เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Motorsport Forum
>
มือใหม่หัดแข่ง จะลงสนามครั้งแรกต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="KengRacing, post: 482708, member: 2"]<p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/utQy7x6.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>บทความนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเป็นนักแข่งรถ หรือสนใจที่จะเรียนรู้การเริ่มต้นสำหรับการเป็นนักแข่งรถ หรืออยากนำรถที่ตัวเองรักไปลองวิ่งในสนามแข่งแบบชั่วครั้งชั่วคราว หรือบางคนที่อยากจะลองเริ่มต้นเพื่อค้นหาตัวเองว่า ใช่หรือไม่ใช่ สำหรับกิจกรรมแบบนี้</p><p>โดยเราจะถ่ายทอดประสบการณ์จากที่เคยเป็นนักแข่งจากจุดเริ่มต้น และประสบการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งจะเน้นสำหรับการแข่งรถประเภทเซอร์กิต โดยเริ่มจากการเตรียมตัว เตรียมรถที่จะใช้แข่ง จนถึงการเซ็ตรถเพื่อความเหมาะสม</p><p>บทความนี้จะมีการอัปเดทข้อมูลเข้ามาเรื่อยๆ ใครที่เคยเข้ามาอ่านแล้วถ้าอยากถามอะไรหรืออยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สอบถามได้โดยการตอบกระทู้ข้างล่างนี</p><p><br /></p><p><b>เริ่มแรกนั่งขับรถอย่างไร</b></p><ul> <li>นั่งให้สบายเหมือนนั่งขับรถปกติ ไม่ใช่ปรับเบาะตั้งชันเหมือนพวกใส่เบาะหลังแข็งที่ยังปรับเบาะไม่เป็น<br /> ควรเอนเบาะไปเล็กน้อยส่วนตำแหน่งรองต้นขาต้องสูงขึ้นมา ไม่ใช่แบนราบ<br /> เวลาเบรกจะมีความรู้สึกน้ำหนักตัวเราจมลงในเบาะ ไม่ใช่น้ำหนักลงมาที่แขนแล้วลงไปที่พวงมาลัย จะทำให้เราบังคับเลี้ยวรถยาก ใช้แรงที่แขนมากจนล้า และก่อให้เกิดความเครียดสะสมไปเรื่อย</li> <li>ปรับระยะตำแหน่งที่นั่งกับพวงมาลัยให้เหมาะสม โดยให้หัวไหล่ติดกับเบาะ แล้วเลื่อนเบาะ ให้ข้อมือวางบนพวงมาลัย ดูจากรูป<br /> <br /> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/zI8aFQu.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> </li> <li>ระยะระหว่างเบาะนั่งกับแป้นเหยียบควรงอขาได้เล็กน้อย ไม่ตึงจนเกินไป<br /> <br /> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/EDRj555.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> </li> <li>ความสูงของตำแหน่งท่านั่ง ควรอยู่ต่ำสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะจะให้เรารับความรู้สึกของอาการรถได้ดีมากขึ้น โดยให้เห็นระยะข้างหน้าด้วย<br /> <br /> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/goJ3hhg.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> </li> </ul><p><br /></p><p><b>เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย</b></p><p>ถ้าคุณลงสนามที่เป็นรายการประเภทแทร็คเดย์หรือลองซ้อมแบบส่วนตัวคุณต้องใส่เสื้อผ้าที่กระชับ ควรเป็นเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น และควรเป็นพื้นบางๆ เพื่อจะได้รับความการตอบสนองของแป้นเบรกหรือคันเร่งได้ดีมากขึ้น แต่ถ้าคุณมีชุดแข่งแนะนำให้ใส่ชุดแข่งจะดีกว่า รวมทั้งถุงมือสำหรับขับรถแข่งและหมวกกันน็อคก็ต้องใส่ด้วยทุกครั้ง</p><p>ปัจจุบันนี้รายการแข่งส่วนใหญ่มีกฎบังคับให้นักแข่งต้องใส่ชุดแข่งอยู่แล้ว ตรงส่วนนี้คุณอาจจะต้องเริ่มลงทุนเลือกเพื่อความเหมาะสม</p><p><br /></p><p>ถ้าคุณเพิ่งแค่เริ่มต้น ยังไม่รู้ว่าชอบกิจกรรมนี้อีกนานเท่าไร หรือคิดว่าจะลองเพียงไม่กี่ครั้ง คุณอาจจะใช้ชุดแข่งประเภทสั่งตัดก็ได้ เริ่มตั้งแต่ราคาระดับพันต้นๆ (ใช้ได้แค่บางรายการเท่านั้น สอบถามกับผู้จัดแข่งก่อนตัดสินใจสั่งตัด) หรือจะหาซื้อชุดแข่งจากนักแข่งที่ไม่ใช้แล้วก็เป็นอีกทางเลือกที่ประหยัด แต่หายาก</p><p>แต่การลงทุนที่ดีในระยะยาวคือซื้อชุดแข่งตามกติกาสากล และเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง ซึ่งมีคุณสมบัติหลักคือ ต้องเป็นชุดแข่งประเภทกันไฟ สำหรับใช้ในรถแข่ง ใส่ได้ทุกรายการแข่งในประเทศไทย ไม่ใช่ชุดแข่งสำหรับรถคาร์ท แบบนั้นจะไม่กันไฟ และบางรายการแข่งไม่อนุญาตให้ใช้ด้วย</p><p>ชุดแข่งก็มีหลายแบบให้เลือกอีกเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ผ้ากันไฟ 1-3 ชั้นยิ่งมีชั้นมากชุดก็ยิ่งหนาและหนัก บางยี่ห้อเป็นชุดแข่งน้ำหนักเบาด้วย แต่จะมีราคาแพงมากขึ้นพอสมควร และที่สำคัญชุดแข่งต้องมีการรับรองจาก FIA (บางรุ่นจะรับรองแค่ SFI ราคาจะถูกกว่าที่รับรอง FIA ใช้ได้แค่บางรายการ แนะนำให้รับรอง FIA จะดีกว่า)</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/av4qDCj.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ถุงมือกับรองเท้ามีหลายระดับให้เลือกอีกเช่นกัน แนะนำให้เลือกแบบกันไฟตั้งแต่เริ่มต้นเลย บางรุ่นก็จะมีรับรอง FIA ด้วยราคาก็สูงขึ้นมาอีกนิด ถุงมือแข่งไม่มีอะไรให้เลือกมาก เลือกตามความชอบได้เลย วิธีการดูแลรักษาถุงมือแข่งบางยี่ห้อบางรุ่นซักไม่ได้ หรือถ้าซักแล้วก็ตากแดดไม่ได้ อาจจะเสียหายแห้งกรอบเลยก็มี สอบถามจากผู้ขายก่อน</p><p>ส่วนรองเท้าแข่งโดยปกติจะหุ้มข้อเท้า พื้นบางๆ เพื่อให้นักแข่งได้รับรู้การตอบสนองจากแป้นเบรกและคันแร่งได้ดีจากที่กล่าวไปข้างต้น เลือกตามที่ชอบเหมือนถุงมือได้เลย รองเท้าแข่งเหมาะสำหรับใส่ขับรถแข่งเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะใส่ไว้เดินเล่นทั่วไป เนื่องจากพื้นรองเท้าที่บางไม่มีชั้นรองที่นุ่มเพื่อลดแรงกระแทกของเท้า เมื่อเดินไปนานๆ เท้าคุณอาจจะเจ็บรวมทั้งข้อต่อเท้าหรือหัวเข่าด้วย ฉะนั้นการใช้รองเท้าต้องเลือกตามความเหมาะสมของกิจกรรมนั้นๆ ด้วย</p><p><br /></p><p>หมวกกันน็อค</p><p>=======ข้อมูลเพิ่มเติมเร็วๆ นี้=======</p><p><br /></p><p><b>เบรกมีความสำคัญที่สุด</b></p><p>ควรลงทุนกับระบบเบรกให้มากที่สุด เพราะยังไงก็คุ้มค่ากว่าค่าซ่อมรถอย่างแน่นอน</p><p>ถ้าเปลี่ยนชุดเบรกไม่ได้ ให้เริ่มจาก เปลี่ยนผ้าเบรกที่ดีที่สุดทนความร้อนมากที่สุดเท่าที่คาลิปเปอร์จะใส่ได้</p><p>น้ำมันเบรกมีวันหมดอายุหรือเสื่อมสภาพ หากคุณใช้มานานหลายปี ควรเปลี่ยนได้แล้ว และเลือกที่มีค่าทนความร้อนสูงสุด หรือ DOT 4 เป็นอย่างน้อย</p><p>*น้ำมันเบรกบางยี่ห้อไม่มีค่า DOT แต่ใช้ค่าทนความร้อนสูงสุดและไม่กัดลูกยางในระบบเบรก แต่ค่า DOT ในน้ำมันเบรกบางยี่ห้อ ยิ่งมีค่าสูงคุณต้องใช้ลูกยางที่ทนค่า DOT นั้นๆ ด้วยเพราะมันจะกัดลูกยางได้ ลองสังเกตได้ถ้าใช้ไปสักพักเริ่มมีความขุ่นหรือมีสีดำนั้นแสดงว่าน้ำมันเบรกเริ่มกันลูกยางแล้ว</p><p><br /></p><p>และจำไว้เสมอ หากเกิดความผิดพลาดใดๆ ระหว่างที่อยู่ในแทร็ค ให้เหยียบเบรกไว้ก่อน</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/haRpe1i.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>หากคุณละเลยหรือยังไม่มีโอกาสที่จะได้เปลี่ยน ถ้าขับไม่เร็ว อาจจะไม่เป็นอะไร (ผมไม่แนะนำให้เสี่ยง)</p><p>แต่ถ้าเกิดอาการเบรกเฟด จะเป็นอย่างไร</p><p>จากที่ผมเคยประสบด้วยตัวเองจะเจอแค่ 2 อย่างคือ</p><p>1. เหยียบเบรกแล้วจม สาเหตุ อาจมีฟองอากาศในน้ำมันเบรก หรือน้ำมันเบรกทนความร้อนไม่ได้ หรือน้ำมันเบรกเสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานแล้ว</p><p>วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในขณะที่วิ่งอยู่ ให้ย้ำเบรกให้เร็วที่สุดแล้วเบรกจะมีขึ้นมาเอง ในครั้งแรกอาจจะทำขึ้นมาได้ แต่ถ้าบ่อยครั้ง หลังๆ จะไม่มีเบรกให้คุณใช้งานแล้ว ฉะนั้น เมื่อรู้ว่าเบรกจม ให้รีบนำรถเข้าพิทในรอบนั้นทันที</p><p>วิธีแก้ไขปัญหา</p><ul> <li>ให้ลองไล่ลมเบรกใหม่ แต่คุณต้องมีน้ำมันเบรกและเติมน้ำมันเบรกที่คุณใส่อยู่ด้วยนะ ห้ามใช้น้ำมันต่างยี่ห้อหรือต่างรุ่น น้ำมันเบรกอาจจะเสียหรือมีประสิทธิภาพลดลงได้</li> <li>เปลี่ยนน้ำมันเบรกที่ทนความร้อนสูงที่สุดเท่าที่จะหามาได้</li> <li>ติดตั้งท่อเป่าลมเบรก เพื่อระบายความร้อนสะสมของระบบเบรก</li> </ul><p>2. เหยียบเบรกแล้วแป้นเบรกสะท้านกลับขึ้นมา สาเหตุ ผ้าเบรกทนความร้อนไม่ได้</p><p>วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในขณะที่วิ่งอยู่ ก็ต้องพยายามเหยียบลงไปให้ได้ ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกว่ามันไม่ยอมให้เราเหยียบก็ตาม จากนั้นให้เข้าพิทในรอบนั้นทันที</p><p>วิธีแก้ไขปัญหา เปลี่ยนผ้าเบรกที่ทนความร้อนที่สุดเท่าที่จะหามาได้ โดยที่ใส่คาริปเปอร์เราได้ด้วย</p><p>หรือถ้าหาไม่ได้ ก็คงต้องหยุดการวิ่งในครั้งนี้เพราะผ้าเบรกมันไหม้ใช้งานไม่ได้แล้ว</p><p><br /></p><p>จากการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะเห็นว่า คุณสามารถเตรียมรับมือก่อนไปสนามได้ ให้รีบทำเลย จะได้ไม่ต้องประสบปัญหาในสนามแข่ง</p><p><br /></p><p><b><span style="color: #ff0000">เทคนิคการเตรียมพร้อมก่อนเบรกเฟด </span></b>ก่อนจะสายเกินไป</p><p>ถ้าคุณชอบเบรกลึก แล้วเบรกเฟดละ คุณจะทำอย่างไร ปั้มเบรกขึ้นมาจะทันไหม?</p><p>ลองใช้วิธีนี้ ก่อนถึงจุดเบรก ให้เหยียบเบรก 1 ครั้ง เพื่อให้รับรู้ระยะว่าตำแหน่งเบรกอยู่ในตำแหน่งเดิมหรือไม่ ถ้าอยู่ตำแหน่งเดิมก็ยกแป้นเบรกก่อน เมื่อถึงจุดเบรกให้เบรกตามปกติ (วิธีนี้จะเหมือนเป็นการปั้มเบรกไปในตัวก่อน 1 ครั้ง)</p><p>แต่ถ้าเบรกจมไปแล้วให้รีบปั้มเบรกโดยทันที แล้วเบรกจะพร้อมใช้งานเมื่อถึงจุดเบรก หรือถึงแม้ว่าจะเลยจุดเบรกไปแล้ว แต่ก็ยังดีที่ได้เบรก</p><p>วิธีดังกล่าวต้องหมั่นฝึกฝนให้ชำนาญ ทำอย่างรวดเร็ว จะช่วยให้ระยะเวลาในการเหยียบเบรกไม่แตกต่างจากการเหยียบเบรกตามปกติ</p><p><br /></p><p><b>ยางที่เหมาะสม</b></p><p>ยางที่ใช้วิ่งในสนามแข่งควรเป็นยางในระดับ HP หรือ UHP โดยส่วนใหญ่จะเป็นยางแก้มเตี้ย แก้มยางแข็งกว่ายางเรเดียลทั่วไป เพื่อลดการบิดตัวของแก้มยางในระหว่างเข้าโค้ง และดอกยางจะมีขนาดใหญ่ เนื้อยางจะนิ่มเพื่อความเกาะถนน</p><p>ลมยางที่ใช้ห้ามต่ำกว่า 30 Psi ควรจะอยู่ระหว่าง 35-40 Psi หากมีใครแนะนำว่าให้ใช้ลมยาง 24-28 Psi คุณควรรู้ว่านั้นคือลมยางของยางสลิค ไม่ใช่ยางเรเดียล เพราะยางสลิคมีแก้มยางที่แข็งมาก มีการบิดตัวของแก้มยางที่น้อยมาก ไม่จำเป็นต้องเติมลมเยอะ เพื่อให้มีหน้าสัมผัสได้เต็มประสิทธิภาพ</p><p>ต่างจากยางเรเดียลที่ต้องเติมลมยางแข็ง เพราะลดการบิดตัวของแก้มยาง โดยเฉพาะถ้าคุณใส่ยางที่มีการเบ่งแก้มเพื่อรับกับกะทะที่กว้างกว่าหน้ายาง ถ้าคุณใส่ลมยางน้อยๆ เวลาเข้าโค้งแก้มยางคุณจะหลุดขอบและไม่มีลมยาง นั้นหมายถึงขอบล้อคุณอาจจะเสียหายไปด้วย</p><p>*ยางสลิคกับยางหัวโล้นไม่เหมือนกันนะ อย่าเข้าใจผิด</p><p>ยางหัวโล้นคือยางที่หมดสภาพแล้ว ไม่มีดอกยาง เนื้อยางจะแข็ง ไม่มีความเกาะถนน</p><p>ส่วนยางสลิค เนื้อยางจะนิ่มมาก และเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเกาะถนนเต็มหน้ายาง ยางจึงไม่มีดอกยางหรือร่องรีดน้ำ ใช้กับพื้นแห้งเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ยางสลิคสามารถวิ่งบนพื้นเปียกได้ เกาะถนนดีกว่ายางเรเดียล แต่วิ่งผ่านแอ่งน้ำไม่ได้ เพราะมันไม่มีร่องรีดน้ำ</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/MVMfzEd.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ในระหว่างที่วิ่งในแทร็คไม่ควรเข้าโค้งให้ยางร้อง เพราะถ้ายางร้องตลอดเวลา นั้นแสดงว่าคุณเข้าโค้งผิดวิธี หรือเข้าโค้งเกินกว่าประสิทธิภาพของยางที่จะรับได้ และยางจะร้อนมาก ตามมาด้วยยางจะไม่เกาะถนนอีกต่อไป</p><p>วิธีแก้ไขให้ระหว่างวิ่งให้ลดความเร็วในโค้งนั้นซะหน่อย แล้วจะค่อยๆ กดคันเร่งอีกครั้ง ถ้ายางยังร้องอีกก็แสดงว่า ยางคงมีประสิทธิภาพของยางได้แค่นั้น ถ้าต้องการให้เร็วกว่านั้น ต้องกลับพิทมาแก้ไขสิ่งอื่นแทน เช่น มุมล้อหรือแคมเบอร์เป็นต้น</p><p><br /></p><p><span style="color: #ff0000"><b>เทคนิคการระบายความร้อนของยาง</b></span> เพื่อความพร้อมในการแข่งครั้งต่อไป</p><p>ถ้ารายการแข่งคุณต้องวิ่งหลายเซสชั่น รถคุณมีเวลาพักไม่นาน วิธีนี้จะช่วยให้ยางเกาะถนนเหมือนเซสชั่นแรกๆ ให้ทำตามนี้</p><p>จากที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ถ้ายางร้อนมาก ยางจะไม่เกาะถนน เมื่อวิ่งในเซสชั่นต่อๆ ไปมันก็ไม่เกาะถนนอยู่ดี ถึงแม้มีการพักรถในระยะเวลาสั้นๆ</p><p>หลังจากจอดรถในพิทให้ขึ้นขาตั้งรถทั้ง 4 ล้อ แล้วปล่อยลมยางออกให้หมด ในระหว่างที่ปล่อย ลมยางจะร้อนมาก หลังจากปล่อยหมดแล้ว ให้เติมลมยางเข้าไปใหม่ แล้วปล่อยมาอีกที ลองสัมผัสว่าลมยางยังร้อนอยู่หรือไม่ ถ้ายังร้อนอยู่ก็ให้ปล่อยมาเหมือนเดิม ทำแบบนี้ซ้ำๆ 1-2 ครั้ง จนสัมผัสได้ว่าลมยางไม่ร้อนแล้ว และเติมลมในแรงดันที่ต้องการ เพียงเท่านี้ยางคุณก็จะไม่ร้อน และประสิทธิภาพของยางจะกลับมาใกล้เคียงเหมือนเดิม</p><p><i>*แนะนำให้มีปั้มลมเป็นของตัวเอง ซื้อถังขนาดเล็กก็พอราคาแค่พันกว่าบาท</i></p><p><br /></p><p><b>วิธีการเช็ตรถเบื้องต้น</b></p><p>=======ข้อมูลเร็วๆ นี้=======</p><p><br /></p><p>อยากรู้อะไรเพิ่มเติมหรือมีข้อสงสัยประการใดสอบถามต่อจากกระทู้นี้ได้เลย[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="KengRacing, post: 482708, member: 2"][CENTER][IMG]https://i.imgur.com/utQy7x6.png[/IMG][/CENTER] บทความนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเป็นนักแข่งรถ หรือสนใจที่จะเรียนรู้การเริ่มต้นสำหรับการเป็นนักแข่งรถ หรืออยากนำรถที่ตัวเองรักไปลองวิ่งในสนามแข่งแบบชั่วครั้งชั่วคราว หรือบางคนที่อยากจะลองเริ่มต้นเพื่อค้นหาตัวเองว่า ใช่หรือไม่ใช่ สำหรับกิจกรรมแบบนี้ โดยเราจะถ่ายทอดประสบการณ์จากที่เคยเป็นนักแข่งจากจุดเริ่มต้น และประสบการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งจะเน้นสำหรับการแข่งรถประเภทเซอร์กิต โดยเริ่มจากการเตรียมตัว เตรียมรถที่จะใช้แข่ง จนถึงการเซ็ตรถเพื่อความเหมาะสม บทความนี้จะมีการอัปเดทข้อมูลเข้ามาเรื่อยๆ ใครที่เคยเข้ามาอ่านแล้วถ้าอยากถามอะไรหรืออยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สอบถามได้โดยการตอบกระทู้ข้างล่างนี [B]เริ่มแรกนั่งขับรถอย่างไร[/B] [LIST] [*]นั่งให้สบายเหมือนนั่งขับรถปกติ ไม่ใช่ปรับเบาะตั้งชันเหมือนพวกใส่เบาะหลังแข็งที่ยังปรับเบาะไม่เป็น ควรเอนเบาะไปเล็กน้อยส่วนตำแหน่งรองต้นขาต้องสูงขึ้นมา ไม่ใช่แบนราบ เวลาเบรกจะมีความรู้สึกน้ำหนักตัวเราจมลงในเบาะ ไม่ใช่น้ำหนักลงมาที่แขนแล้วลงไปที่พวงมาลัย จะทำให้เราบังคับเลี้ยวรถยาก ใช้แรงที่แขนมากจนล้า และก่อให้เกิดความเครียดสะสมไปเรื่อย [*]ปรับระยะตำแหน่งที่นั่งกับพวงมาลัยให้เหมาะสม โดยให้หัวไหล่ติดกับเบาะ แล้วเลื่อนเบาะ ให้ข้อมือวางบนพวงมาลัย ดูจากรูป [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/zI8aFQu.png[/IMG][/CENTER] [*]ระยะระหว่างเบาะนั่งกับแป้นเหยียบควรงอขาได้เล็กน้อย ไม่ตึงจนเกินไป [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/EDRj555.png[/IMG][/CENTER] [*]ความสูงของตำแหน่งท่านั่ง ควรอยู่ต่ำสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะจะให้เรารับความรู้สึกของอาการรถได้ดีมากขึ้น โดยให้เห็นระยะข้างหน้าด้วย [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/goJ3hhg.png[/IMG][/CENTER] [/LIST] [B]เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย[/B] ถ้าคุณลงสนามที่เป็นรายการประเภทแทร็คเดย์หรือลองซ้อมแบบส่วนตัวคุณต้องใส่เสื้อผ้าที่กระชับ ควรเป็นเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น และควรเป็นพื้นบางๆ เพื่อจะได้รับความการตอบสนองของแป้นเบรกหรือคันเร่งได้ดีมากขึ้น แต่ถ้าคุณมีชุดแข่งแนะนำให้ใส่ชุดแข่งจะดีกว่า รวมทั้งถุงมือสำหรับขับรถแข่งและหมวกกันน็อคก็ต้องใส่ด้วยทุกครั้ง ปัจจุบันนี้รายการแข่งส่วนใหญ่มีกฎบังคับให้นักแข่งต้องใส่ชุดแข่งอยู่แล้ว ตรงส่วนนี้คุณอาจจะต้องเริ่มลงทุนเลือกเพื่อความเหมาะสม ถ้าคุณเพิ่งแค่เริ่มต้น ยังไม่รู้ว่าชอบกิจกรรมนี้อีกนานเท่าไร หรือคิดว่าจะลองเพียงไม่กี่ครั้ง คุณอาจจะใช้ชุดแข่งประเภทสั่งตัดก็ได้ เริ่มตั้งแต่ราคาระดับพันต้นๆ (ใช้ได้แค่บางรายการเท่านั้น สอบถามกับผู้จัดแข่งก่อนตัดสินใจสั่งตัด) หรือจะหาซื้อชุดแข่งจากนักแข่งที่ไม่ใช้แล้วก็เป็นอีกทางเลือกที่ประหยัด แต่หายาก แต่การลงทุนที่ดีในระยะยาวคือซื้อชุดแข่งตามกติกาสากล และเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง ซึ่งมีคุณสมบัติหลักคือ ต้องเป็นชุดแข่งประเภทกันไฟ สำหรับใช้ในรถแข่ง ใส่ได้ทุกรายการแข่งในประเทศไทย ไม่ใช่ชุดแข่งสำหรับรถคาร์ท แบบนั้นจะไม่กันไฟ และบางรายการแข่งไม่อนุญาตให้ใช้ด้วย ชุดแข่งก็มีหลายแบบให้เลือกอีกเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ผ้ากันไฟ 1-3 ชั้นยิ่งมีชั้นมากชุดก็ยิ่งหนาและหนัก บางยี่ห้อเป็นชุดแข่งน้ำหนักเบาด้วย แต่จะมีราคาแพงมากขึ้นพอสมควร และที่สำคัญชุดแข่งต้องมีการรับรองจาก FIA (บางรุ่นจะรับรองแค่ SFI ราคาจะถูกกว่าที่รับรอง FIA ใช้ได้แค่บางรายการ แนะนำให้รับรอง FIA จะดีกว่า) [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/av4qDCj.png[/IMG][/CENTER] ถุงมือกับรองเท้ามีหลายระดับให้เลือกอีกเช่นกัน แนะนำให้เลือกแบบกันไฟตั้งแต่เริ่มต้นเลย บางรุ่นก็จะมีรับรอง FIA ด้วยราคาก็สูงขึ้นมาอีกนิด ถุงมือแข่งไม่มีอะไรให้เลือกมาก เลือกตามความชอบได้เลย วิธีการดูแลรักษาถุงมือแข่งบางยี่ห้อบางรุ่นซักไม่ได้ หรือถ้าซักแล้วก็ตากแดดไม่ได้ อาจจะเสียหายแห้งกรอบเลยก็มี สอบถามจากผู้ขายก่อน ส่วนรองเท้าแข่งโดยปกติจะหุ้มข้อเท้า พื้นบางๆ เพื่อให้นักแข่งได้รับรู้การตอบสนองจากแป้นเบรกและคันแร่งได้ดีจากที่กล่าวไปข้างต้น เลือกตามที่ชอบเหมือนถุงมือได้เลย รองเท้าแข่งเหมาะสำหรับใส่ขับรถแข่งเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะใส่ไว้เดินเล่นทั่วไป เนื่องจากพื้นรองเท้าที่บางไม่มีชั้นรองที่นุ่มเพื่อลดแรงกระแทกของเท้า เมื่อเดินไปนานๆ เท้าคุณอาจจะเจ็บรวมทั้งข้อต่อเท้าหรือหัวเข่าด้วย ฉะนั้นการใช้รองเท้าต้องเลือกตามความเหมาะสมของกิจกรรมนั้นๆ ด้วย หมวกกันน็อค =======ข้อมูลเพิ่มเติมเร็วๆ นี้======= [B]เบรกมีความสำคัญที่สุด[/B] ควรลงทุนกับระบบเบรกให้มากที่สุด เพราะยังไงก็คุ้มค่ากว่าค่าซ่อมรถอย่างแน่นอน ถ้าเปลี่ยนชุดเบรกไม่ได้ ให้เริ่มจาก เปลี่ยนผ้าเบรกที่ดีที่สุดทนความร้อนมากที่สุดเท่าที่คาลิปเปอร์จะใส่ได้ น้ำมันเบรกมีวันหมดอายุหรือเสื่อมสภาพ หากคุณใช้มานานหลายปี ควรเปลี่ยนได้แล้ว และเลือกที่มีค่าทนความร้อนสูงสุด หรือ DOT 4 เป็นอย่างน้อย *น้ำมันเบรกบางยี่ห้อไม่มีค่า DOT แต่ใช้ค่าทนความร้อนสูงสุดและไม่กัดลูกยางในระบบเบรก แต่ค่า DOT ในน้ำมันเบรกบางยี่ห้อ ยิ่งมีค่าสูงคุณต้องใช้ลูกยางที่ทนค่า DOT นั้นๆ ด้วยเพราะมันจะกัดลูกยางได้ ลองสังเกตได้ถ้าใช้ไปสักพักเริ่มมีความขุ่นหรือมีสีดำนั้นแสดงว่าน้ำมันเบรกเริ่มกันลูกยางแล้ว และจำไว้เสมอ หากเกิดความผิดพลาดใดๆ ระหว่างที่อยู่ในแทร็ค ให้เหยียบเบรกไว้ก่อน [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/haRpe1i.jpg[/IMG][/CENTER] หากคุณละเลยหรือยังไม่มีโอกาสที่จะได้เปลี่ยน ถ้าขับไม่เร็ว อาจจะไม่เป็นอะไร (ผมไม่แนะนำให้เสี่ยง) แต่ถ้าเกิดอาการเบรกเฟด จะเป็นอย่างไร จากที่ผมเคยประสบด้วยตัวเองจะเจอแค่ 2 อย่างคือ 1. เหยียบเบรกแล้วจม สาเหตุ อาจมีฟองอากาศในน้ำมันเบรก หรือน้ำมันเบรกทนความร้อนไม่ได้ หรือน้ำมันเบรกเสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานแล้ว วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในขณะที่วิ่งอยู่ ให้ย้ำเบรกให้เร็วที่สุดแล้วเบรกจะมีขึ้นมาเอง ในครั้งแรกอาจจะทำขึ้นมาได้ แต่ถ้าบ่อยครั้ง หลังๆ จะไม่มีเบรกให้คุณใช้งานแล้ว ฉะนั้น เมื่อรู้ว่าเบรกจม ให้รีบนำรถเข้าพิทในรอบนั้นทันที วิธีแก้ไขปัญหา [LIST] [*]ให้ลองไล่ลมเบรกใหม่ แต่คุณต้องมีน้ำมันเบรกและเติมน้ำมันเบรกที่คุณใส่อยู่ด้วยนะ ห้ามใช้น้ำมันต่างยี่ห้อหรือต่างรุ่น น้ำมันเบรกอาจจะเสียหรือมีประสิทธิภาพลดลงได้ [*]เปลี่ยนน้ำมันเบรกที่ทนความร้อนสูงที่สุดเท่าที่จะหามาได้ [*]ติดตั้งท่อเป่าลมเบรก เพื่อระบายความร้อนสะสมของระบบเบรก [/LIST] 2. เหยียบเบรกแล้วแป้นเบรกสะท้านกลับขึ้นมา สาเหตุ ผ้าเบรกทนความร้อนไม่ได้ วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในขณะที่วิ่งอยู่ ก็ต้องพยายามเหยียบลงไปให้ได้ ถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกว่ามันไม่ยอมให้เราเหยียบก็ตาม จากนั้นให้เข้าพิทในรอบนั้นทันที วิธีแก้ไขปัญหา เปลี่ยนผ้าเบรกที่ทนความร้อนที่สุดเท่าที่จะหามาได้ โดยที่ใส่คาริปเปอร์เราได้ด้วย หรือถ้าหาไม่ได้ ก็คงต้องหยุดการวิ่งในครั้งนี้เพราะผ้าเบรกมันไหม้ใช้งานไม่ได้แล้ว จากการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะเห็นว่า คุณสามารถเตรียมรับมือก่อนไปสนามได้ ให้รีบทำเลย จะได้ไม่ต้องประสบปัญหาในสนามแข่ง [B][COLOR=#ff0000]เทคนิคการเตรียมพร้อมก่อนเบรกเฟด [/COLOR][/B]ก่อนจะสายเกินไป ถ้าคุณชอบเบรกลึก แล้วเบรกเฟดละ คุณจะทำอย่างไร ปั้มเบรกขึ้นมาจะทันไหม? ลองใช้วิธีนี้ ก่อนถึงจุดเบรก ให้เหยียบเบรก 1 ครั้ง เพื่อให้รับรู้ระยะว่าตำแหน่งเบรกอยู่ในตำแหน่งเดิมหรือไม่ ถ้าอยู่ตำแหน่งเดิมก็ยกแป้นเบรกก่อน เมื่อถึงจุดเบรกให้เบรกตามปกติ (วิธีนี้จะเหมือนเป็นการปั้มเบรกไปในตัวก่อน 1 ครั้ง) แต่ถ้าเบรกจมไปแล้วให้รีบปั้มเบรกโดยทันที แล้วเบรกจะพร้อมใช้งานเมื่อถึงจุดเบรก หรือถึงแม้ว่าจะเลยจุดเบรกไปแล้ว แต่ก็ยังดีที่ได้เบรก วิธีดังกล่าวต้องหมั่นฝึกฝนให้ชำนาญ ทำอย่างรวดเร็ว จะช่วยให้ระยะเวลาในการเหยียบเบรกไม่แตกต่างจากการเหยียบเบรกตามปกติ [B]ยางที่เหมาะสม[/B] ยางที่ใช้วิ่งในสนามแข่งควรเป็นยางในระดับ HP หรือ UHP โดยส่วนใหญ่จะเป็นยางแก้มเตี้ย แก้มยางแข็งกว่ายางเรเดียลทั่วไป เพื่อลดการบิดตัวของแก้มยางในระหว่างเข้าโค้ง และดอกยางจะมีขนาดใหญ่ เนื้อยางจะนิ่มเพื่อความเกาะถนน ลมยางที่ใช้ห้ามต่ำกว่า 30 Psi ควรจะอยู่ระหว่าง 35-40 Psi หากมีใครแนะนำว่าให้ใช้ลมยาง 24-28 Psi คุณควรรู้ว่านั้นคือลมยางของยางสลิค ไม่ใช่ยางเรเดียล เพราะยางสลิคมีแก้มยางที่แข็งมาก มีการบิดตัวของแก้มยางที่น้อยมาก ไม่จำเป็นต้องเติมลมเยอะ เพื่อให้มีหน้าสัมผัสได้เต็มประสิทธิภาพ ต่างจากยางเรเดียลที่ต้องเติมลมยางแข็ง เพราะลดการบิดตัวของแก้มยาง โดยเฉพาะถ้าคุณใส่ยางที่มีการเบ่งแก้มเพื่อรับกับกะทะที่กว้างกว่าหน้ายาง ถ้าคุณใส่ลมยางน้อยๆ เวลาเข้าโค้งแก้มยางคุณจะหลุดขอบและไม่มีลมยาง นั้นหมายถึงขอบล้อคุณอาจจะเสียหายไปด้วย *ยางสลิคกับยางหัวโล้นไม่เหมือนกันนะ อย่าเข้าใจผิด ยางหัวโล้นคือยางที่หมดสภาพแล้ว ไม่มีดอกยาง เนื้อยางจะแข็ง ไม่มีความเกาะถนน ส่วนยางสลิค เนื้อยางจะนิ่มมาก และเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเกาะถนนเต็มหน้ายาง ยางจึงไม่มีดอกยางหรือร่องรีดน้ำ ใช้กับพื้นแห้งเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ยางสลิคสามารถวิ่งบนพื้นเปียกได้ เกาะถนนดีกว่ายางเรเดียล แต่วิ่งผ่านแอ่งน้ำไม่ได้ เพราะมันไม่มีร่องรีดน้ำ [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/MVMfzEd.jpg[/IMG][/CENTER] ในระหว่างที่วิ่งในแทร็คไม่ควรเข้าโค้งให้ยางร้อง เพราะถ้ายางร้องตลอดเวลา นั้นแสดงว่าคุณเข้าโค้งผิดวิธี หรือเข้าโค้งเกินกว่าประสิทธิภาพของยางที่จะรับได้ และยางจะร้อนมาก ตามมาด้วยยางจะไม่เกาะถนนอีกต่อไป วิธีแก้ไขให้ระหว่างวิ่งให้ลดความเร็วในโค้งนั้นซะหน่อย แล้วจะค่อยๆ กดคันเร่งอีกครั้ง ถ้ายางยังร้องอีกก็แสดงว่า ยางคงมีประสิทธิภาพของยางได้แค่นั้น ถ้าต้องการให้เร็วกว่านั้น ต้องกลับพิทมาแก้ไขสิ่งอื่นแทน เช่น มุมล้อหรือแคมเบอร์เป็นต้น [COLOR=#ff0000][B]เทคนิคการระบายความร้อนของยาง[/B][/COLOR] เพื่อความพร้อมในการแข่งครั้งต่อไป ถ้ารายการแข่งคุณต้องวิ่งหลายเซสชั่น รถคุณมีเวลาพักไม่นาน วิธีนี้จะช่วยให้ยางเกาะถนนเหมือนเซสชั่นแรกๆ ให้ทำตามนี้ จากที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ถ้ายางร้อนมาก ยางจะไม่เกาะถนน เมื่อวิ่งในเซสชั่นต่อๆ ไปมันก็ไม่เกาะถนนอยู่ดี ถึงแม้มีการพักรถในระยะเวลาสั้นๆ หลังจากจอดรถในพิทให้ขึ้นขาตั้งรถทั้ง 4 ล้อ แล้วปล่อยลมยางออกให้หมด ในระหว่างที่ปล่อย ลมยางจะร้อนมาก หลังจากปล่อยหมดแล้ว ให้เติมลมยางเข้าไปใหม่ แล้วปล่อยมาอีกที ลองสัมผัสว่าลมยางยังร้อนอยู่หรือไม่ ถ้ายังร้อนอยู่ก็ให้ปล่อยมาเหมือนเดิม ทำแบบนี้ซ้ำๆ 1-2 ครั้ง จนสัมผัสได้ว่าลมยางไม่ร้อนแล้ว และเติมลมในแรงดันที่ต้องการ เพียงเท่านี้ยางคุณก็จะไม่ร้อน และประสิทธิภาพของยางจะกลับมาใกล้เคียงเหมือนเดิม [I]*แนะนำให้มีปั้มลมเป็นของตัวเอง ซื้อถังขนาดเล็กก็พอราคาแค่พันกว่าบาท[/I] [B]วิธีการเช็ตรถเบื้องต้น[/B] =======ข้อมูลเร็วๆ นี้======= อยากรู้อะไรเพิ่มเติมหรือมีข้อสงสัยประการใดสอบถามต่อจากกระทู้นี้ได้เลย[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Motorsport Forum
>
มือใหม่หัดแข่ง จะลงสนามครั้งแรกต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...