เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
News
>
Mercedes-Benz สร้างสีสันตลาดรถหรูส่งท้ายปี เปิดตัวยนตรกรรม 5 รุ่นล่าสุด ในงาน Motor Expo 2019
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="News, post: 7130732, member: 3"]<p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/M2FDW9R.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกเซ็กเมนต์เอสยูวี และปลั๊กอินไฮบริดต่อเนื่อง เปิดตัว 5 ยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ สองยนตรกรรมเอสยูวีแบบ 7 ที่นั่ง "Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium" ขุมพลังดีเซล ที่มาพร้อมกับ ความหรูหรา และเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย และ "Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic" รุ่นประกอบในประเทศ พร้อมส่งครอสโอเวอร์สายพันธุ์แรง จากแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่าง "Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé" และ "Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé" รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ สองยนตรกรรมเอสยูวีสมรรถนะสูงที่ผสมผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวี และความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวของรถยนต์สไตล์คูเป้ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว "Mercedes-Benz E 300 e" ยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดภายใต้แบรนด์ EQ โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดใหม่ที่สามารถประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม พร้อมขนทัพยนตรกรรมหรูรุ่นอื่นๆ รวมกว่า 29 รุ่น มาจัดแสดงภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/5XgWSRy.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด</b> กล่าวว่า "ในปีที่ผ่านมา รถยนต์ตระกูลเอสยูวี ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มยนตรกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมาสูงถึง 820,721 คัน และมีสัดส่วนยอดขายมากกว่าหนึ่งในสามของยอดขายรวมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ดังนั้น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมในประเทศไทย และความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองในทุกๆ ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า บริษัทฯ จึงได้นำเสนอยนตรกรรมเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดจำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย <b>"Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium"</b> รถยนต์เอสยูวีระดับ S-Class แบบ 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซลที่พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ ในการใช้ชีวิตอันไร้ขีดจำกัดในทุกเส้นทางทั้ง on-road และ off-road และ <b>"Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic"</b> รุ่นประกอบในประเทศ รถยนต์สไตล์ออฟโรดที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ พร้อมทั้ง <b>"Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé"</b> ครอสโอเวอร์สไตล์คูเป้สายพันธุ์แรงที่จะมาช่วยเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอรถยนต์ตระกูล 63 ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และ <b>"Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé"</b> รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ นอกจากนี้เรายังได้เปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ภายใต้แบรนด์ EQ รุ่นล่าสุด <b>"The new Mercedes-Benz E 300 e"</b> โดยทั้ง 5 รุ่นนี้ จะเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี"</p><p><br /></p><p>"สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในครั้งนี้ ภายในบริเวณบูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้แบ่งโซนการจัดแสดงรถยนต์ออกเป็น 4 โซน ครอบคลุมรถยนต์ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้งในกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car และ SUV รวมถึงแบรนด์รถยนต์หรูระดับอัลตร้า ลักชัวรีอย่าง เมอร์เซเดส-มายบัค แบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงอย่างเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และแบรนด์เทคโนโลยีกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอย่าง EQ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับยนตกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกกลุ่มได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น" <b>มร.โรลันด์</b> กล่าวเสริม</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/ZmWOF23.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>มร.บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด</b> กล่าวว่า "ในปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้นำเสนอรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวีจากแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ GLC, GLC Coupé, GLE, G-Class และล่าสุด Mercedes-Benz GLS และ Mercedes-AMG GLC จึงทำให้ในปัจจุบัน บริษัทฯ นำเสนอรถยนต์ในกลุ่มนี้ทั้งสิ้น 6 รุ่นด้วยกัน โดย <u>Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium</u> ถือเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของยนตรกรรมเอสยูวีขนาด 7 ที่นั่งที่มอบความหรูหรา และสะดวกสบายเทียบเท่ารถยนต์ในตระกูล S-Class ด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้น 60 ม.ม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าทำให้มีพื้นที่ในห้องโดยสารมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณที่นั่งแถวที่ 2 และ <b>Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ</b>ยนตรกรรมเอสยูวี 7 นั่งระดับ E-Class ที่สะท้อนตัวตนในฐานะรถยนต์สไตล์ออฟโรดที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ แต่ยังคงความหรูหราทันสมัยได้เป็นอย่างดี และสำหรับยนตกรรมไฮไลท์จาก แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ประกอบด้วยครอสโอเวอร์สไตล์คูเป้ พันธุ์แรงสองรุ่นล่าสุด อย่าง <u>Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé</u> รถยนต์เอสยูวีรุ่นแรกในตระกูล 63 ที่เปิดตัวในประเทศไทย มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่แบบ Biturbo ด้วยเทคนิคการติดตั้งแบบ Hot inside V ผสานกับระบบเกียร์แบบสปอร์ต AMG SPEEDSHIFT MCT 9-Speed Sports Transmission ที่ช่วยให้การตอบสนองของรถในระหว่างที่มีการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็ว และราบรื่นยิ่งขึ้น และ <u>Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศ</u> โฉมใหม่ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน แบบ AMG Performance 4MATIC ระบบส่งกำลังแบบ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G และเครื่องยนต์แบบ V6 เทอร์โบคู่ แบบ Biturbo ที่มีจุดเด่นในเรื่องระบบแรงดันเสริมท่อสำหรับนำอากาศของชุดเทอร์โบ (boost pressure) ส่งผลให้สามารถเพิ่มแรงม้า และแรงบิดให้กับเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้อย่างทรงพลัง โดยทั้งสี่รุ่นนี้มาพร้อมระบบมัลติมีเดียแบบ "MBUX" (Mercedes-Benz User Experience) ที่ช่วยยกระดับความสะดวกสบายขณะขับขี่ด้วยการเชื่อมโยงผู้ขับขี่เข้ากับเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวผ่านระบบการสั่งการด้วยเสียง และมาพร้อมบริการ Mercedes me connect ซึ่งมีความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ</p><p><br /></p><p>นอกจากนี้ อีกหนึ่งรุ่นไฮไลท์ที่บริษัทฯ นำเสนอในงาน คือ <u>The new Mercedes-Benz E 300 e</u> ยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ EQ ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดใหม่ที่สามารถประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้ระยะทางสูงสุดสำหรับการขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง 60%"</p><p><br /></p><p>นอกจากการเปิดตัว 5 ยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้นำรถยนต์รุ่นอื่นๆ รวมกว่า 29 รุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ในทุกเซ็กเมนต์จากแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เมอร์เซเดส-มายบัค เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และแบรนด์เทคโนโลยี EQ มาจัดแสดงในงาน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกชม และสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โดยได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมายเพื่อมอบให้กับลูกค้าทุกคนที่จองรถยนต์ ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป อาทิ การนำเสนอรถยนต์ในราคาสุดพิเศษจำนวนจำกัด ประกอบด้วย Mercedes-Benz E 350 e Final Edition ล็อตสุดท้าย ราคาเริ่มต้นที่ 2,900,000 บาท และ Mercedes-Benz GLA 200 Urban ราคาเริ่มต้นที่ 1,899,000 บาท</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/vHwkkG3.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>"พร้อมกันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังได้เปิดตัว LINE Official Account ในชื่อ <b>"Mercedes-Benz Thailand" (@mercedesbenzth)</b> เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสาร และให้บริการลูกค้าโดยความพิเศษของการเปิด LINE Official Account ในครั้งนี้ คือ การรวมบัญชีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) เข้าไว้ด้วยกันเพื่อมอบความสะดวกรวดเร็วในการรับข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่างๆ และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าคนสำคัญ โดยจะเป็นช่องทางดิจิทัลที่สามารถส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ กิจกรรมที่น่าสนใจ และข้อเสนอพิเศษจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังสามารถให้บริการอื่นๆ ผ่านเมนูที่ง่ายต่อการเข้าใช้ อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นรถต่างๆ (Car Models) บริการค้นหาผู้จำหน่าย อย่างเป็นทางการ (Dealer Locator) บริการจองคิวทดสอบรถ (Book a Test Drive) บริการทางการเงิน (Financial Services) ไปจนถึง การอัพเดทข้อมูลกิจกรรม และข้อเสนอพิเศษต่างๆ (Event and Promotion) และเมนูสำหรับเจ้าของรถ (Owner Section) เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าการขยายช่องทางการสื่อสารบนดิจิทัลแพลตฟอร์มในครั้งนี้ จะช่วยให้แบรนด์มีความใกล้ชิดกับลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน" มร.บีเยิร์น กล่าวสรุป</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/bhg4gC5.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><u><b>ข้อมูลผลิตภัณฑ์</b></u></p><p><u><b>Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium</b></u></p><p>Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium คือ ยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมี่ยม (Large Full-Size SUV) แบบ 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุดที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอรถยนต์ตระกูล เอสยูวีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งปัจจุบันนับเป็นเจเนอเรชันที่ 3 มาพร้อมขุมพลังดีเซล โดดเด่นในเรื่องความหรูหราสง่างามที่มาพร้อมความปลอดภัยสูงสุด และความสะดวกสบายเช่นเดียวกับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ในตระกูล S-Class</p><p><br /></p><p><u><b>ดีไซน์ภายนอก</b></u> มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ที่ประกอบด้วยหลอดไฟ LED จำนวน 112 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถปรับความเข้มของแสง และความยาวของลำแสงได้อย่างเป็นอิสระจากกัน โดยมีระบบตรวจจับวัตถุที่จะทำการคำนวณความสว่างอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถปรับความยาวของลำแสงไฟหน้าให้ส่องได้ไกลกว่า 150 เมตรโดยอัตโนมัติหากไม่พบรถยนต์ที่ วิ่งสวนทาง และเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วที่สูงกว่า 40 กม./ชม. มาพร้อมกับไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ 21 นิ้ว เพิ่มความสะดวกด้วยบันไดสำหรับเข้า และออกห้องโดยสารแบบอัลลูมิเนียมที่มาพร้อมปุ่มยางกันลื่น นอกจากนี้ยังมีหลังคา พาโนรามิคซันรูฟ (Panoramic sliding sunroof) ที่เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าช่วยเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่อีกด้วย</p><p><br /></p><p><u><b>ดีไซน์ภายในและห้องโดยสาร</b></u> ได้รับการออกแบบห้องโดยสารให้กว้างขวางโดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 ท่าน ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 60 ม.ม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณที่นั่งแถวที่ 2 โดยเบาะที่นั่งแถวที่ 2 สามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ และยังสามารถเลื่อนปรับเบาะให้ถอยหลังไปได้อีก 10 ซม. เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับวางขา และพนักพิงสามารถปรับเอนได้มากขึ้นกว่าเดิม และยังมาพร้อมกับระบบ EASY-ENTRY ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการเข้าสู่ตำแหน่งที่นั่งแถวที่ 3 โดยเบาะและพนักพิงของที่นั่งแถวที่ 2 จะถูกพับขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้สามารถเข้าสู่แถวที่ 3 ได้อย่างสะดวกสบายและง่ายดาย ส่วนเบาะที่นั่งแถวที่ 3 เป็นที่นั่งแบบเต็มตัว (full size) สามารถรองรับผู้โดยสารที่มีส่วนสูงได้ถึง 194 ซม. นอกจากนี้ เบาะที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 ยังสามารถพับเก็บหรือปรับแต่งได้อย่างอิสระเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย โดยหากพับเบาะที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 ให้แบนราบทั้งหมดจะสามารถเพิ่มความจุสำหรับเก็บสัมภาระได้สูงสุดถึง 2,400 ลิตร อีกทั้งยังได้เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี และระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติภายในห้องโดยสาร THEMOTRONIC เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ</p><p><br /></p><p><u><b>ระบบความสะดวกและการสื่อสาร</b></u> Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ทั้งจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit จำนวน 2 จอต่อเนื่องกัน โดยสามารถเปลี่ยนรูปแบบแสดงผลของหน้าจอเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการขับขี่ที่หลากหลาย ที่ใช้ง่ายเพียงแค่ ปลายนิ้วด้วยระบบสัมผัสสำหรับหน้าจอแสดงผลข้อมูลส่วนกลาง รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งสามารถประมวลผลประโยคที่ใกล้เคียงกับคำสั่งทั่วไปได้ เพียงพูดว่า ‘Hey Mercedes’ โดยรถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) ให้คุณเข้าถึงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน โดยระบบจะแสดงข้อมูลในระดับสายตาที่ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และสามารถปรับความเข้มของการแสดงผล ปรับตำแหน่งของการแสดงผล และปิดระบบได้หากไม่ต้องการใช้งาน รวมถึงระบบ แผนที่นำทาง (Hard Disc Navigation) ที่มีความแม่นยำสูง โดยผู้ขับขี่สามารถป้อนข้อมูลด้วย การสัมผัส touch screen, touch pad หรือระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto™) โดยในรถยนต์ GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมกับบริการ ‘Mercedes me connect’ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อันโดดเด่นมากมาย อาทิ</p><ul> <li><u><b>Mercedes-Benz emergency call system</b></u> บริการที่จะคอยช่วยเหลือคุณจากสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือในขณะที่คุณได้รับอุบัติเหตุ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จะทำการติดต่อไปยัง Emergency Customer Contact Center ศูนย์บริการฉุกเฉิน ที่จะช่วยประสานงานด้านความปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือให้คุณได้รับความปลอดภัยสูงสุด</li> <li><u><b>ระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ Tele diagnostics</b></u> ด้วยบริการ Remote Retrieval of Vehicle Status ที่จะคอยรายงานสถานะของรถยนต์ไปยัง Mercedes me และด้วยบริการ Tele diagnostics ที่จะคอยส่งข้อมูลและสถานะของรถยนต์ไปยังศูนย์บริการ ที่คุณเลือกเมื่อตรวจพบความเสียหายเพื่อให้คุณได้รับการซ่อมบำรุงที่รวดเร็วและแม่นยำที่สุด</li> <li><u><b>ระบบแผนที่นำทาง Navigation System</b></u> ระบบนำทางพร้อม Live Traffic Information แบบออนไลน์อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และสามารถป้อนข้อมูลที่ต้องการได้ผ่านทัชแพด</li> <li><u><b>ระบบตั้งค่ารถยนต์ (Pre-installation for Vehicle Set-up) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารด้วยโทรศัพท์มือถือ</b></u><br /> <u><b>(Remote Engine Start)</b></u> ปลอดภัยไปอีกขั้นกับระบบ Remote Door Lock/Unlock ที่ช่วยให้คุณสามารถล็อกรถได้จากทุกที่ทั่วโลก ให้คุณไร้ความกังวลเรื่องความปลอดภัยและมั่นใจได้ว่ารถยนต์ของคุณจะอยู่ในการควบคุมตลอดเวลาเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทางกับความสบายในแบบที่คุณควบคุมได้ด้วยระบบ Remote Engine Start ช่วยให้คุณสตาร์ทพร้อมเปิดระบบปรับอากาศและออกเดินทางไปกับความเย็นสบาย ในแบบที่คุณควบคุมได้เอง และในวันที่คุณต้องเดินทางไปยังสถานที่แปลกใหม่ คุณก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องตำแหน่งที่จอดรถอีกต่อไปด้วยระบบ Parked Vehicle Locator ที่ช่วยแสดงตำแหน่งของรถยนต์ภายในรัศมี 1.5 กิโลเมตร เพื่อให้คุณค้นหารถยนต์ที่จอดไว้ได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึง Vehicle Tracker ระบบที่ติดตามตำแหน่งรถยนต์ผ่าน GPS และยังมีระบบ Geofencing ฟังก์ชันที่ช่วยจำกัดพื้นที่การขับขี่ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ของคุณจะปลอดภัยและอยู่ในการควบคุมของคุณ</li> </ul><p><br /></p><p>Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium มาพร้อมกับ<u><b>ระบบรักษาความปลอดภัย</b></u>ที่ล้ำสมัยมากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์ที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร และเมื่อผู้ขับขี่เดินทางถึงที่หมายแล้วระบบจะทำงานต่อเนื่องไปอีก 3 นาทีหลังจากดับเครื่องยนต์ไปแล้ว เพราะฉะนั้นหากมีการเปิดประตูรถด้านที่มีรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์วิ่งเข้ามาใน จุดอับสายตา ผู้ขับขี่จะยังคงได้รับการเตือนจากระบบ, ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง (Active Lane Keeping Assist) ที่ทำหน้าที่เตือนผู้ขับด้วยการสั่นสะเทือน และช่วยดึงรถ กลับเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติหากเรดาร์ของระบบตรวจพบความเสี่ยงในการชนกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้, ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), ระบบกันช่วงล่าง AIRMATIC ที่สามารถตอบสนองต่อความเร็ว สภาพถนน และลักษณะการขับขี่ และปรับตัวรถได้อัตโนมัติ รวมถึงระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind assist) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง Electronic Traction System 4ETS สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย</p><p><br /></p><p>นอกจากนี้ Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ซึ่งถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อให้ได้อัตราเร่งที่ดีที่สุด นุ่มนวลที่สุด และช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยสามารถลดการใช้น้ำมันลงได้ถึง 6.5%</p><p><br /></p><p>GLS 350 d 4MATIC AMG Premium</p><p>เครื่องยนต์: ดีเซล 6 สูบ แถวเรียง</p><p>ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี): 2,925</p><p>แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที): 286 / 3,400 – 4,600</p><p>แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที): 600 / 1,200 – 3,200</p><p>อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที): 7.0</p><p>ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.): 227</p><p><u><b>ราคา 8,859,000 บาท</b></u></p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/AaWzeT5.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><u><b>Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ</b></u></p><p><u><b>ดีไซน์ภายนอก</b></u> ของรถยนต์ GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศเป็นผลลัพธ์จากการผสมผสานที่ลงตัวของคุณสมบัติอัจฉริยะและสุนทรียะทางการออกแบบ เพื่อให้รถยนต์รุ่นใหม่นี้มีรูปลักษณ์ที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณของผู้เป็นเจ้าของได้ตั้งแต่แรกเห็น โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญด้านงานออกแบบเพื่อขับเน้นเพียงองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของตัวรถเท่านั้น ทั้งการสรรสร้างผลิตภัณฑ์ให้สวยงามเหนือกาลเวลา การใช้เทคโนโลยีงานออกแบบชั้นเลิศ และคุณภาพของงานประกอบ สัดส่วนของตัวรถจะเป็นแบบฐานล้อยาว มีระยะจากกันชนถึงดุมล้อสั้น และใช้ยางขนาดใหญ่ที่เหมาะสมกับการใช้งานในทุกสภาพถนน นักออกแบบของเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงยึดปรัชญาการออกแบบ Sensual purity โดยมีการปรับส่วนที่เป็นเหลี่ยมมุมต่างๆ ของตัวถังให้มีความโดดเด่นและสอดรับกับทั้งลักษณะตัวถัง และ แพลทฟอร์มของรถมากขึ้น ส่วนหน้าของรถยนต์ The GLE เปี่ยมไปด้วยพลังและความโดดเด่น ด้วยกระจังหน้าลาย 6 เหลี่ยมที่ยกตัวสูง แผ่นกันกระแทกชุบโครเมี่ยมที่ดูสอดรับกับฝากระโปรงหน้าที่มีช่องรับอากาศ powerdomes และชุดไฟหน้าอัจฉริยะแบบ MULTIBEAM LED ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเสริมความดุดันให้กับรถได้ทั้งขณะเปิดหรือปิดไฟ รวมไปถึงไฟส่องทางบริเวณใต้กระจกมองข้างเป็นรูปตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เมื่อมองจากด้านข้าง ผู้เป็นเจ้าของจะพบกับเสาซีที่มีลักษณะกว้างซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ทางการออกแบบของรถยนต์ตระกูล The GLE ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาให้เป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการเสริมสมดุลให้กับตัวรถ ดึงดูดสายตาด้วย AMG Bodystyling รอบคัน ทั้งกันชนหน้า-กันชนหลัง-สเกิร์ตข้าง ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 21 นิ้ว ซึ่งล้อทั้งสี่จะอยู่ในซุ้มล้อที่เป็นวงโค้งสวยงาม ด้านท้ายของรถมีลักษณะแผ่กว้างและดูทรงพลัง โดยมีจุดเริ่มต้นจากเสาซีทอดมาถึงไฟหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงด้านหลังในตำแหน่งที่ต่ำลงกว่าเดิมเพื่อสร้างลูกเล่นให้ไฟหลังดูมีลักษณะราบเรียบยิ่งขึ้น</p><p><br /></p><p><u><b>ดีไซน์ภายใน</b></u> เป็นการผสานเข้าด้วยกันของความหรูหราและสง่างามตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และความโฉบเฉี่ยว ดุดัน แข็งแกร่งแบบเอสยูวี ฐานล้อของ Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ มีความยาวถึง 2,995 มิลลิเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 80 มิลลิเมตรจากรุ่นก่อนหน้า ห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วยโครเมียม ด้านบนของคอนโซลหน้า (dashboard) และด้านบนของแผงประตูหุ้มด้วยหนัง ARTICO พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa โดยเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ พร้อมมอบความสะดวกสบายระดับพรีเมี่ยมด้วยเบาะนั่งแถวที่สองที่สามารถปรับองศาการเอนของพนักพิง และพับเบาะได้ง่าย ด้วยระบบไฟฟ้าแบบ 1/3 และ 2/3 พร้อมทั้งยังสามารถปรับเพิ่มพื้นที่วางขาได้มากถึง 69-1,049 มิลลิเมตร เพื่อสามารถเข้าไปถึงแถวที่สามได้สะดวก ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์นับเป็นแบรนด์แรกของโลกที่นำเสนอฟังก์ชันนี้ในกลุ่มรถยนต์เอสยูวี นอกจากนี้ ความจุของห้องเก็บสัมภาระด้านหลังยังมีสูงถึง 855 ลิตร และเพิ่มได้สูงถึง 2,055 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่สองและแถวที่สามลง รวมถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า</p><p><br /></p><p><u><b>ระบบความสะดวกสบายและการสื่อสาร</b></u> GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ทั้งจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit ขนาดใหญ่พิเศษ 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอต่อเนื่องกัน และระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) ให้คุณเข้าถึงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน รวมถึงระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto) ช่อง USB Type C บริเวณที่นั่งทุกแถว ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad และไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี (ambient lighting) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับบริการ ‘Mercedes me connect’ อีกด้วย</p><p><br /></p><p><u><b>ระบบความปลอดภัย</b></u> ของ The new GLE ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น</p><ul> <li><b>ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC)</b> ซึ่งทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกระจังหน้าในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้น และลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ รวมทั้งช่วยเบรกด้วยระดับแรงเบรกประมาณ 50% ของแรงเบรกปกติ เพื่อรักษาระยะห่างตามที่ผู้ขับขี่กำหนด</li> <li><b>ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist)</b> ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือจักรยานยนต์คันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร</li> <li><b>ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง (Active Lane Keeping Assist)</b> ระบบที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนช่องจราจรโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งระบบนี้จะทำงานโดยการใช้สัญญาณเรดาร์ ในการตรวจจับช่องจราจรและรถยนต์ที่อยู่ในช่องจราจรอื่น หากระบบตรวจพบความเสี่ยงที่จะชนกับรถยนต์คันอื่น ระบบจะช่วยดึงรถกลับเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติด้วยการเบรกล้อฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้รวมถึงระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind assist) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง Electronic Traction System 4ETS สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย</li> </ul><p><br /></p><p>GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ</p><p>เครื่องยนต์: ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ พร้อมเทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์</p><p>ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี): 1,950</p><p>แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที): 245 / 4,200</p><p>แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที): 500 / 1,600 - 2,400</p><p>อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที): 7.2</p><p>ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.): 225</p><p><u><b>รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 5,190,000 บาท</b></u>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="News, post: 7130732, member: 3"][center][img]https://i.imgur.com/M2FDW9R.jpg[/img][/center] บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด รุกเซ็กเมนต์เอสยูวี และปลั๊กอินไฮบริดต่อเนื่อง เปิดตัว 5 ยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ สองยนตรกรรมเอสยูวีแบบ 7 ที่นั่ง "Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium" ขุมพลังดีเซล ที่มาพร้อมกับ ความหรูหรา และเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย และ "Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic" รุ่นประกอบในประเทศ พร้อมส่งครอสโอเวอร์สายพันธุ์แรง จากแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่าง "Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé" และ "Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé" รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ สองยนตรกรรมเอสยูวีสมรรถนะสูงที่ผสมผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวี และความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวของรถยนต์สไตล์คูเป้ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว "Mercedes-Benz E 300 e" ยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดภายใต้แบรนด์ EQ โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดใหม่ที่สามารถประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม พร้อมขนทัพยนตรกรรมหรูรุ่นอื่นๆ รวมกว่า 29 รุ่น มาจัดแสดงภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี [center][img]https://i.imgur.com/5XgWSRy.jpg[/img][/center] [b]มร.โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด[/b] กล่าวว่า "ในปีที่ผ่านมา รถยนต์ตระกูลเอสยูวี ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มยนตรกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมาสูงถึง 820,721 คัน และมีสัดส่วนยอดขายมากกว่าหนึ่งในสามของยอดขายรวมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ดังนั้น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมในประเทศไทย และความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองในทุกๆ ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า บริษัทฯ จึงได้นำเสนอยนตรกรรมเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดจำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย [b]"Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium"[/b] รถยนต์เอสยูวีระดับ S-Class แบบ 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซลที่พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ ในการใช้ชีวิตอันไร้ขีดจำกัดในทุกเส้นทางทั้ง on-road และ off-road และ [b]"Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic"[/b] รุ่นประกอบในประเทศ รถยนต์สไตล์ออฟโรดที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ พร้อมทั้ง [b]"Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé"[/b] ครอสโอเวอร์สไตล์คูเป้สายพันธุ์แรงที่จะมาช่วยเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอรถยนต์ตระกูล 63 ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และ [b]"Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé"[/b] รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ นอกจากนี้เรายังได้เปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ภายใต้แบรนด์ EQ รุ่นล่าสุด [b]"The new Mercedes-Benz E 300 e"[/b] โดยทั้ง 5 รุ่นนี้ จะเปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคมนี้ ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี" "สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปในครั้งนี้ ภายในบริเวณบูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้แบ่งโซนการจัดแสดงรถยนต์ออกเป็น 4 โซน ครอบคลุมรถยนต์ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้งในกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car และ SUV รวมถึงแบรนด์รถยนต์หรูระดับอัลตร้า ลักชัวรีอย่าง เมอร์เซเดส-มายบัค แบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงอย่างเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และแบรนด์เทคโนโลยีกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอย่าง EQ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับยนตกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกกลุ่มได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น" [b]มร.โรลันด์[/b] กล่าวเสริม [center][img]https://i.imgur.com/ZmWOF23.jpg[/img][/center] [b]มร.บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด[/b] กล่าวว่า "ในปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้นำเสนอรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวีจากแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ GLC, GLC Coupé, GLE, G-Class และล่าสุด Mercedes-Benz GLS และ Mercedes-AMG GLC จึงทำให้ในปัจจุบัน บริษัทฯ นำเสนอรถยนต์ในกลุ่มนี้ทั้งสิ้น 6 รุ่นด้วยกัน โดย [u]Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium[/u] ถือเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของยนตรกรรมเอสยูวีขนาด 7 ที่นั่งที่มอบความหรูหรา และสะดวกสบายเทียบเท่ารถยนต์ในตระกูล S-Class ด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้น 60 ม.ม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าทำให้มีพื้นที่ในห้องโดยสารมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณที่นั่งแถวที่ 2 และ [b]Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ[/b]ยนตรกรรมเอสยูวี 7 นั่งระดับ E-Class ที่สะท้อนตัวตนในฐานะรถยนต์สไตล์ออฟโรดที่พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ แต่ยังคงความหรูหราทันสมัยได้เป็นอย่างดี และสำหรับยนตกรรมไฮไลท์จาก แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ประกอบด้วยครอสโอเวอร์สไตล์คูเป้ พันธุ์แรงสองรุ่นล่าสุด อย่าง [u]Mercedes-AMG GLC 63 S 4MATIC+ Coupé[/u] รถยนต์เอสยูวีรุ่นแรกในตระกูล 63 ที่เปิดตัวในประเทศไทย มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่แบบ Biturbo ด้วยเทคนิคการติดตั้งแบบ Hot inside V ผสานกับระบบเกียร์แบบสปอร์ต AMG SPEEDSHIFT MCT 9-Speed Sports Transmission ที่ช่วยให้การตอบสนองของรถในระหว่างที่มีการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็ว และราบรื่นยิ่งขึ้น และ [u]Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศ[/u] โฉมใหม่ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน แบบ AMG Performance 4MATIC ระบบส่งกำลังแบบ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G และเครื่องยนต์แบบ V6 เทอร์โบคู่ แบบ Biturbo ที่มีจุดเด่นในเรื่องระบบแรงดันเสริมท่อสำหรับนำอากาศของชุดเทอร์โบ (boost pressure) ส่งผลให้สามารถเพิ่มแรงม้า และแรงบิดให้กับเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้อย่างทรงพลัง โดยทั้งสี่รุ่นนี้มาพร้อมระบบมัลติมีเดียแบบ "MBUX" (Mercedes-Benz User Experience) ที่ช่วยยกระดับความสะดวกสบายขณะขับขี่ด้วยการเชื่อมโยงผู้ขับขี่เข้ากับเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวผ่านระบบการสั่งการด้วยเสียง และมาพร้อมบริการ Mercedes me connect ซึ่งมีความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ อีกหนึ่งรุ่นไฮไลท์ที่บริษัทฯ นำเสนอในงาน คือ [u]The new Mercedes-Benz E 300 e[/u] ยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ EQ ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดใหม่ที่สามารถประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้ระยะทางสูงสุดสำหรับการขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง 60%" นอกจากการเปิดตัว 5 ยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้นำรถยนต์รุ่นอื่นๆ รวมกว่า 29 รุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ในทุกเซ็กเมนต์จากแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เมอร์เซเดส-มายบัค เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และแบรนด์เทคโนโลยี EQ มาจัดแสดงในงาน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกชม และสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โดยได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมายเพื่อมอบให้กับลูกค้าทุกคนที่จองรถยนต์ ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป อาทิ การนำเสนอรถยนต์ในราคาสุดพิเศษจำนวนจำกัด ประกอบด้วย Mercedes-Benz E 350 e Final Edition ล็อตสุดท้าย ราคาเริ่มต้นที่ 2,900,000 บาท และ Mercedes-Benz GLA 200 Urban ราคาเริ่มต้นที่ 1,899,000 บาท [center][img]https://i.imgur.com/vHwkkG3.jpg[/img][/center] "พร้อมกันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังได้เปิดตัว LINE Official Account ในชื่อ [b]"Mercedes-Benz Thailand" (@mercedesbenzth)[/b] เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสาร และให้บริการลูกค้าโดยความพิเศษของการเปิด LINE Official Account ในครั้งนี้ คือ การรวมบัญชีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) เข้าไว้ด้วยกันเพื่อมอบความสะดวกรวดเร็วในการรับข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่างๆ และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าคนสำคัญ โดยจะเป็นช่องทางดิจิทัลที่สามารถส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ กิจกรรมที่น่าสนใจ และข้อเสนอพิเศษจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังสามารถให้บริการอื่นๆ ผ่านเมนูที่ง่ายต่อการเข้าใช้ อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นรถต่างๆ (Car Models) บริการค้นหาผู้จำหน่าย อย่างเป็นทางการ (Dealer Locator) บริการจองคิวทดสอบรถ (Book a Test Drive) บริการทางการเงิน (Financial Services) ไปจนถึง การอัพเดทข้อมูลกิจกรรม และข้อเสนอพิเศษต่างๆ (Event and Promotion) และเมนูสำหรับเจ้าของรถ (Owner Section) เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าการขยายช่องทางการสื่อสารบนดิจิทัลแพลตฟอร์มในครั้งนี้ จะช่วยให้แบรนด์มีความใกล้ชิดกับลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน" มร.บีเยิร์น กล่าวสรุป [center][img]https://i.imgur.com/bhg4gC5.jpg[/img][/center] [u][b]ข้อมูลผลิตภัณฑ์[/b][/u] [u][b]Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium[/b][/u] Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium คือ ยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมี่ยม (Large Full-Size SUV) แบบ 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุดที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอรถยนต์ตระกูล เอสยูวีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งปัจจุบันนับเป็นเจเนอเรชันที่ 3 มาพร้อมขุมพลังดีเซล โดดเด่นในเรื่องความหรูหราสง่างามที่มาพร้อมความปลอดภัยสูงสุด และความสะดวกสบายเช่นเดียวกับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ในตระกูล S-Class [u][b]ดีไซน์ภายนอก[/b][/u] มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ที่ประกอบด้วยหลอดไฟ LED จำนวน 112 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถปรับความเข้มของแสง และความยาวของลำแสงได้อย่างเป็นอิสระจากกัน โดยมีระบบตรวจจับวัตถุที่จะทำการคำนวณความสว่างอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถปรับความยาวของลำแสงไฟหน้าให้ส่องได้ไกลกว่า 150 เมตรโดยอัตโนมัติหากไม่พบรถยนต์ที่ วิ่งสวนทาง และเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วที่สูงกว่า 40 กม./ชม. มาพร้อมกับไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ 21 นิ้ว เพิ่มความสะดวกด้วยบันไดสำหรับเข้า และออกห้องโดยสารแบบอัลลูมิเนียมที่มาพร้อมปุ่มยางกันลื่น นอกจากนี้ยังมีหลังคา พาโนรามิคซันรูฟ (Panoramic sliding sunroof) ที่เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าช่วยเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่อีกด้วย [u][b]ดีไซน์ภายในและห้องโดยสาร[/b][/u] ได้รับการออกแบบห้องโดยสารให้กว้างขวางโดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 7 ท่าน ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 60 ม.ม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณที่นั่งแถวที่ 2 โดยเบาะที่นั่งแถวที่ 2 สามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ และยังสามารถเลื่อนปรับเบาะให้ถอยหลังไปได้อีก 10 ซม. เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับวางขา และพนักพิงสามารถปรับเอนได้มากขึ้นกว่าเดิม และยังมาพร้อมกับระบบ EASY-ENTRY ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการเข้าสู่ตำแหน่งที่นั่งแถวที่ 3 โดยเบาะและพนักพิงของที่นั่งแถวที่ 2 จะถูกพับขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้สามารถเข้าสู่แถวที่ 3 ได้อย่างสะดวกสบายและง่ายดาย ส่วนเบาะที่นั่งแถวที่ 3 เป็นที่นั่งแบบเต็มตัว (full size) สามารถรองรับผู้โดยสารที่มีส่วนสูงได้ถึง 194 ซม. นอกจากนี้ เบาะที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 ยังสามารถพับเก็บหรือปรับแต่งได้อย่างอิสระเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย โดยหากพับเบาะที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 ให้แบนราบทั้งหมดจะสามารถเพิ่มความจุสำหรับเก็บสัมภาระได้สูงสุดถึง 2,400 ลิตร อีกทั้งยังได้เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี และระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติภายในห้องโดยสาร THEMOTRONIC เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ [u][b]ระบบความสะดวกและการสื่อสาร[/b][/u] Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ทั้งจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit จำนวน 2 จอต่อเนื่องกัน โดยสามารถเปลี่ยนรูปแบบแสดงผลของหน้าจอเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการขับขี่ที่หลากหลาย ที่ใช้ง่ายเพียงแค่ ปลายนิ้วด้วยระบบสัมผัสสำหรับหน้าจอแสดงผลข้อมูลส่วนกลาง รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งสามารถประมวลผลประโยคที่ใกล้เคียงกับคำสั่งทั่วไปได้ เพียงพูดว่า ‘Hey Mercedes’ โดยรถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) ให้คุณเข้าถึงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน โดยระบบจะแสดงข้อมูลในระดับสายตาที่ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และสามารถปรับความเข้มของการแสดงผล ปรับตำแหน่งของการแสดงผล และปิดระบบได้หากไม่ต้องการใช้งาน รวมถึงระบบ แผนที่นำทาง (Hard Disc Navigation) ที่มีความแม่นยำสูง โดยผู้ขับขี่สามารถป้อนข้อมูลด้วย การสัมผัส touch screen, touch pad หรือระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto™) โดยในรถยนต์ GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมกับบริการ ‘Mercedes me connect’ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อันโดดเด่นมากมาย อาทิ [list][*][u][b]Mercedes-Benz emergency call system[/b][/u] บริการที่จะคอยช่วยเหลือคุณจากสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือในขณะที่คุณได้รับอุบัติเหตุ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จะทำการติดต่อไปยัง Emergency Customer Contact Center ศูนย์บริการฉุกเฉิน ที่จะช่วยประสานงานด้านความปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือให้คุณได้รับความปลอดภัยสูงสุด [*][u][b]ระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ Tele diagnostics[/b][/u] ด้วยบริการ Remote Retrieval of Vehicle Status ที่จะคอยรายงานสถานะของรถยนต์ไปยัง Mercedes me และด้วยบริการ Tele diagnostics ที่จะคอยส่งข้อมูลและสถานะของรถยนต์ไปยังศูนย์บริการ ที่คุณเลือกเมื่อตรวจพบความเสียหายเพื่อให้คุณได้รับการซ่อมบำรุงที่รวดเร็วและแม่นยำที่สุด [*][u][b]ระบบแผนที่นำทาง Navigation System[/b][/u] ระบบนำทางพร้อม Live Traffic Information แบบออนไลน์อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และสามารถป้อนข้อมูลที่ต้องการได้ผ่านทัชแพด [*][u][b]ระบบตั้งค่ารถยนต์ (Pre-installation for Vehicle Set-up) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารด้วยโทรศัพท์มือถือ[/b][/u] [u][b](Remote Engine Start)[/b][/u] ปลอดภัยไปอีกขั้นกับระบบ Remote Door Lock/Unlock ที่ช่วยให้คุณสามารถล็อกรถได้จากทุกที่ทั่วโลก ให้คุณไร้ความกังวลเรื่องความปลอดภัยและมั่นใจได้ว่ารถยนต์ของคุณจะอยู่ในการควบคุมตลอดเวลาเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทางกับความสบายในแบบที่คุณควบคุมได้ด้วยระบบ Remote Engine Start ช่วยให้คุณสตาร์ทพร้อมเปิดระบบปรับอากาศและออกเดินทางไปกับความเย็นสบาย ในแบบที่คุณควบคุมได้เอง และในวันที่คุณต้องเดินทางไปยังสถานที่แปลกใหม่ คุณก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องตำแหน่งที่จอดรถอีกต่อไปด้วยระบบ Parked Vehicle Locator ที่ช่วยแสดงตำแหน่งของรถยนต์ภายในรัศมี 1.5 กิโลเมตร เพื่อให้คุณค้นหารถยนต์ที่จอดไว้ได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึง Vehicle Tracker ระบบที่ติดตามตำแหน่งรถยนต์ผ่าน GPS และยังมีระบบ Geofencing ฟังก์ชันที่ช่วยจำกัดพื้นที่การขับขี่ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ของคุณจะปลอดภัยและอยู่ในการควบคุมของคุณ[/list] Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium มาพร้อมกับ[u][b]ระบบรักษาความปลอดภัย[/b][/u]ที่ล้ำสมัยมากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์ที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร และเมื่อผู้ขับขี่เดินทางถึงที่หมายแล้วระบบจะทำงานต่อเนื่องไปอีก 3 นาทีหลังจากดับเครื่องยนต์ไปแล้ว เพราะฉะนั้นหากมีการเปิดประตูรถด้านที่มีรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์วิ่งเข้ามาใน จุดอับสายตา ผู้ขับขี่จะยังคงได้รับการเตือนจากระบบ, ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง (Active Lane Keeping Assist) ที่ทำหน้าที่เตือนผู้ขับด้วยการสั่นสะเทือน และช่วยดึงรถ กลับเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติหากเรดาร์ของระบบตรวจพบความเสี่ยงในการชนกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้, ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), ระบบกันช่วงล่าง AIRMATIC ที่สามารถตอบสนองต่อความเร็ว สภาพถนน และลักษณะการขับขี่ และปรับตัวรถได้อัตโนมัติ รวมถึงระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind assist) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง Electronic Traction System 4ETS สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ Mercedes-Benz GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ซึ่งถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อให้ได้อัตราเร่งที่ดีที่สุด นุ่มนวลที่สุด และช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยสามารถลดการใช้น้ำมันลงได้ถึง 6.5% GLS 350 d 4MATIC AMG Premium เครื่องยนต์: ดีเซล 6 สูบ แถวเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี): 2,925 แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที): 286 / 3,400 – 4,600 แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที): 600 / 1,200 – 3,200 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที): 7.0 ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.): 227 [u][b]ราคา 8,859,000 บาท[/b][/u] [center][img]https://i.imgur.com/AaWzeT5.jpg[/img][/center] [u][b]Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ[/b][/u] [u][b]ดีไซน์ภายนอก[/b][/u] ของรถยนต์ GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศเป็นผลลัพธ์จากการผสมผสานที่ลงตัวของคุณสมบัติอัจฉริยะและสุนทรียะทางการออกแบบ เพื่อให้รถยนต์รุ่นใหม่นี้มีรูปลักษณ์ที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณของผู้เป็นเจ้าของได้ตั้งแต่แรกเห็น โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญด้านงานออกแบบเพื่อขับเน้นเพียงองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของตัวรถเท่านั้น ทั้งการสรรสร้างผลิตภัณฑ์ให้สวยงามเหนือกาลเวลา การใช้เทคโนโลยีงานออกแบบชั้นเลิศ และคุณภาพของงานประกอบ สัดส่วนของตัวรถจะเป็นแบบฐานล้อยาว มีระยะจากกันชนถึงดุมล้อสั้น และใช้ยางขนาดใหญ่ที่เหมาะสมกับการใช้งานในทุกสภาพถนน นักออกแบบของเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงยึดปรัชญาการออกแบบ Sensual purity โดยมีการปรับส่วนที่เป็นเหลี่ยมมุมต่างๆ ของตัวถังให้มีความโดดเด่นและสอดรับกับทั้งลักษณะตัวถัง และ แพลทฟอร์มของรถมากขึ้น ส่วนหน้าของรถยนต์ The GLE เปี่ยมไปด้วยพลังและความโดดเด่น ด้วยกระจังหน้าลาย 6 เหลี่ยมที่ยกตัวสูง แผ่นกันกระแทกชุบโครเมี่ยมที่ดูสอดรับกับฝากระโปรงหน้าที่มีช่องรับอากาศ powerdomes และชุดไฟหน้าอัจฉริยะแบบ MULTIBEAM LED ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเสริมความดุดันให้กับรถได้ทั้งขณะเปิดหรือปิดไฟ รวมไปถึงไฟส่องทางบริเวณใต้กระจกมองข้างเป็นรูปตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เมื่อมองจากด้านข้าง ผู้เป็นเจ้าของจะพบกับเสาซีที่มีลักษณะกว้างซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ทางการออกแบบของรถยนต์ตระกูล The GLE ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์พัฒนาให้เป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการเสริมสมดุลให้กับตัวรถ ดึงดูดสายตาด้วย AMG Bodystyling รอบคัน ทั้งกันชนหน้า-กันชนหลัง-สเกิร์ตข้าง ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 21 นิ้ว ซึ่งล้อทั้งสี่จะอยู่ในซุ้มล้อที่เป็นวงโค้งสวยงาม ด้านท้ายของรถมีลักษณะแผ่กว้างและดูทรงพลัง โดยมีจุดเริ่มต้นจากเสาซีทอดมาถึงไฟหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังติดตั้งแผ่นสะท้อนแสงด้านหลังในตำแหน่งที่ต่ำลงกว่าเดิมเพื่อสร้างลูกเล่นให้ไฟหลังดูมีลักษณะราบเรียบยิ่งขึ้น [u][b]ดีไซน์ภายใน[/b][/u] เป็นการผสานเข้าด้วยกันของความหรูหราและสง่างามตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และความโฉบเฉี่ยว ดุดัน แข็งแกร่งแบบเอสยูวี ฐานล้อของ Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ มีความยาวถึง 2,995 มิลลิเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้น 80 มิลลิเมตรจากรุ่นก่อนหน้า ห้องโดยสารภายในตกแต่งด้วยโครเมียม ด้านบนของคอนโซลหน้า (dashboard) และด้านบนของแผงประตูหุ้มด้วยหนัง ARTICO พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa โดยเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ พร้อมมอบความสะดวกสบายระดับพรีเมี่ยมด้วยเบาะนั่งแถวที่สองที่สามารถปรับองศาการเอนของพนักพิง และพับเบาะได้ง่าย ด้วยระบบไฟฟ้าแบบ 1/3 และ 2/3 พร้อมทั้งยังสามารถปรับเพิ่มพื้นที่วางขาได้มากถึง 69-1,049 มิลลิเมตร เพื่อสามารถเข้าไปถึงแถวที่สามได้สะดวก ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์นับเป็นแบรนด์แรกของโลกที่นำเสนอฟังก์ชันนี้ในกลุ่มรถยนต์เอสยูวี นอกจากนี้ ความจุของห้องเก็บสัมภาระด้านหลังยังมีสูงถึง 855 ลิตร และเพิ่มได้สูงถึง 2,055 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่สองและแถวที่สามลง รวมถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า [u][b]ระบบความสะดวกสบายและการสื่อสาร[/b][/u] GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ทั้งจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit ขนาดใหญ่พิเศษ 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอต่อเนื่องกัน และระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) ให้คุณเข้าถึงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน รวมถึงระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto) ช่อง USB Type C บริเวณที่นั่งทุกแถว ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad และไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี (ambient lighting) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับบริการ ‘Mercedes me connect’ อีกด้วย [u][b]ระบบความปลอดภัย[/b][/u] ของ The new GLE ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น [list][*][b]ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC)[/b] ซึ่งทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกระจังหน้าในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้น และลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ รวมทั้งช่วยเบรกด้วยระดับแรงเบรกประมาณ 50% ของแรงเบรกปกติ เพื่อรักษาระยะห่างตามที่ผู้ขับขี่กำหนด [*][b]ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist)[/b] ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือจักรยานยนต์คันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร [*][b]ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทาง (Active Lane Keeping Assist)[/b] ระบบที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนช่องจราจรโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งระบบนี้จะทำงานโดยการใช้สัญญาณเรดาร์ ในการตรวจจับช่องจราจรและรถยนต์ที่อยู่ในช่องจราจรอื่น หากระบบตรวจพบความเสี่ยงที่จะชนกับรถยนต์คันอื่น ระบบจะช่วยดึงรถกลับเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติด้วยการเบรกล้อฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้รวมถึงระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind assist) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง Electronic Traction System 4ETS สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย[/list] GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ เครื่องยนต์: ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ พร้อมเทอร์โบ และอินเตอร์คูลเลอร์ ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี): 1,950 แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/รอบต่อนาที): 245 / 4,200 แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที): 500 / 1,600 - 2,400 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที): 7.2 ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.): 225 [u][b]รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 5,190,000 บาท[/b][/u][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
News
>
Mercedes-Benz สร้างสีสันตลาดรถหรูส่งท้ายปี เปิดตัวยนตรกรรม 5 รุ่นล่าสุด ในงาน Motor Expo 2019
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...