วันนี้ทีมงานของ RacingWeb.NET ได้รับมอบหมายงานสำคัญให้ทดสอบยาง Michelin Pilot Sport 3 ซึ่งเปิดตัวมาเกือบ 4 ปีแล้ว โดยเมื่อต้นปี 2553 RacingWeb.NET ก็ได้รับเชิญให้ร่วมทดสอบยางรุ่นนี้ที่สนามแก่งกระจาน ซึ่งในครั้งนั้นเป็นการทดสอบที่ค่อนข้างเน้นประสิทธิภาพของยาง ณ สภาวะการทำงานที่ความเร็วสูงทั้งสภาพถนนแห้งและถนนเปียก ซึ่งผลการทดสอบที่ได้อยู่ในระดับที่ดีมากๆสมกับเทคโนโลยีต่างๆที่พัฒนาขึ้นมาในสมัยนั้น คำถามคือ ทำไมตอนนี้ Michelin ยังมาให้ทดสอบยางรุ่น Pilot Sport 3 ที่เปิดตัวมาแล้วยาวนานถึง 4 ปี ...



ความแตกต่างอยู่ตรงนี้ครับคือ ในครั้งนี้เป็นการทดสอบในสภาวะการใช้งานจริงบนถนน ใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่จะต้องเจอสภาพถนนทั้งเรียบและไม่เรียบ พื้นคอนกรีตหรือพื้นลาดยาง สภาพแห้งและเปียก หรือแม้กระทั่งทางลูกรัง ซึ่งก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับสื่อมวลชนอย่างเรานะครับ เพราะต้องเรียนให้ทราบว่าการทดสอบที่ผ่านมาเป็นการทดสอบในสนามที่มีการ Setup ทุกอย่างไว้ให้เสร็จ ทั้งตัวรถ ยางรุ่นใหม่ที่เปิดตัว ยางรุ่นเก่าหรือยางของยี่ห้อคู่แข่ง พื้นสนามไม่ว่าจะแห้งหรือเปียก หรือความเร็วที่กำหนดให้ใช้ทดสอบ ทุกสิ่งล้วนถูกควบคุมไว้หมด ทั้งนี้ต้องเข้าใจนะครับว่าเพื่อความปลอดภัยในการทดสอบเพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และการควบคุมบางอย่างให้เกิดความโปร่งใสในการทดสอบในเคสที่มีการเปรียบเทียบการใช้งานกับยางรุ่นอื่น เช่นความดันลมยางของรถทดสอบ รุ่นของรถที่นำมาทดสอบ ปีการผลิตยางหรือความสดของยางที่นำมาทดสอบ แต่ก็ยังมีค่าบางอย่างที่ทางสื่อมวลชนเองไม่สามารถตรวจสอบได้ เช่น มุมล้อของรถที่นำมาทดสอบหรือระบบช่วงล่างต่าง ทั้งนี้ผมไม่ได้หมายถึงว่าการจัดการทดสอบที่ผ่านมาจะมีการเซ็ตช่วงล่างของรถให้แตกต่างกันนะครับ เพียงแต่ว่าการตรวจสอบรายละเอียดพวกนี้จะใช้เวลาค่อนข้างนาน หากรวมการตรวจสอบช่วงล่างเข้ามาในกิจกรรมการทดสอบด้วยแล้วจะทำให้กิจกรรมกินเวลานานมากกว่าเดิมพอสมควร ดังนั้นในการทดสอบที่ผ่านมาการใช้รถยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกันในการทดสอบเปรียบเทียบยางจึงอยู่ในพื้นฐานของความคิดที่ว่าทุกอย่างเหมือนกัน



แต่ก็นั่นแหละครับ อย่างไรมันก็ยังมีจุดให้คิดหรือจุดให้ตั้งข้อสังเกตุตามประสาสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทดสอบที่จะต้องนำข้อมูลมานำเสนอในฐานะสื่อกลาง ดังนั้นการได้ทดสอบด้วยรถของตัวเอง กับการใช้งานจริงๆในชีวิตประจำวัน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้เห็นถึงความแตกต่างหรือสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นเมื่อเปลี่ยนมาใช้ยาง Michelin Pilot Sport 3 โดยความท้าทายที่เป็นโจทย์ของการทดสอบนี้คือ 4 ปีที่ผ่านมาสื่อมวลชนต่างๆย่อมได้รับเชิญไปทดสอบยางรุ่นใหม่ๆของยี่ห้อต่างๆมากมายที่มีการเปิดตัวและมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆที่แต่ละยี่ห้อค้นคว้าและวิจัยมาให้เพิ่มประสิทธิภาพยางรุ่นใหม่ของตัวเอง แต่ทาง Michelin ก็ยังคงยืนหยัดในรุ่น Pilot Sport 3 ที่เปิดตัวมาแล้วเกือบ 4 ปี ด้วยเทคโนโลยีในยุคนั้นเพื่อให้ลองจับความรู้สึกดูว่า Pilot Sport 3 ยังคงมีคุณสมบัติที่เป็นหนึ่งในยางเกรดรถ Sport ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงไว้อย่างครบถ้วนไม่แพ้ยางรุ่นใหม่ๆของยี่ห้ออื่นได้หรือเปล่า

เราลองตามมาดูกันครับว่ากับยาง Michelin Pilot Sport 3 ในการทดสอบการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นเป็นอย่างไร



สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ เราใช้รถของทีมงาน RacingWeb.NET 2 คัน 2 สไตล์ การขับ คันแรกเป็น Mercedes Benz C180 ใช้ยางเบอร์ 215/55 R16 รถช่วงล่างเดิมหมดทุกอย่าง เป็นรถที่ผมใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วๆไป เดินทางไกลซะส่วนใหญ่ และเมื่อเดินทางไกลก็อาจจะมีใช้ความเร็วสูงบ้างในบางโอกาส ซึ่งใช้รถคันนี้จะเห็นถึงประสิทธิภาพของความนุ่มเงียบของยางได้ค่อนข้างชัดเจน

ส่วนอีกคันเป็น Toyota VIOS ใช้ยางเบอร์ 205/50 R16 ใช้ช่วงล่างแต่ง เป็นรถที่น้อง บี แห่ง BZ Magazine หนึ่งในทีมงานของ RacingWeb.NET ใช้งานในชีวิตประจำวันค่อนข้างใช้ความเร็ว ซึ่งจะสะท้อนมุมการใช้งานในด้านสมรรถนะของยางด้านการเกาะถนนได้เป็นอย่างดี

เราเริ่มต้นจากการเปลี่ยนยางที่ศูนย์ Tyre Plus ครับ ซึ่งเป็นศูนย์บริการด้านยางรถยนต์ Michelin ที่มีมาตรฐานการให้บริการสูง







ทำการเปลี่ยนยาง ถ่วงล้อ ตั้งศูนย์ และบริการตรวจสภาพรถอื่นๆเช่นวัดการทำงานของไดชาร์ทให้เราเรียบร้อย







ในวันรุ่งขึ้นเราก็เดินทางไปถ่ายรูปทำข่าวในงาน Thailand Super Series ที่จัดขึ้นที่สนามแข่งรถพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต (พัทยา) ซึ่งถือเป็นการได้ทดสอบสมรรถนะด้านต่างๆของยาง Michelin Pilot Sport 3 ไปในตัว



สำหรับ C180 นั้น ด้วยอายุของรถ และพละกำลังที่ยังพอจะมีเหลืออยู่ให้ใช้นั้นจึงเป็นการใช้งานแบบเรียบๆ ค่อยๆไป หนักไปทางความเร็วปลายและการเข้าโค้งที่ความเร็วสูงที่ต้องบวกน้ำหนักของ Body รถอันจะทำให้ยางต้องแบกภาระโมเมนตั้มของตัวรถเข้าไปด้วย แต่การใช้ Michelin Pilot Sport 3 กลับทำให้เกิดความรู้สึกมั่นคงเพิ่มขึ้นมากได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ยังไม่ได้ออกจากกรุงเทพฯ ซึ่งผมใช้เส้นทางด่วนวิ่งไปพระรามเก้าในการออกสู่มอเตอร์เวย์ บนทางด่วนนั้นเองจึงได้ทดลองใช้ความเร็วในการเข้าโค้งซึ่งในความเร็วที่ใช้นั้นค่อนข้างสูงแต่อาการของตัวรถกลับนิ่งชนิดที่ไม่เคยรู้สึกกับรถคันนี้มาก่อน การตอบสนองในลักษณะที่ทำให้ผู้ขับรู้สึกได้ว่ามันยังไปได้อีกเยอะ





เมื่อออกจากถนนอันพลุกพล่านของกรุงเทพฯ จึงได้ใช้ความเร็วในระดับต่างๆเพื่อลองดูเสียงของยางระหว่างใช้งานที่ความเร็วสูง ถือว่าทำได้ดีมากครับ ต้องบอกก่อนว่าก่อนที่จะเปลี่ยนมาทดลองใช้ Michelin Pilot Sport 3 นั้นผมใช้ยางอีกยี่ห้อนึงอยู่ ซึ่งเป็นรุ่น Top ในด้านความนุ่มเงียบของยี่ห้อนั้นเลยทีเดียว แต่เมื่อเทียบกับความเสียงระหว่างใช้งาน Michelin Pilot Sport 3 แล้วนั้นถือว่าใกล้เคียงกันมากแม้ว่า Michelin Pilot Sport 3 จะเป็นยางในกลุ่ม Sport ที่ไม่ได้เน้นความนุ่มเงียบก็ตาม



สำหรับการใช้งานในรถ Vios ที่วิ่งไปด้วยกันแต่น้องบีใช้ความเร็วสูงกว่าเยอะ น้องบีได้ให้ความเห็นในการทดสอบช่วงนี้ดังนี้



"ตอนแรกก็ไม่ชอบลายดอกยางของรุ่นนี้นะครับ ลายดอกยางเหมือนยางรถบ้านๆทั่วๆไปจนไม่คิดว่ามันจะเกาะถนนได้ซักเท่าไหร่ พอทราบว่าจะได้ทดสอบยางรุ่นนี้เพื่อนๆในกลุ่มก็บอกว่าเป็นยางที่ดีรุ่นนึงเลยนะ แต่เราแต่งรถก็ยังมีความเชื่อจากการดูลายดอกยางแล้วว่าการเกาะถนนคงสู้ยางที่มีลายดอกยางที่มีพื้นผิวสัมผัสถนนมากกว่านี้ไม่ได้ แต่เมื่อกี้ที่ได้ทดลองใช้ความเร็วบนทางด่วน รวมถึงการใช้ความเร็วในเส้นมอเตอร์เวย์ โดยมีทั้งโค้ง การเปลี่ยนเลน หรือการเบรค อาการของรถนิ่งกว่าที่เคยใช้ค่อนข้างเยอะทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ใช้ยางขอบ 17 ที่มีแก้มเตี้ยและมีหน้ายางกว้างกว่านี้ แต่ Michelin Pilot Sport 3 ขอบ 16 ที่มีแก้มยางที่หนากว่าและหน้ายางแคบกว่ากลับทำได้ดีกว่า การเข้าโค้งหรือการเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูงรู้สึกถึงความคมและแม่นยำจนทำให้เรามั่นใจในการใช้งานเพิ่มขึ้น"

ครับ บททดสอบขั้นต้นที่เราทั้งคู่ได้สัมผัสการใช้งานในชั่วโมงแรกๆจากการใช้งานด้วยรถ 2 ประเภท 2 สไตล์ โดยเฉพาะในเคสของน้องบี ที่แม้จะเป็นการเทียบกับความรู้สึกเดิมที่เคยใช้ยางหน้ากว้างแก้มเตี้ยของขอบ 17 มาก่อน แต่กลับรู้สึกได้ว่าเมื่อใช้ขอบ 16 ของ Pilot Sport 3 แล้วรู้สึกมั่นใจกว่า ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเกิดจากเทคโนโลยีที่ใช้ในการออกแบบโครงสร้างของยางและการออกแบบดอกยางครับ



เมื่อเราเสร็จงานที่สนามพีระฯ ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่ง ณ วันที่เราไปถนนหน้าพีระฯมีการซ่อมแซมอยู่เป็นระยะทางยาว เราจึงได้โอกาสทดสอบการใช้งานในการวิ่งบนถนนกรวด เพื่อดูความนุ่มเงียบ



บนรถ C180 นั้นความนุ่มถือว่าอยู่ในระดับดีครับ แต่คงนุ่มเท่ากับยางในกลุ่มรถ Comfort Premium ไม่ได้เพราะยางรุ่นนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเน้นด้านนี้มาก ส่วนความเงียบก็ยังเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับตอนขับมาคือเงียบในระดับดีใกล้เคียงกับยางรุ่น Top ด้านความนุ่มเงียบของอีกยี่ห้อ แต่ก็ได้แค่ความใกล้เคียงเท่านั้นนะครับ



เราลองมาดูความเห็นในการใช้งานกับสภาพถนนแบบนี้จากน้องบีรถ VIOS ดูบ้าง



"ผมว่ามันนิ่มนะ เรื่องเงียบนี้เงียบแบบไม่ชินหูเลย คือด้วยความที่ผมใช้บางแก้มเตี้ยในรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับรถซิ่งๆหน่อยมาตลอด มาเจอยางรุ่นนี้เลยรู้สึกว่ามันนิ่มผิดหูผิดตา เรื่องความเงียบก็เหมือนกัน ยางพวกที่เน้นขับเร็วส่วนมากจะไม่ค่อยเงียบแต่มันก็ต้องแลกเอากับดอกยางลายกว้างๆเพื่อให้มันเกาะถนน ซึ่งก็รู้สึกดีนะครับ เราได้ความนิ่มขึ้น ได้ความเงียบขึ้น และยังได้การเกาะถนนที่ดีเท่าหรือดีกว่าเดิมจากที่เคยใช้ขอบ 17 มา"



และสุดท้ายในวันเดียวกันนั้นเหมือนสภาพอากาศเป็นใจให้เราได้ทดสอบกันได้ครบทุกสภาวะ คือเกิดฝนตกระหว่างทางครับ แต่บอกไว้ก่อนนะครับว่า การทดสอบในสภาพพื้นเปียกและไม่ได้อยู่ในสนามทดสอบหรือสนามแข่งนั้นมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้ค่อนข้างสูง และตัวผมเองกับน้องบีนั้นปกติแล้วถ้าเจอฝนเราทั้งคู่จะขับช้าอยู่แล้ว และเส้นทางในวันนั้นช่วงที่ฝนตกก็เป็นช่วงที่มีแต่ทางตรง จึงยังไม่ค่อยได้ทดสอบอะไรซักเท่าไหร่ โดยเมื่อเสร็จงานวันนั้นต่างคนจึงต่างใช้งานและค่อยนำมาสรุปฝลจากการใช้งานเพื่อเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง

... 3 สัปดาห์ผ่านไป

ผลจากการใช้งานด้วยรถ C180 จากผมเองผมขอสรุปไว้ดังนี้นะครับ



ยาง Michelin Pilot Sport 3 นั้นแม้จะเป็นยางที่ออกมาแล้วเกือบ 4 ปี โดยที่ผ่านมาตลอด 4 ปีผมได้ร่วมทดสอบยางยี่ห้อต่างๆ รุ่นต่างๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ Michelin Pilot Sport 3 มาโดยตลอด ซึ่งยอมรับครับว่าผมลืมฟิลลิ่งของ Pilot Sport 3 ไปหมดแล้ว และด้วยความคิดแบบบ้านๆว่า ยางรุ่นใหม่ๆมันก็คงดีขึ้นและพัฒนาเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่ Michelin จะเปิดตัวยางรุ่นใหม่ในกลุ่มนี้เพื่อมาแข่งขันกับยี่ห้ออื่นๆที่ทยอยออกรุ่นใหม่กันมาเรื่อยๆ แต่แปลกครับ Michelin ยังคงให้เราเอา Pilot Sport 3 มาให้เราทดลองใช้ดูอีกรอบ เพื่อให้เห็นว่าที่ผ่านมานั้นคุณสมบัติที่เคยมีอยู่ใน Pilot Sport 3 ไม่ได้ลดลงหรือด้อยกว่ายางรุ่นใหม่ๆของยี่ห้ออื่นแต่ประการใด ซึ่งความรู้สึกหรือประสบการณ์ที่ได้รับตลอดเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมานั้นก็เป็นไปในแนวทางนั้นครับ



การบ้านที่ยังขาดหายไปในวันแรกๆที่ทดสอบคือการใช้งานในขณะถนนเปียก ซึ่ง 3 สัปดาห์ให้หลังก็ได้มีโอกาสใช้งานในรูปแบบถนนเปียกที่ความเร็วสูงรวมถึงการเข้าโค้งบนถนนเปียก ยอมรับครับว่าโดดเด่นมากๆ น่าประทับใจมาก รถไม่มีอาการลื่นหรือเหิรน้ำเลยแม้แต่น้อยทั้งๆที่ใช้ความเร็วพอสมควร ความนุ่มเงียบอาจจะสู้ยางกลุ่มที่เน้นความนุ่มเงียบไม่ได้แต่ก็ไม่ได้น้อยกว่ามากนัก แต่เรื่องรีดน้ำหรือใช้งานบนถนนเปียกนี่ต้องยอมรับเลยครับว่า ดีมากๆจริงๆ ผมกับพี่เก่งยังเคยให้ความเห็นสำหรับยางรุ่นนี้ในช่วงเปิดตัวเมื่อ 4 ปีที่แล้วไว้เลยครับว่า รถแข่ง Circuit น่าจะใช้ยางรุ่นนี้เป็นยางแข่งขันในสภาพฝนตกได้เลยด้วยซ้ำ

สำหรับน้องบีที่ใช้รถ VIOS ได้สรุปไว้ดังนี้ครับ



"สำหรับผมเองใช้ความเร็วค่อนข้างสูงในการใช้งาน ตัวรถมีการเซ็ตช่วงล่างมาให้รองรับการใช้งานความเร็วสูงอยู่แล้ว เมื่อได้ยางดีๆเข้าไปก็ยิ่งเพิ่มความสามารถของรถผมให้ดีขึ้นไปอีก วันแรกๆอาจจะแค่ตื่นเต้นกับของใหม่ แต่ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมามันยิ่งทำให้แปลกใจเพิ่มขึ้น ยิ่งใช้ยิ่งติดใจครับ อย่างที่บอกก่อนใช้ผมมองค่อนข้างแง่ลบกับลายดอกยาง รวมถึงล้อเดิมที่ใช้เป็นขอบ 17 ที่มีแก้มเตี้ย หน้ายางกว้าง จึงมีความรู้สึกว่าเมื่อเราได้ Pilot Sport 3 ขอบ 16 ที่หน้ายางแคบกว่า และแก้มยางสูงกว่ามันจะมาสู้ใส่ขอบ 17 ได้อย่างไร แต่ปรากฏว่าที่ใช้มาเกือบ 1 เดือน ติดใจครับ ดอกยางที่ไม่หล่อก็ใช่ว่ามันจะไม่ดีเสมอไป ผมว่าเค้าออกแบบมาได้ดีนะ เรื่องนิ่มนี่ส่วนนึงอาจจะได้จากแก้มยางขอบ 16 ที่สูงขึ้น แต่ยังไงก็รู้สึกดีอยู่ดีเพราะแม้จะนิ่มขึ้นแต่มันก็เกาะกว่าเดิมซะอีก ภาพเก่าๆที่เรามองว่ายางแก้มสูงกว่าจะมีการโยนตัวของแก้มยางนั้นหายไปเลย เรื่องเงียบนี่ยกให้เลย ไม่เคยใช้หรอกยางเงียบๆเพราะใช้ยางซิ่งมาตลอด พอมาใช้ตัวนี้แล้วเงียบขึ้นผิดหูผิดตา หน้ายางที่แคบกว่าเดิมไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ทั้งถนนเปียกถนนแห้ง ทดสอบมาหมดแล้ว บอกได้เลยว่าเกาะมาก เหมาะมากๆสำหรับรถที่ใช้ความเร็วสูงเป็นประจำอย่างผม ทางเปียกนี่มั่นใจมากครับ"



"อ่อแล้วอีกอย่าง การที่เราได้ใช้ยางหน้าแคบลงมันจะเกิดแรงเสียดทานน้อยลง ทำให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นนะ ผมไม่ได้คิดไปเองนะครับ ผมลองจับระดับการกินน้ำมันไว้ด้วย มันประหยัดขึ้น นิ่มขึ้น เงียบขึ้น เกาะขึ้น รวมไว้ในยางรุ่นนี้เลยครับ"



ครับ การใช้งานตลอดเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมาของทีมงาน RacingWeb.NET กับการทดสอบใช้งานจริงที่เกิดขึ้น ผมมองแบบนี้ครับว่า ด้วยรถที่ทาง RacingWeb.NET ใช้ทดสอบมี 2 คันและ 2 รูปแบบการใช้งาน คัน C180 จะเป็นคันที่ใช้ยางเกรด Premuim ที่เน้นความนุ่มเงียบมาโดยตลอด การเกาะถนนก็ให้ความสำคัญนะครับแต่เน้นเรื่องการขับสบายซะมากกว่า ส่วนคัน VIOS ก็ใช้ยางที่เน้นสมรรถนะในการเกาะถนนสูงมาโดยตลอด โดยไม่เคยคำนึงถึงความนุ่มหรือความเงียบ เพราะเป็นรถแต่งซิ่งที่ใช้ความเร็วสูงเป็นหลัก เมื่อต่างก็ใช้งานแบบสุดโต่งกันคนละทางได้มาเจอกับยาง Michelin Pilot Sport 3 ซึ่งกลายเป็นตอบโจทย์ของทั้ง 2 คันได้อย่างลงตัว ใน C180 ความนุ่มเงียบก็ยังคงอยู่ครับและได้ความเกาะถนนและทรงตัวดีเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ส่วน VIOS ของน้องบีนั้นความเกาะถนนมีเพิ่มขึ้นกว่าเดิม แถมยังได้ความนุ่มเงียบเพิ่มเข้ามาอีก และที่สำคัญคือประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งผลที่ได้จากการทดสอบนี้เป็นการตอกย้ำถึงประสิทธิภาพของยาง Michelin Pilot Sport 3 ที่แม้จะผ่านการเปิดตัวมาแล้วเกือบ 4 ปีก็ยังคงเป็นยางที่ดีมีประสิทธิภาพสูงอยู่ในระดับหัวแถวของยางเกรดเดียวกัน ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเด่นนะครับ เด่นตรงที่คุณลองคิดดูว่าการพัฒนาหรือค้นคว้าของ Michelin ที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนจนเกิดเป็นเทคโนโลยีในการผลิตยาง Michelin Pilot Sport 3 นั้นยังคงมีความทันสมัยในปัจจุบันโดยยี่ห้ออื่นๆหรือรุ่นอื่นๆตามยังไม่ทันหรือเพียงแค่ทำได้เทียบเท่า แต่จุดน่าสนใจอยู่ตรงนี้ครับว่า ระหว่าง 4 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เปิดตัว Pilot Sport 3 ไปแล้วนั้น Michelin ค้นคว้าและพัฒนาเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาได้อีกขนาดไหน คุณจึงเชื่อมั่นได้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณเลือกใช้ยาง Michelin คุณจะได้รับเทคโนโลยีที่คงความทันสมัยไปได้อีกหลายปีแม้ยี่ห้ออื่นจะผลิตยางรุ่นใหม่ๆมาแข่งขันในเกรดเดียวกันในภายหลังก็ตามครับ

ขอขอบคุณ Michelin ที่ไว้วางใจให้เราได้ร่วมทดสอบยาง Pilot Sport 3 กับลักษณะการใช้งานบนถนนจริงในครับนี้ครับ และทุกท่านสามารถอ่านรีวิว,บทความการทดสอบยางรุ่นนี้ในสนามทดสอบ แก่งกระจานเซอร์กิตได้ที่ https://racingweb.NET/threads/รูปแล...chelin-pilot-sport-3-ที่สนามแก่งกระจาน.77148/

และติดตามข่าวสารวงการรถแข่ง,รถแต่งได้อีกช่องทางที่ https://www.facebook.com/RacingWeb.NET ครับ