Air Flow กับ Map Sensor .. ลองอ่านกันดูครับเพื่ออยากเปลี่ยนจาก Air flow เป็น Map Sensor กันครับ

พอดีอ่านมาจาก โคโรน่า และ wikipidia เลยเอามาให้อ่านกันครับ

น่าจะเวิร์คดีเหมือนกันนะ ถ้าเปลี่ยนจาก Air flow เป็น Map Sensor เหมือนกับเราไม่จำกัดปากในการดูดอากาศแต่มันจะมีลิมิตในการ Flow ของอากาศที่เข้ามาในคอไอดี เชนแมป 1 บาร์ หรือ 3 บาร์ ประมาณนี้ การต่อก็ง่ายแค่ เอาท่อไอดีหลังลิ้นมาใส่ที่ตัวแมปเซนเซอร์ แล้วก็ปัญหาต่อมาคือต้องนำรถไปจูนและต้องมีกล่อง 1 ใบด้วย

ตัวอย่างรูป Map Sensor





ตัวเล็กกว่าแอร์โฟร์เยอะๆเลย



เดี๋ยวเอาอ้างอิงจาก Wikipidia ก่อนเลยดีก่า

Map Sensor หรือ MAP เนียมันมาจาก manifold absolute pressure แล้วก็ต่อด้วย Sensor นะ

A manifold absolute pressure sensor (MAP) is one of the sensors used in an internal combustion engine's electronic control system. Engines that use a MAP sensor are typically fuel injected. The manifold absolute pressure sensor provides instantaneous manifold pressure information to the engine's electronic control unit (ECU). The data is used to calculate air density and determine the engine's air mass flow rate, which in turn determines the required fuel metering for optimum combustion (see stoichiometry). A fuel-injected engine may alternately use a MAF (mass air flow) sensor to detect the intake airflow. A typical configuration employs one or the other, but seldom both.

MAP sensor data can be converted to air mass data using the speed-density method. Engine speed (RPM) and air temperature are also necessary to complete the speed-density calculation. The MAP sensor can also be used in OBD II (on-board diagnostics) applications to test the EGR (exhaust gas recirculation) valve for functionality, an application typical in OBD II equipped General Motors engines.

ทีนี้มาดู Air Flow กัน

Air flow meter An air flow meter, commonly abbreviated to AFM, also known as an air consumption meter,is a device that measures how much air is flowing through a tube. It does not measure the volume of the air passing through the tube, it measures the actual speed of the air flowing through the device in a defined time segment. Thus air flow meters are simply an application of mass flow meters for a special medium. Typically, mass air flow measurements are expressed in the units of kilograms per hour (kg/h).

ทีนี้มันจะแยกได้อีก 3 ประเภท อันนี้เดี๋ยวเอามาจาก Corona thailand ดีก่า พี่เค้าเขียนไว้ชัดเจนมากครับ

มาต่อกันเลยดีกว่าว่ามันทำงานยังไง เป็น ยังไง Air flow กับ Map Sensor ขออ้างอิงจาก Coronathailand นะครับ อ่านแล้วใช่เลย
http://www.coronathailand.com/board/index.php?topic=217.0 และ
http://www.mut.ac.th/~b3111424/2.html


Airflow & Map Sensor

How Super AFC Works?

เราจะพูดกัน ถึงรายละเอียดในส่วนของมาตรวัดอากาศ(Airflow Meter)และตัวตรวจจับสูญญากาศท่อร่วมไอดี(Map Sensor) และในช่วงท้ายเราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับทฤษฎีการทำงานของ Super AFC และ Hyper SFC

Airflow Meter (มาตรวัดอากาศ) มีอยู่ด้วยกัน 3ชนิด

1 Airflap เช่นToyota 3TG,1G-GTE,1G-GZE,3S-GTE,4A-GE 20Valve(บรอนซ์),Mazda B6,BP Turbo,BMW M10,Nissan CA18E(Blue Bird Attessa)

2 HotWire เช่น Nissan CA18DET, SR20DET ,RB20DET ,RB25DET ,RB26DET, VG30DET Mazda BP(Astina ใหม่),Toyota 1JZ-GTE VVT

3 Karman Vortex Mitsubishi Sirius 1800,2000 ,4G63 VR4,4G63 EVO II III IV V VI, 6A12(Ultima),6G72(GTO) Toyota 7M-GTE,1UZ-FE

รายละเอียดการทำงาน ของAir flow Meter แต่ละชนิด



1 AirFlowชนิดAir Flap หรือปีกผีเสื้อมักพบในรถยนตร์ Toyota

การทำงานของชนิด Airflap

ทำงานโดยใช้ Potentio Meter ที่ติดอยู่กับแกนปีกผีเสื้อที่ขวางอยู่ตรงปากทางเข้า ทำให้ ค่าความต้านทานเปลี่ยนแปลงมุมการเปิดของปีกผีเสื้อ โดย Potentio Meter นี้ต่อร่วมกับวงจรไฟฟ้าของกล่องECU ทั้งหมด 3 เส้น (เฉพาะในส่วนของวงจรวัดอากาศ)

5V (ไฟเลี้ยงชุดสํญญาณ Sensor)

GND (สายดิน)

Airflow Signal 5V-0V

โดยให้แรงเคลื่อนไฟฟ้ากลับไป ยัง ECU ในระดับประมาณ 5 V. เมื่อไม่มีอากาศไหลผ่าน Airflow และ เมื่อมีอากาศไหลผ่านก็จะให้แรงเคลื่อนไฟฟ้าลดลง ตามปริมาณอากาศที่ไหลผ่าน โดยจะเข้าใกล้ 0V เมื่อมีอากาศไหลผ่านมากๆ

ยังมีสัญญาณออกจาก Airflow ชนิดนี้อีก ก็คือสัญญาณ Air temp Sensor และ สัญญาณสวิตช์ปั๊มติ๊ก โดยสํญญาณ Airtemp Sensor จะให้ความต้านทานไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงตามความร้อนของอากศที่มากระทบผิว Sensor

สํญญาณสวิตช์ ปั๊มติ๊ก จะให้สัญญาณปั๊มติ๊กทำงานก็ต่อเมื่อมีอากาศไหลผ่านตัวAirflow โดยมีประโยชน์ดังนี้

-ปั๊มติ๊กมีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่ ต้องทำงานตลอดเวลาที่เปิดสวิตช์กุญแจ

-ป้องกันเพลิงไหม้ หากเกิดอุบัติเหตุ โดยปั๊มติ๊กจะหยุดทำงานทันทีเมื่อเครื่งยนตร์ดับ(ไม่มีอากาศไหลผ่าน Airflow)

TIPS ท่านควรตรวจดูว่ารถของท่านที่วางเครื่องใหม่นั้นได้รับการเดินสายไฟวงจรปั๊ม ติ๊ก ถูกต้องหรือไม่ โดยการเปิดสวิตช์กุญแจ ที่ตำแหน่ง ON ท่านควรได้ยินเสียง ปั๊มติ๊กทำงานอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยุด หรือ ไม่ได้ยินเสียงทำงานเลยแต่เมื่อท่าน START แล้ว ปั๊มติ๊กทำงาน แสดงว่าระบบนั้นถูกต้องแล้ว หากท่านพบว่ารถของท่านแตกต่างจากนี้ควรรีบปรึกษาช่างเพื่อแก้ไข ให้ถูกต้อง



2 Airflow ชนิด Hot Wire หรือชนิดขดลวดความร้อน มักพบในรถ NISSAN

การทำงานของชนิด Hot Wire

ทำงานงาน โดยใช้ขดลวดความร้อนซึ่งมีความต้านทานไฟฟ้าซึ่งไวต่อการเปลี่ยนแปลงของความ ร้อนที่ขดลวด โดยนำขดลวดดังกล่าวไปขวางอยู่ใน บริเวณที่มีอากาศวิ่งผ่านในตัว Airflow โดยอาศัย อากาศที่วิ่งผ่านขดลวดนั้นนำพาเอาความร้อนที่ขดลวดไป ทำให้ความร้อนของขดลวดลดลง มีผลผลทำให้ขดลวดมีความต้านทานเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยมีการต่อสัญญาณร่วมกับกล่อง ECU 3 เส้น คือ

-12V ไฟเลี้ยง

-GND สายดิน

-Airflow Signal 0-12V

และมีสํญญาณ Air TEMP อีก 1 เส้น โดยใช้ GND ร่วมกับ GND ของชุดวัดปริมาณอากาศ



3 Airflow ชนิด Karman Vortex หรือชนิดตรวจจับคลื่นสะท้อนความถี่สูง มักพบในรถ Mitsubishi และ Toyota 7M-GTE

การทำงานของ ชนิด Karman Vortex



ทำงานโดยอาศัย แผ่นกำเนิด Vortex (แผ่นโลหะซึ่งสร้างขึ้นให้มีรูปร่างเป็นพิเศษเพื่อให้อากาศที่ไหลผ่าหมุนออก มาเป็นลูกคลื่นป็นลูกๆ)โดยอาศัยแกนกำเนิด Vortexเป็นตัวสลับการหมุนวนของลูกคลื่นทุกลูกให้หมุนวนขวาและซ้าย สลับกัน โยลูกคลื่นที่วนสลับออกมานั้นจะวิ่งตัดผ่าน Ultrasound เพื่อตรวจจับลูกคลื่น(Vorterx)ที่เกิดขึ้นเป็นห้วงๆ

เนื่องจากตัวรับ Ultra Sound จะจับความถี่ที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อมี ลูกคลื่น(Vortex) โดยมีความสัมพันธ์ดังนี้

เมื่อมีลูกคลื่น(Vortex)ผ่านมาก(อากาศผ่าน Airflow มาก)ในช่วงเวลาคงที่ ความถี่ของสัญญาณที่ตัวรับ Ultra Sound จะเพิ่มขึ้น

เนื่องจาก Karman Vortex มีการต่อสายไฟที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่นจึงขอข้ามในส่วนของ

สายสัญญาณ ที่ต่อกับกล่อง ECU เพื่อป้องกันความสับสนในวิธีการต่อสาย(Interface)

และ ยังมี Airtemp Sensor ติดตั้งอยู่ใน Airflow เช่นเดียวกับ Airflow ชนิดอื่น



MAP Sensor ตัวตรวจจับแรงดันท่อร่วมไอดี

MAP Sensor คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการวัด แรงดันท่อร่วมไอดี ซึ่งถูกออกแบบมามากมายหลายรุ่น

โดยมี มาตรฐานที่ใช้ในการจำแนกความแตกต่างโดยใช้ความสามารถในการรับรู้(sensing) แรงดันท่อร่วมไอดีสูงสุดเป็นเกณฑ์ เช่น

MAP ชนิด 1BAR คือ MAP ที่ให้แรงเคลื่อนไฟฟ้ากลับ 5V ที่ 1 แรงดันบรรยากาศ

(Vaccum –30mmhg ถึง 0 Psi ในเกจ์วัด Boost) ไม่สามารถตรวจจับการ Boost ของ Turboได้

MAP ชนิด 2BAR คือ MAP ที่ให้แรงเคลื่อนไฟฟ้ากลับ 5V ที่ 2 แรงดันบรรยากาศ(Vaccum -30mmhg ถึง +15 Psi ในเกจ์วัด Boost)

MAP ชนิด 3BAR คือ MAP ที่ให้แรงเคลื่อนไฟฟ้ากลับ 5V ที่ 3 แรงดันบรรยากาศ(Vaccum -30mmhg ถึง +30 Psi ในเกจ์วัด Boost) เป็นต้น

ยัง มีMAPอีกมากมายเช่น 1.2 BAR (Toyota เครื่องไม่มี Turbo) 1.8BAR (Toyota 3S-GTEรุ่นเก่า)

จะสังเกตุได้ว่าไม่ว่าเป็น MAP ชนิดไหนก็สามารถให้สัญญาณกลับ ECU ไม่เกิน 5V (TTL Level)

ทั้งสิ้น

ทั้ง หมดที่กล่าวมานี้ไม่ว่าจะเป็นระบบ Airflow,MAP ล้วนต้องส่งสัญญาณที่วัดได้กลับไปยัง กล่อง ECU และที่สำคัญ Airflow และ MAP เป็นตัวแปรหลักที่มีผลต่อการกำหนดปริมาณการจ่ายน้ำมันของระบบหัวฉีด EFI โดยตรงซึ่งต่อไปนี้เราจะอธิบายวิธีการรับรู้สัญญาณไฟฟ้าของ ECU ว่า ECU ว่าสัญญาณที่ตอบกลับมาจาก Sensor เป็นกี่ Volt เพื่อจะได้เข้าใจหลักการทำงานของ อุปกรณ์เพิ่มน้ำมัน Super AFC, SFC Hyper

ECU รับรู้สํญญาณได้อย่างไร



1วงจร A/D ( Analog to Digital)

วงจร A/D คือวงจรอีเลคทรอนิคที่ใช้ในการเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าอนาลอค (Volt) ให้เป็นตัวเลข Digital ที่ Computer สามารถรับรู้และนำไปคำนวนได้ โดยแบ่งตามความละเอียดในการแปลงสัญญาณเช่น

A/D ขนาด 8 Bit สามารถเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้า 0 ถึง 5 Volt เป็นตัวเลข Digitalได้ 256ค่า (0-255)

ดังนี้

Volt Digital Number

0 0

0.12 1

. .

. .

5 255

จะเห็นได้ ว่า A/D ขนาด Bit ที่สูงสามารถให้ความละเอียดของสัญญาณ Analogได้ดี ดังนั้นกล่อง ECU ที่ดีมีประสิทธิภาพสูงควรมีระบบ A/D ขนาด Bit มากๆ

2วงจร นับ (Counter)

วงจรนับคือวงจรใช้ในการนับสํญญาณต่างๆเช่น รอบเครื่องยนตร์, ศูนย์ตายบน,ความถี่ของ Karman Vortex เป็นต้น ECU สามารถนับสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้โดยตรง



HKS FCD (Fuel Cut Defencer),Greddy Limit Cut Control หรือ ตัวกันตัดน้ำมันทำงานอย่างไร (อันนี้อ่านแล้วนึกถึงพี่ฉะเลยครับ)

กล่องECU Standard ทุกใบได้รับการโปรแกรมส่วนหนึ่งที่เรียกว่า Boost Limit Point ซึ่งจะถูกโปรแกรมมาแตกต่างกันตามแต่ชนิดของเครื่องยนตร์เช่น สมมุติว่า Boost Limit Point ถูกตั้งไว้เท่ากับ 253 (Digital Number)

Boost(PSI) Map Signal(Volt) Digital Number

1 3.90 238

2 3.98 239

.. ….. …..

14 4.80 253

จะเห็นว่าเมื่อ Boost ถึง 14 ปอนด์ Map Signal = 4.80 Volt ECU จะตรวจได้ว่า มีการ Boost ถึงจุดทีกำหนดไว้แล้ว ECU ก็จะทำการตัดการจ่ายน้ำมันทันที

เเล้วท ำอย่างไรไม่ให้กล่อง ECU ตัด Boost (ชนิด MAP Sensor,Airflow Hotwire)

จาก ตารางนี้เราก็อาจตีความว่าหากเราสามารถรักษา Map Signal ให้มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าไม่ถึง 4.80 Volt(โดยใช้วงจรอีเลคทรอนิค) วงจร A/D ก็จะแปลงเลข Digital Number ได้ต่ำกว่า 253 (Boost Limit Point) กล่องก็จะไม่ตัดน้ำมันเมื่อ Boost เกินกำหนด

เพราะตัวกันตัดน้ำมัน ทุกยี่ห้อทำงานโดยการใช้วงจรป้องกันระดับแรงเคลื่อนไฟฟ้าเกิน(Over Voltage Stabilizer)ทำหน้าที่รักษาระดับแรงเคลื่อนไฟฟ้าไม่ให้เกินที่กำหนดไว้ บางรุ่นมีปุ่มหมุนให้ใช้ไขควงจูนตั้งระดับการLimit Volt ตามแต่เครื่องยนตร์แต่ละรุ่น

ฉนั้นหากท่านสามารถสร้างวงจรที่มีหลัก การทำงานได้ดังกล่าวท่านก็สามารถสร้าง อุปกรณ์กันการตัดน้ำมันได้เอง สำหรับท่านที่สนใจผมมีวงจรที่ออกแบบไว้แล้วเหมือนกัน

ถ้ามีโอกาศคงจะ นำเสนอได้ในฉบับอื่นๆ

SUPER AFC ทำงานได้อย่างไร

ก่อน อื่น ขอทำความเข้าใจก่อนว่า ต่อไปนี้ถ้าหากผมพูดถึง SUPER AFC ผมหมายถึง Super AFC,Hyper SFCและ ตัวปรับน้ำมันของยี่ห้ออื่นๆที่ใช้หลักการแบบเดียวกัน

อุปกรณ์ประเภท นี้ทำงานโดยอาศัยหลักการ การปรับแต่งสัญญาณ Airflow และ MAP โดยนำแรงเคลื่อนไฟฟ้าจาก INPUT (สํญญาณมาจากAirflow หรือ MAP Sensor) มาเพิ่มหรือลดระดับแรงไฟโดยมีเงื่อนไขสัมพันธ์กับรอบเครื่องที่ Super AFCใช้ แล้วจึงส่งผ่าน Output ไปยังกล่อง ECU

ดังตัวอย่างดังนี้



ปุ่ม 800 2400 4000 5600 7200

+1 +3 -5 -5 -8

AirflowSignal รอบเครื่อง 800rpm

Map Signal -----------------? Input Super AFC Output ------------------? ECU

1.1Volt +1%=+0.011Volt 1.111Volt

จาก รูปนี้จะเห็นว่า Map Signal หลังจากผ่านSuper AFC แล้ว จะมีค่ามากขึ้นเล็กน้อย มีผลทำให้ ECU จ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้น (เพราะMap Signal น้อย ECUจ่ายน้ำมันบางลง Map Signal มาก ECUจ่ายน้ำมันหนาขึ้น)

เรา จึงสรุปได้ว่า Super AFC เหมาะที่จะเป็นอุปกรณ์ปรับแต่ง(Fine Tune)น้ำมันในระดับพื้นฐานทั่วไป ไม่ใช่อุปกรณ์เพิ่มน้ำมัน เนื่องจากการทำงานของมันทำได้เพียงแค่ปรับระดับแรงดันไฟฟ้าของ Airflow หรือ MAP เท่านั้น เช่นสมมุติว่าเครื่องยนตร์ของท่านมีการปรับ Boost เพิ่ม แต่ประสบปัญหาการจ่ายน้ำมันไม่พอ ท่านไม่สามารถใช้ Super AFC มาแก้ปัญหาได้ Super AFCทำได้เพียงแค่ลดอาการเขก(น้ำมันไม่พอ).ในช่วงเริ่มมีการ Boost เท่านั้น เมื่อ Boost มาเต็มก็จะยังเขกอยู่ดีเพราะ
ปริมาณน้ำมันสูงสุด ที่Super AFCจ่ายได้ จะเท่ากับปริมาณการจ่ายน้ำมันของกล่อง Standard ในภาวะ Load สูงสุด (Map Signal= 5Voltในกรณีระบบ D-jet)ทีความเร็วรอบเครื่องยนตร์ปัจจุบัน

ประโยชน์ของ Super AFC คือการ Fine Tune (ปรับละเอียด) เพื่อให้ได้ความ Match กับสภาวะแวดล้อมที่ใช้งานอยู่จริง เนื่องจากรถส่วนใหญ่มักถูกโปรแกรมการจ่ายน้ำมันให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมของ ประเทศผู้ผลิต.

สิ่งที่ไม่ควรทำหากนำ Super AFC มาใช้กับเครื่องยนตร์ทั่วไปหรือModify ระดับต้นๆ คือการปรับการจ่ายน้ำมันในบางย่านให้มีค่าโดด ออกห่างจากย่านข้างเคียงมากๆ เนื่องจากย่านในการปรับน้ำมันของ Super AFC(รุ่นเก่า)มี 5 ย่าน ซึ่งค่อนข้างหยาบแล้ว(ต่ำกว่า12 ย่านก็ถือว่าเริ่มหยาบแล้ว) การปรับให้มีค่าโดดออกมามาก จะทำให้การจ่ายน้ำมันขาดความราบเรียบ(Non Smooth) และ กระตุก (Stall)

มันมีเท่านี้เอง ผมอ่านแล้วรู้สึกชอบกับตัว Map Sensor ใช้ได้เลย มันดูสะดวกสบาย ดีเหมือนกันนะครับแต่ปัญหามันคือถ้ารถเราเป็น Air flow จะทำเป็น Map Sensor ก็คงต้องงานเข้าสักหน่อยแต่ไม่ใช้ประเด็น มีคนทำครับ แต่ทุนอาจจะต้องมีสักนิดส์

ปล. พี่ป๊อป พี่ก๊อฟ น่าลองนะครับ

 

ความรู้ครับ ตูน รถเสร็จยัง

 

เวิ่นเว้อออออออ
บอกให้ซื้อมาใช้ตั้งนานแระ map อ่ะ เสือกไปซื้อ airflow มาใอก 55555 พูดไม่เชื่อ ทีหลีงถามไม่ตอบแระ อิอิ

 

ช้าไปและมีตั้งนานและพี่ เดี๋ยวรอดูและกัน 555+

 

ชอบมาอ่านเวลาตูนกับวิน คุยกันอ่ะ ^_^

 

พังไม่พัง พังไม่พัง พังไม่พัง พังไม่พัง อิอิ

 

Map sensor + Air temp อิๆ

 

เอากันอีกแล้ว เกรงใจเค้าด้วย ตามไม่ทันและ

 

คิดอยู่นะดีเหมือนกัน รวนนักแอร์โฟว์