DAMS : Topic of DIY

การสนทนาใน 'DAMS' เริ่มโดย Yakumo, 22 ธันวาคม 2006

สถานะหัวข้อ:
ไม่เปิดให้ตอบกลับเพิ่มเติม
< Previous Thread | Next Thread >
  1. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    อะไรๆ ก็ทำด้วยตัวเองได้ ถ้าอยากลองและตั้งใจทำ
     
  2. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    Spark Plug Cleaning : Platinum and Iridium

    ก็อีกแล้ว แหละ วันนี้มันว่างต้องอยู่ดูแลแม่อยู่ที่บ้านเพราะว่าแม่ไม่สบายเป็นไข้ ก็เลย หาอะไรทำระหว่างแม่นอน ก็ได้ เรื่องอีกแล้ว เมื่อวาน ล้างๆๆ แบบของไม่ครบ (ล้างหัวเทียน) ก็เลย มีเวลาเตรียมของมาทำความสะอาดกันจริงๆ จังๆ

    พวกหัวเทียนที่ Spec บอกว่าใช้งานได้นานๆๆ ก็จำเป็นต้องทำความสะอาดมันเหมือนกันนะครับถึงมันจะทนทานก็เถอะ ปกติ ทุกๆ 10000 ถึง 20000 โล ผมจะถอดออกมาทำความสะอาดเพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์

    อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการถอดหัวเทียนก็มีดังนี้
    1. หัวบล๊อก ขนาน 16mm (ถ้าเป็นไปได้หาแบบแม่เหล็กนะ จะได้ถอดและใส่ง่ายๆ)
    2. ตัวชุดต่อให้ยาว
    3. ด้ามที่เอาไว้ขัน
    4. ประแจไขน๊อตเบอร์ 10
    5. ผ้าสะอาด

    อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำความสะอาด
    1. ก็กระมังพลาสติก หรือ อะไรก็ได้ที่เอาไว้รองทำงานได้
    2. น้ำมันสนหรือน้ำมันเบินซินก็ได้ แต่ในการนำเสนอนี้ พอดีที่บ้านมีน้ำมันสนอยู่ไกล้มือสุดเลย เลือกใช้ นะครับ
    3. แปรงทองเหลือง

    ขั้นตอนหลังจากที่ (แนะนำให้ทำตอนเครื่องเย็นๆ นะ ทำตอนเช้าๆ ก็ได้ จะได้ไม่ร้อนมือ)
    1. ถอดฝากครอบออกก่อน ที่มีตัวนูน เขียน Honda Vtec หรือไอ้พลาสติกตรงนั้นแหละ โดย ไข ตัวยึด 2 ตัวแล้วก็ยกออกได้
    2. คลายน๊อตหัวหมวกที่ล๊อค Direct Coil เป็นน๊อตเบอร์ 10
    3. ถอด Direct Coil ออกมาทำความสะอาดสักหน่อยโดยเอาผ้าเช็ดๆ แล้วก็ถอดสายไฟออกด้วย
    4. เอาชุดถอดหัวเทียนใส่เข้าไปในช่องแล้วขันทวนเข็มนาฬิกา แล้วก็ค่อยๆ หมุดๆๆ จนถอดออกมา เอาออกมาให้หมดทั้ง 4 หัวนะ
    5. เอาน้ำมันสน เทลงในถาด พอประมาณ
    6. เอาหัวเทียน ใส่ลงไปแล้วก็คลุกให้ทั่ว จากนั้นก็ เอาไปทอดต่อเลย อิอิ ไม่ไช่กุ้งโกกิ นะเนี้ย ล้อเล่นๆ ต่อๆๆ แล้วทิ้งไว้สักครู่
    7. เอาหัวเทียนมาขัดด้วยแปรงทองเหลืองไม่ต้องออกแรงกดมากนะ ค่อยๆ ทำ เอาแค่มันสะอาดไม่ได้เอา หัวเคลือบหลุด
    8. ก็ทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้า สะอาดๆ หน่อย เอาให้มันสะอาดเลย แล้วก็ทิ้งไว้สักพัก
    9. นำกลับไปใส่ให้เรียบร้อยนะ โดยนำมันเทียนใส่ใน บล๊อคก่อนและให้หันปลายหัวเข้าไปที่ ห้องโดยสาร แล้วค่อยๆ ใส่ลงช่องไป จากนั้นค่อยๆ หมุนตามเข็มนาฬิกาเข้าไปเรื่อยๆ จนแน่ แล้วก็ล๊อตให้แน่ๆ หน่อยเอาตึงๆๆ มือ ให้แบบนี้ทั้ง 4 หัวนะ
    10 ใส่เสร็จก็ติดเครื่องทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วก็ไปนอนตากแอร์เย็นๆ ต่อ

    มาดูรูปกันดีกว่านะ เดี่ยวนึกกันไม่ออก

    มาดูเครื่องมือก่อนนะ บล๊อคเบอร์ 16
    [​IMG]
    [​IMG]
    ไอ้ตอนนี้แหละที่บอกว่าเป็นแม่เหล็ก
    [​IMG]
    มันดีตรงที่ว่าใส่หัวเทียนเข้าไปแล้วดูดติดเลย
    [​IMG]

    มาดูชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดกันหน่อยดิ
    แปรงกันน้ำมันสน
    [​IMG]
    [​IMG]

    พอล้างเสร็จก็ใหม่ๆ แบบนี้แหละ
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    ว่าแล้วก็มาใส่กันดีกว่า
    [​IMG]
    มาดูที่ Direct Coil กันบ้างดิ
    [​IMG]
    [​IMG]
    ตอนนี้เป็นยางกันน้ำนะ ถ้ามันสภาพไม่ไหวแล้ว ก็เปลี่ยนเถอะ อันล่ะ 69 บาทก่อน Vat ซื้อได้ที่ 0
    [​IMG]

    มาดูช่องใส่กันดีกว่า
    [​IMG]
    ก่อนใส่ หันเคี่ยวเข้าห้องโดยสารนะ
    [​IMG]
    ใส่เสร็จแล้วจะเป็นแบบนี้
    [​IMG]

    หวังว่าเพื่อเอาไว้ทำกันเองนะ
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 ธันวาคม 2006
  3. BASLER

    BASLER Member Member

    132
    9
    18
    ได้ความรู้มากครับ
     
  4. *~aj : BookER_69~*

    *~aj : BookER_69~* New Member Member

    5
    0
    0
    แหมๆพี่วิน รูปยังเดิมๆอยู่เลยนะพี่ ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆคับพี่ !!
     
  5. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0


    รูปเดิมมันยังใช้สื่อความหมายได้ แล้วทำไมต้องเปลี่ยนล่ะครับ
     
  6. Gettuned

    Gettuned Active Member Privilege

    140
    95
    28
    พี่วินแนะนำว่าอย่าใช้น้ำมันสนครับมันจะเป็นคราบ ให้ใช้ เบนซินดีกว่าแล้วก็เป่าให้แห้งระวังอย่าทำตกเด็ดขาด
     
  7. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    คือจริงๆ ก็ใช้ได้ทั้ง 2 อย่างล่ะครับน้ำมันสน กับ น้ำมันเบินซิน แต่น้ำมันเบินซิน ตอนที่พี่ทำมันไม่มีอยู่ที่บ้าน หาไกล้ตัวสุดก็มีแต่น้ำมันสน ล่ะครับเลยใช้แทนกันครับแต่ถ้าสะดวกไปซื้อน้ำมันเบินซินแล้วเอามาใช้ก็ดีครับ
     
  8. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    DIY : Apexi Auto Timer + A/F Meter การติดตั้งและการใช้งาน

    การติดตั้ง Timer จะต้อง Tap สายไฟจากที่คอพวงมาลัย ตามในรูปด้านล่างครับ

    ซึ่งรายละเอียดของสายแต่ละเส้นดังนี้ครับ
    1. ไฟ 12V สาย สีขาว
    2. STARTER สายสี ดำ/ขาว
    3. IGNITION สายสี ดำ/เหลือง
    4. ACCESSORY สายสี ดำ/แดง
    5. SECOND ACCESSORY สายสี ขาว/แดง

    [​IMG]

    จากรูปจะเห็นว่ามี สายไป 3 เส้นจากหัวต่อ ซึ่งต้อง Tap สาย เข้าไปที่ สายไฟที่คอพวงมาลัย

    แดง ต่อกับ สายขาว (12V)
    เขียว ต่อกับ สาย ดำ/เหลือง
    น้ำเงิน ต่อกับ สาย ดำ/แดง

    [​IMG]

    ซึ่งปกติทั่วไป ก็จะมี อีก 2 เส้นที่ตัว Timer จะมีมาด้วยคือ

    1. สายสีดำ เป็นสาย Ground
    2. สายสีน้ำตาล เป็นสาย Parking break

    ซึ่งถ้าเราต้องการให้ไม่ต้องดึงเบรคมือก่อนถึงจะ Start รถได้นั้นก็ให้ต่อ สาย Parking break ลง Ground เลยก็ได้ครับ

    คราวนี้ลองมาดูของ Apexi auto timer บ้างครับว่ามันรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไง ซึ่งจริงๆ แล้วการติดตั้งก็เหมือนกันกับ Auto Timer ทั่งไปครับแต่มีความแตกต่างตรงที่มีสายที่สามารถนำไป Tap สัญญาณจาก กล่อง ECU เพื่อแสดงผลค่าของ O2 Senser ให้เราดูได้ครับ

    ลองมาพูดถึงความสามารถที่อุปกรณ์ตัวนี้ทำได้มีดังนี้ครับ
    1. แสดงผลค่า อัตราส่วนการผลของ อากาศ/เชือเพลิง
    2. แสดงระดับแรงดันที่อ่านได้จาก O2 Senser เพื่อเอามาประมวลผลและแสดงค่า A/F
    3. แสดงระดับของแรงดันไฟฟ้าในรถ ว่าตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่ และสามารถตั้งให้เตือนได้ว่าเมื่อไฟตกถึงที่เท่าไหร่และให้เตือน
    4. เป็น Auto Timer ครับ


    ซึ่งความเห็นในการใช้งานผมว่ามันน่าจะเป็นตัวที่ใช้กับ O2 Senser เดิมได้ดีตัวหนึ่งเลยครับเพราะว่าเราสามารถปรับตั้งค่าได้เพื่อให้การแสดงผลถูกต้องครับ และการ Tap เพื่อใช้งานก็ทำได้ไม่ยุ่งยากครับ ใช้เวลาไม่นานครับ (แต่ถ้าจะเอาแบบต่อและจะถอดได้ง่ายๆ ก็นานหน่อย) ฟังก์ชั่นการเตือนเรื่องของระดับไฟฟ้าที่ลดลงนี้ผมว่ามีประโยชน์มากๆ ครับ เพราะว่าถ้ารถเราติดเครื่องเสียงและ เปิดทิ้งไว้โดยไม่ได้ติดเครือ่งจะได้รู้ตัวก่อนที่รถจะ Start ไม่ติดครับ

    คราวนี้มาดูกันครับว่าติดแล้วเป็น

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  9. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    DIY : เปลี่ยนเบ้าหลอดไฟเลี้ยว เพื่อให้สามารถทำงานได้เหมือน โคม US Spec

    เนื่องจาก ความซวย เหมือนวานนี้ ก็เลย ได้ไปอยู่อู่มาทั้งวัน คิดไปคิดมา ก็เลยนึกไปถึงเรื่องโคม เรื่องหลอด ก็เลย คิดดูว่ามี รถ ตัวไหนบ้างที่ เวลาเปิดไฟหรี่ แล้ว มีไฟติดที่ ไฟเลี้ยวที่โคมหน้าด้วย เหมือนกับโคม US Spec ก็จำได้ว่าเคยเห็นของ City ตัวเก่า แล้วก็ของ ISUZU Dmax ตัวใหม่ๆ

    จากแนวความคิดอันนี้เลย เป็นเหตุให้ผมได้ถามไปกับช่างประกอบ ที่อู่ เพื่อจะหาดู อะหรัยของ City และ DMax สรุปว่ามีแต่ของ Dmax เอามาดู พบว่าสามารถใช้งานแทนกันได้ กับโคมไฟหน้าของ ES01-03 ครับ ทำให้เราสามารถที่จะ ทำไฟให้เป็นเพื่อน US Spec ได้แล้วล่ะครับ

    ขั้นตอนการทดสอบการใช้งาน
    1. หลังจากเมื่อเทียบกันแล้ว ของ Dmax เราต้องดัดแปลง เคี่ยวล๊อกนิดหน่อยครับ แต่ใช้งานได้แน่นอนครับ
    2. เปลี่ยนหลอดเป็น แบบ 2 ขั้ว
    3. ทดสอบการใช้งานทำงานได้ตาม function ที่ควรทำได้ครับ

    แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้เปลี่ยนนะครับเนื่องจากเดี่ยว รอ คิดอะไรเพิ่ม เติมนิดหน่อยครับ เพราะว่ารถผมไปติดกล่อง Euro R กับ จ๊อตมาแล้ว ก็เลยเดี่ยวเอามาคิดเพื่มหน่อยว่าจะทำอะไรหรือว่าปรับปรุงอะไรให้ได้หรือเปล่า จะได้ ใช้งานได้คุ้มค่า คิดว่าวันจันทร์ ถ้าว่างก็คงจะเรียบร้อยแล้ว งานนี้ ไม่ต้องกลัว โคม ละลายอีกแล้วอ่ะ

    มาดูรุปกันดีกว่าครับ

    [​IMG]
    [​IMG]

    อันนี้รูป ของ เบ้า เดิมๆ ครับ

    [​IMG]

    จะเสียบเข้าช่องแล้วนะ ค่อยๆ ล่ะ เดี่ยว... พอเข้าไปได้บิดนิดหนึ่งนะ จะแน่นมากๆ เลย งานนี้น้ำไม่เข้าแน่นอน

    [​IMG]

    พอเข้าไปได้ ก็สบายแล้วต่อไปใช้งานได้

    [​IMG]

    เทียบกันจะๆ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  10. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    DIY : เปลี่ยนไฟส่องฝาท้าย ของ CIVIC ES

    เรื่องมันมีอยู่ว่า เดิมๆ รถเราๆ ท่านๆ ที่เป็น Civic ES เวลาเปิดฝากระโปรงหลังออกมาจะมีไฟส่องสว่างติดตลอด แต่บางทีมันไม่จำเป็นแล้วก็ตอนนี้เราต้องประหยัดพลังงานให้มาก ก็เลยติดว่าจะทำไงดีให้มันดับไฟได้ ก็พอดีกับมีพี่ คนหนึ่งฝากให้ผมช่วยดู Part และสั่งของ Steam มาเพื่อใส่กับ Civic 3D พอได้ของมาประกอบกับที่อยากจะรู้อยู่แล้วว่าทำได้หรือเปล่าก็เลยลองสลับเลย สรุปว่าสามารถใช้งานได้ปกติ แถมยังสามารถเปิดปิดได้ด้วยสิ งานนี้ สมใจผมล่ะ ได้อย่างที่ต้องการเสีย ที มาดูกันดีกว่าครับว่าเป็นไง พูดไปก็ไม่เห็นภาพอยู่ดี

    โคมใหม่นี้จะมี Switch ทำให้เปิด/ปิดได้ครับ

    อุปกรณ์ที่ต้องสั่งคือ
    1. 34260-SH3-004 จำนวน 1 ตัว ราคาประมาณ 270 บาท ยังไม่รวม Vat 7%

    [​IMG]

    มาดูความแตกต่างระหว่างของเดิมกับของใหม่ กันนะครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    มาลองต่อใช้งานกันว่าสามารถใช้งานได้จริงๆ เปล่า ก่อนที่จะติดตั้งใช้งาน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลังจากที่ต่อทดสอบแล้วใช้งานได้แล้วก็มาติดตั้งเข้าตำแหน่งเดิม เลย มาดูกัน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  11. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    DIY :: เปลี่ยนหัวฉีดน้ำล้างกระจกของ ES เป็นของ Jazz (จะเป็นมันทำไมหว่า)

    เนื่องจากว่าผมเคยได้มีโอกาสใช้ City อยู่สักพักก็เลยชอบที่เวลา ฉีดน้ำล้างกระจกแล้วเป็นละอองออกมาจากหัวฉีดเดี่ยว ซึ่งตางกับ ES แล้ว CRV ที่จะเป็น แบบข้างล่ะ 2 หัวฉีด ซึ่ง เวลาฉีดจะเป็นเส้นออกมา เลยลองไปเบิกของที่ 0 มาลองเปลี่ยนดู

    ผลก็คือใช้แทนกันได้เลยขนาดเท่ากันครับ แต่ต่างกันที่สีมันจะเป็นดำด้านๆ ซึ่งจะไม่ค่อยเข้ากับรถสีดำของผมเท่าไหร่ก็เลยพ่นสีดำเงาให้มันหน่อยก็ พอจะ ok ขึ้นล่ะครับ และเรื่องที่กังวนต่อมามันจะปรับสูงตำได้หรือเปล่าชัดแล้วจะโดยกระจกเราหรือเปล่า ตอบว่าปรับได้ครับโดนได้เต็มๆ แน่นอนครับ

    ค่าตัวของที่เบิกมาตกตัวล่ะ 185 บาท ก่อน Vat นะครับ ถ้าซื้อ 2 ตัว หลัง Vat แล้วราคาจะอยู่ที่ 395.90 บาทครับ

    เพื่อใครเบื่อๆ ที่ฉีดน้ำฝนแบบเดิมก็ลองเปลี่ยนเล่นกันดูครับ

    อย่างแรกมาดู Part No. กันก่อนนะครับ

    [​IMG]

    มาลองเทียบดูครับว่าของ ES กับของ Jazz มันต่างกันตรงไหน จะเห็นว่ามียางลองด้วยนะครับเวลาเปลี่ยนอย่าลืมใส่ล่ะครับ

    [​IMG]

    ตอนนี้กำลัง รอสีแห้งอยู่ครับ

    [​IMG]

    หลังจากพ่นสีเสร็จเตรียมติดตั้งครับ

    [​IMG]
     
  12. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    DIY : กลับการเปลี่ยนกระดูกงูขอบประตูหน้าของ ES2003 เป็นของ ES2004

    ถามว่าทำไมจะต้องเปลี่ยน กระดูกงู เดิมก็ใช้ได้อยู่แล้ว

    ก็จริงครับ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรอกครับแต่เนื่องจากสาเหตุที่รถผม วิ่งเร็วๆ สัก 120-130 จะได้ยินเสียงลมเข้าจากทางด้านของขอบประตู และต้องการให้เมื่อขับเร็วๆ แล้วเงียบๆ และเนื่องจากว่าเคยเห็นของ ES2004 ตัว Top ของ 1.7 ที่กระดูกงูขอบประตูหน้าจะมียางดำๆ นิ่มๆ อยู่ซึ่งผมคิดว่ามันต้องความแตกต่างจากเดิมๆ ของ ES2003 และเท่าที่ได้ลองขับและฟังเสียงของรุ่น ES2004 ดู คิดว่าเงียบกว่าเมื่อขับที่ความเร็วเท่ากัน ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

    อุปกรณ์
    1. คิ้วกระดูกงู ประตูหน้า ซ้ายและขวา

    ราคา 450 บาทต่อข้างก่อน Vat

    วิธีติดตั้งสามารถเบิกของมาแล้วติดตั้งได้ด้วยตัวเองไม่ยากครับ เพียงแค่ดึงกระดูกงูของเก่าออกและค่อยๆ สอดของใหม่เข้าไปแทน

    [​IMG]

    มาดูความแตกต่าง

    รอบนอกของเก่านะ รอบในของใหม่

    [​IMG]

    [​IMG]

    เดิมของ ES2003 เทียบกับตอนที่เปลี่ยนใหม่แล้วของ ES2004

    [​IMG]

    ใส่เสร็จแล้วเป็นแบบนี้นะ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  13. optic 7a

    optic 7a New Member Member

    2
    0
    0
    ตัว A/F เท่าไหรอะครับ วิน
     
  14. yin.vios.rs.sporty

    yin.vios.rs.sporty New Member Member

    1
    0
    0
    รบกวนขอวิธีการติดตั้ง Terbo timer อีกที่นะครับ ขอแบระเอีนดหน่อย คือ ผมมี turbo timer เป็นรุ่นเก่าน่ะ ของ ออโต้ มิเตอร์ สายสีแดง เป็น บวก ต่อแบทรถใช่ป่ะครับ แล้วสายสีดำน่าจะเป็น กราวด์ แล้วมีสายไปอีกสามสาย คือ สายอารายครับ ขอรบกวนหน่อยครับ ส่งเมลล์ มาที่ [email protected] จะขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ครับ
     
  15. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    DIY ติดตั้งพวงมาลัย DC5

    สวัสดี วันนี้ พวกเราชาว DAMS ช่วยกันทำงาน DIY ขึ้นมาอีกชิ้นครับ นั้นคือการติดตั้ง พวงมาลัย DC5 ลงในรถ Honda Civic 1.7 New Dimension version 2004 ของเพื่อนพี่น้องสมาชิกคนหนึ่งครับ

    สำหรับรถคันนี้เดิมพวงมาลัยไม่ได้มี Airbag มาจากโรงงาน แต่พวงมาลัย DC5 ที่ได้มานี้มี Airbag นิดมาด้วยนะครับ ดังนั้น ในรถจึงไม่มีกล่องคุม Airbag อยู่ จึงไม่สามารถสั่งงาน Airbag ของ พวกมาลัย DC5 ได้นะครับ แต่ก็ สามารถทำให้ใช้แตร่ และได้ตามปกติ ครับ

    วันนี้พวกเรา ชาว DAMS 3 คนช่วยกันทำ แถมยังมี ที่ปรึกษาจาก CSM และ Honda Hut มาช่วยดูด้วยนะครับ ดังนั้นต้องให้ เดรคิต กับพี่ทั้ง 2 คนด้วยครับ

    เริ่มจากเจ้าของรถได้ พวงมาลัย มาแล้วสักพักแต่พบว่า ไม่รู้จะใส่ได้หรือไม่ พอดีกับว่าวันนี้ได้ร่วมตัวกันนิดหน่อย ที่ CSM เลย ได้โอกาศ สร้างสรรค์งาน DIY ขึ้นมาครับ ลองใส่ดัดแปลงกันดู ได้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจงานเนียนใช้ได้ แถมไม่ต้องเสียตั้งไปให้ใครติดตั้งให้ด้วย ทำกันเองนี้แหละงานมันใจได้ เลยนะ

    เริ่มด้วยให้ดูของกันก่อนดีว่า ว่าพวงมาลัย DC5 กับ เดิมๆ ไม่มี Airbag เป็นไง
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    อันนี้เป็นของเดิมๆ ติดรถนะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    เห็นไมติดรถอยู่จริงๆ อิอิ
    [​IMG]



    จะเริ่มเปลี่ยนแล้ว พวงมาลัยเดิมนี้ ไขน๊อต 1 ตัวก็จะสามารถถอดหน้ากากตรงที่เป็น Airbag ออกมาได้ ก็จะเจอ น๊อต เบอร์ 14 หนึ่งตัว ไอ้เจ้าตัวนี้แหละที่เป็นตัว ล๊อก พวงมาลัยให้แน่นๆ นะ ดังนั้น ตอนไขเข้าที่เดิมนี้ ต้องเอาให้แน่ๆๆ เลยนะจะบอกให้

    พอไขน๊อตออกได้แล้วก็เอาปากกาเมจิกมาทำ Mark ไว้ก่อน ตอนใส่พวงมาลัยใหม่เข้าไปจะได้ ไม่ต้องมานั่งกลับพวงมาลัยใหม่นะ อันนี้เน้นๆๆ หน่อย

    [​IMG]

    ตอนถอดน๊อตเบอร์ 14 ไม่ยากหรอกนะ แน่ตอนถอดเอาพวงมาลัยออกนี้แหละยากเพราะว่ามันจะแน่มากๆ นะต้องทุบๆๆ ดึงๆๆ นานเลยกว่าจะออก

    [​IMG]

    สำหรับ รถที่ไม่มี Airbag จะมี จานไฟสำหรับแตร่ ต้องถอดของเก่าจากพวงมาลัยเก่ามาดัดแปลงนิดหน่อยเพื่อใส่ กับพวงมาลัยใหม่ด้วยนะไม่อย่างนั้นเดี่ยวกดแตร่ไม่ดังไม่รู้ด้วยนะครับ

    ถอดออกมาก็มีแค่นี้เอง เห็นเดือยไหม นั้นแหละหน้าสัมผัสของแตร่
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    พอปรับทุกอยากเข้าที่เข้าทางก็ ใส่เลยล่ะ แล้วก็ขั้นน๊อต ให้แน่ๆๆ นะขอย้ำเบอร์ 14 นี้แหละ แน่ๆๆ นะ แล้วก็ จัดสายไฟ ให้เรียบร้อยแล้วก็ประกอบ กลับที่นะ

    [​IMG]

    สุดท้ายก็เท่ห์ได้แล้ว ล่ะ

    [​IMG]
     
    แก้ไขล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มีนาคม 2007
  16. Yakumo

    Yakumo New Member Moderator

    580
    7
    0
    ไฟรูกุญแจ

    จากที่รถรุ่นที่ใช้อยู่ไม่มี ไฟที่รูกุญแจ และก็เป็นว่ามีบางร้าน ทำของออกมาขายแต่เป็นของพวก Jazz ก็เลยลองซื้อมา ทำมาติดตั้งดูครับ ก็ลองดูกันเล่นๆ นะครับ

    การติดตั้งก็ไม่ยากอะไร ก็เชื่อมเข้ากับไฟที่หลังคาได้เลยครับ และถ้าใครติดตั้ง ไฟ footlight ของ Honda Accessory ก็สามารถเชื่อมต่อมาใช้งานได้เลยเช่นกันครับ

    มาดูกันดีกว่า อันดับแรกก็แกะ ตัวโครงพลาสติกที่คอพวงมาลัยออกก่อนนะครับ โดยที่ต้องคลายน๊อต 3 ตัวก่อนแล้วก็ค่อยๆ กด เพื่อคลายล๊อคและแกะออกมาครับ
    [​IMG]

    จากนั้นก็ลองทาบดูครับ ที่ที่ลองทาบดูพบว่าถ้าจะเอามาติดตั้งกับของ ES ล่ะก้อต้องแต่งชิ้นงานออกนิดหน่อยครับถึงจะสามารถใช้ได้ แต่ก็จะไม่พอดีเสียทีเดี่ยวนะครับ และก็เชื่อมสายไฟ 2 เส้นเค้ากับระบบไฟที่หลังคา
    [​IMG]

    มาลองดูตอนเสร็จกันดีกว่า ก็ถ่ายให้เห็นกันจะๆ เลยว่าตอนกลางคืนมันก็สว่างใช้ได้เลยนะ ไม่ง้อ เด็ก ส่งรถ เวลาไปเที่ยวแล้วหารูไม่เจอ อิอิ
    [​IMG]
     
< Previous Thread | Next Thread >
สถานะหัวข้อ:
ไม่เปิดให้ตอบกลับเพิ่มเติม

แบ่งปันหน้านี้