• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

Name:

Verification:

Loading...

Message:

<p>[QUOTE=&quot;อั้ม ( RE SUPER G ) fc3s, post: 702342, member: 65627&quot;]เคยใช้200มาขอตอบคับ&nbsp; ลองใช้วิธีผมดูนะคับ </p><p>&nbsp;1.ต้องลองเช็คระบบแอร์ดูก่อนว่าน้ำยาแอร์ขาดรึเปล่า</p><p>2.พัดลมหน้ารังผึ้งแอร์ทำงานแผ่วลงรึเปล่า&nbsp;&nbsp; (ทำงานได้แรงเต็มที่ไหม)</p><p>3.กำลังอัดของคอมแอร์ตกไปไหม</p><p>ถ้าทั้งหมดเช็คที่ร้านแอร์หมดแล้ว&nbsp; ปกติดีทุกอย่าง&nbsp; ของผมวิธีการแก้ปัญหาคือพกขวดน้ำกลั่นไว้ในรถเลยคับ&nbsp; ก่อนออกสตาร์ดไปไหนตอนเที่ยงๆ ให้เอาน้ำเปล่าใส่ขวด เช่นพวกขวดน้ำกลั่นแล้วบีบน้ำให้ฉีดใส่รังผึ้งแอร์กับหม้อน้ำคับ รถคุณแอร์ก็จะช่ำเร็วขึ้น และถ้าขับแบบรถไม่ติดแบบว่าลมได้เป่ารังผึ้งไปเรื่อยๆ แอร์ก็จะยังคงช่ำไปตลอดทาง&nbsp; แต่หากต้องไปเส้นทางที่รถติดๆมากๆ&nbsp; วิธีนี้อาจไม่ค่อยได้ผลในตอนรถจอดติดนานๆแบบไม่ขยับ และพยายามขับห่างคันหน้าไว้หน่อยเพื่อให้อากาศที่เย็นได้ผ่านหน้ารถเราบ้าง&nbsp; ถ้าจอดติดชิดคันหน้าไปอาจได้รับความร้อนของท่อไอเสียคันหน้ามาทำให้ระบบความเย็นรถเราทำงานหนักมากขึ้น</p><p><br /></p><p>และถ้าจอดตากแดดไว้นานๆแล้วแอร์ไม่ค่อยเย็นกว่าจะเย็นก็นาน ใช้วิธีข้างบนได้ผลแน่นอนคับ&nbsp; หรือถ้าไม่ได้เตรียมน้ำไปฉีดรังผึ้งแอร์&nbsp; วิธีแก้ให้เปิดฝากระโปรงรถ(ห้องเครื่อง)&nbsp; แล้วสตาร์ดทิ้งไว้ซัก2นาทีก่อนออกสตาร์ดเดินทาง&nbsp; เพื่อระบายความร้อนที่ระอุอยู่ในห้องเครื่องคับ&nbsp; แต่จะได้ผลน้อยกว่านำน้ำฉีดใส่รังผึ้งแอร์&nbsp;&nbsp; เพื่อนๆลองทำดูนะคับ สำหรับผลมีความรู้สึกว่าได้ผลคับ&nbsp; ตอนนี้ใช้ซาวาน่าก็ยังทำอยู่คับ&nbsp; บางทีใช้รถเดิมๆที่บ้านจอดตากแดดไว้นานๆใช้วิธีเปิดฝากระโปรงก็ยังใช้ได้ผลอยู่คับ เพราะแอร์จะเย็นเร็วขึ้นเพราะเราไล่ความร้อนที่ระอุขังอยู่ในห้องเครื่องออกไปก่อนอะคับ[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• Log in with Facebook
• Log in with Twitter
• Log in with Google

Your name or email address:

Do you already have an account?

• No, create an account now.
• Yes, my password is:
• Forgot your password?

Stay logged in

• X