ตอนแรกผมเข้าใจว่าปัญหามาจากแบตตารี่เพราะเห็นไฟรูปแบตตารี่โชว์ที่น่าปัทม์ตลอดในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่ แต่เข้าใจผิดครับ เพราะหลังจากเปลี่ยนแบตตารี่ลูกใหม่เข้าไปไฟรูปแบตตารี่ก็ยังโชว์เตือนอยู่เหมือนเดิมในขณะที่รถวิ่งอยู่ ก็เลยมารู้ทีหลังว่าปัญหามาจากไดชาร์จเสียนั่นเอง อาการของมันคือ รถยังสตาร์ทติดได้เพราะไฟในแบตตารี่ยังมีอยู่ แต่วิ่งไป ได้สักพักหนึ่งไฟก็จะเริ่มหรี่ลงๆ จนเครื่องดับไปเองเพราะไฟในแบตตารี่ถูกใช้ไปหมด ที่บอกเล่าให้ฟังเนี่ยกลัวว่าเพื่อนๆ จะ เข้าใจผิดเหมือนผมคิดว่าปัญหาเกิดจากแบตตารี่อ่อนหรือหมดอายุแล้วไปแก้ปัญหาผิดจุด เสียเงินเสียเวลามากขึ้นไปอีก อ้อ! ไดชาร์ตเสียเนี่ยรู้สึกว่าจะต้องเปลี่ยนลูกใหม่ใส่เลยนะครับ วันนั้นผมจ่ายไป 3.000 บาท บวกค่าเเรงอีก 200 บาท
อืม...ผมไม่แน่ใจนะว่าไดชาร์ตที่เสียแล้วจะสามารถซ่อมแล้วเอามาใช้ ได้อีกครั้งหรือเปล่า แต่ถ้าไปถามทางร้านเขาจะแนะนำให้เปลี่ยนใหม่ เพราะเขาอยาก ขายของมากกว่าอ่ะ เอ้าท่านใดมีความรู้ตรงนี้ช่วยบอกแทนทีว่ามันเป็นยังไงกันแน่
ยังมีอีกอาการนึงที่ผมเคยเจอมา คือ ไฟแบตไม่โชว์ ไม่มีอะไรเตือนเลย แต่วิ่งไปเรื่อยๆ รถไม่ดับนะ แต่คอมพ์แอร์จับบ้างไม่จับบ้าง ถ้าจอดปุ๊ปสตาร์ทไม่ได้แล้ว แบตหมดไปแล้ว มันคือไดชาร์จ ชาร์จน้อยและชาร์จกระแสไม่พอใช้ มันพอแค่เลี้ยงคอยล์ให้รถวิ่งได้และระบบไฟแอมป์ต่ำในรถ แต่ไม่พอสำหรับชาร์จเข้าแบตและสำหรับคลัทช์คอมพ์แอร์ที่กินกระแสสูงๆ มันก็เลยดึงกระแสจากแบตไปเรื่อยๆจนหมด กว่าจะเจอสาเหตุเล่นเอาเหนื่อย สาเหตุที่เค้าแนะนำให้เปลี่ยนยกลูกเพราะว่าบางทีมันอาจไม่ใช่แค่แปรงถ่านหมด มันอาจจะเป็นที่ตัว IC ที่ตูดไดด้วย การเปลี่ยนยกลูกก็เลยชัวร์กว่า ไม่ต้องลองผิดลองถูก ขนาดเบิกใหม่แคมเดี่ยวยังเจ็ดแปดพัน แคมคู่ไม่รู้ แต่ไม่น่าจะถูกกว่า ไดเซียงกงจึงเป็นทางออกที่ตัดสินใจง่ายสุด ซื้อกับร้านที่เค้ารับประกันซักสองอาทิตย์ จะได้รู้ว่ามันใช้ได้หรือเปล่า ไม่ได้ก็จะได้เคลม
ไดชาร์ตของแคมคู่ ของใหม่ราคาประมาณ 3,000-3,500 ครับ ผมเพิ่งจะเปลี่ยนมาเมื่อต้นเดือนนี้เอง เป็นของฮอนด้าด้วย
Alternator (อัลเทอเนเตอร์) หรือไดชาร์จ (ที่เรานั้นค่อนข้างคุ้นหูมากกว่า) เป็น อุปกรณ์สำคัญของระบบไฟฟ้าในตัวรถยนต์ นอกเหนือไปจากแบตเตอรี่, ตัวแปลง กระแสและสายไฟ กับการทำหน้าที่ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ป้อนให้กับแบตเตอรี่ และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ โดยมีที่สายพานที่ต่อตรงกับพูลเล่ย์หน้าเครื่อง ทำหน้าที่ ปั่นไดชาร์จนั่นเองล่ะครับ หากไดชาร์จเสีย ก็เท่ากับว่าแบตเตอรี่ต้องจ่ายกระแส ไฟเพียงลำพัง คือจ่ายอย่างเดียว แต่ไม่มีการป้อนเข้า นั่นหมายความว่าแบตเตอรี่ จะค่อยๆ หมดไฟไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่มีเหลือพอสำหรับการสตาร์ทในครั้งต่อไป เลยล่ะครับ ไฟเตือนบนหน้าปัด เมื่อใดที่ไฟเตือนรูปแบตเตอรี่บนหน้าปัดสว่างขึ้นในขณะที่ สตาร์ทล่ะก็ แสดงว่าไดชาร์จมีปัญหาแล้วล่ะครับ ให้รีบนำรถเข้าตรวจเช็คโดยเร็ว ที่สุด สตาร์ทแล้วอิดออด ในกรณีที่สตาร์ทไม่ติด ก็อาจเป็นได้ว่าไดชาร์จอาจมีปัญหา แต่ก็ควรที่จะเช็คแบตเตอรี่ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งก็รวมไปถึงแบตเตอรี่ด้วยครับ โดย หากแบตเตอรี่ (ยังสมบูรณ์) แต่ต้องชาร์จไฟบ่อยๆ ล่ะก็ อาจจะต้องนำไดชาร์จไป ตรวจเช็คหรือเปลี่ยนโดยด่วนเลยล่ะครับ อายุของรถ เป็นธรรมดาของทุกสรรพสิ่งที่ต้องเสื่อมไปตามกาลเวลา ยิ่งรถเก่าๆ ที่มีปัญหาเรื่องการสตาร์ทบ่อยๆ ด้วยล่ะก็ จะมีแนวโน้มที่ไดชาร์จจะเสื่อมค่อนข้าง สูงเลยล่ะครับ ปัญหาจากสายพานไดชาร์จ บางทีก็เป็นปัญหาเส้นผมบังภูเขา เพราะไดชาร์จ กับแบตเตอรี่อาจจะยังปกติ เพียงแต่สายพานเสื่อมสภาพจนไม่สามารถขับเคลื่อน ไดชาร์จได้ก็มี ส่วนใหญ่จะมาพร้อมเสียงด้วยครับ อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ให้ลองไปเปิดไฟหน้า, เครื่องเสียง หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ แล้วลองดูว่ารอบเครื่องตกหรือไม่นิ่งหรือไม่? ซึ่งถ้ารถออก อาการดังกล่าวก็แสดงว่าไดชาร์จเริ่มเสื่อมแล้วครับ ถ้าเป็นรถเดิมๆ จากโรงงาน หรือเป็นรถที่ไม่ได้มีอุปกรณ์ไฟฟ้าแปลกปลอมไปกว่า ของเดิมมากนัก ระบบไฟฟ้าก็มักจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่หากนำรถไปติดตั้ง เครื่องเสียง, สปอทไลท์ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการใช้กระแสมากกว่าปกติ ก็จะมี ปัญหาเรื่องกระแสไฟไม่พอการเปลี่ยนเฉพาะไดชาร์จหรือแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ ขึ้นเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง จะก่อให้เกิด ปัญหาตามมาในภายหลัง อย่างเช่น หาก เปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้น แต่ไดชาร์จ เท่าเดิม ก็จะทำให้ไดชาร์จ ต้องทำงาน เกือบตลอดเวลา เพื่อที่จะผลิตกระแสไฟ ป้อนให้กับตัวแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (เติมเท่าไหร่ก็จะไม่เต็ม) ในทางตรงกัน ข้าม หากเปลี่ยนเฉพาะไดชาร์จให้ใหญ่ ขึ้นเพียงอย่างเดียว (แบตเตอรี่เท่าเดิม) ก็จะก่อให้เกิดการชาร์จกระแสไฟมากเกิน ก็ยังผลให้ แผ่นธาตุในตัวแบตเตอรี่เสื่อม สภาพเร็วขึ้น หรืออาจรุนแรงขนาดถึงขั้น แบตเตอรี่ระเบิดจากการชาร์จมากเกินได้ด้วยครับ ปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้าเป็นอะไรที่ค่อนข้างใกล้ตัวเรามาก เพราะนับตั้งแต่สตาร์ท เครื่องก็ต้องใช้กระแสไฟฟ้าแล้ว ไหนจะระบบจุดระเบิด, ระบบส่องสว่างต่างๆหรือ กระทั่งความบันเทิงภายในห้องโดยสาร ก็ล้วนแต่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าทั้งนั้นดังนั้น หากอุปกรณ์หลักอย่างไดชาร์จ มีอาการรวนล่ะก็ วุ่นวายไม่น้อยเหมือนกันถ้าเสื่อม สภาพตามกาลเวลาคงป้องกันอะไรไม่ได้มาก เท่าที่ทำได้ก็คือจะต้องหมั่นสังเกตุ อาการผิดปกติ แล้วรีบตรวจเช็คโดยเร็วที่สุดนั่นแหละครับ ที่มา etoyota club
ขอเพิ่มเติมจากกระทู้ข้างบนอีกนิดหนึ่ง การเปลี่ยนไดชาร์ตให้ลูกใหญ่ขึ้น บางทีอาจทำไม่ได้ เพราะตำแหน่งของไดชาร์ตมันตายตัว การขันน๊อตระหว่างขายึดเดิมกับตัวไดชาร์ตใหม่ที่ไม่ตรงรุ่น จะไม่พอดีกัน ในกรณีนี้ อาจต้องทำขายึดขึ้นมาใหม่ซึ่งทำให้เสียเวลามากขึ้นไปอีก เอาแบบตรงรุ่นดีที่สุดครับ
ซ่อมได้ครับ แต่เขาไม่นิยมซ่อมกันหรอกเพราะมันเสียเวลา คุณอาจจะต้องจอดรถทิ้งไว้ที่ร้านซ่อมไดนาโมเป็นวันๆ เพราะรถถูกถอดไดชาร์ตออกก็วิ่งไปไหนไม่ได้นะครับ มิหนำซ้ำ ซ่อมมาแล้วก็ยังไมรู้ว่าจะใช้ได้นานอีกแค่ไหน แต่ถ้า เปลี่ยนไดลูกใหม่เข้าไปเนี่ยใช้เวลาติดตั้งแค่ประมาณ 1 ช.ม. ก็เสร็จแล้ว และใช้ กันจนลืม เพราะมันไม่ใช่อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่เสียง่าย ไดชาร์ตใหม่ ลูกๆหนึ่งใช้ได้เป็นแสนโล อีกอย่างหนึ่งก็คือราคาซ๋อมก็เป็นหลักพัน สู้ซี้อใหม่ไปเลยไม่ดีกว่ารึ