• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

Name:

Verification:

Loading...

Message:

<p>[QUOTE=&quot;p_sutipoj, post: 486115, member: 7614&quot;]ดังนั้นถ้าช่างคนไหนมองข้าง สิ่งคำนวนออกมาเป็นตัวเลขอ้างอิงอย่างนี้แล้ว เพื่อนๆลากรอบไปไม่กลัวลูกสูบกระเด็นออกมานอกกระบอกสูบบ้างหรอ ดูซิ ระหว่าง เครื่อง3000 กับ 3100 ช่วงชักต่างกันนิดเดียวเอง แต่ไอ้ที่มันวิ่งขึ้นๆลงๆ น่ะมันเร็วขนาดไหน แค่ระยะ 10 กว่าเซนติเมตร มันต้องเริ่มเคลื่อนที่ไปที่ 120 กม./ชม. ตรงกลางๆประมาณก่อนครึ่งทางแล้วมันก็ต้องเบรคจนหยุดนิ่ง สลับไปอย่างนี้ นึกภาพดูว่ามันทรมาณขนาดไหน.......แล้วน้ำมันเครื่องที่เราๆ ท่านๆใช้ มีคุณภาพพอที่จะปกป้องการขัดสีที่รุนแรงอย่างนี้ไหม ฟิล์มน้ำมันเครื่องหากไม่แข็งแรงถูกความร้อนก็ ใส(บาง) ถูกไปเสียเผาก็ไหม้ไป จะเหลือความทนทานได้อย่างไร</p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp; แค่ดูความเร็วของลูกสูบก็น่าจะพอรู้ว่า หากเป็นเครื่องชักยาว สิ่งที่จะตามมาก็คือ ลูกสูบจะมีอัตราเร่งที่มากกว่า เครื่องชักสั้น ทำให้ปริมาตรห้องเผาไหม้นั้นขยายได้รวดเร็วตามไปด้วย เมื่อเราเอามาคิดถึง&nbsp; การลุกไหม้ของน้ำมันดีเซลที่ช้าแล้ว จะทำให้เครื่องชักยาวมีรอบที่จัดมากไม่ได้&nbsp; ถ้าได้ก็จะไม่มีแรงบิดในรอบสูงเพราะว่า เมื่อฉีดน้ำมันเข้าไปในห้องเผาไหม้&nbsp; ที่รอบเดียวกันปริมาตรของเครื่องชักสั้นจะขยายตัวได้ช้าทำให้มีเวลาเอาแก๊สเอาเสียที่เผาออกมาใช้เป็นพลังงานกลได้มากกว่า&nbsp; แต่ก็ใช่ว่าเครื่องชักยาวจะไม่ดี ก็ดีในรอบต่ำ หากรอบต่ำเมื่อไหร่ เวลาในการเผาไหม้เหลือเฟือ เครื่องชักยาวก็จะมีประสิทธิภาพดีกว่านั่นเอง ดังนั้น จึงมีคนกล่าวว่า ชักยาวจะไม่มีรอบ ดังนั้นเราต้องหาทางหนีทีไล่เอาแรงบิดที่มากกว่ามาใช้ให้คุ้ม........&nbsp; แล้วมีคนสงสัยไหมว่า ถ้าเครื่อง 3100 หมุนเกิน 5000 น่าจะพังได้แล้ว แต่พังบ้างไม่พังบ้าง เนี่ย เราจะรู้ไหมว่าแรงบิดมันหมดไปแล้วหรือยัง.........&nbsp; ปุจฉา เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าแรงบิดของมันเหลือมากน้อยแค่ไหน[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• Log in with Facebook
• Log in with Twitter
• Log in with Google

Your name or email address:

Do you already have an account?

• No, create an account now.
• Yes, my password is:
• Forgot your password?

Stay logged in

• X