เมื่อคืนเป็นคืนที่นอนสบายที่สุดในทริปนี้ ห้องพักที่นี่นอกจากจะไม่แพงแล้วยังสะอาด ใหม่ สวย แต่กระนั้น ผมก็ยังตื่นเช้าอีกเหมือนเดิม ผมอาศัยจังหวะที่เมียนอนไม่รู้เรื่อง แอบออกไปเดินถ่ายรูปเล่นครับ ภาพที่พัก ถ่ายตอนสว่างๆ ซอยนี้แหละครับ ปากซอยมีตึกที่มีป้ายโฆษณาใหญ่ๆอยู่บนตึก การจอดรถที่นั่นต้องดูป้ายนี้ด้วยนะครับ ป้ายห้ามจอดวันคู่จะมี 2 ขีด วันคี่มี 1 ขีด บาร์เกย์อยู่ตรงข้ามที่พัก ใครสนใจดูอะไรที่ไม่เคยดูลองแวะเข้าไปได้ เดินๆเล่นอยู่เจอกับ Daihatsu Hijet พันธุ์ผสมเข้า ไม่รู้จะเป็นตู้มินิหรือกระบะมินิกันแน่ เรื่องรถเล็กๆแปลกๆ Daihatsu เค้าถนัด ... ลงมาเจอพนักงานของที่พักกำลังกวาดพื้นอยู่ และมีฝรั่งแบคแพ็คมาสอบถามที่พัก โดยฝรั่งเลือก 1 Bed + Fan ได้ราคา 100000 กีบ(400 บาท) พร้อมอาหารเช้า ผมว่าที่พักที่นี่ ดี ใหม่ และถูก จริงๆจังๆ แถมมี Wifi Internet เร็วๆให้ใช้ฟรีอีกต่างหาก อ่อได้คุยพนักงานอีก 1 เรื่องคือ เดี๋ยวที่พักที่นี่จะเปลี่ยนชื่อครับ เป็นชื่อ INTHA HOTEL อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเปลี่ยนทำไม ใครสนใจที่พักที่นี่ตอนอยู่เวียงจันทน์ก็ลองหาดูแล้วกันครับ ดอกจำปา2 หรือชื่อใหม่ INTHA HOTEL ผมเดินเล่นอยู่แถวๆนั้นเจอร้านขายอาหารแถวๆนั้นกำลังเตรียมข้าวของในครัวเพื่อที่จะเปิดร้าน จึงเข้าไปถามเค้าว่าแถวนี้มีตลาดไหม เค้าบอกว่ามี ตรงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะเจอตลาด ทองคานคำ หรือไงนี่แหละ ผมจึงเดินกลับไปที่พักขับรถไปเที่ยวตลาดคนเดียวโดยไม่ชวนเมีย 555 ตลาดที่นี่เป็นตลาดที่ใหญ่มากๆครับ ผมเดินเล่นไปเรื่อยๆยังไม่ทั่วเลย ของที่มีขายก็เหมือนๆกับตลาดในไทยนี่แหละครับ อ่อผมลืมเล่าไป ข้าวที่ลาวอร่อยมากๆ อร่อยทุกร้าน ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกข้าวอะไร เวลากินข้าวในไทย ถ้าร้านไหนใช้ข้าวหอมมะลิผมจะชอบมากๆ บางร้านอยากประหยัดทุนหน่อยก็จะใช้ข้าวอย่างอื่น แต่ที่ลาว ไม่ว่าร้านข้าวจะเป็นร้านแบบถูกหรือแพง ข้าวเค้าจะใช้ข้าวแบบเดียวกัน ใครไปลองสังเกตุดูนะครับ ข้าวที่ลาวอร่อยมากๆๆๆๆ เดินเล่นซักพัก ก็กลับมาที่ห้องพักครับ ปลุกทุกคนให้กินข้าวเช้า ซึ่งครอบครัวพี่เก่งไม่ยอมตื่นกันครับ 555 ผมนั่งกินข้าวเช้ากับน้องแพนอยู่ข้างล่าง พลางดูนิตยสารลาว ฝรั่งที่ Check In เมื่อเช้านั่งกินข้าวและเล่น Internet อยู่ที่ห้องทานอาหารของโรงแรม ไม่รู้ที่ลาวมี ADSL เล่นกันนานหรือยัง รู้แต่ว่าราคาแพงมหาโหดมากๆ เห็นมีใบโบร์ชัวร์มือถือที่ลาว พอดีว่าแฟนผมกำลังอยากได้ BadBerry(BlackBerry) เห็นราคามันถูกกว่าไทยจึงสนใจที่จะไปลองดู เมื่อกินข้าวเสร็จ ผมลองถามพนักงานว่า ผมเอาข้าวขึ้นไปถวายเพื่อนบนห้องได้ไหม ผมหลอกเค้าไปว่าพอดีเค้าไม่ค่อยสบายเลยไม่ตื่นลงมากิน จะขอเอาขึ้นไปให้เพื่อนบนห้องโดยที่จะยกขึ้นไปให้เอง เค้าก็ตกลงนะ ผมจึงสั่งอาหาร 3 ชุดแล้วยกขึ้นไปให้คุณชายบนห้อง ซึ่งคาดว่าเมื่อคืนคงใช้ Internet จนดึกดื่น เนื่องจากชีวิตขาดการ Online มาหลายวัน จึงทำให้ตื่นไม่ไหว ยกอาหารถวายเสร็จแล้วผมกับน้องแพนจึงสอบถามพนักงานว่าร้านที่ขายโทรศัทพ์ในโบร์ชัวร์นี้อยู่ตรงไหน ปรากฏว่าอยู่ใกล้ๆที่พักนี่เองจึงแวะไปเยี่ยมซักหน่อย โทรศัพท์ในศูนย์ขายที่นั่นมีรุ่นใหม่ๆมากมายหลายรุ่นครับ เป็นของแท้ทั้งหมดนะ ไม่ใช่โทรศัพท์จีน เรียกง่ายๆว่าเครื่องศูนย์ของลาวนั่นเอง เทียบราคาแล้วถูกกว่าเครื่องศูนย์ของไทยหลายพันอยู่นะ แต่ถ้าเทียบกับราคาเครื่องหิ้วแล้วก็จะพอๆกับราคาเครื่องหิ้วที่ไทยนั่นแหละ ซึ่งโทรศัพท์ที่นั่น ประกันศูนย์ให้ 13 เดือน ... ก็แปลกดี ทำไมต้อง 13 เดือน ทำไมไม่ 1 ปี น่าจะเป็นรูปแบบการแข่งขันกันเรื่องประกันเครื่อง เมื่อดูโทรศัพท์แล้วไม่เป็นที่น่าสนใจรอกลับไปซื้อที่ไทยดีกว่าจึงกลับมาที่พัก โปรแกรมวันนี้ไม่มีอะไรมากครับ ปล่อยนอนพักผ่อนกันเต็มที่ ตื่นแล้วค่อยว่ากันว่าจะทำอะไรต่อดี ระหว่างที่เมียผมอาบน้ำ ผมจึงนอนต่ออีก 1 ตื่น สภาพห้องพักครับ ก่อนออกมาถ่ายไว้ซักหน่อย สบายที่สุดแล้วในทริปนี้ เลยนอนต่ออีก 1 ตื่นในช่วงเช้า เมื่อทุกคนพร้อมก็เก็บของขึ้นรถ และคุยกันเรื่องที่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก่อนดีก่อนที่จะข้ามกลับไทย ตัดสินใจง่ายๆก่อนว่าไปประตูชัยก่อนแล้วกัน มาทั้งทีแวะไปหน่อย ซึ่งผมเองเคยเที่ยวเวียงจันทน์มาแทบจะตั้งเมืองแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว จึงพอจะทราบว่าตรงไหนมีอะไรให้ทำบ้าง เราถึงประตูชัยตอนเที่ยงครับ แดดกำลังร้อนเลย เมื่อผมบอกพี่เก่งว่าขึ้นไปชมเมืองได้ในประตูชัย แต่ต้องเดินขึ้น 5 ชั้น .... เราจึงได้แต่รูปถ่ายจากข้างล่างครับ 555 ร้อนมากขนาดนั้นและคนเยอะมาก อยู่กันแต่ข้างล่างนี่แหละ สำนักงาน หรือกระทรวงอะไรนี่แหละอยู่ข้างๆประตูชัย อันนี้กำลังติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวหรือว่าอะไรนี่แหละ ถ่ายรูปเสร็จ ข้ามถนนมาซื้อส้มลูกเล็กๆครับ ปีที่แล้วก็ซื้อจากตรงนี้แหละ อร่อยมาก ปีที่แล้วโลละ 20 เอง ปีนี้โลละ 30 หรือ 40 นี่แหละ แพงขึ้นพอสมควรทั้งๆที่เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว เสร็จธุระจากประตูชัย ก็พาไปวัดธาตุหลวงครับ คือที่จะไปเนี่ยะเพราะตรงทางเดินที่ธาตุหลวงมีของขายครับเลยจะไปกัน ^_^ ที่จอดรถหน้าธาตุหลวงเต็มไปด้วย CD ละเมิดฯ ตั้งแผงกันอย่างนี้ข้างๆถนนกันเลย ของขายหน้าธาตุหลวงครับ มีกระเป๋า Copy ยี่ห้อต่างๆ และของแปลกๆเต็มไปหมด ภายในธาตุหลวงครับ เสร็จจากธาตุหลวงก็ไปตลาดจีนใหม่ เพราะผมต้องการไปซื้อแบตมือถือที่ปีที่แล้วผมซื้อโทรศัพท์ไปตอนนี้แบตเริ่มไม่ดีแล้ว จึงได้พากันไปเดินดูของกันที่นั่น ส่วนผมไม่ได้แบตครับ เค้าจะขายก้อนละ 350 โอ้โห แพงเว่อร์ไปปะเนี่ยะ แล้วคิดดู โทรศัพท์ที่ผมซื้อปีที่แล้ว ขาย 3000 ปีนี้ขายกัน 1900 - 2000 แล้วแถมแบตให้อีก 2 ก้อน นี่ถ้าผมซื้อแบต 350 แค่ก้อนเดียว ผมซื้อโทรศัพท์ใหม่ไปเลยไม่ดีกว่าหรอ แถมแบต 2 ก้อนก็คิดเป็นราคา 700 แล้ว ป้ายเชิญชวนซื้อของที่ลาวให้ใช้เงินกีบ เครือข่ายมือถือ Tico จัดให้ !!! เอาวงแคลชจากไทยไปแสดงที่ลาวด้วย เราออกจากตลาดจีนมาโดยไม่มีใครได้อะไรเลยมั๊ง ตามที่คิดกันไว้ อยากไปเดินเล่นตลาดเช้าแถวๆท่ารถซะหน่อย แต่ดูจากเวลาแล้วจึงเปลี่ยนใจไม่เดินดีกว่า รอไปเดินเล่นตลาดตรงด่านดีกว่าเพราะเริ่มเย็นมาแล้ว ก่อนออกจากเมือง เริ่มหิวอีกแล้วครับ ในช่วงเช้าผมโทรกลับไทย ซึ่งพ่อแนะนำว่าให้ลองไปแวะกินเฝอร้านเฝอแซบ ตำแหน่งร้านอยู่แถวๆธาตุดำ อยู่ตรงข้ามสถานีตำรวจเวียงจันทน์หรืออะไรนี่แหละ ผมกางแผนที่ขับรถไปธาตุดำครับ ปีที่แล้วเคยเดินเล่นมาผ่านธาตุดำด้วย จึงคุ้นทางพอสมควร เราวนรอบธาตุดำเล่นอยู่ 1 รอบ ยังมองไม่เห็นร้านเฝอแซบจึงจอดถามสามล้อ และแล้วเราก็มาถึงร้านเฝอแซบตากที่สามล้อบอกทาง ซึ่งก็อยู่บริเวณนั้นแหละ แต่มันต้องเข้ารูไปนิดนึง เมื่อเข้าไปในร้าน เด็กในร้านกำลังเก็บของกันเลย แต่ก็ยังมีลูกค้านั่งกินอยู่บ้าง ถามเค้า เค้าว่าร้านปิด 3 โมงเย็นครับ เราเข้าไปก็ 3 โมงเย็นแล้ว แต่เค้าก็ยินดีที่จะรับลูกค้ากลุ่มเรา เมื่อเห็นป้ายราคาอาหารก็งงครับที่นั่นขายแต่เฝออย่างเดียว เฝอที่นั่นมี 3 ขนาด ถ้วยน้อย ถ้วยใหญ่ ถ้วยจัมโบ้ ราคา 13000 15000 18000 ตามลำดับ พี่เก่ง อ้อ แอ้ ตัวนิดเดียวสั่งถ้วยน้อยมาลองกันก่อน น้องแพนสั่งถ้วยใหญ่กลัวไม่อิ่ม ส่วนผมสั่งจัมโบ้ครับ ด้วยความหิว .... เมื่อเค้าเอาอาหารมาเสริฟ ยกมาชามแรก ชามใหญ่เชียว ผมก็นึกว่าของผม แล้วซักพักก็เอามาเสริฟเพิ่ม อ้าวแม่งถ้วยเท่ากันกับใบแรกเลย ก็เลยถามว่าอันนี้ขนาดไหน เค้าบอกถ้วยเล็ก ... อันนี้ถ้วยน้อยครับ ฮากันทั้งโต๊ะเลย ถ้วยเล็กทำไมมันใหญ่อย่างนี้ ซักพักถ้วยใหญ่ก็มาครับ ใหญ่ขึ้นไปอีก อันนี้ถ้วยใหญ่ ผมเริ่มกังวลกับจัมโบ้ที่ผมสั่งไป ... เวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เด็กในร้านเอาถ้วยจัมโบ้มาเสริฟ จะเรียกยกมาก็ไม่ได้ ต้องเรียกอุ้มมาน่าจะเหมาะกว่า อึ้งครับ นี่จะให้กูกินก๋วยเตี๋ยวหรือจะให้ซักผ้าครับเนี่ยะ ชามเท่ากะลามังซักผ้าใบเล็กๆเลย คิดดูว่า เส้นผ่านศูนย์กลางของชามจัมโบ้มันกว้างเท่าๆกับความยาวตะเกียบเลย ต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตากินเฝอสุดอร่อย สมกับชื่อร้านเฝอแซบจริงๆครับ ใครไปแล้วไม่ได้แวะกินนี่จะเสียดายมากๆ มิน่าขายอย่างเดียวจริงๆ ไม่มีอย่างอื่นให้เลือก เพราะเฝอที่ขายอยู่นี่สุดยอดแห่งเฝอเลยก็ว่าได้ สภาพหลังกินเสร็จก็อย่างที่เห็น ... เกลี้ยงครับ จัมโบ้ว่าเกลี้ยงแล้วนะ ชามน้อยนี้เกลี้ยงไม่เหลือซากเลย หิวมากก็สั่งจัมโบ้ก็ได้นะ 555 โบกมืออำลาเมืองเวียงจันทน์ ขับรถมุ่งหน้าสู่ชายแดน ตอนนั้น 4 โมงเย็นแล้ว ระหว่างทางเจอซากรถเต่าครับ มองผ่านๆก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่พี่เก่งสังเกตเห็นอะไรบางอย่างจึงทำให้ต้องถ่ายรูปกลับมา ในรถเต่ามีโรล์บาร์ด้วยครับ .... เมื่อถึงชายแดน เราแยกกันเดินครับ เพื่อความรวดเร็ว ผมไปเดินหาซื้อแบตมือถือ ซึ่งได้ราคาก้อนละ 150 บาทเอง 555 ส่วนคนอื่นๆก็กระจายๆกันเดิน เดินเจอกันเองบ้าง หลงกันเองบ้าง เดินไปเดินมา ชักจะนานครับ BlackBerry จีนครับ เครื่องละ 3000 - 3500 ภายนอกเหมือนของจริงมากๆ ชั่วโมงนั้นไม่คิดเรื่องเวลาแล้ว มาคิดอีกที รีบข้ามกลับไปยังไงรถก็ติดระหว่างทางอยู่ดี เพราะวันนั้นเป็นวันสุดท้ายของช่วงหยุดยาว รถเยอะมากแน่ๆ ซึ่งพี่เก่งประเมินไว้อยู่แล้วว่าต้องมี 12 ชั่วโมงเพื่อกลับกรุงเทพ เราจึงเดินเล่นกันอย่างเพลิดเพลินได้ของติดไม้ติดมือกลับมาที่รถเพียบ ส่วนพี่เก่งจะซื้อเบียร์ลาวไปฝากเพื่อนๆ ผมจึงไปช่วยดู ช่วยดูกันไปช่วยดูกันมา ก็เลยเอามาคนละลังครับ 555 เบียร์ขวดเล็ก 1 ลังมี 24 ขวด ถ้าเป็นฉลากทอง ลังละ 500 ครับ ฉลากดำ(รสชาดหนักกว่า) ลังละ 540 หรือไงนี่แหละ จัดแจงเก็บของขึ้นรถ ผ่านขั้นตอนข้ามแดนด้วยความรวดเร็วโดยไม่ได้แสดงรายการสินค้าที่ซื้อข้ามมา 555 คือผมไม่รู้นะว่าต้องไปแสดงหรือบอกอะไรใครตรงไหน แต่พี่เก่งบอกว่ามันมีป้ายบอกว่าเราต้องแสดงให้เค้าดู ซึ่งเบียร์เราก็อยู่บนหลังคานั่นแหละไม่ได้แบบหรือซ่อนอะไร และก็ไม่มีใครสนใจด้วยก็ข้ามมาได้เลย สรุปแล้วข้ามกลับมาฝั่งไทย 6 โมงเย็นพอดีครับ ฟ้ามืดแล้ว ยังเหลือระยะทางอีกกว่า 6 ร้อยกิโลกว่าจะถึงกรุงเทพ ซึ่งคาดว่าคืนนั้นรถจะมีปริมาณมหาศาลมากๆแน่ๆ ตลอดทางรถติดเป็นช่วงๆครับ ผลัดกันขับคนละ 6 ชั่วโมง เป็นดังที่พี่เก่งคาดไว้ว่าใช้เวลา 12 ชั่วโมงในการเดินทาง เราถึงกรุงเทพ 8 โมงเช้า ตามคาด ... จบแล้วครับ ทริปฮาๆมึนๆ ไปแบบงงๆ กลับแบบงงๆ 5 วัน 4 คืน ณ ประเทพศลาว สมกับคอนเซ็ป "ไปกับกู...ถูกแต่เหนื่อย" หมดกันคนละ 3000 ถูกไปหรือเปล่าเนี่ยะ ^_^ ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านมาจนจบ หวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์กับทุกๆท่านในวันข้างหน้าที่จะได้ขับรถข้ามไปเที่ยวลาวไม่มากก็น้อย สวัสดี .... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- Laos Trip ตอนที่ 1 : เตรียมการขับรถ ตะลุยลาว ... Laos Trip ตอนที่ 2 : Day 1 การเดินทางที่ผิดแผน - คืนแรกนอนม่านรูด !!! Laos Trip ตอนที่ 3 : Day 2 โดนลาวหลอกที่ปั๊มน้ำมัน - ถนนโลกพระจันทร์สู่วังเวียง - ร่วมฉลอง Happy New Year 2010 Laos Trip ตอนที่ 4 : Day 3 วันแห่งวังเวียงที่สุดแสนจะวิงเวียน Laos Trip ตอนที่ 5 : Day 4 เก็บตกวิถีชีวิตวังเวียง กลับสู่ความเจริญที่เวียงจันทน์ Laos Trip ตอนที่ 6 : Day 5 ชิมเฝอยักษ์ที่เวียงจันทน์ กลับสู่แผ่นดินแม่ ...
สนุกดี !! ไปเที่ยวกันบ่อยๆนะ ผมจะรอดูรีวิว ปล: เพิ่มคำบรรยายประกอบรูปอีกซักหน่อยน่าจะช่วยให้อ่านสนุกยิ่งขึ้นไปอีก
วังเวียงเปลี่ยนไปมากมาย......ริมน้ำตึกขึ้นมาเยอะมากมาย อีกหน่อยคงเหมือน ปาย บ้านเราแล้วที่ทุกอย่างเป็นธุรกิจมากมาย
สนุกมากครับ......อ่านแล้วอยากไปบ้างจัง ปล.1.เขียนเป็นหนังสือได้เลย....อ่านแล้วไม่รู้สึกเบื่อแถมสนุกตามอีกต่างหาก ปล.2.ดีใจกับ adda ด้วยที่ได้กลับเมืองไทย 55555555555555
อ่านจนเหนื่อยเลย นึกว่าอ่านหนังสือสอบ อิอิอิ ประสบการณ์ครั้งหนึ่งได้ไปผจญภัยต่างแดน ถึงจะใกล้บ้านเรา แต่เราก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากบ้านเค้า พวกเค้าน่ารักนะคะ อากาศดีมากๆ ถ้าใครมีโอกาสลองไปดูนะคะ วันนี้ก็วันที่ 2 ก.พ. พอดี จึงขอ Happy Birthday นะคะพี่เก่ง