เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
News
>
เสถียรภาพการขับขี่อันยอดเยี่ยม แม้บนเส้นทางเปียกลื่น
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="News, post: 7116886, member: 3"]<p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/iKhIDMz.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ปอร์เช่ 911 ใหม่ (The new Porsche 911) ที่สุดแห่งศักยภาพความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย: Porsche Wet Mode ทายาทลำดับที่ 8 เจเนอเรชั่นล่าสุดของปอร์เช่ 911 ไม่ได้มีเพียงพละกำลังมหาศาลที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ยังคงพกพาความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เหนือขึ้นไปอีกขั้นด้วย Porsche Wet Mode, ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง นวัตกรรมล้ำเลิศทางวิศวกรรมยานยนต์ที่มาพร้อมยนตรกรรมสปอร์ตคันนี้ พร้อมส่งมอบประสิทธิภาพ การขับขี่และ บังคับควบคุมอันเฉียบคมอย่างน่าอัศจรรย์แม้บนถนนที่เปียกลื่น – ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรก ของโลก พิเศษสุดสำหรับปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ด้วยการรวมฟังก์ชันการทำงานที่สามารถตรวจสอบสภาพเส้น ทางที่มีน้ำขัง จากนั้นรถยนต์จะได้รับการปรับตั้งค่าการตอบสนองเพื่อรองรับการขับขี่และเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวสูงสุด แม้บนพื้นผิวที่เจิ่งนองหรือเปียกลื่นไปด้วยน้ำ</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/SGjXesO.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>กระบวนการทำงานของ Porsche Wet Mode</b></p><p>"Wet Mode ได้รับการคิดค้นพัฒนาขึ้นเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ ในสภาพการณ์ที่ต้องเผชิญกับพื้นถนน ที่เปียกลื่นการทำงานของระบบช่วยเหลือดังกล่าวไม่ได้เป็นการขวางกั้นพละกำลังมหาศาลของขุมพลังเครื่องยนต์และไม่ได้เป็น การจำกัดความเร็วสูงสุดแต่อย่างใด สิ่งนี้ไม่ได้เป็นหลักประกันความปลอดภัยต่อการขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินขอบเขต ใน สภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยน้ำ แต่รับรองได้ว่านี่คือระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่สามารถเข้าถึงทุกประสาทสัมผัสของผู้ ขับขี่ได้อย่างแท้จริง" ข้างต้นคือคำกล่าวของ August Achleitner หัวหน้าทีมพัฒนารถยนต์หลาก รุ่นมาเป็นระยะเวลา หลายปี Porsche Wet Mode เปี่ยมไปด้วยความยอดเยี่ยมในการตรวจจับสภาพถนนที่เปียกลื่น โดยอัตโนมัติ และสามารถส่งสัญญาณไปยังผู้ขับขี่เพื่อให้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดอาการเหินน้ำหรือ aquaplaning กระบวนการ ทำงานดังกล่าว เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ acoustic sensors รับหน้าที่ในการตรวจจับปริมาณละอองน้ำที่ถูกสาด ขึ้นมาบริเวณซุ้มล้อหน้า โดยอาศัยหลักการที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง จากวิธีการทำงานของเซนเซอร์ปัดน้ำฝนกระจกบังลม หน้าหรือ windscreen wiper rain sensors ซึ่งตรวจสอบเพียงการสะท้อนแสงของหยดน้ำที่ตกกระทบลงบนผิวกระจก ไม่ได้สื่อถึงสภาพเส้นทางที่แท้จริงแต่อย่างใด เนื่องจากในสถานการณ์จริงอาจยังมีน้ำขังอยู่บนผิวทางแม้ว่าฝนจะหยุด ตกไปแล้วก็ตาม</p><p><br /></p><p>ในกรณีที่ระบบตรวจพบผิวถนนที่เปียกลื่น พฤติกรรมในการตอบสนองของระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวด้วย อิเล็กทรอนิกส์ Porsche Stability Management (PSM) และระบบ Porsche Traction Management (PTM) จะได้รับการปรับตั้งการทำงานล่วงหน้าโดยทันทีทันใด ระบบทั้ง 2 จะถูกเตรียมพร้อมและเพิ่มอัตราการตอบสนองที่รวด เร็วยิ่งขึ้นกว่าในสถานการณ์ปกติทั่วไป สัญญาณเตือนจะแสดงขึ้นบนหน้าจอฝั่งขวามือของมาตรวัดความเร็วรอบ เครื่องยนต์เพื่อให้ข้อมูลไปยังผู้ขับขี่ถึงสภาพถนนที่มีน้ำขัง และแนะนำให้เปลี่ยนรูปแบบการขับเป็น Wet Mode โดย สามารถสั่งการฟังก์ชันดังกล่าวได้อย่างง่ายดายผ่านแผงสวิทช์ควบคุมบริเวณคอนโซลกลาง หรือสั่งการผ่าน mode switch บนพวงมาลัยเมื่อติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/ylEcxUV.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ขณะที่ Wet mode กำลังทำงาน ระบบ PSM, PTM, ระบบอากาศพลศาสตร์, อุปกรณ์พิเศษ Porsche Torque Vectoring (PTV) Plus และการตอบสนองของตัวรถทั้งหมดจะได้รับการปรับไปยังเงื่อนไขที่พร้อมเพิ่มเติมเสถียรภาพการบังคับ ควบคุมสูงสุดที่ความเร็วตั้งแต่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ชุดสปอยเลอร์หลังแบบปรับระดับอัตโนมัติจะถูกตั้งไว้ใน ตำแหน่งที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ครีบดักอากาศจะได้รับการเปิดออกจนสุด การตอบสนองของแป้นคันเร่งจะลดความไวลง และผู้ขับขี่จะไม่สามารถสั่งปิดการทำงานของระบบ PSM รวมทั้งไม่สามารถเลือกใช้ Sport mode แรงบิดที่ได้จาก เครื่องยนต์จะถูกปรับแต่งให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนอัตราทดของชุดเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ PDK แปดจังหวะจะ เป็นไปอย่างราบเรียบเช่นเดียวกัน สำหรับปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (Porsche 911 Carrera 4S) รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel-drive พละกำลังส่วนหนึ่งจะถูกถ่ายเทไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หน้าด้วยอัตราส่วนที่มากกว่าปกติเพื่อผลในการ เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว สัดส่วนการจับตัวของเฟืองท้าย electronically controlled differential เป็นอีกหนึ่ง กรรมวิธีของปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ที่ได้รับการปรับสภาพเพื่อพร้อมรับมือกับเส้นทางเปียกลื่น</p><p><br /></p><p>ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน: ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ให้การบังคับควบคุมที่มั่นใจเต็มพิกัด คล่องแคล่วและแม่นยำ เปี่ยมสมรรถนะแม้ในยามที่ต้องหักพวงมาลัยเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน รองรับการตอบสนองที่ สัมพันธ์กันอย่างสมดุลระหว่างพละกำลังที่เหมาะสมและสภาพพื้นผิวเส้นทางที่เกิดการเปลี่ยนแปลงสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานตลอดเวลา ระบบช่วยเหลือการขับขี่ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ไม่เพียงให้ความเชื่อมั่นบนถนนเปียกเท่านั้น แต่ Wet Mode ยังครอบคลุมถึงการใช้งานบนพื้นผิวที่ปกคลุมด้วยหิมะเช่นเดียวกัน</p><p><br /></p><p style="text-align: center">[MEDIA=youtube]gSpz0cMqCQo[/MEDIA]</p><p><br /></p><p>ปอร์เช่ 911 เจเนอเรชั่นล่าสุด (The new Porsche 911) ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่ Los Angeles เมื่อปลายเดือน พฤศจิกายน 2018 ประจำการด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบนอน พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอส (The new Porsche 911 Carrera S) และ 911 คาร์เรร่า 4 เอส ใหม่ (The new 911 Carrera 4S) ให้กำลังสูงสุดที่ 450 แรงม้า (331 กิโลวัตต์) เพิ่มขึ้นถึง 30 แรงม้า (22 กิโลวัตต์) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในเชิงของสมรรถนะการขับขี่ 911 ใหม่ (The new 911) ทั้ง 2 รุ่น สามารถเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปยังระดับความเร็วที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลา ต่ำกว่า 4 วินาที: กล่าวคือในรุ่นตัวถังสปอร์ตคูเป้สองประตูขับเคลื่อนล้อหลังใช้ เวลาเพียง 3.7 วินาที และสำหรับ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ใช้เวลาที่รวดเร็วกว่าเพียง 3.6 วินาทีเท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงอัตราเร่งที่เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 0.4 วินาที</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/D9ODHJQ.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอส (Porsche 911 Carrera S) และ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (Porsche 911 Carrera 4S) เปิดรับคำสั่งซื้อแล้ววันนี้ รวมถึงโมเดล คาบริโอเลต (Cabriolet) ราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับภาษีมูลค่าเพิ่มและอุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละประเทศ ทั้งนี้ Porsche Wet Mode จะได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรญานในปอร์เช่ 911 ใหม่ (The new Porsche 911) ทุกรุ่น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ปอร์เช่ เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="News, post: 7116886, member: 3"][CENTER][IMG]https://i.imgur.com/iKhIDMz.jpg[/IMG][/CENTER] ปอร์เช่ 911 ใหม่ (The new Porsche 911) ที่สุดแห่งศักยภาพความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย: Porsche Wet Mode ทายาทลำดับที่ 8 เจเนอเรชั่นล่าสุดของปอร์เช่ 911 ไม่ได้มีเพียงพละกำลังมหาศาลที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ยังคงพกพาความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เหนือขึ้นไปอีกขั้นด้วย Porsche Wet Mode, ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง นวัตกรรมล้ำเลิศทางวิศวกรรมยานยนต์ที่มาพร้อมยนตรกรรมสปอร์ตคันนี้ พร้อมส่งมอบประสิทธิภาพ การขับขี่และ บังคับควบคุมอันเฉียบคมอย่างน่าอัศจรรย์แม้บนถนนที่เปียกลื่น – ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรก ของโลก พิเศษสุดสำหรับปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ด้วยการรวมฟังก์ชันการทำงานที่สามารถตรวจสอบสภาพเส้น ทางที่มีน้ำขัง จากนั้นรถยนต์จะได้รับการปรับตั้งค่าการตอบสนองเพื่อรองรับการขับขี่และเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวสูงสุด แม้บนพื้นผิวที่เจิ่งนองหรือเปียกลื่นไปด้วยน้ำ [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/SGjXesO.jpg[/IMG][/CENTER] [B]กระบวนการทำงานของ Porsche Wet Mode[/B] "Wet Mode ได้รับการคิดค้นพัฒนาขึ้นเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ ในสภาพการณ์ที่ต้องเผชิญกับพื้นถนน ที่เปียกลื่นการทำงานของระบบช่วยเหลือดังกล่าวไม่ได้เป็นการขวางกั้นพละกำลังมหาศาลของขุมพลังเครื่องยนต์และไม่ได้เป็น การจำกัดความเร็วสูงสุดแต่อย่างใด สิ่งนี้ไม่ได้เป็นหลักประกันความปลอดภัยต่อการขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินขอบเขต ใน สภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยน้ำ แต่รับรองได้ว่านี่คือระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่สามารถเข้าถึงทุกประสาทสัมผัสของผู้ ขับขี่ได้อย่างแท้จริง" ข้างต้นคือคำกล่าวของ August Achleitner หัวหน้าทีมพัฒนารถยนต์หลาก รุ่นมาเป็นระยะเวลา หลายปี Porsche Wet Mode เปี่ยมไปด้วยความยอดเยี่ยมในการตรวจจับสภาพถนนที่เปียกลื่น โดยอัตโนมัติ และสามารถส่งสัญญาณไปยังผู้ขับขี่เพื่อให้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดอาการเหินน้ำหรือ aquaplaning กระบวนการ ทำงานดังกล่าว เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ acoustic sensors รับหน้าที่ในการตรวจจับปริมาณละอองน้ำที่ถูกสาด ขึ้นมาบริเวณซุ้มล้อหน้า โดยอาศัยหลักการที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง จากวิธีการทำงานของเซนเซอร์ปัดน้ำฝนกระจกบังลม หน้าหรือ windscreen wiper rain sensors ซึ่งตรวจสอบเพียงการสะท้อนแสงของหยดน้ำที่ตกกระทบลงบนผิวกระจก ไม่ได้สื่อถึงสภาพเส้นทางที่แท้จริงแต่อย่างใด เนื่องจากในสถานการณ์จริงอาจยังมีน้ำขังอยู่บนผิวทางแม้ว่าฝนจะหยุด ตกไปแล้วก็ตาม ในกรณีที่ระบบตรวจพบผิวถนนที่เปียกลื่น พฤติกรรมในการตอบสนองของระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวด้วย อิเล็กทรอนิกส์ Porsche Stability Management (PSM) และระบบ Porsche Traction Management (PTM) จะได้รับการปรับตั้งการทำงานล่วงหน้าโดยทันทีทันใด ระบบทั้ง 2 จะถูกเตรียมพร้อมและเพิ่มอัตราการตอบสนองที่รวด เร็วยิ่งขึ้นกว่าในสถานการณ์ปกติทั่วไป สัญญาณเตือนจะแสดงขึ้นบนหน้าจอฝั่งขวามือของมาตรวัดความเร็วรอบ เครื่องยนต์เพื่อให้ข้อมูลไปยังผู้ขับขี่ถึงสภาพถนนที่มีน้ำขัง และแนะนำให้เปลี่ยนรูปแบบการขับเป็น Wet Mode โดย สามารถสั่งการฟังก์ชันดังกล่าวได้อย่างง่ายดายผ่านแผงสวิทช์ควบคุมบริเวณคอนโซลกลาง หรือสั่งการผ่าน mode switch บนพวงมาลัยเมื่อติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/ylEcxUV.jpg[/IMG][/CENTER] ขณะที่ Wet mode กำลังทำงาน ระบบ PSM, PTM, ระบบอากาศพลศาสตร์, อุปกรณ์พิเศษ Porsche Torque Vectoring (PTV) Plus และการตอบสนองของตัวรถทั้งหมดจะได้รับการปรับไปยังเงื่อนไขที่พร้อมเพิ่มเติมเสถียรภาพการบังคับ ควบคุมสูงสุดที่ความเร็วตั้งแต่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ชุดสปอยเลอร์หลังแบบปรับระดับอัตโนมัติจะถูกตั้งไว้ใน ตำแหน่งที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ครีบดักอากาศจะได้รับการเปิดออกจนสุด การตอบสนองของแป้นคันเร่งจะลดความไวลง และผู้ขับขี่จะไม่สามารถสั่งปิดการทำงานของระบบ PSM รวมทั้งไม่สามารถเลือกใช้ Sport mode แรงบิดที่ได้จาก เครื่องยนต์จะถูกปรับแต่งให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนอัตราทดของชุดเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ PDK แปดจังหวะจะ เป็นไปอย่างราบเรียบเช่นเดียวกัน สำหรับปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (Porsche 911 Carrera 4S) รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel-drive พละกำลังส่วนหนึ่งจะถูกถ่ายเทไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หน้าด้วยอัตราส่วนที่มากกว่าปกติเพื่อผลในการ เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว สัดส่วนการจับตัวของเฟืองท้าย electronically controlled differential เป็นอีกหนึ่ง กรรมวิธีของปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ที่ได้รับการปรับสภาพเพื่อพร้อมรับมือกับเส้นทางเปียกลื่น ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน: ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ให้การบังคับควบคุมที่มั่นใจเต็มพิกัด คล่องแคล่วและแม่นยำ เปี่ยมสมรรถนะแม้ในยามที่ต้องหักพวงมาลัยเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน รองรับการตอบสนองที่ สัมพันธ์กันอย่างสมดุลระหว่างพละกำลังที่เหมาะสมและสภาพพื้นผิวเส้นทางที่เกิดการเปลี่ยนแปลงสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานตลอดเวลา ระบบช่วยเหลือการขับขี่ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ไม่เพียงให้ความเชื่อมั่นบนถนนเปียกเท่านั้น แต่ Wet Mode ยังครอบคลุมถึงการใช้งานบนพื้นผิวที่ปกคลุมด้วยหิมะเช่นเดียวกัน [CENTER][MEDIA=youtube]gSpz0cMqCQo[/MEDIA][/CENTER] ปอร์เช่ 911 เจเนอเรชั่นล่าสุด (The new Porsche 911) ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่ Los Angeles เมื่อปลายเดือน พฤศจิกายน 2018 ประจำการด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบนอน พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอส (The new Porsche 911 Carrera S) และ 911 คาร์เรร่า 4 เอส ใหม่ (The new 911 Carrera 4S) ให้กำลังสูงสุดที่ 450 แรงม้า (331 กิโลวัตต์) เพิ่มขึ้นถึง 30 แรงม้า (22 กิโลวัตต์) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในเชิงของสมรรถนะการขับขี่ 911 ใหม่ (The new 911) ทั้ง 2 รุ่น สามารถเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปยังระดับความเร็วที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลา ต่ำกว่า 4 วินาที: กล่าวคือในรุ่นตัวถังสปอร์ตคูเป้สองประตูขับเคลื่อนล้อหลังใช้ เวลาเพียง 3.7 วินาที และสำหรับ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ใช้เวลาที่รวดเร็วกว่าเพียง 3.6 วินาทีเท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงอัตราเร่งที่เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 0.4 วินาที [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/D9ODHJQ.jpg[/IMG][/CENTER] ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอส (Porsche 911 Carrera S) และ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (Porsche 911 Carrera 4S) เปิดรับคำสั่งซื้อแล้ววันนี้ รวมถึงโมเดล คาบริโอเลต (Cabriolet) ราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับภาษีมูลค่าเพิ่มและอุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละประเทศ ทั้งนี้ Porsche Wet Mode จะได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรญานในปอร์เช่ 911 ใหม่ (The new Porsche 911) ทุกรุ่น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ปอร์เช่ เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
News
>
เสถียรภาพการขับขี่อันยอดเยี่ยม แม้บนเส้นทางเปียกลื่น
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...