• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;&lt;?:=B?@T=:?&gt;, post: 881930, member: 47974&quot;]LPG ขึ้นราคา 6 บาท โดยทะยอยขึ้นเดือนละ 2 บาท</p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; วันนี้ (13 พฤศจิกายน) นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล&nbsp; รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ออกเป็น&nbsp; 2&nbsp; ราคา&nbsp; คือ ราคาภาคครัวเรือน-ปิโตรเคมี และขนส่ง-อุตสาหกรรม&nbsp; โดยส่วนแรกจะไม่มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใดจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2552&nbsp; <span style="color: Yellow">ส่วนกลุ่ม 2 มีมติให้ปรับขึ้น 6 บาทต่อกิโลกรัม&nbsp; แต่เป็นการทยอยปรับทุกเดือนๆ ละ 2 บาท หรือประมาณ 1 บาทต่อลิตร&nbsp; ซึ่งจะปรับขึ้นเมื่อใดแล้วแต่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารพลังงาน (กบง.) จะพิจารณา โดยจะมีการประชุมภายในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง </span></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ การปรับขึ้นดังกล่าวจะรวมถึงผู้ขับแท็กซี่ด้วย แต่เพื่อลดผลกระทบแก่กลุ่มแท็กซี่ทางภาครัฐจะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์จากแอลพีจี&nbsp; เป็นเอ็นจีวี ฟรี ประมาณ 20,000&nbsp; คัน จากปัจจุบันรถที่ใช้แอลพีจี มี 40,000&nbsp; คัน&nbsp; สาเหตุที่ปรับเปลี่ยนให้ไม่หมด&nbsp; เนื่องจากการหารือกับสมาคมผู้ขับแท็กซี่คาดว่า จะมีรถแท็กซี่ปรับเปลี่ยนเพียงประมาณ 20,000&nbsp; คันเท่านั้น </p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; รมว. กระทรวงพลังงาน กล่าวต่อว่า ส่วนภาระนำเข้าที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับภาระไปก่อนหน้านี้&nbsp; ซึ่งมีการนำเข้าแอลพีจี ลอตแรกตั้งแต่เดือน เมษายน 2551 ที่ผ่านมา ภายใต้วงเงินรวมประมาณ&nbsp; 7,200&nbsp; ล้านบาทนั้น คาดว่าจะเริ่มทยอยใช้คืน ปตท.ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2552&nbsp; เป็นต้นไป&nbsp; และจะใช้หนี้หมดภายในเดือน พฤศจิกายน 2553&nbsp; เพราะคาดว่าจะมีเงินจากการเก็บส่วนต่างแอลพีจี เพิ่มจากภาคขนส่ง และอุตสาหกรรม เริ่มจากเดือนละ 260 ล้านบาท ไปเต็มเพดานประมาณเดือนละ 720 ล้านบาท ในเดือนที่ 3 ของการจัดเก็บ&nbsp; จึงคาดว่าจะใช้หนี้เสร็จสิ้นตามระยะเวลาดังกล่าว </p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ส่วนราคาแอลพีจี ภาคครัวเรือนหลัง เดือนกุมภาพันธ์ 2552 จะมีการปรับขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.แ ในช่วงนั้น ซึ่งการกำหนดราคาที่ปรับขึ้น 6&nbsp; บาทต่อกก.มาจากฐานประเมินว่าราคาแอลพีจี ปี 2552 จะอยู่ที่ประมาณ 700&nbsp; ดอลลาร์ฯ ต่อตัน และราคาสมมติฐานน้ำมันดิบประมาณ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน </p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ทั้งนี้&nbsp; ในส่วนของมาตรการจูงใจให้กลุ่มรถแท็กซี่ที่ใช้แอลพีจีมาใช้เอ็นจีวี 20,000 คัน เวลา 4 เดือนนั้น รถแท็กซี่จะได้รับการสนับสนุนเป็นวงเงินค่าปรับเปลี่ยนประมาณ 40,000&nbsp; บาทต่อคัน และจะให้แท็กซี่นำอุปกรณ์เก่าแอลพีจี มาขายคืนชุดละ 3,000&nbsp; บาท เพื่อป้องกันการนำอุปกรณ์เก่าไปใช้สำหรับภาคขนส่งอื่น ๆ&nbsp; </p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ&nbsp; 5&nbsp; คณะ ได้แก่ คณะกรรมการติดตามการลักลอบนำแอลพีจีไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน, การตรวจสอบการใช้แอลพีจีผิดประเภทและความปลอดภัย, การตรวจสอบปริมาณแอลพีจี ได้รับการยกเว้นไม่ต้องส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน, การประชาสัมพันธ์ปรับเปลี่ยนโครงสร้างราคาแอลพีจี และคณะกรรมการติดตามความก้าวหน้าการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ของรถแท็กซี่จากการใช้แอลพีจีมาเป็นเอ็นจีวี</p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ด้านนายเมตตา บันเทิงสุข&nbsp; อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า กรณีการใช้แอลพีจีผิดประเภท คือ ลักลอบนำก๊าซครัวเรือนไปใช้ในขนส่งหรืออุตสาหกรรม ในปัจจุบันถือเป็นการดำเนินที่ผิดกฎหมายว่าด้วยคำสั่งนายกรัฐมนตรี&nbsp; ฉบับที่&nbsp; 4/2547&nbsp; เรื่องการแก้ไข และป้องกันภาวะการขาดแคลนปิโตรเลียมที่มีโทษจำคุก 10 ปี หรือปรับ 100,000&nbsp; บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ&nbsp; แต่ปัจจุบันไม่ได้มีการเข้มงวดการดำเนินการดังกล่าว&nbsp; แต่หลังจากเกิดโครงสร้าง 2 ราคา เพื่อป้องกันการลักลอบทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมาย&nbsp; เริ่มแรกจะประชาสัมพันธ์ และตักเตือน หากพบทำผิดจะมีการจับกุม กรอบระยะเวลาจะเป็นเมื่อใดทาง กบง.จะเป็นผู้กำหนด </p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ ในขณะเดียวกันภายใน 6 เดือนข้างหน้าจะให้บรรดาโรงบรรจุติดตั้งมิเตอร์ เพื่อดูแลตรวจสอบให้ชัดเจนป้องกันการลักลอบถ่ายเทใช้ผิดประเภท ระหว่างยังไม่มีมิเตอร์ก็จะใช้สถิติการจำหน่ายปี 2550&nbsp; เป็นตัวกำหนด&nbsp; โดยปัจจุบันไทยมีการผลิตแอลพีจีประมาณ 350,000&nbsp; ตันต่อเดือน&nbsp; แต่มีความต้องการใช้ประมาณ 379,000&nbsp; ตันต่อเดือน&nbsp; แบ่งออกเป็นการใช้ภาคครัวเรือน 46% อุตสาหกรรม 15%&nbsp; ปิโตรเคมี 20% และภาคขนส่ง 19% การปรับขึ้นราคาแอลพีจี ประมาณ 6 บาทต่อกิโลกรัม&nbsp; จึงจะมีปริมาณก๊าซที่ต้องปรับขึ้นราคาเป็นสัดส่วนประมาณ 34%&nbsp;&nbsp; </p><p><br /></p><p>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาก๊าซนำเข้านี้ทาง ปตท. เป็นผู้นำเข้ามาก่อนตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมา ซึ่งมีการนำเข้าสูงสุดต่อเดือนเมื่อเดือนตุลาคมประมาณ 113,000&nbsp; ตันต่อเดือน&nbsp; แต่ยอดนำเข้าได้เริ่มลดลงหลังจากเกิดภาวะวิกฤติโลก โดยเดือน พ.ย. 2551 ที่ผ่านมา มีปริมาณการนำเข้าประมาณ 100,000 ตัน&nbsp; และคาดว่าในช่วงเดือนธันวาคมจะนำเข้า 62,000&nbsp; ตัน และเดือนมกราคม 2552 จะมีการนำเข้าเพียง 45,000 ตัน สาเหตุนำเข้าลดลง เนื่องจากการใช้ภาคอุตสาหกรรม และปิโตรเคมีลดลงมากประมาณ 30% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X