• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;News, post: 6746706, member: 3&quot;]<p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/mYeH6XS.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>การขับขี่แบบออฟโรดในช่วงสุดสัปดาห์คือกิจกรรมยามว่างแสนสนุกสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความจำเจในชีวิตประจำวัน และออกไปสัมผัสการเดินทางบนท้องถนนที่ไม่ค่อยมีรถสัญจรในช่วงสุดสัปดาห์ดูบ้าง เมื่อการขับขี่แบบออฟโรดได้รับความนิยมมากขึ้น เทคโนโลยีช่วยขับขี่ก็ได้รับการพัฒนาตามไปด้วย เทคโนโลยีเหล่านี้คือตัวช่วยอันน่าตื่นตาตื่นใจที่จะทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น</p><p><br /></p><p>ริชาร์ด วูลลี่ หัวหน้าฝ่ายคุณสมบัติยานยนต์แบบบูรณาการ ฟอร์ด เอเชีย แปซิฟิก มักจะนำรถฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ออกไปตะลุยสภาพพื้นผิวแบบออฟโรดเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นทางที่เป็นหิน โคลนลึก และเขาสูงชัน เพื่อให้เข้าใจถึงการทำงานต่างๆ ของเครื่องยนต์ ในเวลาที่ไม่ได้ขับขี่อยู่บนถนนลาดยางทั่วไป โดยเขาพร้อมจะแบ่งปันเคล็ดลับดีๆ ในฐานะช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/in4Fwvt.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>เตรียมตัวให้พร้อม</b></p><p>ก่อนเดินทางออกนอกเมืองไปลุยเส้นทางออฟโรด คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า รถของคุณมีน้ำมันเต็มถัง และคุณมีแผนที่หรือจีพีเอสติดรถ ระบบแผนที่นำทางอย่าง ระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 3 ที่ติดตั้งมากับฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ คือ ผู้ช่วยสุดยอดสำหรับการวางแผนเส้นทางล่วงหน้า</p><p><br /></p><p>&quot;ถึงแม้จะมีการเตรียมการณ์มาเป็นอย่างดี การขับออฟโรดที่ดีที่สุดคือการมีเพื่อนนั่งไปด้วย&quot; ริชาร์ด กล่าว &quot;อย่าพยายามออกเดินทางเพียงลำพัง เพราะคุณอาจพบเจอกรณีที่รถใช้งานไม่ได้ หรือน้ำมันหมด และคุณควรบอกให้เพื่อนหรือครอบครัวทราบด้วยว่า คุณจะขับออกนอกเมืองไปในเส้นทางไหน&quot;</p><p><br /></p><p>ความรู้เรื่องวิธีติดตั้งสายลากรถกรณีรถติดหล่ม รู้ว่าทางเข้าของช่องอากาศอยู่ตรงไหน และความสูงจากพื้นรถอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งสำหรับ ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ นั้น ตัวรถนั้นมีความสูงจากพื้นรถถึง 225 มิลลิเมตร สิ่งเหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องรู้ เพื่อใช้ประเมินเส้นทางก่อนขับออฟโรด</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/Su3Bykm.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>ตะลุยบ่อโคลน</b></p><p>เส้นทางที่เต็มไปด้วยโคลนนับเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง เพราะถนนจะค่อยๆ ลื่นขึ้น จากร่องถนนที่เกิดขึ้นจากการสัญจรของรถและฝนที่ตกลงมาขังอยู่ในนั้น สำหรับรถยนต์ที่มีระบบ Terrain Management (หรือการตั้งค่าสภาพพื้นผิวอัจฉริยะเพื่อพิชิตทุกสภาพเส้นทาง) โหมดสภาพพื้นผิวโคลน ได้รับการออกแบบมาให้รอบการหมุนของเครื่องยนต์ต่อนาทีอยู่ในระดับต่ำเพื่อการควบคุมรถที่ง่ายขึ้น ส่วนระบบป้องกันล้อล็อค ABS ก็จะทำงานควบคู่กับระบบควบคุมแรงบิด เพื่อลดการลื่นไถลของรถ</p><p><br /></p><p>&quot;ในกรณีที่รถผมไปลุยโคลนมา ผมก็จะลงจากรถมาเช็คดูที่บริเวณโคลนว่าไม่มีวัตถุแปลกประหลาดติดอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้รถเสียหายได้ต่อไป&quot; ริชาร์ดกล่าว</p><p><br /></p><p><b>ฝ่าถนนหินขรุขระ</b></p><p>เส้นทางที่เต็มไปด้วยก้อนหินมักจะขรุขระไม่เรียบอยู่แล้ว ดังนั้น การควบคุมความเร็วรถให้ช้าและคงที่ จึงเป็นวิธีที่ดีสุดสำหรับการพิชิตเส้นทางออฟโรด การเลือกใช้โหมดหิน จากระบบ Terrain Management ซึ่งสามารถใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแค่เลือกที่ปุ่มโหมดหินขณะเข้าเกียร์ว่าง และทำตามวิธีที่ระบบแนะนำเพื่อใช้โหมดการตั้งค่าขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอัตราเกียร์ทดต่ำ</p><p><br /></p><p>&quot;โหมดหินจะยังคงใช้เกียร์หนึ่งในแบบอัตราทดต่ำ (4x4 Low) เพื่อรักษาการหมุนของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแรงบิดของเครื่องยนต์ อีกทั้งยังช่วยลดแรงกระแทกในกรณีที่คุณขับรถเหยียบสิ่งกีดขวาง การขับขี่จึงเป็นไปอย่างนุ่มนวลมากขึ้น” รีชาร์ด อธิบายเสริม “การทำงานร่วมกันของระบบป้องกันล้อล็อค ABS กับระบบควบคุมแรงบิด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ในสภาพถนนที่ยากลำบาก&quot;</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/EbTN2AE.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>พิชิตเขาสูง</b></p><p>&quot;เวลาขึ้นเขาสูงชันนั้นค่อนข้างยากลำบาก เพราะเราไม่รู้ว่าควรจะใช้เส้นทางไหนดี&quot; ริชาร์ด กล่าว &quot;ถ้าไม่อันตราย ให้คุณลงจากรถมาเดินตามทาง เพื่อสำรวจว่ามีหลุมหรือก้อนหิน เพื่อป้องกันล้อไม่ให้ลื่นไถลได้หรือไม่&quot;</p><p><br /></p><p>การตั้งค่าระบบเกียร์แบบอัตราทดต่ำ (4x4 Low) จะทำให้รถสามารถคงรอบและแรงบิดของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม คุณจะได้ค่อยๆ ขับปีนเขาขึ้นไป โดยไม่เสียกำลังเครื่องมากจนเกินไป หากคุณต้องการหยุดหรือจอดรถบนทางลาดชัน ระบบช่วยออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) จะช่วยให้คุณหยุดรถเพื่อประเมินเส้นทางอีกครั้งได้ และเมื่อคุณยกเท้าออกจากเบรก ระบบจะช่วยให้รถยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมได้อีก 2-3 วินาที ก่อนที่รถจะออกตัว</p><p><br /></p><p>ถ้าหากเส้นทางนั้นหฤโหดมากจริงๆ ระบบล็อคค่าความต่างของล้อหลัง จะเพิ่มแรงบิดของเครื่องยนต์เต็มพิกัดไปยังล้อหลังทั้งสอง เพื่อช่วยส่งแรงไปด้านหน้า</p><p><br /></p><p><b>ทั้งลื่นทั้งชันก็ไม่ใช่ปัญหา</b></p><p>ในขณะขับรถลงเขา คุณจะต้องระมัดระวังไม่ไปล็อคล้อและกลายเป็นว่าลื่นลงเขาแบบควบคุมรถไม่อยู่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) จะช่วยเสริมแรงเบรก ทำให้คุณขับลงเขาที่ระดับความเร็วต่อเนื่อง คุณเพียงควบคุมพวงมาลัย ส่วนที่เหลือฟอร์ด เอเวอเรสต์ จะจัดการให้เอง</p><p><br /></p><p>&quot;หากเป็นไปได้ คุณควรเดินลงเขามาดูก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรรออยู่ด้านล่าง แล้วจึงค่อยเลือกว่าจะขับเส้นทางไหนลงจากภูเขาดี&quot; ริชาร์ดกล่าว</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/EIlcCAA.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>พื้นทรายไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก</b></p><p>โหมดพื้นทรายในระบบ Terrain Management จะช่วยเพิ่มแรงบิดของเครื่องยนต์และการตอบสนองของตัวเร่งร่วมกัน เพื่อรักษาโมเมนตัมจำเป็นให้ขับผ่านพื้นทรายไปได้</p><p><br /></p><p>&quot;การขับขี่บนชายหาดนั้นเป็นอะไรที่สนุกมาก แต่กำลังเครื่องจะลดลงเนื่องจากสภาพของพื้นผิว ดังนั้นการรักษาโมเมนตัมไว้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ&quot; ริชาร์ด กล่าว &quot;การพยายามเร่งเครื่องให้แรงขึ้นมีแต่จะทำให้รถคุณจมลงร่องทราย แต่การขับช้าเกินไปก็อาจทำให้คุณขับไม่ไป โดยรวมจึงเป็นเรื่องของการรักษาสมดุลของโมเมนตัมให้คงที่&quot;</p><p><br /></p><p>ขอให้พยายามชะลอรถก่อนจอด แทนการเหยียบเบรก เพราะจะทำให้ล้อไม่จมลงทรายมากนัก และสามารถออกตัวได้ง่ายขึ้น</p><p><br /></p><p><b>ปัดกวาดเช็ดถู</b></p><p>หลังจากออกไปขับรถอย่างสนุกสนานในช่วงสุดสัปดาห์มาแล้ว ก็ถึงเวลามาตรวจสอบดูว่ามีสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายกับรถของคุณหรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนยาง คงเป็นการเปล่าประโยชน์ที่จะเอายางสำรองไปด้วยถ้าไม่ได้เติมลมยางเอาไว้ก่อน และหากคุณพารถไปตะลุยชายหาดหรือแม้กระทั่งแม่น้ำ อย่าลืมล้างรถให้ดี เพื่อป้องกันการกัดเซาะของเกลือที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X