไปเพื่อล๊อกเหมือนเดิม 18. จากนั้นให้นำตัวปั๊มมาเทียบเพื่อจะวัดความยาวของท่อน้ำมัน (ของเดิมจะยาวไป เราต้องตัดออกประมาณ เกือบหนึ่งเซ็นติเมตร) เมื่อวัดได้ที่แล้ว ให้ใช้คัดเตอร์ตัดส่วนที่ เราวัดออก 19. เมื่อตัดเสร็จแล้ว มาถึงขั้นตอนการประกอบเข้ารูปให้ใช้งานได้แล้วครับ โดยนำปั๊มมาใส่ท่อก่อน แล้วส่วนหัวที่มีแผ่นกรองค่อยๆ หมุนเข้าไปให้อยู่ในช่อง จากนั้นก็ให้ ใช้คีมบีบตัวล๊อกที่ท่อ (ต้องใส่ให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยใช้คีมบีบตัวล๊อกนะครับ ไม่งั้นท่อยางจะบิดแล้วจะใส่ยากมาก) ต่อด้วยเสียบปลั๊กสายไฟที่เป็นสีดำครับ 20. กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่ตัวปั๊มเท่านั้นเอง 21. นำกลับมาใส่ที่รถเราแล้ว หมุนซ้ายที หมุนขวาที ค่อยๆใส่เข้าไปครับ เดี๋ยวก็เข้าเอง เมื่อใส่ปั๊มจนเข้าเรียบร้อยแล้ว ให้ใส่น๊อต(เบอร์สิบ) ก่อนเพื่อความแข็งแรง จากนั้น ก็กลับมาใส่ท่อทั้งสองอัน จากนั้นให้ใส่ปลั๊กไฟสีน้ำตาล (ตรวจเช็คดูให้ดีก่อนอีกครั้งว่าไม่ลืมใส่อะไรกลับคืนนะครับ) 22. พอใส่เรียบร้อยแล้ว เรามาลองปั๊มกันครับว่าโอเคป่าว โดยให้ใครก็ได้ครับ บิดสวิทช์กุญแจจนสุดแต่ไม่ต้อง Start นะครับ แล้วตอนบิดกุญแจให้ลองฟังที่ตัวปั๊ม ว่ามีเสียง ทำงานข้องมอเติร์หรือป่าว (ก่อนซื้อให้เค้าทดลองว่าปั๊มที่ซื้อมาใหม่ ใช้งานได้ก่อนนะครับ) ถ้ามันไม่สีเสียงของมอเตอร์ก็งานเข้า ให้บิดสวิทช์กุญแจคืน แล้วลองกลับไปทำ ตั้งแต่ต้นใหม่ แต่ถ้ามีเสียงดังของมอเตอร์ ก็ให้ Start รถได้เลย (ครั้งแรกจะติดยากหน่อย แต่ก็ไม่ยากมาก) แล้วลองฟังเสียงมอเตอร์อีกครั้ง ค่อยเหยียบคันเร่งดูถ้าไม่มีปัญหา ก็ดับเครื่องยนต์ นำกุญแจออกมาเลยนะครับ แล้วเราก็กลับมาปิดฝาคืนให้อยู่สภาพเหมือนเดิม 23. ใส่เบาะนั่งหลังให้เรียบร้อย แล้วขับรถเพื่อทดสอบว่ามีปัญหาหรือป่าว ถ้าไม่มีก็จบ สุดท้าย การทำ D I Y ก็เป็นอะไรที่เราทำกันเองได้ครับ เพียงแต่ต้องระมัดระวังกันหน่อย ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่โดยช่างหลอก มีความสุขที่ได้ทำรถ เพิ่มพูลปัญญา สนุกไปอีกแบบ วันนี้มานำเสนอแค่นี้ก่อนนะครับ บ๊าบ บาย <<<
พี่โจขอถามเพิ่มหน่อยครับ เปลี่ยนเป็นปั๊ม J แล้วมันดียังไงครับพี่โจ ถ้ารถเราเครื่องเดิมมันก็น่าจะขอเดิมดีที่สุดเปล่าครับ เพียงพอกับความต้องการของเครื่องยนต์แล้ว
ใช่แล้วครับถ้าเป็น1J (โบกับไม่โบต่างกันรึป่าวไม่แน่ใจ) แต่มันจะตัวใหญ่กว่าพอสมควร ถ้าใส่ต้องมีการแปลงที่เยอะกว่า ฐานล่างที่ใส่ปั๊มติ๊กก็ไม่พอดี ต้องง้างออกหน่อยและก็ต้อง หาอะไรมารัดตัวปั๊มติ๊กให้ติดกับขายึดครับ ส่วนปลั๊กจำได้ว่าไม่เหมือนกัน(ไม่ชัวร์นะครับ) ขออณุญาติตอบแทนพี่โจ ปั๊มเดิมแรงดันจะอยู่ที่ประมาณ2.5บาร์ครับไม่เกินนี้ เวลาเร่งเครื่องยนต์ แรงดันมันก็จะตกลงไปอีกพอสมควร ซึ่งรอบเครื่องสูงขึ้น แต่น้ำมันกลับมีแรงดันน้อยลงมันก็เห็น ได้ชัดว่าในรอบสูงน้ำมันมาไม่เต็มที่ แต่ปั๊มของJนั้นมันดันได้ประมาณ 4บาร์ เครื่องเดิมเรกกูเลตเดิม บังคับไว้ที่ประมาณ2.5บาร์ แต่ว่าเร่งเครื่องแล้วแรงดันน้ำมันไม่ตก แต่กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเวลาเร่ง เครื่อง ก็เท่ากับว่าต่อให้เครื่องเดิมแต่ปั๊มJก็ช่วยให้แรงดันน้ำมันคงที่สม่ำเสมอตลอดรอบการทำงาน และน้ำมันบางก็มีโอกาสทำให้เครื่องพังได้มากกว่าน้ำมันหนาด้วยครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ มีสาระครับ แต่มีข้อสงสัย รบกวนถาม พี่โจ ดังนี้ครับ ๑.การเปลี่ยนปั๊มติ๊กจากของเดิม มาเป็นของ JZ มันมีข้อดีแตกต่างจากของเดิมอย่างไรครับ ๒.ปั๊มติ๊ก JZ เป็นของตัวไหนครับ ๑j , ๑jโบ , ๒j , ๒jโบ อ่ะครับ ๓.ราคาค่าตัวของปั๊ม JZ เท่าไหร่อ่ะครับ รบกวนถามเท่านี้ครับ ขอบคุณมากครับ
>>> ข้อ ๑.-๒. อ.โอ๊ตตอบไปเรียบร้อยแล้วครับ ส่วนข้อสาม ราคาแล้วแต่ร้านครับ ส่วนมากก็จะอยู่ประมาณ ๘๐๐ - ๑๒๐๐ บาท ครับ <<<
ดีมาก ๆ เลยครับ ไม่ใช่หาดูกันได้ง่าย ๆ ครับแบบนี้ เป็นวิทยาทาน มาก ๆ ครับ ส่วนตัวคิดว่า ถ้ารถที่วางเครื่องตระกุล บี และ เค ถ้าจะโมเพิ่มเติม สุดท้ายก็ต้อง หาปั้ม เจมาใส่อยู่ดี ....ของคู่กัน ขอบคุณ ที่นำความรุ้มาเผยแพร่นะครับ /-\