"คาเทอร์แฮม" คอนเฟิร์มนักขับส่ง "โคบายาชิ" ซิ่งคู่ "อิริคส์สัน"

2 นักขับหลักของ คาร์เทอร์แฮม คามูอิ โคบายาชิ (ซ้าย) และ มาร์คุส อีริกสัน (ขวา) ถ่ายภาพร่วมกับ โรบิน ฟรินซ์ (กลาง) นักขับสำรอง​

คาเทอร์แฮม ทีมแข่งสมันน้อยในศึกรถสูตรหนึ่ง ยืนยันใช้บริการ คามูอิ โคบายาชิ และ มาร์คุส อิริคส์สัน ลงทำหน้าที่ให้กับทีมในฤดูกาล 2014 โดยมี โรบิน ฟรินส์ และ อเล็กซานเดอร์ รอสซี่ เป็นนักขับสำรอง

ก่อนหน้านี้บรรดาทีมแข่ง แห่ง ศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ได้ออกมาเปิดเผยรายชื่อนักขับที่จะลงทำหน้าที่ให้กับทีมในฤดูกาล 2014 โดยส่วนใหญ่ได้ทำการยืนยันรายชื่อนักขับเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียง คาเทอร์แฮม ที่ยังไม่สามารถยืนยันในเรื่องดังกล่าว

ล่าสุด ทีมแข่งเมืองผู้ดี ได้ออกมาเปิดเผยว่า คามูอิ โคบายาชิ และ มาร์คุส อิริคส์สัน จะเข้ามารับหน้าที่นักขับของทีมแทนที่ ชาลส์ พิค และ กิเอโด ฟาน เดอร์ การ์เด ที่ทำผลงานได้ไม่เข้าตา หลังไม่สามารถคว้าแต้มติดมือได้เลย ส่งผลให้พาทีมรั้งอันดับบ๊วยในฤดูกาลที่ผ่านมา

โดย โคบายาชิ กล่าวถึงต้นสังกัดใหม่ว่า "รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างมากกับโอกาสที่ได้รับในครั้งนี้ ก่อนอื่นขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนที่ร่วมบริจาคใน โครงการคามูอิ ซัพพอร์ต ซึ่งเป็นแรงผลักดันหลักให้ตนได้คัมแบ็กสู่เวทีเอฟวันอีกครั้ง หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของตนที่จะตอบแทนด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในสนาม"

ด้าน อิริคส์สัน ซึ่งเป็นรุ๊กกี้เพียงคนเดียวในฤดูกาลนี้ ได้เปิดใจว่า "ดีใจเป็นอย่างมากที่ได้สานฝันของตนเองให้เป็นจริงได้ ผมเองก้าวเข้าสู่วงการความเร็วด้วยวัย 9 ปี โดยมีจุดหมายอยู่ที่ ศึกเอฟวัน ซึ่งตนเองค่อนข้างมั่นใจว่าพร้อมสำหรับการแข่งขันในฤดูกาลนี้ และหวังว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเติบโตไปพร้อมกับ คาเทอร์แฮม"

สำหรับ คามูอิ โคบายาชิ ก้าวเข้าสู่เวทีเอฟวัน ในปี 2009 ร่วมกับ ทีมโตโยต้า หลังจากนั้นได้ย้ายมาลงซิ่งให้กับ เซาเบอร์ ในฤดูกาล 2010-2012 ก่อนจะโยกไปทำการชิงชัย ศึกเวิลด์เอ็นดูรานซ์ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วน มาร์คุส อิริคส์สัน มีประสบการณ์ลงซิ่งบนเวทีจีพีทูตั้งแต่ฤดูกาล 2010-2013 โดยผลงานที่ดีที่สุดคือการจบฤดูกาลด้วยอันดับ 6 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลที่ผ่านมา

ศึกเอฟวัน 2014 มีคิวลงทำการทดสอบอย่างเป็นทางการ (ออฟฟิเชียล เทสต์) ครั้งแรกในวันที่ 28 มกราคม นี้ ณ เฆเรซ เซอร์กิต ประเทศสเปน

คามูอิ โคบายาชิ นักขับญี่ปุ่น


มาร์คุส อิริคสัน ดาวรุ่งที่ไต่เต้าขึ้นมาจาก จีพีทู (GP2)​

ที่มา: http://www.motorsportlives.com