เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Mitsubishi Car Clubs
>
Evolution Thailand
>
เครืองEvo2 ดังแค๊กๆๆ!!
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="smegal, post: 990840, member: 503"]<span style="color: LemonChiffon">1. คนส่วนใหญ่มักจะคิดแบบนี้ที่ว่าเลขตัวหน้าไม่สำคัญเพราะเมืองไทยอากาศไม่ได้ติดลบแต่อย่าลืมซิครับไม่ว่าที่อุณภูมิเท่าไหร่ 5w ใสกว่า 10w ใสกว่า 15w ใสกว่า 20w สมมติอุณภูมิขณะเครื่องเย็นตอนเช้าๆซัก 20 กว่าองศาที่อุณภูมิขนาดนี้ทันทีที่เครื่องยนต์สตาร์ทน้ำมันเครื่อง 5w ซึ่งใสกว่าก็จะไหลไปเลี้ยงเครื่องยนต์ได้ทั่วถึงและไวกว่า 15w ซึ่งข้นกว่าและไหลได้ช้าต้องรอจนกว่าจะร้อนถึงไหลได้ไวขึ้น แล้วที่นี้เครื่องยนต์ทั่วๆไปมันจะสึกหรอมากที่สุดก็ตอนสตาร์ทนี่แหล่ะครับเพราะน้ำมันยังข้นไม่ได้ขึ้นไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆทันทีที่สตาร์ทดังนั้นจะมีช่วงเวลาสั้นๆนี่แหล่ะที่เครื่องยนต์เสียดสีกันโดยปราศจากการหล่อลื่นที่ดีพอ การสตาร์ทตอนเครื่องเย็นหนึ่งครั้งจะสึกหรอมากกว่าการวิ่งทั่วๆไปหลายร้อยกิโลครับ ถ้าผมเปรียบเทียบน้ำเปล่าเท่ากับ 5w และน้ำเชื่อมเท่ากับ 15w เราใช้หลอดดูดน้ำเปล่าน้ำจะไหลเข้าปากได้เร็วและเยอะกว่าน้ำเชื่อมแต่ถ้าน้ำเชื่อมนั้นถูกนำไปอุ่นให้ร้อนขึ้นก็จะใสขึ้นและสามารถดูดเข้าปากได้ไวขึ้น ดังนั้นน้ำมันเลขเบอร์หน้าที่น้อยและใสกว่าก็จะมีประโยชน์ตอนสตาร์ทตอนเครื่องเย็นนี่แหละครับ เพราะปกป้องได้ทันทีที่สตาร์ททำให้เครื่องยนต์ไม่สึกหรอง่าย รถเมืองหนาวถึงต้องใช้นำมันตัวเลขหน้าต่ำๆไงครับเพราะถ้าติดลบขนาด -40 ขืนไปใช้ 15w หรือ 20w ซึ่งแข็งและเหนียวหนืดจนปั๊มดูดไม่ไปเครื่องยนต์เดินไม่กี่นาทีก็คงพังเพราะไม่มีน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ ในเมืองร้อนอาจจะไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นแต่ยังไงใสกว่าก็ปกป้องตอนสตาร์ทได้ดีกว่าอยู่ดีครับ ลองสังเกตุอีกอย่างซิครับถ้าใช้น้ำมันเบอร์หน้าใสกว่าเวลาสตาร์ทตอนเช้าเสียงวาลว์ดังจะแป๊ปเดียวก็เงียบแล้ว แต่ถ้าใช้เบอร์หน้าสูงกว่าก็จะดังนานกว่าจะเงียบ</span></p><p><span style="color: LemonChiffon"><br /></span></p><p><span style="color: LemonChiffon">2. ในการเลือกเบอร์เลขตัวหลังของน้ำมันเครื่องสิ่งที่ต้องคำนึงคือสภาพของเครื่องยนต์ ชนิดของเครื่องยนต์และลักษณะการใช้งานหรือนิสัยของคนขับ </span></p><p><span style="color: LemonChiffon"><br /></span></p><p><span style="color: LemonChiffon"> 2.1ถ้าเครื่องยนต์ใหม่ๆเป็นระบบหัวฉีดธรรมดาทั่วๆไปไม่มีโบ การใช้น้ำมันเบอร์ 30 จะเหมาะกว่าเบอร์ 40 และ 50 ตามลำดับเพราะอุณภูมิความร้อนในเครื่องไม่สูงมากถึงจะขับรุนแรงบ้างก็ตาม ขณะใช้งานอุณภูมน้ำมันเครื่อง ก็คงราวๆ 90 องศากว่าๆไม่เกิน 100 ซึ่งน้ำมันเบอร์ 30 จะใสลื่นกำลังพอดี แต่ถ้าเราไปใช้น้ำมันเบอร์ 40 หรือ 50 ในขณะขับใช้งานน้ำมันมันจะยังข้นไปหน่อยทำให้มีความหนืดสูงกว่าและต้านการหมุนของข้อเหวี่ยงและชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวต่างๆทำให้วิ่งไม่ลื่นและไม่ประหยัดเชื้อเพลิงเท่าที่ควร แต่ยังไงก็ตามถ้าเครื่องยนต์เริ่มเก่าหลวมแล้วก็ไม่ควรใช้เบอร์ 30 เพราะถึงมันจะลื่นกว่าแต่ด้วยความที่เครื่องหลวมระยะห่างระหว่างชิ้นส่วนต่างๆรวมทั้งแหวนจะมีมากกว่าทำให้เกิดเสียงดังและเวลาร้อนๆกำลังจะตกเพราะน้ำมันใสๆเล็ดลอดออกจากแหวนลูกสูบเข้าห้องเผาไหม้ได้เยอะจึงไม่ได้ช่วยซีลระหว่างแหวนกับผนังเสื้อสูบกำลังอัดจึงรั่วไหลกำลังเครื่องเลยตกและทำให้ควันไหลและกินน้ำมันเครื่อง ซึ่งจริงๆน้ำมันเครื่องมันไม่ได้ระเหยออกไปหรอกครับแต่เพราะมันเล็ดลอดเข้าไปในห้องเผาไหม้จึงโดนความร้อนเผาไหม้ออกไปพร้อมกับไอเสีย รถผมเมื่อก่อนใช้น้ำมันเบอร์ 5W30 เวลาเครื่องเย็นๆจะวิ่งลื่นดีแต่เวลาร้อนๆจะตื้อๆและมีอาการกินน้ำมันเครื่อง แต่พอเปลี่ยนมาใช้ 10W50 เวลาเครื่องเย็นๆจะวิ่งหนืดๆขึ้นหน่อยแต่เวลาร้อนๆรถมีกำลังดีกว่าเดิมไม่ค่อยตื้อและอาการน้ำมันหายก็ลดลง</span></p><p><span style="color: LemonChiffon"><br /></span></p><p><span style="color: LemonChiffon"> 2.2 ถ้าเป็นเครื่อง NA รอบจัดๆโดยส่วนตัวผมว่าใช้เบอร์หลังที่เป็นเลข 40 น่าจะเหมาะกว่าเพราะเครื่องจะมีอุณภูมิสูงกว่าเครื่องทั่วๆไปเพราะกำลังอัดสูงกว่า แรงม้าเยอะกว่า เวลาอัดแป๊ปเดียวด้วยความที่รอบจัดกว่าความร้อนของน้ำมันเครื่องก็จะขึ้นสูงได้ไวและมากกว่าเครื่องหัวฉีดธรรมดาทั่วๆไปดังนั้นในช่วงซัดๆความร้อนพีคแบบชั่วครู่ก็อาจจะทำให้น้ำมันเลขตัวหลังเบอร์ 30 ใสไปเครื่องจะสึกหรอเยอะกว่าผมจึงคิดว่าเบอร์ 40 น่าจะเหมาะและปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่าแต่ก็ต้องยอมรับว่าในขณะขับใช้งานทั่วๆไปรถติดๆอาจจะลื่นสู้เบอร์ 30 ไม่ได้ แต่เวลาซัดปกป้องได้ดีกว่าแน่นอน </span></p><p><span style="color: LemonChiffon"> ในกรณีที่เป็นเครื่องเทอร์โบความร้อนปกติภายในเครื่องยนต์ก็จะสูงกว่าเครื่องธรรมดาอยู่แล้วดังนั้นน้ำมันเบอร์ ที่สูงกว่าก็อาจจะไม่ได้หนืดกว่ามากมายนักเพราะด้วยความร้อนภายในเครื่องที่สูงกว่าน้ำมันที่วิ่งวนอยู่ในเครื่องถึงเบอร์หลังจะเป็น 50 ก็ค่อนข้างจะใสและไหลลื่นได้ดีพอควร (อย่างน้อยๆก็ใสกว่าน้ำมันเบอร์เดียวกันที่วิ่งวนอยู่ในเครื่อง NA) เครื่องเทอร์โบเวลาอัดแป๊ปเดียวความร้อนภายในสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมากยิ่งบูชเยอะยิ่งร้อนเร็วถึงนานๆจะอัดทีก็ตามเบอร์ 30 จึงไม่ควรใช้เลยเพราะช่วงพีคแป๊ปเดียวน้ำมันเบอร์ 30 คงใสและฟิล์มน้ำมันบางมากจนไม่แข็งแรงพอที่จะหล่อลื่นปกป้องหรือคายความร้อนบริเวณของชิ้นส่วนที่เสียดสีกันได้ ถ้าเครื่องเทอร์โบไม่ค่อยได้อัดก็พอใช้เบอร์หลังที่เลข 40 ได้ แต่ถ้าไม่ค่อยได้อัดยังมีอาการน้ำมันหายบ่อยๆแสดงว่าสภาพเครื่องยนต์น่าจะเหมาะใช้เบอร์หลังที่เลข 50 มากกว่า</span></p><p><span style="color: LemonChiffon"> </span></p><p><span style="color: LemonChiffon"> 2.3 ถ้ารถขับขี่แบบรุนแรงเหยียบแช่รอบสูงๆตลอดทางยาวๆหรือรถแข่งใช้ในสนามที่ความร้อนสะสมในเครื่องยนต์สูงเป็นเวลานานๆ ถ้าเป็น NA น่าจะเลือกเลขตัวหลังที่ 40 หรือ 50 แต่ถ้าเป็นรถมีโบคงต้องใช้เลขตัวหลัง 50 อย่างเดียวดีกว่าครับเพราะรถที่ใช้ขับหรือแข่งขนาดนี้เบอร์ 40 ถึงไม่พังก็สึกหรอเยอะกว่า 50 มากมาย</span></p><p><span style="color: LemonChiffon"></span> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie1" alt=":)" unselectable="on" unselectable="on" /><img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie1" alt=":)" unselectable="on" unselectable="on" /><img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie1" alt=":)" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><span style="color: LemonChiffon">ถ้าให้เลือก 0W40 10W40 และ 15W40 ผมจะเลือก 0W40 เพราะเบสออยล์บริสุทธิกว่าเวลาเย็นๆน้ำมันใสกว่าเวลาสตาร์ทตอนเช้าจะปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีและเวลาร้อนๆก็ทนความร้อนได้ดีพอๆกันเพราะความหนืดเบอร์ 40 เหมือนกับอีก 2ตัวที่เหลือ ส่วนเบอร์ 15W40 ผมคงไม่เลือกใช้แน่เพราะเบสออยล์ไม่บริสุทธิ์เท่า เสื่อมสภาพไวกว่า เวลาเครื่องเย็นๆก็จะข้นกว่าทำให้ปกป้องเครื่องยนต์เวลาสตาร์ทได้ไม่ดีและเวลาร้อนๆก็หนืดพอๆกับสองตัวแรกสรุปก็ไม่ได้มีไรดีกว่าเลย แต่ใน 3ตัวนี้ 0W40 จะราคาสูงที่สุดเพราะต้นทุนการผลิตสูงกว่า น้ำมันที่เลขตัวหน้ากับเลขตัวหลังห่างกันไม่เยอะ เช่น 10W30 หรือ 15W40 ต้นทุนการผลิตจะถูกกว่าและคุณภาพจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่โดยมากราคามักจะถูก ยกเว้นเลขตัวหน้าจะเป็น 0W หรือ 5W ถึงแม้ตัวหลัง จะแค่ 30 ราคาก็ยังแพงเพราะเลขตัวหน้าที่ต่ำหมายถึงเบสออยล์ที่มีคุณภาพสูงกว่า ผลิตยากกว่าราคาจึงแรงกว่า</span></p><p><span style="color: LemonChiffon"><br /></span></p><p><span style="color: LemonChiffon">น้ำมันประเภทเบอร์ 0W50 หรือ 0W60 แบบนี้แพงมากมายแน่นอนเพราะเบสออยล์บริสุทธิ์มากทั้งใสดีต่อเครื่องยนต์เวลาสตาร์ทใหม่ๆและเวลาร้อนๆก็ยังรักษาความข้นและฟิล์มน้ำมันได้ที่เบอร์ถึง 50 และ 60 แต่เอามาใช้งานทั่วๆไปดูราคาแล้วอาจจะไม่คุ้ม</span></p><p><span style="color: LemonChiffon"><br /></span></p><p><span style="color: LemonChiffon">รถพี่โอ๋เทอร์โบ เวสเกตแยกเวลาเมาๆเท้าก็หนักผมว่า 10W50 ดีกว่า ใช้งานทั่วๆไปไม่ได้หนืดกว่า ตัวหลัง 40 เท่าไหร่ แต่เวลาร้อนๆหรือซัดขึ้นมา ปกป้องได้ดีกว่าเยอะ อาการน้ำมันหายก็น้อยกว่าไม่ต้องเติมกันบ่อยๆ</span></p><p><span style="color: LemonChiffon"></span> <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie1" alt=":)" unselectable="on" unselectable="on" /><img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie1" alt=":)" unselectable="on" unselectable="on" /><img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie1" alt=":)" unselectable="on" unselectable="on" />[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="smegal, post: 990840, member: 503"][COLOR="LemonChiffon"]1. คนส่วนใหญ่มักจะคิดแบบนี้ที่ว่าเลขตัวหน้าไม่สำคัญเพราะเมืองไทยอากาศไม่ได้ติดลบแต่อย่าลืมซิครับไม่ว่าที่อุณภูมิเท่าไหร่ 5w ใสกว่า 10w ใสกว่า 15w ใสกว่า 20w สมมติอุณภูมิขณะเครื่องเย็นตอนเช้าๆซัก 20 กว่าองศาที่อุณภูมิขนาดนี้ทันทีที่เครื่องยนต์สตาร์ทน้ำมันเครื่อง 5w ซึ่งใสกว่าก็จะไหลไปเลี้ยงเครื่องยนต์ได้ทั่วถึงและไวกว่า 15w ซึ่งข้นกว่าและไหลได้ช้าต้องรอจนกว่าจะร้อนถึงไหลได้ไวขึ้น แล้วที่นี้เครื่องยนต์ทั่วๆไปมันจะสึกหรอมากที่สุดก็ตอนสตาร์ทนี่แหล่ะครับเพราะน้ำมันยังข้นไม่ได้ขึ้นไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆทันทีที่สตาร์ทดังนั้นจะมีช่วงเวลาสั้นๆนี่แหล่ะที่เครื่องยนต์เสียดสีกันโดยปราศจากการหล่อลื่นที่ดีพอ การสตาร์ทตอนเครื่องเย็นหนึ่งครั้งจะสึกหรอมากกว่าการวิ่งทั่วๆไปหลายร้อยกิโลครับ ถ้าผมเปรียบเทียบน้ำเปล่าเท่ากับ 5w และน้ำเชื่อมเท่ากับ 15w เราใช้หลอดดูดน้ำเปล่าน้ำจะไหลเข้าปากได้เร็วและเยอะกว่าน้ำเชื่อมแต่ถ้าน้ำเชื่อมนั้นถูกนำไปอุ่นให้ร้อนขึ้นก็จะใสขึ้นและสามารถดูดเข้าปากได้ไวขึ้น ดังนั้นน้ำมันเลขเบอร์หน้าที่น้อยและใสกว่าก็จะมีประโยชน์ตอนสตาร์ทตอนเครื่องเย็นนี่แหละครับ เพราะปกป้องได้ทันทีที่สตาร์ททำให้เครื่องยนต์ไม่สึกหรอง่าย รถเมืองหนาวถึงต้องใช้นำมันตัวเลขหน้าต่ำๆไงครับเพราะถ้าติดลบขนาด -40 ขืนไปใช้ 15w หรือ 20w ซึ่งแข็งและเหนียวหนืดจนปั๊มดูดไม่ไปเครื่องยนต์เดินไม่กี่นาทีก็คงพังเพราะไม่มีน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ ในเมืองร้อนอาจจะไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นแต่ยังไงใสกว่าก็ปกป้องตอนสตาร์ทได้ดีกว่าอยู่ดีครับ ลองสังเกตุอีกอย่างซิครับถ้าใช้น้ำมันเบอร์หน้าใสกว่าเวลาสตาร์ทตอนเช้าเสียงวาลว์ดังจะแป๊ปเดียวก็เงียบแล้ว แต่ถ้าใช้เบอร์หน้าสูงกว่าก็จะดังนานกว่าจะเงียบ 2. ในการเลือกเบอร์เลขตัวหลังของน้ำมันเครื่องสิ่งที่ต้องคำนึงคือสภาพของเครื่องยนต์ ชนิดของเครื่องยนต์และลักษณะการใช้งานหรือนิสัยของคนขับ 2.1ถ้าเครื่องยนต์ใหม่ๆเป็นระบบหัวฉีดธรรมดาทั่วๆไปไม่มีโบ การใช้น้ำมันเบอร์ 30 จะเหมาะกว่าเบอร์ 40 และ 50 ตามลำดับเพราะอุณภูมิความร้อนในเครื่องไม่สูงมากถึงจะขับรุนแรงบ้างก็ตาม ขณะใช้งานอุณภูมน้ำมันเครื่อง ก็คงราวๆ 90 องศากว่าๆไม่เกิน 100 ซึ่งน้ำมันเบอร์ 30 จะใสลื่นกำลังพอดี แต่ถ้าเราไปใช้น้ำมันเบอร์ 40 หรือ 50 ในขณะขับใช้งานน้ำมันมันจะยังข้นไปหน่อยทำให้มีความหนืดสูงกว่าและต้านการหมุนของข้อเหวี่ยงและชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวต่างๆทำให้วิ่งไม่ลื่นและไม่ประหยัดเชื้อเพลิงเท่าที่ควร แต่ยังไงก็ตามถ้าเครื่องยนต์เริ่มเก่าหลวมแล้วก็ไม่ควรใช้เบอร์ 30 เพราะถึงมันจะลื่นกว่าแต่ด้วยความที่เครื่องหลวมระยะห่างระหว่างชิ้นส่วนต่างๆรวมทั้งแหวนจะมีมากกว่าทำให้เกิดเสียงดังและเวลาร้อนๆกำลังจะตกเพราะน้ำมันใสๆเล็ดลอดออกจากแหวนลูกสูบเข้าห้องเผาไหม้ได้เยอะจึงไม่ได้ช่วยซีลระหว่างแหวนกับผนังเสื้อสูบกำลังอัดจึงรั่วไหลกำลังเครื่องเลยตกและทำให้ควันไหลและกินน้ำมันเครื่อง ซึ่งจริงๆน้ำมันเครื่องมันไม่ได้ระเหยออกไปหรอกครับแต่เพราะมันเล็ดลอดเข้าไปในห้องเผาไหม้จึงโดนความร้อนเผาไหม้ออกไปพร้อมกับไอเสีย รถผมเมื่อก่อนใช้น้ำมันเบอร์ 5W30 เวลาเครื่องเย็นๆจะวิ่งลื่นดีแต่เวลาร้อนๆจะตื้อๆและมีอาการกินน้ำมันเครื่อง แต่พอเปลี่ยนมาใช้ 10W50 เวลาเครื่องเย็นๆจะวิ่งหนืดๆขึ้นหน่อยแต่เวลาร้อนๆรถมีกำลังดีกว่าเดิมไม่ค่อยตื้อและอาการน้ำมันหายก็ลดลง 2.2 ถ้าเป็นเครื่อง NA รอบจัดๆโดยส่วนตัวผมว่าใช้เบอร์หลังที่เป็นเลข 40 น่าจะเหมาะกว่าเพราะเครื่องจะมีอุณภูมิสูงกว่าเครื่องทั่วๆไปเพราะกำลังอัดสูงกว่า แรงม้าเยอะกว่า เวลาอัดแป๊ปเดียวด้วยความที่รอบจัดกว่าความร้อนของน้ำมันเครื่องก็จะขึ้นสูงได้ไวและมากกว่าเครื่องหัวฉีดธรรมดาทั่วๆไปดังนั้นในช่วงซัดๆความร้อนพีคแบบชั่วครู่ก็อาจจะทำให้น้ำมันเลขตัวหลังเบอร์ 30 ใสไปเครื่องจะสึกหรอเยอะกว่าผมจึงคิดว่าเบอร์ 40 น่าจะเหมาะและปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีกว่าแต่ก็ต้องยอมรับว่าในขณะขับใช้งานทั่วๆไปรถติดๆอาจจะลื่นสู้เบอร์ 30 ไม่ได้ แต่เวลาซัดปกป้องได้ดีกว่าแน่นอน ในกรณีที่เป็นเครื่องเทอร์โบความร้อนปกติภายในเครื่องยนต์ก็จะสูงกว่าเครื่องธรรมดาอยู่แล้วดังนั้นน้ำมันเบอร์ ที่สูงกว่าก็อาจจะไม่ได้หนืดกว่ามากมายนักเพราะด้วยความร้อนภายในเครื่องที่สูงกว่าน้ำมันที่วิ่งวนอยู่ในเครื่องถึงเบอร์หลังจะเป็น 50 ก็ค่อนข้างจะใสและไหลลื่นได้ดีพอควร (อย่างน้อยๆก็ใสกว่าน้ำมันเบอร์เดียวกันที่วิ่งวนอยู่ในเครื่อง NA) เครื่องเทอร์โบเวลาอัดแป๊ปเดียวความร้อนภายในสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมากยิ่งบูชเยอะยิ่งร้อนเร็วถึงนานๆจะอัดทีก็ตามเบอร์ 30 จึงไม่ควรใช้เลยเพราะช่วงพีคแป๊ปเดียวน้ำมันเบอร์ 30 คงใสและฟิล์มน้ำมันบางมากจนไม่แข็งแรงพอที่จะหล่อลื่นปกป้องหรือคายความร้อนบริเวณของชิ้นส่วนที่เสียดสีกันได้ ถ้าเครื่องเทอร์โบไม่ค่อยได้อัดก็พอใช้เบอร์หลังที่เลข 40 ได้ แต่ถ้าไม่ค่อยได้อัดยังมีอาการน้ำมันหายบ่อยๆแสดงว่าสภาพเครื่องยนต์น่าจะเหมาะใช้เบอร์หลังที่เลข 50 มากกว่า 2.3 ถ้ารถขับขี่แบบรุนแรงเหยียบแช่รอบสูงๆตลอดทางยาวๆหรือรถแข่งใช้ในสนามที่ความร้อนสะสมในเครื่องยนต์สูงเป็นเวลานานๆ ถ้าเป็น NA น่าจะเลือกเลขตัวหลังที่ 40 หรือ 50 แต่ถ้าเป็นรถมีโบคงต้องใช้เลขตัวหลัง 50 อย่างเดียวดีกว่าครับเพราะรถที่ใช้ขับหรือแข่งขนาดนี้เบอร์ 40 ถึงไม่พังก็สึกหรอเยอะกว่า 50 มากมาย [/COLOR] :):):) [COLOR="LemonChiffon"]ถ้าให้เลือก 0W40 10W40 และ 15W40 ผมจะเลือก 0W40 เพราะเบสออยล์บริสุทธิกว่าเวลาเย็นๆน้ำมันใสกว่าเวลาสตาร์ทตอนเช้าจะปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีและเวลาร้อนๆก็ทนความร้อนได้ดีพอๆกันเพราะความหนืดเบอร์ 40 เหมือนกับอีก 2ตัวที่เหลือ ส่วนเบอร์ 15W40 ผมคงไม่เลือกใช้แน่เพราะเบสออยล์ไม่บริสุทธิ์เท่า เสื่อมสภาพไวกว่า เวลาเครื่องเย็นๆก็จะข้นกว่าทำให้ปกป้องเครื่องยนต์เวลาสตาร์ทได้ไม่ดีและเวลาร้อนๆก็หนืดพอๆกับสองตัวแรกสรุปก็ไม่ได้มีไรดีกว่าเลย แต่ใน 3ตัวนี้ 0W40 จะราคาสูงที่สุดเพราะต้นทุนการผลิตสูงกว่า น้ำมันที่เลขตัวหน้ากับเลขตัวหลังห่างกันไม่เยอะ เช่น 10W30 หรือ 15W40 ต้นทุนการผลิตจะถูกกว่าและคุณภาพจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่โดยมากราคามักจะถูก ยกเว้นเลขตัวหน้าจะเป็น 0W หรือ 5W ถึงแม้ตัวหลัง จะแค่ 30 ราคาก็ยังแพงเพราะเลขตัวหน้าที่ต่ำหมายถึงเบสออยล์ที่มีคุณภาพสูงกว่า ผลิตยากกว่าราคาจึงแรงกว่า น้ำมันประเภทเบอร์ 0W50 หรือ 0W60 แบบนี้แพงมากมายแน่นอนเพราะเบสออยล์บริสุทธิ์มากทั้งใสดีต่อเครื่องยนต์เวลาสตาร์ทใหม่ๆและเวลาร้อนๆก็ยังรักษาความข้นและฟิล์มน้ำมันได้ที่เบอร์ถึง 50 และ 60 แต่เอามาใช้งานทั่วๆไปดูราคาแล้วอาจจะไม่คุ้ม รถพี่โอ๋เทอร์โบ เวสเกตแยกเวลาเมาๆเท้าก็หนักผมว่า 10W50 ดีกว่า ใช้งานทั่วๆไปไม่ได้หนืดกว่า ตัวหลัง 40 เท่าไหร่ แต่เวลาร้อนๆหรือซัดขึ้นมา ปกป้องได้ดีกว่าเยอะ อาการน้ำมันหายก็น้อยกว่าไม่ต้องเติมกันบ่อยๆ [/COLOR] :):):)[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Community Car Clubs
>
Mitsubishi Car Clubs
>
Evolution Thailand
>
เครืองEvo2 ดังแค๊กๆๆ!!
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...