เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Team and group
>
Team and Group
>
DNA Racing Club
>
เรื่องน่ารู้สำหรับคลับเรานะครับ
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="TK RACING, post: 120254, member: 1693"]ความแรงและความประหยัด สวนทางกันเสมอครับ </p><p>มาดูกันก่อนครับว่า อัตราทดเฟืองท้าย คืออะไร ตัวเลข 3.73:1, 3.9:1, 4.1:1 มาจากไหน </p><p>ในรถขับเคลื่อนล้อหลัง จะมีเฟืองท้ายลูกใหญ่อยู่ที่เพลาท้าย ในนั้นจะมีเฟืองหลักๆ สองตัวที่ขบกัน และส่งกำลังให้กันเฟืองตัวแรกคือ เฟืองพีเนียน ที่ตรงมาจากเกียร์รถยนต์ วิ่งมาตามความยาวของรถ อีกตัว คือเฟืองวงแหวน ที่จะส่งกำลังไปที่ล้อ </p><p>และตัวเลข ก็มาจากการนับฟันเฟือง สองตัวนี้ล่ะครับ </p><p>ถ้าริง มี 41 ซี่ </p><p>พิเนียน มี 10 ซี่ </p><p>ก็จะได้ 4.1:1 แปลว่า ล้อหมุน 1 รอบ แกนเพลาจากเกียร์ ต้องหมุนถึง 4.1 รอบ </p><p><br /></p><p>รอบการหมุนของล้อ ก็เกี่ยวข้องกับขนาดยางโดยตรงครับ เพราะยางที่มีเส้นรอบวงไม่เท่ากัน ก็ได้ระยะทางไม่เท่ากันด้วย ในแต่ละรอบ </p><p><br /></p><p>การเลือกเฟืองท้ายให้เหมาะกับความต้องการ มีตัวแปล 4 ตัวคือ </p><p>1 ขนาดยาง (Tire Size ) </p><p>2 อัตราทด เกียร์ (Transmission Ratio ) </p><p>3 อัตราทดเฟืองท้าย (Final Gear Ratio ) </p><p>4 รอบเครื่องยนต์ ที่เราใช้วิ่งแบบสบายๆ ซึ่งก็ประมาณ 55 MPH.(Engine RPM At Cruise Speed) </p><p><br /></p><p>สูตรข้างล่าง คือสูตรคำนวญ เลือกเฟืองท้าย โดยมีรอบเครื่องยนต์เป็นตัวชี้วัด </p><p><br /></p><p>MPH x Gear Ratio </p><p>--------------------- x 336 = Engine RPM </p><p>Tire Diameter </p><p><br /></p><p>สมมุติว่ายางเดิมติดรถ คือ </p><p>195-60 R15 ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาง 24.2 นิ้ว </p><p>ผมเปลี่ยนแมก เปลี่ยนยางเป็น 235 45 17 ซึ่งทำให้ยางใหญ่ขึ้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 25.33 นิ้ว </p><p><br /></p><p>25.33 - 24.2 = 1.13 นิ้ว ใหญ่กว่าเดิม 1.13 นิ้ว นี่ละครับประเด็น เพราะหนึ่งรอบของยางใหม่ ผมไปไกลกว่าเดิมนิดหน่อย </p><p><br /></p><p>ตัวอย่าง เมื่อใช้ยางเดิม </p><p><br /></p><p>55 x 3.73 </p><p>--------------------- x 336 = 2848.36 RPM </p><p>24.2 </p><p><br /></p><p>ถ้าใช้ยางเดิมแล้วเปลี่ยนเฟืองท้ายล่ะ จะเป็นไง </p><p><br /></p><p>55 x 4.1 </p><p>--------------------- x 336 = 3130.9 RPM </p><p>24.2 </p><p><br /></p><p>ปัญหาของผมคือ เฟืองท้ายเดิม ยางใหญขึ้น รอบปกติของผม จะต่ำกว่าตอนที่ใช้ยางเดิมๆ </p><p>55 x 3.73 </p><p>--------------------- x 336 = 2721 RPM </p><p>25.33 </p><p><br /></p><p>เหลือแค่ 2721 รอบต่อนาทีเอง รอบต่ำดีจริงๆ น่าจะประหยัดเนอะ </p><p>จากตัวอย่าง พี่จะเห็นว่าเฟืองท้ายเลขน้อย เมื่อเทียบกับขนาดยาง จะใช้รอบเครื่องน้อยกว่า และก็จะประหยัดน้ำมันด้วย </p><p><br /></p><p>อ้าว แล้วอยากเปลี่ยนเฟืองท้ายไปเป็น 4.1 กันทำไมหว่า.................... </p><p><br /></p><p>ก็แหมพี่ รถซิ่งอ่ะครับ </p><p>รถผมวางเจ สมมุติว่าเทอร์โบรถผมทำงานดีดีที่ 3500 รอบต่อนาที แรงม้าสูงสุดของผม มันอยู่ที่ 5500 รอบต่อนาที </p><p><br /></p><p>ถ้าผมขับอยู่ที่ 2721 รอบเรื่อย เกิดต้องการเร่งแซง ผมก็ต้องใช้เวลาไต่รอบนานมาก กว่าจะไปถึง 3500 รอบ </p><p>แต่ถ้าผมเปลี่ยนเป็น เฟืองท้าย 4.1 ล่ะ จะเป็นไง </p><p><br /></p><p>55 x 4.1 </p><p>--------------------- x 336 = 2991 RPM </p><p>25.33 </p><p><br /></p><p>รอบเล็กๆ น้อย คิดกันเป็นเสี้ยววินาที นี่ล่ะครับ ชิงจังหวะกันบนถนนด้วยจุดนี้ รอรอบนิดเดียว เพื่อนหนีไปแล้ว </p><p><br /></p><p>คราวนี้ มาดูที่ชาร์จ </p><p>แถวบน ขวาง คือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยางเป็นนิ้ว </p><p>แนวตั้งคือ เฟืองท้าย </p><p><br /></p><p>แถบสีชมพูคือ การใช้งานทั่วไป </p><p>ถ้าต้องการเปลี่ยนเฟืองท้ายให้ได้ความประหยัด ก็เลือกสีเหลืองช่วงบน </p><p>แต่ถ้าต้องการกำลัง เลือกแถบเหลืองช่วงล่าง </p><p>สรุปให้เข้าใจเห็นภาพง่ายๆที่สุดคือ </p><p><br /></p><p>ขนาดยาง มีผลต่ออัตราทดเฟืองท้าย </p><p>เช่นรถกระบะ ยกสูง เปลี่ยนยางใหญ่แทนยางเดิม แล้วไม่เปลี่ยนเฟืองท้าย รอบจะต่ำลงเป็นอย่างมาก </p><p>การเปลี่ยนเฟืองท้ายให้เหมาะกับขนาดยางใหม่ ช่วยให้รอบเครื่องกลับมาอยู่ที่จุดเดิมเหมือนรถสแตนดาร์ดได้ครับ </p><p><br /></p><p>ถ้ายางเท่าเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง </p><p>เฟืองท้ายอัตราทดต่ำ จะประหยัดน้ำมันกว่าเฟืองท้ายเลขสูงๆ และมีความเร็วสูงสุดที่มากกว่า แต่มันจะไต่ระดับความเร็วขึ้นไปแบบช้าๆ และต้องใช้ระยะทางวิ่งนานกว่าที่จะได้ความเร็วที่ต้องการ </p><p><br /></p><p>เปลี่ยนเฟืองท้ายสูงขึ้น รถอยู่ในรอบเครื่องยนต์ใกล้จุด Hi performance กว่าเดิม จังหวะเร่งแซง ออกตัวดีขึ้น เกียร์เปลี่ยนเร็วขึ้น แต่ความเร็วสูงสุด น้อยลง </p><p>เหมาะกับการขับแบบสปริ๊นท์ แคร๊ก ทางที่มีโค้งมากๆ มีเนินมากๆ ไม่ใช่ทางตรงยาว แบบขับเอื่อยๆ และกินน้ำมันกว่า </p><p><br /></p><p>เฟืองท้ายอัตราทดสูง ซี่งมากกว่าเดิม เปราะลง </p><p><br /></p><p>เกียร์ออโต้ เฟืองท้ายต่ำ อืด </p><p><br /></p><p>เชนเกียร์ ไม่ระวัง เฟืองท้ายแตก เสียเงิน </p><p><br /></p><p>จากตัวอย่างในรูปนี้ สมมุติว่า รถกระบะของพี่พี่ ใช้ยางเดิม (H - 3) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 26 นิ้ว อัตราทดเฟืองท้ายเดิมๆ คือ 3.54 รอบปกติ ที่ใช้งานทั่วไปก็อยู่ที่ 2,516RPM </p><p>แต่มันไม่เท่ห์ เลยเอาไปยกสูง ใส่ยาง 30 นิ้ว มัดเทอร์เรน และตั้งใจว่าจะใช้งานปกติวิ่งทั่วไปในเมืองบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง ก็ควรเปลี่ยนเฟืองท้ายเสียใหม่ เป็น 4.1 เพื่อให้ได้รอบทำงานตามเดิม ( K - 7 ) </p><p><br /></p><p>แต่ถ้าอยากแรงขึ้นมาก็อาจเปลี่ยนเป็น N -7 แทนนะครับ[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="TK RACING, post: 120254, member: 1693"]ความแรงและความประหยัด สวนทางกันเสมอครับ มาดูกันก่อนครับว่า อัตราทดเฟืองท้าย คืออะไร ตัวเลข 3.73:1, 3.9:1, 4.1:1 มาจากไหน ในรถขับเคลื่อนล้อหลัง จะมีเฟืองท้ายลูกใหญ่อยู่ที่เพลาท้าย ในนั้นจะมีเฟืองหลักๆ สองตัวที่ขบกัน และส่งกำลังให้กันเฟืองตัวแรกคือ เฟืองพีเนียน ที่ตรงมาจากเกียร์รถยนต์ วิ่งมาตามความยาวของรถ อีกตัว คือเฟืองวงแหวน ที่จะส่งกำลังไปที่ล้อ และตัวเลข ก็มาจากการนับฟันเฟือง สองตัวนี้ล่ะครับ ถ้าริง มี 41 ซี่ พิเนียน มี 10 ซี่ ก็จะได้ 4.1:1 แปลว่า ล้อหมุน 1 รอบ แกนเพลาจากเกียร์ ต้องหมุนถึง 4.1 รอบ รอบการหมุนของล้อ ก็เกี่ยวข้องกับขนาดยางโดยตรงครับ เพราะยางที่มีเส้นรอบวงไม่เท่ากัน ก็ได้ระยะทางไม่เท่ากันด้วย ในแต่ละรอบ การเลือกเฟืองท้ายให้เหมาะกับความต้องการ มีตัวแปล 4 ตัวคือ 1 ขนาดยาง (Tire Size ) 2 อัตราทด เกียร์ (Transmission Ratio ) 3 อัตราทดเฟืองท้าย (Final Gear Ratio ) 4 รอบเครื่องยนต์ ที่เราใช้วิ่งแบบสบายๆ ซึ่งก็ประมาณ 55 MPH.(Engine RPM At Cruise Speed) สูตรข้างล่าง คือสูตรคำนวญ เลือกเฟืองท้าย โดยมีรอบเครื่องยนต์เป็นตัวชี้วัด MPH x Gear Ratio --------------------- x 336 = Engine RPM Tire Diameter สมมุติว่ายางเดิมติดรถ คือ 195-60 R15 ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาง 24.2 นิ้ว ผมเปลี่ยนแมก เปลี่ยนยางเป็น 235 45 17 ซึ่งทำให้ยางใหญ่ขึ้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 25.33 นิ้ว 25.33 - 24.2 = 1.13 นิ้ว ใหญ่กว่าเดิม 1.13 นิ้ว นี่ละครับประเด็น เพราะหนึ่งรอบของยางใหม่ ผมไปไกลกว่าเดิมนิดหน่อย ตัวอย่าง เมื่อใช้ยางเดิม 55 x 3.73 --------------------- x 336 = 2848.36 RPM 24.2 ถ้าใช้ยางเดิมแล้วเปลี่ยนเฟืองท้ายล่ะ จะเป็นไง 55 x 4.1 --------------------- x 336 = 3130.9 RPM 24.2 ปัญหาของผมคือ เฟืองท้ายเดิม ยางใหญขึ้น รอบปกติของผม จะต่ำกว่าตอนที่ใช้ยางเดิมๆ 55 x 3.73 --------------------- x 336 = 2721 RPM 25.33 เหลือแค่ 2721 รอบต่อนาทีเอง รอบต่ำดีจริงๆ น่าจะประหยัดเนอะ จากตัวอย่าง พี่จะเห็นว่าเฟืองท้ายเลขน้อย เมื่อเทียบกับขนาดยาง จะใช้รอบเครื่องน้อยกว่า และก็จะประหยัดน้ำมันด้วย อ้าว แล้วอยากเปลี่ยนเฟืองท้ายไปเป็น 4.1 กันทำไมหว่า.................... ก็แหมพี่ รถซิ่งอ่ะครับ รถผมวางเจ สมมุติว่าเทอร์โบรถผมทำงานดีดีที่ 3500 รอบต่อนาที แรงม้าสูงสุดของผม มันอยู่ที่ 5500 รอบต่อนาที ถ้าผมขับอยู่ที่ 2721 รอบเรื่อย เกิดต้องการเร่งแซง ผมก็ต้องใช้เวลาไต่รอบนานมาก กว่าจะไปถึง 3500 รอบ แต่ถ้าผมเปลี่ยนเป็น เฟืองท้าย 4.1 ล่ะ จะเป็นไง 55 x 4.1 --------------------- x 336 = 2991 RPM 25.33 รอบเล็กๆ น้อย คิดกันเป็นเสี้ยววินาที นี่ล่ะครับ ชิงจังหวะกันบนถนนด้วยจุดนี้ รอรอบนิดเดียว เพื่อนหนีไปแล้ว คราวนี้ มาดูที่ชาร์จ แถวบน ขวาง คือขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางยางเป็นนิ้ว แนวตั้งคือ เฟืองท้าย แถบสีชมพูคือ การใช้งานทั่วไป ถ้าต้องการเปลี่ยนเฟืองท้ายให้ได้ความประหยัด ก็เลือกสีเหลืองช่วงบน แต่ถ้าต้องการกำลัง เลือกแถบเหลืองช่วงล่าง สรุปให้เข้าใจเห็นภาพง่ายๆที่สุดคือ ขนาดยาง มีผลต่ออัตราทดเฟืองท้าย เช่นรถกระบะ ยกสูง เปลี่ยนยางใหญ่แทนยางเดิม แล้วไม่เปลี่ยนเฟืองท้าย รอบจะต่ำลงเป็นอย่างมาก การเปลี่ยนเฟืองท้ายให้เหมาะกับขนาดยางใหม่ ช่วยให้รอบเครื่องกลับมาอยู่ที่จุดเดิมเหมือนรถสแตนดาร์ดได้ครับ ถ้ายางเท่าเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง เฟืองท้ายอัตราทดต่ำ จะประหยัดน้ำมันกว่าเฟืองท้ายเลขสูงๆ และมีความเร็วสูงสุดที่มากกว่า แต่มันจะไต่ระดับความเร็วขึ้นไปแบบช้าๆ และต้องใช้ระยะทางวิ่งนานกว่าที่จะได้ความเร็วที่ต้องการ เปลี่ยนเฟืองท้ายสูงขึ้น รถอยู่ในรอบเครื่องยนต์ใกล้จุด Hi performance กว่าเดิม จังหวะเร่งแซง ออกตัวดีขึ้น เกียร์เปลี่ยนเร็วขึ้น แต่ความเร็วสูงสุด น้อยลง เหมาะกับการขับแบบสปริ๊นท์ แคร๊ก ทางที่มีโค้งมากๆ มีเนินมากๆ ไม่ใช่ทางตรงยาว แบบขับเอื่อยๆ และกินน้ำมันกว่า เฟืองท้ายอัตราทดสูง ซี่งมากกว่าเดิม เปราะลง เกียร์ออโต้ เฟืองท้ายต่ำ อืด เชนเกียร์ ไม่ระวัง เฟืองท้ายแตก เสียเงิน จากตัวอย่างในรูปนี้ สมมุติว่า รถกระบะของพี่พี่ ใช้ยางเดิม (H - 3) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 26 นิ้ว อัตราทดเฟืองท้ายเดิมๆ คือ 3.54 รอบปกติ ที่ใช้งานทั่วไปก็อยู่ที่ 2,516RPM แต่มันไม่เท่ห์ เลยเอาไปยกสูง ใส่ยาง 30 นิ้ว มัดเทอร์เรน และตั้งใจว่าจะใช้งานปกติวิ่งทั่วไปในเมืองบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง ก็ควรเปลี่ยนเฟืองท้ายเสียใหม่ เป็น 4.1 เพื่อให้ได้รอบทำงานตามเดิม ( K - 7 ) แต่ถ้าอยากแรงขึ้นมาก็อาจเปลี่ยนเป็น N -7 แทนนะครับ[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Team and group
>
Team and Group
>
DNA Racing Club
>
เรื่องน่ารู้สำหรับคลับเรานะครับ
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...