• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

Name:

Verification:

Loading...

Message:

<p>[QUOTE=&quot;MugenTypeR, post: 637790, member: 42118&quot;]ก่อนอื่นก็ต้องขออภัยที่บทความนี้ที่ผมทำออกมาค่อนข้างจะช้าซะนิด เพราะเข้าหน้าร้อนมารอบนึงแล้ว เนื่องด้วยติดภาระกิจหลายๆอย่าง และมี D.I.Y. Project ไฟส่องเท้า (ตามสัญญาครับ) มาคั่นนิดหนึ่ง ก็ขออภัยไว้ในที่นี้ด้วยละกันครับ บทความนี้ค่อนข้างจะยาวมากๆ นะครับเหนื่อยหน่อยกว่าจะอ่านจบ </p><p><br /></p><p><font size="3"><span style="color: Red"><b>ขอพูดโดยรวมก่อน</b></span></font></p><p>วันนี้จะว่ากันด้วยเรื่องแอร์ครับ แต่ไม่ใช่ระบบแอร์พวกคอมเพรสเซอร์, คอยล์ร้อน, คอยล์เย็น, ไดร์เออร์ อะไรทำนองนี้ครับ เพราะบทความพวกนี้หาอ่านได้โดยทั่วไปแล้ว&nbsp; แต่ผมจะเจาะลึกลงไปว่ากันด้วย &quot;หน้าปัดแอร์หรือกรอบแอร์&quot; แบบต่างๆกันให้หายสงสัยกัน ไม่ว่าจะสไลด์, 1 ปุ่ม, 3 ปุ่ม(ทั้งออโต้และไม่ออโต้) ว่าหน้าตามันเป็นยังไง ต้องมี ต้องใช้อะไรเพิ่มบ้าง ติดแล้วเป็นยังไง ได้อะไรบ้าง เสียอะไรบ้าง</p><p><br /></p><p><font size="3"><span style="color: Red"><b>เริ่มกันเลย</b></span></font></p><p>อืม!! อีกนิดนะครับ คือว่าก็อย่างทุกๆบทความที่ผมทำก็ต้องบอกว่า &quot;ผมก็คนธรรมดาทั่วๆไป (ไม่ใช่ Guru แค่กรูอยากรู้) ผมไม่ใช่ช่าง แค่คนที่รักรถ อยากรู้เรื่องรถ ศึกษาข้อมูลต่างๆเรื่องรถ&quot; ดังนั้นถ้ามีอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกต้องหรือขาดตกตรงไหนก็เสริมได้เลยครับ และขออนุญาตเจ้าของรูปที่ผมเอามาไว้ ณ.ที่นี้ด้วย เพื่อเป็นความรู้ให้หลายๆคนนะครับ</p><p><br /></p><p><font size="3"><span style="color: Red"><b>เริ่มจริงๆล่ะ <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /></b></span></font></p><p><font size="3"><span style="color: Lime"><b>1. ส่วนประกอบอื่นๆก่อน</b></span></font></p><p>เอาของที่ต้องมีก่อนละกันครับ ในที่นี้ไม่ใช่กรอบแอร์นะ คงสงสัยว่าทำไมไม่พูดถึงกรอบแอร์ก่อน ก็เพราะว่ามันจะได้มองเห็นถาพได้ง่ายกว่า เดี๋ยวผมพูดถึง ตัวโน้น ตัวนี้จะไม่เข้าใจ มานั่งนึกภาพอยู่มันจะเข้าใจยากครับ และจะได้อ้างถึงได้เวลาพูดถึงกรอบแอร์แต่ละประเภท มาดูกันครับ</p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.1 ตู้แบ่งลมที่มี Heater จะเรียกชุดนี้ว่าตู้ Air Mix</span></font></p><p>โดยหน้าตาของมันแล้วก็เหมือนๆกับตู้แบ่งลมบ้านเรานี้ครับ แต่มีส่วนที่เพิ่มมาคือคอยล์ร้อน, สายลิงค์ และก็มอเตอร์ดึงสายลิงค์เพื่อเปิดวาล์วน้ำ(1.4)เข้าคอยล์ร้อน</p><p>- ตัวตู้แบ่งลมที่มีฮีตเตอร์และสายลิงค์(เส้นสีน้ำเงิน)</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=a780adc8df0940379424d61f036129b7" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- ถอดแยกชิ้นออกมาก็จะเป็นแบบนี้</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=417675c5e269474489929ec1b287e0c6" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- ดูกันชัดๆคอยล์ร้อนที่ทำจากทองแดง (จับนิดจับหน่อยครีบล้มง่ายมาก)</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=ad034496ce674ab9a976dd446f51a9a9" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p>&nbsp;</p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.2 ตู้คอยล์เย็น</span></font></p><p>จริงๆแล้วตู้ตัวนี้ไม่ต้องหาเพิ่มก็ได้ ใช้ของบ้านเรานี่ล่ะ ที่ไม่เหมือนกันกับของนอกคือจะมีช่องใส่ Air Filter ด้วย</p><p>ขอพูดเรื่องการติดตั้งเป็นข้อคิดซะนิดนะว่าในการติดตั้งนั้นจะมีการเพิ่มเซนเซอร์ (1.6) เข้าไปในตู้นี้ด้วย 1 ตัว ทีนี้ก็จะได้รู้แล้วว่าตู้แอร์เราเน่าขนาดไหนแล้ว ควรจะเปลี่ยนใหม่หรือแค่ถอดออกมาล้างทำความสะอาดก็ได้แล้ว ถ้าต้องถอดมาล้างก็แน่นอนครับ น้ำยาแอร์ต้องเปลี่ยนใหม่ ผมว่าถ้าชัวว์ๆว่าตู้แอร์เราต้องเปลี่ยนหรือวาล์วตันแล้วก็หาตู้นอกมาเลยดีกว่า เพราะตู้นอกสวยๆก็ไม่น่าเกิน 1500 บ. ได้ครบหมดทั้งเซนเซอร์(1.6)ด้วย แต่ถ้าเอาตู้เดิมแล้วเปลี่ยนวาล์วก็ประมาณ 800 บ. แล้ว ก็คิดเอานะครับแค่แนะนำ ดูกันเลยดีกว่า เพราะเริ่มจะยาวอีกแล้ว <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p>- ตัวตู้แอร์ + Thermister ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุด Trermostat (1.6)</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=d5f3a3a4564e4b70b51e83c639337b8d" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- ถาดใส่ Air Filter </p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=4a4eadb81ec84df09faaa18c34714f4f" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.3 เสื้อน้ำ (จริงๆไม่รู้เรียกว่าอะไร ใครรู้ช่วยบอกที ผมเรียกนี่ไปก่อนละกัน)</span></font></p><p>เสื้อน้ำจะเป็นตัวแบ่งน้ำร้อนในระบบหล่อเย็นที่ออกมาจากเครื่องยนต์เพื่อเข้าไปยังตู้ฮีตเตอร์ครับ</p><p>สำหรับในเครื่องแคมเดี่ยว(D) นั้นจำเป็นต้องหาตัวนี้เพิ่มครับ แต่สำหรับในเครื่องแคมคู่(B) นั้นไม่จำเป็นต้องหา เพราะมันมีอยู่แล้ว เพียงแต่มันมีท่อปิดไว้เท่านั้นครับ</p><p>- หน้าตาแบบนี้ล่ะ อันนี้ของผมดูเก่าโปราณไปยังไม่ได้ล้าง แต่ใช้ได้ครับ</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=1001674450574556999ca0ade9a657d8" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- หลังติดตั้งแล้วครับ (ชุดที่ Ground Wire สีฟ้ายึดอยู่) </p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=d550597a92ff4db384b90ec1e5ff3f7b" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.4 วาล์วน้ำ</span></font></p><p>วาล์วน้ำจะทำหน้าที่เปิด-ปิดน้ำร้อนจากระบบหล่อเย็นเข้าฮีตเตอร์ โดยในการเปิด-ปิดนั้นจะใช้สายลิงค์ที่มาจากตู้แบ่งลมซึ่งจะมีมอเตอร์ควบคุมอยู่อีกต่อหนึ่ง</p><p>- วาล์วน้ำที่มีสายลิงค์จากตู้แบ่งลมมาควบคุมการเปิด-ปิด</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=41cae234ed2c43ffae2b5bfea9fd6cf6" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- ชัดๆ ใกล้ๆ ครับ</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=3f963c9feab4440fad1992adbfc3258b" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.5 ท่อน้ำเข้า-ออกตู้ Heater </span></font></p><p>หน้าที่ของมันก็เป็นการนำน้ำหล่อเย็น(น้ำร้อน)ที่ได้จากเสื้อน้ำ(1.3) เข้าไปยังฮีตเตอร์ในตู้แอร์มิกซ์</p><p>- ท่อน้ำทั้งหมดจะมี 3 ท่อน คือน้ำเข้า 2 ท่อน(มีวาล์วน้ำคั่นกลาง) และท่อน้ำออก 1 ท่อนครับ</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=a53b44637dde463094003115b7ba859b" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- จุดที่ต้องเจาะตัวรถเพื่อให้ท่อฮีตเตอร์และสายลิงค์โผล่ออกมาครับ</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=e9adbc57038a400fb049b8947a23d3ef" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- จุดที่บางคนสงสัยว่าท่อน้ำที่ออกจากเครื่องเพื่อเข้าฮีตเตอร์มันอยู่ตรงไหน (มันอยูใต้จานจ่ายครับ อันนี้ถ่ายจากด้านหลังเครื่องฝั่งไอดี)</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=59a3af7edadd4a43967f58117db8939f" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.6 Thermostat (เทอร์โมสตัท)</span></font></p><p>เทอร์โมสตัทนี้จะติดตั้งอยู่ภายในตู้แอร์หรือตู้คอยล์เย็นครับ ลึกเข้าไปด้านในประมาณ 6 ซม. และต้องติดตั้งอยู่ด้านขาออกของลมครับ</p><p>เทอร์โมสตัทโดยหน้าที่ของมันแล้วจะเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิภายในตู้แอร์(คอยล์เย็น) ไม่ให้เย็นเกินไป เนื่องจากถ้าเย็นจนถึงเป็นน้ำแข็งเกาะที่คอยล์เย็นแล้วจะทำให้แรงลมที่มาจากโบเวอร์จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ จะลมไม่สามารถผ่านแผงคอยล์เย็นได้ ก็จะทำให้ไม่มีลมออกที่ช่องแอร์ซิครับงานนี้ บอกแนวทางไว้ให้ถ้าลมที่ช่องแอร์ใครค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ เวลาเปิดนานๆ ก็ลองเช็คตัวเทอร์โมสตัทดูครับ </p><p>ลงลึกอีกนิดนะครับกับตัวเทอร์โมสตัท (คงจะไม่เบื่อกันก่อนนะ) เทอร์โมสตัทนั้นจะประกอบด้วย 2 ส่วนคือ</p><p>ส่วนแรก จะเป็นส่วนของ Thermister (เทอร์มิสเตอร์) จะมาจาก Thermo + Resistor เรียกง่ายๆก็ตัวต้านทานความร้อนครับ คือค่าความต้านทานภายในของมันจะเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ โดยตัวที่อยู่ในตู้แอร์แท่งดำๆนั่นล่ะครับ ตัวเทอร์มิสเตอร์</p><p>ส่วนที่สอง จะเป็นส่วนของสวิทช์ตัดต่อการทำงานของเทอร์โมสตัทครับ ภายในของตัวนี้จะเป็นทรานซิสเตอร์ทำหน้าที่ on หรือ off โดยมีตัวเทอร์มิสเตอร์เป็นตัวกำหนดกระแส bias ให้ครับ</p><p>ตัวนี้แค่นี้ล่ะเดี๋ยวจะไม่เข้าใจและกลายเป็นน่าเบื่อกระทู้ซะอีก</p><p><br /></p><p>- รูปตัวเซนเซอร์ก็ดูในข้อ 1.2 (ตู้คอยล์เย็น) นะครับ ตัวดำๆ ยาวๆ มีสายไฟ 2 เส้นนั้นล่ะ ค่าความต้านทานของเทอร์มิสเตอร์จะอยู่ประมาณ 7 กิโลโอห์ม(ขณะปิดแอร์)</p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.7 Exterior Temperature Sensor </span></font></p><p>ตัวเซนเซอร์ตัวนี้จะอยู่ตรงกันชนหน้าครับ หลังป้ายทะเบียน หน้าที่ของเซนเซอร์ตัวนี้ก็จะวัดอุณหภูมิภายนอกห้องโดยสาร เพื่อเป็นการกำหนดการเปิด-ปิดวาล์วน้ำ(1.4) ให้น้ำร้อนเข้าฮีตเตอร์ และจะเป็นตัวกำหนดการเปรียบเทียบหรือชดเชยอุณหภูมิในส่วนลมเย็น(แอร์)ที่ต้องทำงานครับ ซึ่งมันเป็นอัลกอริทึม (algorithm) ของระบบครับ ผมไม่ทราบ <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p>เซนเซอร์ตัวนี้จะมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ให้ค่าออกมาเป็นความต้านทาน โดยที่เมื่ออุณหภูมิต่ำลงค่าความต้านทานจะสูงขึ้น (แปรผกผันกัน) ครับ</p><p>- ตำแหน่งติดตั้งครับ อยู่หลังป้ายทะเบียน (รถยังไม่ได้ล้าง ศพแมลงติดเต็มเลย <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> )</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=55d917011fe141749ed30416e0da50d3" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- หน้าตาก็เป็นแบบนี้ครับ ของผมตอนติดตั้งไม่ได้ยึดสายไฟให้แน่ เวลาขับโดนลมปะทะ นานๆไปสายไฟขาดในครับต้องปลอกสายแล้วบัดกรีใหม่ครับ ของเพื่อนๆก็ดูหน่อยล่ะกันเดี๋ยวจะเป็นเหมือนผม</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=d6b4c88ab58442279d98f1b2cd95aa7e" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- วัดค่ากันเลยครับ จะได้รู้ค่ามัน ต่อไปถ้าระบบแอร์ผิดปกติก็จะได้รู้ว่ามันเพี้ยนไปหรือเปล่า</p><p>การเปลี่ยนแปลงค่าความต้านทานนั้นจะเป็นไปอยู่ช้าๆ ถึงแม้อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหัน เนื่องจากการขับรถอาจจะเจอน้ำ เจอแดด เจอร่มเงา เป็นช่วงๆอาจจะสั้น หากเซนเซอร์ไวเกินไปจะทำให้ระบบแอร์ทำงานหนัก เพราะมันจะพยายามเปลี่ยนระบบตามอุณหภูมิด้านนอกมากเกินไป</p><p>อันนี้วัดตอนเช้าแดดอ่อนๆ ไม่ร้อน ค่าจะอยู่ประมาณ 1.2 กิโลโอห์ม </p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=32ba51cfc4bf4ba1abb2c6180e632a0e" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>วัดกลางคืนอากาศเย็นๆหน่อย(อุณหภูมิต่ำลง)จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 กิโลโอห์ม ลองเอาไปจุ่มน้ำเย็นๆในอ่างบัวดู อยู่ประมาณ 1.7 กิโลโอห์ม <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie7" alt=":p" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=1a0e368ca4c74fcfa4e5bc806ac82a19" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>วัดตอนกลางวันแดดร้อนๆเที่ยงๆ (อุณหภูมิสูงขึ้น) จะอยู่ที่ประมาณ 1 กิโลโอห์ม</p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.8 Interior Temperature Sensor </span></font></p><p>ตัวเซนเซอร์ตัวนี้จะอยู่ตรงช่องที่หัวเข่าซ้ายคนขับครับ หน้าที่ของเซนเซอร์ตัวนี้ก็จะวัดอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร (เน้นด้านคนขับเป็นหลัก) และ เซนเซอร์ตัวนี้ก็เหมือนกันกับตัวก่อนคือจะมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่ให้ค่าออกมาเป็นความต้านทาน โดยที่เมื่ออุณหภูมิต่ำลงค่าความต้านทานจะสูงขึ้น (แปรผกผันกัน) ส่งเข้าประมวลผลด้วยเช่นกัน อืม!! จะเบื่อกันหรือเปล่านะ เริ่มจะออกวิชาการอีกแล้ว <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> ไปดูตัวจริงๆ กันดีกว่า</p><p>- มันอยู่ตรงนี้ล่ะ หลังช่องครับ อากาศภายในห้องโดยสารส่วน</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=f11af4a6161749f3a9858c066163abea" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- การดึงอุณหภูมิภายในห้องโดยสารมาก็จะมีท่อดูดอากาศต่อด้านหลัง โดยอากาศจะผ่านเข้าด้านหน้า(สี่เหลี่ยม) ออกด้านหลัง (กลม)</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=ed06949ac24c4c2ba6a9a98597563dd8" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- คนเบื้องหลัง เฮ้ย!! เซนเซอร์เบื้องหลัง ที่มาของอุณหภูมิที่สบายๆ ในห้องโดยสาร</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=9fa11230d4e3462e946b0f19ff5661e2" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- เอามันออกมาให้ชัดๆ คงไม่ถึงกับต้องแยกชิ้นส่วนนะ ตุ่มกลมๆที่เห็นอยู่ตรงกลาง(กล้องโทรฯ ไม่ชัดเท่าไหร่ ขออภัย) อันเท่าหัวไม้ขีดไฟ นั้นล่ะครับเซนเซอร์มัน</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=f6cc0a730f3342a2a1b2720bc0cd3960" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- วัดกันเห็น ๆ ที่อุณหภูมิต่างๆ อันนี้วัดตอนเช้า อากาศเย็นมีลมพัด ซึ่งเซนเวอร์ตัวนี้จะไวต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภุมิมากกว่า Exterior Temperature Sensor มาก</p><p>30 องศา = 1.6 กิโลโอห์ม</p><p>29 องศา = 1.8 กิโลโอห์ม</p><p>25 องศา = 5.5 กิโลโอห์ม</p><p>24 องศา = 6.2 กิโลโอห์ม</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=1c807254e4064f398257e142953608c7" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>เอาล่ะพอแค่นี้เซนเซอร์ตัวนี้ ยังมีตัวเด็ดๆในมึนหัวตึ๊บ!! อีกเยอะครับ <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.9 UV Sensor </span></font></p><p>เซนเชอร์ตัวนี้จะอยู่ที่บนคอนโซนหน้าครับ โดยจะทำหน้าที่รังสีอุลตราไวโอเลต (Ultraviolet,UV) ซึ่งรังสีนี้มันก็อยู่ในแสงแดดนี่ล่ะ เอาเป็นว่าผมเรียกว่าเซนเซอร์วัดแสงละกัน ทุกวันนี้แสง UV จะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เพราะชั้นบรรยากาศถูกทำลายมากขึ้น เราจึงช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยนะครับ อุ๊ย!! นอกเรื่องแล้ว กลับมาๆๆ <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> เหตุที่ต้องวัดแสงนี้ เพราะแสงสามารถส่องผ่านกระจกหน้ารถเข้ามาได้ (จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับฟีล์มกรองแสงด้วย) เมื่อตกกระทบกับอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนต่างๆภายในรถก็จะทำให้เกิดความร้อนขึ้นบนผิววัตถุนั้น โดยเฉพาะพวกคอนโซนดำ 555 +&nbsp; ยิ่งแสงมาก(แดดแรง) ก็จะเกิดความร้อนมาก ก็จะนำค่าที่ได้จากการวัดไปประมวลผลอีกทีร่วมกับเซนเชอร์อื่นๆ คงไม่ต้องเอาอัลกอริทึม (algorithm) มานะ เพราะผมเองก็ไม่รู้ <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> เซนเซอร์นี้พูดมายาวแล้ว เดี๋ยวเบื่อกันซะก่อน ดูตัวจริงเลยดีกว่าครับ</p><p>- ตำแหน่งติดตั้งครับ จุดนี้ล่ะรับแดดกันเต็มๆ</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=6ec54490c0f8438899dc7c31dd958505" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- ตัวเป็นๆ แบบนี้ล่ะครับ </p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=4f32e55728624b99ba18bc5828ae1ab8" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- แยกชิ้นออกมาดูกัน ชัดๆ ครับ ด้านซ้ายก็กรอบมัน ตรงกลางเป็น filter กรองรังสีอื่นๆที่ไม่ใช่ UV ออกไป(บ้าง)และป้องกันการกระแทกหัวเซนเซอร์ ส่วนด้านขวาคือหัวเซนเซอร์ครับ (ดูบอบบางมาก)</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=42544d9877644dc68c8d18c18de9b45d" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- นี้ล่ะตัวเซนเซอร์มันครับ หลักการก็คล้ายๆกับโซล่าเซลล์ (Solar Cell) นั้นเอง คือจะเปลี่ยนแสงเป็นพลังงานในรูปแรงดันครับ เอาเข้าใจง่ายๆก็เหมือนเครื่องคิดเลขที่ใช้แสงเป็นพลังงาน</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=52217506c29c45539267692638f02f6b" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- วัดกันเห็น ๆ (อีกแล้ว) เซนเซอร์ตัวนี้มีการทำงานที่ค้านข้างไวแสงมากครับ</p><p>แดดจ้า = 495 mV.</p><p>แดดอ่อนตอนเช้า = 470 mV.</p><p>ไม่มีแดด = 270 mV.</p><p>ในเงามืด = 60 mV.</p><p>กลางคืน = 0 V.</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=aa6b4bca39cb4919afb38e289815dbee" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ก็แค่นี้นะครับสำหรับเซนเซอร์ตัวนี้ ผมไม่ลงลึกถึงวัสดุหรือสารที่เอามาทำเดี๋ยวมันจะยาวน่าเบื่อไป เอาแบบขำๆก็พอ <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.10 Relay (รีเลย์)</span></font></p><p>มันก็คือสวิทช์นี้ล่ะครับ โดยจะป้อนไฟ 12 โวลล์ผ่านขดลวดเข้าไปสร้างสนามแม่เหล็กดึงให้หน้าคอนเท็คของสวิทช์ติดกัน ลักษณะก็เป็นรีเลย์ 4 ขาธรรมดาทั่วไปครับ</p><p>ตัวรีเลย์นี้จะทำหน้าที่เฉพาะตอนที่จะให้พัดลมในตู้โบเวอร์ทำงานเต็ม 100 % เท่านั้น ส่วนระดับความเร็วของโบเวอร์อื่นๆ จะเป็นหน้าที่ของ Power Transistor (1.11) ครับ</p><p>- อันนี้ของผมหน้าตาโบราณจริงๆ สนิมก็ขึ้น แต่ใช้ได้ครับ ของ DENSO made in japan เหมือนกัน <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=6dc3d58d7aa74dc793f3c35ece024176" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.11 Power Transistor </span></font></p><p>หน้าที่ของตัวนี้ก็คือมาแทนที่ขดลวดต้านท้านที่อยู่ภายในตู้โบเวอร์ครับ</p><p>พูดถึงของเดิมก่อนนะ ของเดิมจะเป็นคอยล์ต้านทานแบบ 3 ขดต่ออนุกรมกันอยู่ ก็จะได้ความแรงลม 4 ระดับตามที่กรอบแอร์มี (ระดับ 4 แรงสุดจะไม่ผ่านคอยล์ต้านทาน)</p><p>ที่นี้ก็มาดู power transistor บ้าง ตัวนี้จะติดอยู่กับซิงค์ระบายความร้อนด้วยและติดตั้งลงในตู้โบเวอร์ (แทนที่ของเดิม) เหตุที่ต้องติดตั้งลงในตู้โวเวอร์ก็เพราะทั้งคอยล์ต้านทานและpower transistor มันจะเกิดความร้อนขึ้นขณะมันทำงาน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายก็ต้องอาศัยลมจากโบเวอร์ช่วยระบายให้เย็นลงครับ </p><p>Power Transistor ที่ใช้จะเป็นเบอร์ 2SD1460 ชนิด NPN และตัวถังแบบ TO-3 ครับ ก็ไม่ต้องใส่ใจอะไรมากแค่บอกให้รู้ไว้แค่นั้นครับ เดี๋ยวจะเข้าหลักการมากไปอีก ดูกันต่อเลยดีกว่าครับ</p><p>- เดิมๆที่อยู่ในตู้โบเวอร์บ้านเราจะเป็นแบบนี้ครับ เป็นคอยล์ต้านทานครับ (ตัวที่ตั้งยืนพิงอยู่)</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=9cdd05f7d45e4cca94571c72c0c11fc4" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>- อันนี้ล่ะครับ อยู่ในตู้โบเวอร์ครับ ของผมก็เก่าๆ โบราณอีกแล้ว แต่ใช้งานได้ดีครับ <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ครับทรานซิสเตอร์ ตัวถัง TO-3</p><p><img src="http://www.itsmyhonda.com/Imagehandler.ashx?type=img&amp;id=fbe9dabd98d54f919c30e147986ec783" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Lime">1.12 ชุดสายไฟ </span></font></p><p>ตัวนี้ถ้าจะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้ เดี๋ยวมันจะเหมือนขาดๆอะไรไป ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ส่วนที่สำคัญมาก ประมาณว่ามีก็ดีไม่มีก็ได้ เพราะชุดสายไฟนั้นถ้าช่างที่ชำนาญแล้วจะสามารถตัดแต่งดัดแปลงจากชุดสายไฟเดิมได้ครับ แต่ที่ต้องมีแน่ๆ คือ &quot;ปลั๊ก&quot; ครับ ปลั๊กต่างๆ เช่นปลั๊กของชุดกรอบแอร์ ปลั๊กเซนเซอร์ ปลั๊กมอเตอร์ต่างๆ แต่ก็อย่างว่านั่นล่ะครับ ไม่มีก็ได้แต่คงไม่น่าดูและยากต่อการ service หรือกับคนที่ชอบรื้อรถเล่น D.I.Y อะไรเล่นๆ (ผมก็คนหนึ่ง) <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p>- ชุดสายไฟผมไม่มีรูปให้ดู(ขออภัย) เพราะไม่อยากรื้อ เดี๋ยวจะงานใหญ่ไป <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><font size="2"><span style="color: Red">สรุปก่อนจบ (1.) </span></font></p><p>เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันครับ กว่าจะจบตอนนี้ได้ รื้อรถตัวเองซะเลย (ไม่เป็นไรครับ รื้อเล่นอยู่บ่อย <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie8" alt=":D" unselectable="on" unselectable="on" /> ) เพื่อผมพยายามให้เพื่อนๆมองเห็นภาพจริงๆว่ามันเป็นยังไง รูปก็เลยเยอะไปหน่อย จริงๆก็เยอะกว่านี้ครับ แต่ต้องตัดออกไปบ้างเดี๋ยวมันจะโหลดนานไป</p><p>จริงๆส่วนที่ 1. นี้มันมีรายละเอียดเยอะมากๆ ถ้าเอาแบบลงลึกเกินไปมันจะน่าเบื่อเปล่าๆ อยากให้อ่านแบบไม่เครียด ไม่ต้องลงวิชาการมากครับ</p><p>จบส่วนนี้แล้วมีอะไรสงสัยหรือผมผิดพลาดตรงไหนก็แจ้งได้เลยครับ[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• Log in with Facebook
• Log in with Twitter
• Log in with Google

Your name or email address:

Do you already have an account?

• No, create an account now.
• Yes, my password is:
• Forgot your password?

Stay logged in

• X