ถ้า2jz เดิมๆ กับ1jzเดิมๆ นี่อันไหนแรงกว่าคับ บูสเดิม เห็นวิ่งก้อพอๆกัน 2เจ cc.เยอะกว่าต้อง500 ทำไมวิ่งไม่เห็นต่างกันเท่าไรเลยคับ ถ้าเป็นเครื่องB20 กับB16 เดิมๆทั้งคู่ cc. ต่างกัน400 วิ่งคนละเรื่องเลย
เหมือนที่ว่านั่นเเหละครับ ไม่ต่างกันมาก เเต่ 2jz อนาคตไกลกว่า พวกนี้เเรงไม่เเรง อยู่ที่ระบบอัดอากาศซะส่วนใหญ่
ถ้าเดิมทั้งคู่ 2j เดินดีกว่าคับ เพราะเเรงบิดมากกว่า 1j เเต่เเรงม้าเท่ากันคือ 280hp เเต่สรุปไม่ต่างกันมากคับ ที่ญี่ปุ่นก็มีเทรสกันเเล้วนะคับ
วิ่งต่างสิคับ ที่อยากทราบว่าต่างหมายถึงต่างในด้านไหนและยังไงบ้างคับ ส่วนที่ถามว่าแรงกว่ามั้ย มันไม่วัดกันแค่ที่แรงม้านะคับ แรงบิดของเครื่อง cc.ที่มากกว่ามันก็ส่งผลคับ ดูแต่แรงม้าอย่างเดียวไม่ได้แน่นอนคับ ปล. ส่วนนึงที่ทำให้มันมองเหมือนไม่ต่าง เพราะว่ามันเป็นเครื่องเทอร์โบคับ เครื่อง NA ความจุต่างกันแค่ 100 มันก็ต่างแล้วคับ ยกตัวอย่างเครื่อง 1.5 กับ 1.6 คับ เครื่อง NA กับ Turbo มัน Feeling ต่างกัน และมันแรงจากพื้นฐานที่ต่างกันคับ
ถ้าบอดี้เดียวกัน วาง+วายริ่งมาดีทั้งคู่ ยังไง 2เจ ก็คงวิ่งดีกว่าแหละครับ ตัวแปรมันก็คงอยู่ที่รถอะไร วาง+วายริ่งมาดีแค่ไหน และอื่นๆล่ะครับ... ---------- Post added at 22:35:54 ---------- Previous post was at 22:35:33 ---------- ถ้าบอดี้เดียวกัน วาง+วายริ่งมาดีทั้งคู่ ยังไง 2เจ ก็คงวิ่งดีกว่าแหละครับ ตัวแปรมันก็คงอยู่ที่รถอะไร วาง+วายริ่งมาดีแค่ไหน และอื่นๆล่ะครับ...
ต่างกันโดยสิ้นเชอะครับ เครื่อง1jz เป็น แบบgroup คือเทอร์โบจะบูสพร้อมกันทั้งสองลูก คือจะมีทอร์กมากที่รอบสูงจะรู้สึกว่ารถเดินดีเมื่อกระแทกคันเร่งหนัก แต่เครื่อง2jz เทอร์โบทำงานแบบ ซีเควนเชี่ยว คือบูสที่ละลูก โดยที่รอบต่ำจะทำงานแค่ลูกเดียว พอรอบสูงลูกที่สองถึงจะทำงาน จึงทำให้เครื่อง2เจ มีทอร์กใช้งานต้องแต่รอบต่ำยันรอบสูง จากจุดนี้จึงทำให้เครื่อง2เจที่มีทั้งซีซีมากกว่าและระบบที่ดีกว่าแต่ราคาแพงกว่า1เจ ยังคงเป็นที่นิยมอยู่ทั้งน้ำมาวางแบบสแตนดาสและโมดิไฟล แต่ส่วนตัวผมเองก็ยังคงใช้แค่1เจคับ ด้วยรุ่นที่ทำการแข่งขันและงบที่น้อยนิส อิอิ
ลองมาดูกันครับ SPEC 1JZ-GTE เครื่อง ยนต์ 1JZ-GTE แบบ DOHC 6 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 2491 cc แรงม้า(PS/ RPM) 280 / 6200 แรงบิด (KG-M/RPM) 37.0 / 4800 กำลังอัด 9:1 ระบบส่ง(เกียร์) 5M/T อัตราเฟื่องท้าย 3.727 เครื่อง 2JZ-GTE ปี 98 ขึ้นไป (SUPRA และ ARISTO) เครื่อง ยนต์ 2 JZ-GTE แบบ DOHC 6 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 2997 cc แรงม้า(PS/ RPM) 280 / 5800 แรงบิด (KG-M/RPM) 46.0 / 3600 ความกว้าง x ช่วงชัก 86.0 x 86.0 กำลังอัด 8:5:1 ระบบส่ง(เกียร์) 6 M/T, 5 M/T อัตราเฟื่องท้าย 3.769 ขนาดยาง 235 / 45 R17, 255 / 40 ZR17 จะเห็นได้ว่า1J มี POWER BAND = 1400รอบ ตั้งแต่ 4800รอบไปจนถึง6200 ส่วน2J มี POWER BAND = 2200รอบ ตั้งแต่ 3600รอบไปจนถึง5800 แรงบิด 1J = 37.0@4800 แรงบิด 2J = 46.0@3600 พอจะเห็นคร่าวๆแล้วใช่ไหมคับ 2Jน่าจะขับง่ายกว่าเนาะ
ดีนะมาถามคนไทยถ้าไม่ถามคนจีนคงไม่มีครายตอบอ่า เพราะคนจีนชอบ กินเจ เย้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 555555+ ขำๆคับ
ที่ผมบอกว่าเเรงไม่ต่างกันมาก เพราะว่าเเรงม้ามันเท่ากันนี่เเหละครับ ถ้าพูดถึงเครื่องเดิมๆ ทั้งคู่ เวลากดกันสุดๆ ด้วยเเรงม้าที่เท่ากันนี่เเหละครับจึงทำให้เเรงไม่ต่างกันมาก เเรงบิดที่เยอะกว่าจะเห็นผลได้ชัดก็ตอนที่ขับเเบบปรกติไม่ลากรอบ จะเห็นชัดว่า 2jz เเรงกว่า เครื่อง 2500(1jz) จริง เเต่เครื่องจัดกว่า ตัว 3000(2jz) ก็คล้ายๆ กับว่า เครื่องเล็กโม กับเครื่องใหญ่ เดิมๆ ไรประมาณนั้นเเหละครับ ถ้าจะเอามาขับเดิมๆ 1jz ถือว่าคุ้มกว่ามากครับ ทางด้านราคาต่อประสิทธิ์ภาพที่ได้รับ เเต่ถ้าจะเอามาโม 2jz ไปเลยดีกว่าอนาคตไกลกว่าเยอะ ปล. ความเห็นผมเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับอาจจะผิดก็ได้ เเต่ผมค่อนข้างมั่นใจ
สองเจดีกว่าแน่นอน ไม่ต้องคิดมาก ม้าเท่ากันเพราะถูกตอนจากกฏหมายจำกัดแรงม้าของญี่ปุ่น พอนำกล่องมาปลดล๊อคความเร็ว มันก็ข้ามไปเป็นสามร้อยกว่าม้าแล้ว ในขณะที่หนึ่งเจปลดล๊อก มันก็ขึ้นมาแค่นิดเดียว ถ้าไม่เชื่อลองไปถามคนขับซูปร้าเดิม ๆ ไม่โมที่เขี่ยกล่องดูสิ
เดิมๆ คงไม่ต่างกันมาก ไม่ใช่ 2เจไม่แรง หรือ 1เจแรงเท่า 2เจ แต่เพราะ 2เจ มันถูกตอนไว้เยอะครับ ตามกฏหมายต่างญี่ปุ่น โตโยต้าคงไม่อ่อนประสิทธิภาพ ขนาดทำเครื่อง 2เจ 3000 ซีซี แต่ดันแรงเท่า 1เจ 2500 ซีซีหรือแรงมากกว่านิดหน่อยหรอกครับ
เคยได้ยินมาว่า แรงแบบวัยรุ่น ต้อง 1JZ เพราะ กดคันเร่งหนักๆ Boost พร้อมกัน 2 ลูกมันรู้สึกดึงดี เลยคิดไปเองว่ารถมันพุ่งดี อะไรประมาณนี้ แต่ต้องใช้รอบที่สูงกว่า ผลต่อมาคือได้เสียงท่อเพราะดี แต่ถ้าแรงแบบผู้ใหญ่ ก็ต้อง 2JZ กำลังเครื่องมาแต่ไม่ดึงจนกระโชก โฮกฮากมานัก มาเนิบๆเนียนๆ แต่มาเรื่อยๆมาตลอด Turbo 2 ลูก boost ไม่พร้อมกันทำให้รู้สึกว่าขึ้นช้ากว่า 1J ก็เป็นได้
เท่าที่ลองใช้ดู เครื่องทั้ง 2 ตัว ต่างกันพอสมควรเลย ถึงแรงม้าจะเท่ากันแต่อัตราการเร่ง มันรู้สึกได้ ถ้าเทียบกับ เครื่อง NA ก็ประมาณ B18C กับ B18CR แหละครับ ยิ่งได้ปลอดล็อคแล้วก็ปลาย แทบจะคนละเรื่องเลย ปล. เป็นความรู้สึกของผมจากที่ลองใช้มา นะคับ
ความเห็นส่วนตัวนะคับมันมีหลายปัจจัยคับ แบบพื้นฐานก่อนนะคับผมไม่แน่ใจเรื่องการตัดรอบว่าเท่ากันหรือป่าวนะคับสำหรับเครื่อง2ตัวนี้ เรื่องรอบผมว่าสำคัญคับ สำคัญแบบไหนคือถ้าเอามาลงในรถที่ไม่หนักมาก ไม่ต้องการแรงบิดมากๆก้อสามารถพาตัวถังหรือบอดี้ไปได้ง่ายๆแล้วฉะนั้นแรงบิดก้อจะถูกลดความสำคัญลงไปแล้วคับ ทีนี้ถ้า1jรอบตัดที่6500(สมมุติ)แล้ว2jรอบตัดที่6000(สมมุติ)นอบที่ต่างกว่ากัน500รอบมีความสำคัญคับ เพราะมันสามารถลากได้ยาวกว่าคับ แต่อย่างที่บอกคับมันก้อมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องอีกคือเรื่องอัตราทดเกียร์ เครื่องที่มีแรงบิดมากกว่าก้อสามารถใช้เกียร์ที่ทดเยอะกว่าได้อีกคือทำให้ในแต่ละเกียร์ลากได้ยาวกว่าเช่นกันคับแล้วเฟืองท้ายก้อสามารถทดให้หนักได้มากกว่าอีกด้วยคับ ฉะนั้นต้องดูด้วยคับว่ามันจะมาอยู่ในบอดี้ไหนคับ ส่วนเรื่องความแรงของเครื่องนั้นถ้ามองในแง่ของการใช้โบลูกเดียวกัน อัตราการบูสต์ที่เท่ากันแต่1jมีความจุที่น้อยกว่า ก้อเท่ากับว่าปริมาตรในกระบอกสูบของ1jน้อยกว่าแต่ถูกอัดอากาศในจำนวนที่เท่ากัน เครื่อง1jก้อจะอัดอากาศได้แน่นกว่าการจุดระเบิดก้อจะรุนแรงกว่าเพราะปริมาตรที่แคบกว่าแต่อากาศเข้าไปเท่าๆกัน และถ้าจำไม่ผิดวาล์วไอดีของ1jจะใหญ่กว่าหรือป่าวไม่แน่ใจคับ(ถึงได้เอาฝามาใส่กับเสื้อ2j)ทำให้สามารถอัดอากาศเข้าได้ง่ายกว่าคับ ฉะนั้นต้องดูหลายๆอย่างประกอบกันด้วยคับ อย่างผมใช้เครื่อง7a1.8แน่นอนแรงบิดดีกว่าออกตัวง่ายกว่าขับง่ายกว่าคับไม่ต้องเค้นมากแต่มันก้อจะมีจุดบอดคือรอบสูงหมุนไม่จัดมากคับเนื่องจากเป็นเครื่องชักยาวทำให้ปลายเดินไม่ดีแต่เมื่อเทียบกับ4a1.6ต้นโดนเครื่องซีซีเยอะเป็นเรื่องปกติคับแต่มันมีดีที่รอบปลายหมุนได้ง่ายกว่า ถ้าระยะทางเยอะมันจะไปกวดเข้าใกล้ๆได้เหมือนกันคับเพราะเครื่องที่มีแรงบิดเยอะมักจะหมดรอบก่อนคับ ผิดถูกยังไงลองเสริมกันดูคับ
ขอต่ออีกนิดคับไม่ใช่เรื่องเครื่อง1j-2jคับ แต่เป็นเครื่องเรือที่ผมเล่นอยู่น่ะคับ คือเครื่องเรือไม่มีเกียร์ใช้กำลังจากเครื่องเพียวๆ(เทียบเท่าเกียร์4ของรถ)จากที่เคยลองมาบ่อยมากๆเครื่องลูกเล็กออกตัวสู้ไม่ได้อย่างแน่นอนคับ(ชักเท่ากันแต่ลูกเล็กกว่า)แต่...มีแต่คับ อย่างที่บอกข้างต้นว่าถ้าระยะทางยาวๆลูกเล็กสามารถกวดไปทันได้คับอย่างที่ผมลองนะคับ800เมตรโดนเครื่องลูกใหญ่คับเพราะไม่มีทางให้เครื่องลูกเล็กได้ไหลได้ แต่ถ้า1กิโลจะไปกวดทัน1.2โลสามารถแซงได้คับเพราะอะไรหรอคับ เพราะเครื่องลูกใหญ่มีขีดจำกัดของการหมุนคับเนื่องจากมีแรงต้านในการหมุนมากกว่า(ชักเท่ากันลูกโตกว่ากำลังอัดสูงกว่า กว่าลูกสูบจะเคลื่อนที่ไปจุดสูงสุดได้ก้อต้องดันขึ้นยากกว่า)การทำรอบให้ไหลก้อจะทำได้ยากกว่าลูกเล็กคับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก้อขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่างอีกเช่นกันคับ กล่าวคือพอร์ททางเดินอากาศถ้ามีขนาดที่เหมาะสม จากเครื่องที่เป็นเครื่องแรงบิดก้อสามารถกลายไปเป็นเครื่องรอบได้เช่นกันคับ แต่เครื่องที่มีลูกเล็กจะสามารถทำทางเดินอากาศได้ง่ายกว่า เหมาะสมมากกว่าคับ