• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

ชื่อ:

การตรวจสอบ:

กำลังโหลด...

ข้อความ:

<p>[QUOTE=&quot;AOFMOTORSPORT, post: 1451367, member: 103972&quot;]<span style="color: red">แบคไฟร์ (Back Fire) มันคืออะไร</span></p><p><br /></p><p>แบคไฟร์ (Back Fire) เป็นอาการที่เกิดจากการสันดาปของเชื้อเพลิงภายนอกกระบอกสูบ เป็นเรื่องที่พบได้ทั้งเครื่องยนต์ที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง หรือแม้นกระทั่งเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเอง ก็มีบางครั้งที่จะพบเจอะอาการนี้ อาการเบื้องต้นที่เจอะจะมีการระเบิดย้อนภายในท่อร่วมไอดี อาจทำให้ระบบควบคุมประจุไอดีชำรุดได้ จำพวกมาตรวัดอากาศ (Air Flow) หรือลิ้นปีกผีเสื้อ</p><p><br /></p><p>การเกิดแบคไฟร์ได้นั้นมีองค์ประกอบคือ เชื้อเพลิง และอ็อกซิเจนในอากาศ การเกิดแบคไฟร์ส่วนใหญ่จะเกิด</p><p>ในกรณีที่ส่วนผสมบางเกินไป จะเกิดในช่วงเวลาสั้นๆและจะเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ตกค้างอยู่ภายในท่อร่วมไอดี ส่วนผสมของเชื้อเพลิงกับอากาศที่บางเกินไปจะมีค่าอ็อกซิเจนอยู่ในส่วนผสมมาก ส่วนผสมที่บางจะสันดาปตัวเองได้ง่ายเมื่อมีอุณหภูมิถึงจุดสันดาป โดยไม่ต้องพึ่งพาเปลวไฟจากเขี้ยวหัวเทียน การเกิดแบคไฟร์นั้นอาจเกิดได้ในเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง เกิดในกรณีเดียวกันแทบทุกอย่าง แต่การฉีดเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์เบ็นซินนั้นการฉีดจะบางได้มีอยู่ไม่กี่ กรณี คือ ปั๊มเชื้อเพลิงแรงดันตก หัวฉีดเชื้อเพลิงทำงานผิดปกติ หรือ มาตรวัดอากาศประมวลผลผิด (เร่งเครื่องแต่จับสัญญาณการไหลของอากาศได้ต่ำกว่าความจริง) ถ้าในกรณีเครื่องยนต์ที่ใช้คาร์บูเรเตอร์จะเกิดจากการใช้ขนาดนมหนูน้ำมันที่ ไม่เหมาะสม จากอาการข้างต้น การที่เราจะเอาระบบแก๊ส ไม่ว่าจะเป็น LPG หรือ NGV มาใช้ในรถยนต์นั้นองค์ประกอบที่เหมาะสมถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ในระบบดูด ( Mixer ) ระบบพื้นฐานคล้ายคาร์บูเรเตอร์ ปากผสมจึงเป็นจุดหลักของอาการแบคไฟร์ และ มีหม้อต้ม เป็นตัวเสริมที่บ่งบอกว่าขนาดปากผสมนั้นเหมาะสมกันหรือไม่</p><p><br /></p><p>ทำไม เครื่องยนต์สมัยใหม่เมื่อนำไปใส่ระบบดูดที่สามารถใช้กับเครื่องยนต์ที่มี ความจุเท่ากัน แต่ยังเกิดอาการแบคไฟร์อยู่ การเกิดอาการแบคไฟร์ในระบบดูดที่ใช้กับเครื่องยนต์สมัยใหม่นั้น ส่วนใหญ่มักมีปัญหาจากระบบแปรผันวาวล์ไอดี ซึ่งเมื่อระบบนี้ทำงานจะทำให้ค่าการไหลของอากาศมากขึ้นโดยเฉียบพลัน ปกติการทำงานของระบบแปรผันวาวล์ถูกออกแบบมาให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งที่ดี แต่การเกิดแบคไฟร์ในเครื่องยนต์ทั่วๆไปนั้นก็มีความเสี่ยงในขณะที่ส่งคัน เร่งเร็วๆในกรณีเร่งแซง แต่เมื่อถูกผนวกไปกับการปรับค่าการเปิดวาวล์ที่นานขึ้นทำให้ปริมาณอากาศที่ ไหลผ่านมากขึ้นตามไปด้วยโดยที่หม้อต้มไม่สามารถที่จะชดเชยได้ทันก็จะเกิดอา การแบคไฟร์ได้โดยง่าย เรียกได้ว่าถ้าระบบเครื่องยนต์ที่มีการประจุไอดีที่ซับซ้อน ระบบดูดจึงไม่ใช้ทางเลือกที่ดีนัก</p><p><br /></p><p>แต่อย่างไรก็ตามการเกิดแบค์ไฟร์ นั้นอาจมีข้อปลีกย่อยจากตัวเครื่องยนต์เองอีกส่วนนึง อาการจากสายหัวเทียนรั่ว หรือ คอย์จุดระเบิดรั่ว(ในรถที่ใช้คอย์แยก) หรือแม้นแต่กระทั่งเขี้ยวหัวเทียนที่ห่าง ก็สามารถที่จะทำให้เกิดอาการแบคไฟร์ได้</p><p><br /></p><p><span style="color: red">ที่มา: <a href="http://www.GasThai.com" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.GasThai.com" rel="nofollow">www.GasThai.com</a> </span></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p><span style="color: red">Misfiring , Back Fire </span>ตามความเข้าใจ คือการล็อครอบออกตัว ด้วยการรีทาร์ดองศาไฟในรอบที่เราต้องการ ซึ่งคล้าย ๆ กับ Launch Control</p><p>Anti Lag คือระบบลดอาการรอรอบของเทอร์โบ ด้วยการฉีดน้ำมันหรือปรับองศาไฟ</p><p>แต่ถ้าถามว่า Miss Fire กับ Anti Lag เหมือนกันไหมตอบว่าไม่เหมือนแน่นอน เพราะระบบ Miss Fire จะทำงานเมื่อถึงรอบเครื่องยนต์และมีการกดคันเร่งสุด</p><p>แต่ Anti Lag จะทำงานก็ต่อเมื่อมีการยกคันเร่งเท่านั้น </p><p><br /></p><p><span style="color: red">ระบบ anti-lag-หรือ-misfiring-system คืออะไร?</span></p><p>สำหรับรถยนต์ตระกรูล Lancer Evolution และ Subaru Imprezza</p><p>ในส่วนของ Lanevo มีพัฒนามาตั้งแต่ evolution 3 ใช้ในการแข่ง WRC 1994 เป็นต้นมา</p><p>ใช้เป็นเทคนิคการเปิดโปรแกรมควบคุมการจุดระเบิดจากกล่อง ECUs</p><p>นำมาใช้เพื่อการออกโค้งด้วยความเร็วสูง หลังจากสไลด์เข้าโค้งมาแรง และต้องซิฟเกียร์เพื่อส่งออกโค้ง (ทำให้เกิดปัญหา Turbo lag ตามมา เมื่อยกคันเร่งเพื่อเปลี่ยนเกียร์ รอบเทอร์โบจะปันช้าลง ทำให้เมื่อเปลี่ยนเกียร์แล้วยังส่งรถออกโค้งไปในทันทีทันใดไม่ได้ดังใจ</p><p>เพราะ เทอร์โบยังรอรอบอยู่ จึงต้องทำการโปรแกรมให้องศาจุดระเบิดลดลง เพื่อให้เกิด Misfiring สร้างแรงดันไปปันใบโข่งหลังเทอร์โบให้หมุนรักษารอบการทำงานไว้ก่อน ไม่ให้รอบใบตกลงมาตามรอบเครื่องยนต์) เพื่อลดเวลา Total Time score</p><p>ที่บรรดารถแข่งทางฝุ่นนิยมเทคนิคนี้กันมาก</p><p>โดยไม่ทำให้เกิดปัญหา Turbo Lag ต่อมาสามารถประยุกต์ใช้ในการแข่งขันรูปแบบอื่นๆได้</p><p>ปกติต้องใช้กล่องแบบ STAND ALONE ที่มีโปรแกรมเสริม สำหรับเปิดการทำงานระบบนี้ได้</p><p>รถตระกรูล Lanevo ปกติจากโรงงานจะไม่เปิดโปรแกรมนี้มาให้ เนื่องจากความร้อนจากการทำงานในระบบ Anti Lag จะสร้างความเสียหายให้กับเทอร์โบ และชิ้นต่างๆส่วนในระบบ Exaust Gas ได้</p><p>ดังนั้นในรถ Lanevo GSR ที่ประกอบมาจากโรงงานจึงไม่เปิดโปรแกรมระบบนี้มาให้</p><p>ต้องมาหาโปรแกรมและกล่องเปิดเองครับ</p><p><br /></p><p>ระบบที่ป้องกันไม่ให้เกิด Turbo Lagging หรือ ให้เกิดน้อยที่สุด ข้อสังเกตุ รถที่ติดตั้งรถบบนี้ จะเห็น back fire บ่อยๆ (ปังๆ ออกท่อ นั่นแหละครับ) ลองดู WRC น่ะครับ จะเจอแทบทุกคัน</p><p><br /></p><p>ถ้าเอาง่ายๆ ก็ระบบนี้จะช่วยทำหน้าที่ให้ Turbo Boost อยู่ตลอด ถึงแม้เวลาที่เครื่องยนต์ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ๆ จะทำให้ Turbo Boost ได้ก็ตาม ระบบนี้ส่งผลให้ Turbo จะมีความร้อนสูงขึ้นมาก เพราะทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา, แรงดันไอเสียก็มีมาก แถมระบบนี้จะทำให้เราไม่สามารถใช้ Engine Brake ได้เหมือนปกติดด้วย</p><p><br /></p><p><span style="color: red">ALS (Anti Lag System)/ Misfiring System&nbsp; </span>คือทำให้เทอร์โบมีบูสต์ตลอดเวลารวมถึงขณะที่เราถอนคันเร่งด้วย โดยที่มี เสียงปุ้งๆ แล้วมีไฟออกมาด้วยคือเพราะว่า เวลาถอนคันเร่งแล้ว ถ้านึกออกกันคือองศาชุดระเบิดหรือส่วนที่เกี่ยวข้องกัน จะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เข้ากับปริมาณอากาศกับน้ำมันที่เข้าไปตามรอบ แต่พอมีระบบนี้ อากาาศเข้าไปเพิ่มเพราะว่าต่อท่อผ่านเข้าไป เพื่อที่จะให้ไอเสียไปปั่นเทอร์ไบน์ ก็จะเข้าไปในห้องเผาใหม้มากขึ้น แต่เนื่องจากอย่างที่บอกคือองศาชุดระเบิดเปลี่ยนไป ทำให้การระเบิดออกไปทางไอเสียด้วย เลยมีไฟปุ้งๆออกมาทางท่อด้วยครับ</p><p><br /></p><p><span style="color: lime">ข้อเสียอย่างเห็นๆคือเทอร์โบร้อนขึ้นมาก เนื่อจากมีไฟผ่าน</span></p><p><span style="color: lime">เกิดการข่มขืนระบบไอเสียมากขึ้นด้วย เนื่องจากความร้อนมากขึ้นอย่างมาก (จากปกติตรงช่วงเทอร์โบ มีความร้อนประมาณ 800°C เพิ่มขึ้นเป็น 1100°C หรือมากกว่า</span></p><p><span style="color: lime">อ้อ Engine Brake ลดลงด้วยครับ</span></p><p><br /></p><p><br /></p><p>ส่วนที่ให้ล๊อครอบออกตัว ผมว่าน่าจะเป็นส่วนของระบบ Launch Control มากกว่าอ่ะ ไม่น่าจะเกี่ยวกับ ALS </p><p><br /></p><p>Referance:&nbsp; <a href="http://www.rallycars.com/Cars/bangbang.html" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.rallycars.com/Cars/bangbang.html" rel="nofollow">http://www.rallycars.com/Cars/bangbang.html</a></p><p><br /></p><p><br /></p><p><br /></p><p>ผมก็ลองหาข้อมูลมาเพิ่มเดิมนะครับ </p><p><br /></p><p>แต่ส่วนตัวที่เคยเห็นมา บางคันก็กดคันเร่งถึงรอบที่ตั้งไว้แล้วระบบทำงาน&nbsp;&nbsp; บางคันก็มีสวิตช์ที่ขาคลัทเวลาเหยียบคลัทแล้วเปลี่ยนเกียร์ระบบก็จะทำงาน&nbsp; ปุ้งปั้ง ปุ้งปั้ง</p><p><br /></p><p>แต่ที่แน่ๆ ดีเซลคอมมอนเรลเด๋วนี้ก็ใช่ย่อย มีระบบนี้กับเค้าเหมือนกัน สังเกตรถที่ใช้ กล่องทอง ของ ECU-SHOP ดูครับ เวลาเค้าเบินเกินรอบ หรือ จังหวะออกตัวที่เค้าเบิ้นเกินรอบ มันจะระเบิด ปัดปัดปัด ที่ท่อเหมือนกัน[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
• เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
• เข้าสู่ระบบด้วย Google

ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:

คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?

• ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
• มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
• ลืมรหัสผ่านของคุณ?

อยู่ในระบบตลอดเวลา

• X