เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
Gas
>
รถติดแก๊ส เรื่องธรรมดา ของคนใช้รถ ที่อยากประหยัด
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="แก่, post: 277177, member: 21792"]บทที่ 3 สิงห์อมแก๊ส </p><p>น้อง 95 เต็มถัง ประโยคนี้คงไม่ได้หลุดอกจากบอกผมไปอีกนาน ตอนนี้ ผม ละเลิก การใช้น้ำมันไปแล้ว แต่ หันหน้ามาคบชู้สู่แก๊สแทน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า ชอบ หันหลังชนอย่างเดียว (เป็นพฤติกรรมเวลาเติมแก๊สครับ อย่าคิดมาก) หลาย ๆ คนที่เพิ่งเปลี่ยนวิถีประจำวันผมเชื่อว่า คุณจะต้องมีอะไรติดค้างอยู่ในใจแน่นอน และ ที่ขาดไม่ได้ น่าจะเป็น ข้อกังวลที่ทุกคนน่าจะเจอ แก๊สจะรั่วไหม แล้วขับ ๆ ไปมันจะไปตายกลางทางหรือเปล่า เฮ้ย กลิ่นอะไร ว๊ะในรถ โอยจิปาถะ สารพัด ผมเคยมาแล้ว อาทิตย์ สองอาทิตย์ แรกนั้น แทบเหมือนคนบ้าเลยครับ ทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัย มันรู้สึกไม่ปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อน นอกจากที่เคยระวังเพื่อนร่วมทางแล้ว ยังต้องมาหวาดระแวงรถเราเองอีก แต่ผมเชื่อว่า ไม่นานนัก ความกังวลเหล่านี้จะหายไปแน่นอน ถ้ามันไม่หาย ทำอย่างไรก็ไม่หาย แนะนำครับ ไปเอาออก เพราะ ขืนฝืนใช้ไป คุณจะกลายเป็นโรคจิตไปเสียก่อน </p><p>เมื่อรถคุณบริโภคแก๊สแล้ว เราควรทำอย่างไรกับรถเราบ้าง อันนี้ ผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ถือว่าเป็นประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการติดแก๊ส เพราะนอกจากที่คุณจะประหยัดค่าเชื่อเพลิง อย่างน้อย 50% แล้ว สิ่งที่คุณจะได้รับต่อมาคือ คุณจะกลายเป็นคนที่ใส่ใจ ดูแล รถตัวเองมากขึ้น </p><p>สิ่งที่ต้องหมั่นดูแอยู่ตลอดเวลา ขาดไม่ได้ คือเรื่องของน้ำ อย่าให้ขาด ครับ ตรวจเช็คอยู่อย่างสม่ำเสมอ พร่องก็เติม เพราะ(ความเข้าใจอย่าง งู ปลา) รถที่ใช้แก๊สนั้นจะมีความร้อนมากขึ้นกว่าปกตินิดโหน่ย ฉะนั้น หากระบบการระบายความร้อน ไม่สมบูรณ์ อาจจะส่งผมเสียแก่เครื่องได้ อีกทั้ง หม้อต้ม ของ แก๊ส นั้นต้องการน้ำร้อน ไปหมุนเวียนเพื่อ อุ่นหม้อ มันเหมือนกับไปเพิ่มทางเดินของน้ำก่อนที่จะวนกลับหม้อน้ำ เออ พูด ไป ยิ่ง งง เพราะ ตัวเองใช่ว่าจะรู้เรื่อง เอาเป็นว่า อย่าให้ น้ำหม้อน้ำขาดเป็นใช้ได้ </p><p>เมื่อดูแลระบบระบายความร้อน สิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอคือ การดูแลรักษาความสะอาดของไส้กรองอากาศ ก็ อาจจะเป็นหลักการเดียวกับน้ำมันนั่นแหละครับ คือ หาก กรองอากาสตัน อัตราการบริดภคน้ำมันก็มากขึ้นตามลำดับ ฉันใด แก๊สก็ฉันนั้น แต่มันจะส่งผลถึง สมรรถนะของเครื่องยนต์ด้วยอ่ะดิ อาจจะอืด รอบตก อะไรทำนองเนี้ย ทางที่ดีก็เอามันออกมาเป่าบ้าง ก็ดีนะครับ </p><p>หม้อต้มเองก็เหมือนกัน เมื่อผ่านการใช้งานมาประมาณนึง ควรที่จะถ่ายขี้แก๊สออก (อันนี้ ตัวเองยังไม่ได้ ทำเลย) เห็นเขาว่า ประมาณ 20000 กิโลครับ อันนี้ให้ช่างทำดีกว่า เพราะหม้อบางยี่ห้อ วิธีการถ่ายอาจจะยุ่งยาก และท้ายที่สุด อาจจะต้องมีการปรับจูนใหม่ ด้วย </p><p>เอาล่ะ รู้วิธีการดูแลรถเบื้องต้นแล้ว (จริง ๆ มีมากมายก่ายกองกว่านี้ครับ แต่ที่ผมบอกไว้เบื้องต้นไว้ว่า ผมเขียนง่าย ๆ เข้าใจง่าย ๆ แล้วเมื่อคุณติดมาเรียบร้อย เชื่อเหอะ ในระยะเวลาไม่นานมาก คุณจะรู้มากกว่าผมเสียอีก) คราวนี้มาดูซิว่าการใช้งานเราควรใช้อย่างไรจะเป็นการดีที่สุด</p><p>ใช่ว่าเราจะหย่าขาดกับน้องน้ำมันเสียทีเดียว นาน ๆ ครั้ง ก็ ต้องแอบกลับไปเชยชมเธอบ้างเป็นครั้งคราว กล่าวคือ วิธีการใช้งานของผม นั้น ตอนเช้าผมจะสตาร์ทเครื่องด้วยน้ำมัน ปล่อย ทิ้งไว้จนอุณหภูมิน้ำไดที่ สังเกตจากเกจ์ความร้อนก็ได้ครับเมื่อมันขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่มันเคยอยู่ (อย่างรถผมปกติมันจะข้นมาอยู่ตรงกลาง) แสดงว่า พร้อมแล้วที่จะ เปลี่ยนเป็นโหมดแก๊ส แล้วค่อยออกตัว ทำไมต้องทำอย่างนี้นะเหรอ เหอะ ๆๆๆๆ ถ้าทาง ทฤษฏี เป๊ะ ผมไม่รู้หรอก ผมแค่มีความคิดว่า สตาร์ทด้วยน้ำมัน ก็ดีอย่าง น้ำมันจะได้เข้าระบบ บ้าง เราจะเสียน้ำมันเท่าไหร่เอง ทำไมต้องรออุณหภูมิได้ที่ ก็หม้อต้มอ่ะ ต้องใช้น้ำร้อนต้ม ฉะนั้นเสียเวลานั่งรอ นิดโหน่ย คิดว่า ไม่น่าจะเสียหาย จะไดแก้อาการน้ำแข็งเกาะหม้อต้ม ได้ด้วย เมื่อเราจะจอด ในลักษณะของการจอดถาวร อย่างเช่นมาทำงาน แล้วต้องกลับบ้านตอนเย็น ก่อนถึงที่ทำงาน ผมจะเปลี่ยนโหมดเป็นน้ำมัน แล้วจึงจอด ซึ่งอันนี้ไม่ใช่ไฟท์บังคับนะครับ มันเป็นพฤติกรรมที่ผมสร้างขึ้นเอง แล้ว ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่เครื่องยนต์ของผม </p><p> มันมีเหตุผลที่ผมสร้างขึ้นมาเองนั่นคือ รถเชื้อเพลิง 2 ระบบ เราจำเป็นต้องให้มันทำงานได้ 2 ระบบ รถเราไม่ใช่รถ taxi ที่เขามีอู่ มีคนดูแล เราต้องช่วยตัวเองครับ นั่นคือเหตุผลที่ผม ต้องใช้งานทั้งสองระบบอยู่อย่างต่อเนื่อง น้ำมัน ต้องมีติดถังไว้ อย่างน้อย ครึ่ง ถัง แต่มีติดถังไว้อย่างเดียวไม่พอครับ ต้องใช้งานมันด้วย เพราะ น้ำมันที่เก็บไว้นาน ๆ ไม่ใช้งาน มันสามารถเสียดาย อีกเช่นกับ ปั๊มติ๊ก น้ำมัน ต้องมีการเรียกใช้งานอยู่อย่างต่อเนื่อง จะมีเพื่อน ๆ บางคนที่ติดแก๊สแล้วไม่ยอมใช้น้ำมันเลย จนวันนึง ปั๊มติ๊กตาย ฉีดน้ำมันไม่ได้ ซวยไป ต้องเสียเงินค่าปั๊มติ๊กใหม่อีก </p><p> นั่นก็คือเหตุผลนึงที่ผมพยายามใช้ 2 ระบบอย่างต่อเนื่อง อีกเหตุผลนึงคือ ผมมักจะเปิด จส 100 เวลาขับรถไปไหนมาไหน แล้วมักจะได้ยินประกาศของเพื่อนสมาชิกี่เป็น TAXI อยู่อย่างสม่ำเสมอว่า แก๊สหมด หาคนช่วยลากไปปั๊มแก๊ส อะไรทำนองเนี้ยอ่ะครับ ผมก็ได้แต่สงสัยว่า เอ แก๊สหมด แล้วทำไม ไม่ใช้น้ำมันไปล่ะ ก็มาได้คำตอบที่หลังว่า รถ TAXI เหล่านี้ เติมแก๊สกันอย่างเดียว ไม่มีน้ำมันในถังเลย ฉะนั้น การรักษาสถานะภาพ การทำงานในระบบน้ำมันให้สมบูรณ์นั้น น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้</p><p> แล้วเมื่อรถมีปัญหาทำอย่างไรดี เบาดับทำอย่างไร แบ๊คไฟท์ ทำไง รถอืด ทำอย่างไง รอบสวิงทำอย่างไร โอย สารพัดปัญหา ทำอย่างไร อย่าพยายามหาทางแก้เอง ครับ (ถ้าคุณเป็นอย่างผม) ออกจากโหมดแก๊ส แล้วขับน้ำมันไปหาช่าง อย่างนี้เป็นการดีที่สุด </p><p> เอาล่ะมาเข้าถึงวัตถุประสงค์หลักของการติดแก๊สกันดีกว่า ทุกคน (ผมเชื่ออย่างนั้น) ต้องการความประหยัด แต่ ก็อีกหลายคน (ผมไม่เชื่อว่าทุกคนแต่ก็เยอะ) ที่ไม่มีความพอเพียง ได้ กิโลละ 1 บาท แล้ว ยังอยากได้ กิโลไม่ถึง บาท แต่อยากให้รถ วิ่งกระจายอีก โอย แก๊สนะครับ ไม่ใช่ น้ำทิพย์ที่มันจะบันดลความเป็นไปไม่ได้อย่างนั้นมาให้ท่าน หลักง่าย ๆ แก๊สบาง วิ่งไม่ค่อยออก อืด เครื่องสึกหรอเร็ว เครื่องเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ แต่ ประหยัด แก๊สพอดี เผาไหม้พอดี รับอัตราการเร่งได้พอเพียง แต่ อาจจะไม่ได้ ในย่านความเร็วสูง ประหยัดสมเหตุสมผล แก๊สหนา เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ รับอัตราการเร่งดี เปลืองแก๊ส ตอบสนองในย่านความเร็วสูงได้(มั๊ง)</p><p>(อันนี้ผมใช้พื้นฐานระบบ FIX MIX นะครับ) </p><p>เอาเป็นว่า เดินทางสายกลางดีกว่านะครับเพื่อน ๆ อย่าให้ประหยัดมากเกินไปเลย ปล่อย ๆ ให้เครื่องมันกินบ้าง เพราะให้มันกินให้ตายอย่างไง ผมว่าก็ไม่เกิน 1.5 บาท ต่อ กิโล คิดเฉลี่ยแล้วถูกกว่า น้ำมัน 50% ขับสบายใจ ไม่ต้องมาเหนื่อย ไอ้พวกที่มาคุยโวว่ารถวิ่งได้กิโลละ เท่านั้นเท่านี้ ไม่ถึงบาทบ้างแหละ ขอให้อย่าใส่ใจ เพราะใช่ว่า เครื่องยนต์ ของทุกท่านจะเหมือนกัน แค่ ยี่ห้อรถก็ไม่เหมือนกันแล้ว จริง อยู่ ว่า เครื่องเขา อาจจะทำได้ มันอาจจะมีเงื่อนไขหลาย ๆ อย่าง อย่างเช่น รถเขาเครื่องใหม่กว่า หรืออะไรอีกเยอะแยะ อย่าใส่ใจ เอามาตรฐานของรถเราเป็นหลัก คิดอย่างง่าย ปกติ รถเราวิ่ง กินน้ำมัน 10 กิโลลิตร แก๊สเราอาจจะทำได้ 7-8 กิโลลิตร เท่านี้ ผมว่าน่าจะพอเพียงแล้วครับผม[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="แก่, post: 277177, member: 21792"]บทที่ 3 สิงห์อมแก๊ส น้อง 95 เต็มถัง ประโยคนี้คงไม่ได้หลุดอกจากบอกผมไปอีกนาน ตอนนี้ ผม ละเลิก การใช้น้ำมันไปแล้ว แต่ หันหน้ามาคบชู้สู่แก๊สแทน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า ชอบ หันหลังชนอย่างเดียว (เป็นพฤติกรรมเวลาเติมแก๊สครับ อย่าคิดมาก) หลาย ๆ คนที่เพิ่งเปลี่ยนวิถีประจำวันผมเชื่อว่า คุณจะต้องมีอะไรติดค้างอยู่ในใจแน่นอน และ ที่ขาดไม่ได้ น่าจะเป็น ข้อกังวลที่ทุกคนน่าจะเจอ แก๊สจะรั่วไหม แล้วขับ ๆ ไปมันจะไปตายกลางทางหรือเปล่า เฮ้ย กลิ่นอะไร ว๊ะในรถ โอยจิปาถะ สารพัด ผมเคยมาแล้ว อาทิตย์ สองอาทิตย์ แรกนั้น แทบเหมือนคนบ้าเลยครับ ทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัย มันรู้สึกไม่ปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อน นอกจากที่เคยระวังเพื่อนร่วมทางแล้ว ยังต้องมาหวาดระแวงรถเราเองอีก แต่ผมเชื่อว่า ไม่นานนัก ความกังวลเหล่านี้จะหายไปแน่นอน ถ้ามันไม่หาย ทำอย่างไรก็ไม่หาย แนะนำครับ ไปเอาออก เพราะ ขืนฝืนใช้ไป คุณจะกลายเป็นโรคจิตไปเสียก่อน เมื่อรถคุณบริโภคแก๊สแล้ว เราควรทำอย่างไรกับรถเราบ้าง อันนี้ ผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ถือว่าเป็นประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการติดแก๊ส เพราะนอกจากที่คุณจะประหยัดค่าเชื่อเพลิง อย่างน้อย 50% แล้ว สิ่งที่คุณจะได้รับต่อมาคือ คุณจะกลายเป็นคนที่ใส่ใจ ดูแล รถตัวเองมากขึ้น สิ่งที่ต้องหมั่นดูแอยู่ตลอดเวลา ขาดไม่ได้ คือเรื่องของน้ำ อย่าให้ขาด ครับ ตรวจเช็คอยู่อย่างสม่ำเสมอ พร่องก็เติม เพราะ(ความเข้าใจอย่าง งู ปลา) รถที่ใช้แก๊สนั้นจะมีความร้อนมากขึ้นกว่าปกตินิดโหน่ย ฉะนั้น หากระบบการระบายความร้อน ไม่สมบูรณ์ อาจจะส่งผมเสียแก่เครื่องได้ อีกทั้ง หม้อต้ม ของ แก๊ส นั้นต้องการน้ำร้อน ไปหมุนเวียนเพื่อ อุ่นหม้อ มันเหมือนกับไปเพิ่มทางเดินของน้ำก่อนที่จะวนกลับหม้อน้ำ เออ พูด ไป ยิ่ง งง เพราะ ตัวเองใช่ว่าจะรู้เรื่อง เอาเป็นว่า อย่าให้ น้ำหม้อน้ำขาดเป็นใช้ได้ เมื่อดูแลระบบระบายความร้อน สิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอคือ การดูแลรักษาความสะอาดของไส้กรองอากาศ ก็ อาจจะเป็นหลักการเดียวกับน้ำมันนั่นแหละครับ คือ หาก กรองอากาสตัน อัตราการบริดภคน้ำมันก็มากขึ้นตามลำดับ ฉันใด แก๊สก็ฉันนั้น แต่มันจะส่งผลถึง สมรรถนะของเครื่องยนต์ด้วยอ่ะดิ อาจจะอืด รอบตก อะไรทำนองเนี้ย ทางที่ดีก็เอามันออกมาเป่าบ้าง ก็ดีนะครับ หม้อต้มเองก็เหมือนกัน เมื่อผ่านการใช้งานมาประมาณนึง ควรที่จะถ่ายขี้แก๊สออก (อันนี้ ตัวเองยังไม่ได้ ทำเลย) เห็นเขาว่า ประมาณ 20000 กิโลครับ อันนี้ให้ช่างทำดีกว่า เพราะหม้อบางยี่ห้อ วิธีการถ่ายอาจจะยุ่งยาก และท้ายที่สุด อาจจะต้องมีการปรับจูนใหม่ ด้วย เอาล่ะ รู้วิธีการดูแลรถเบื้องต้นแล้ว (จริง ๆ มีมากมายก่ายกองกว่านี้ครับ แต่ที่ผมบอกไว้เบื้องต้นไว้ว่า ผมเขียนง่าย ๆ เข้าใจง่าย ๆ แล้วเมื่อคุณติดมาเรียบร้อย เชื่อเหอะ ในระยะเวลาไม่นานมาก คุณจะรู้มากกว่าผมเสียอีก) คราวนี้มาดูซิว่าการใช้งานเราควรใช้อย่างไรจะเป็นการดีที่สุด ใช่ว่าเราจะหย่าขาดกับน้องน้ำมันเสียทีเดียว นาน ๆ ครั้ง ก็ ต้องแอบกลับไปเชยชมเธอบ้างเป็นครั้งคราว กล่าวคือ วิธีการใช้งานของผม นั้น ตอนเช้าผมจะสตาร์ทเครื่องด้วยน้ำมัน ปล่อย ทิ้งไว้จนอุณหภูมิน้ำไดที่ สังเกตจากเกจ์ความร้อนก็ได้ครับเมื่อมันขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่มันเคยอยู่ (อย่างรถผมปกติมันจะข้นมาอยู่ตรงกลาง) แสดงว่า พร้อมแล้วที่จะ เปลี่ยนเป็นโหมดแก๊ส แล้วค่อยออกตัว ทำไมต้องทำอย่างนี้นะเหรอ เหอะ ๆๆๆๆ ถ้าทาง ทฤษฏี เป๊ะ ผมไม่รู้หรอก ผมแค่มีความคิดว่า สตาร์ทด้วยน้ำมัน ก็ดีอย่าง น้ำมันจะได้เข้าระบบ บ้าง เราจะเสียน้ำมันเท่าไหร่เอง ทำไมต้องรออุณหภูมิได้ที่ ก็หม้อต้มอ่ะ ต้องใช้น้ำร้อนต้ม ฉะนั้นเสียเวลานั่งรอ นิดโหน่ย คิดว่า ไม่น่าจะเสียหาย จะไดแก้อาการน้ำแข็งเกาะหม้อต้ม ได้ด้วย เมื่อเราจะจอด ในลักษณะของการจอดถาวร อย่างเช่นมาทำงาน แล้วต้องกลับบ้านตอนเย็น ก่อนถึงที่ทำงาน ผมจะเปลี่ยนโหมดเป็นน้ำมัน แล้วจึงจอด ซึ่งอันนี้ไม่ใช่ไฟท์บังคับนะครับ มันเป็นพฤติกรรมที่ผมสร้างขึ้นเอง แล้ว ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่เครื่องยนต์ของผม มันมีเหตุผลที่ผมสร้างขึ้นมาเองนั่นคือ รถเชื้อเพลิง 2 ระบบ เราจำเป็นต้องให้มันทำงานได้ 2 ระบบ รถเราไม่ใช่รถ taxi ที่เขามีอู่ มีคนดูแล เราต้องช่วยตัวเองครับ นั่นคือเหตุผลที่ผม ต้องใช้งานทั้งสองระบบอยู่อย่างต่อเนื่อง น้ำมัน ต้องมีติดถังไว้ อย่างน้อย ครึ่ง ถัง แต่มีติดถังไว้อย่างเดียวไม่พอครับ ต้องใช้งานมันด้วย เพราะ น้ำมันที่เก็บไว้นาน ๆ ไม่ใช้งาน มันสามารถเสียดาย อีกเช่นกับ ปั๊มติ๊ก น้ำมัน ต้องมีการเรียกใช้งานอยู่อย่างต่อเนื่อง จะมีเพื่อน ๆ บางคนที่ติดแก๊สแล้วไม่ยอมใช้น้ำมันเลย จนวันนึง ปั๊มติ๊กตาย ฉีดน้ำมันไม่ได้ ซวยไป ต้องเสียเงินค่าปั๊มติ๊กใหม่อีก นั่นก็คือเหตุผลนึงที่ผมพยายามใช้ 2 ระบบอย่างต่อเนื่อง อีกเหตุผลนึงคือ ผมมักจะเปิด จส 100 เวลาขับรถไปไหนมาไหน แล้วมักจะได้ยินประกาศของเพื่อนสมาชิกี่เป็น TAXI อยู่อย่างสม่ำเสมอว่า แก๊สหมด หาคนช่วยลากไปปั๊มแก๊ส อะไรทำนองเนี้ยอ่ะครับ ผมก็ได้แต่สงสัยว่า เอ แก๊สหมด แล้วทำไม ไม่ใช้น้ำมันไปล่ะ ก็มาได้คำตอบที่หลังว่า รถ TAXI เหล่านี้ เติมแก๊สกันอย่างเดียว ไม่มีน้ำมันในถังเลย ฉะนั้น การรักษาสถานะภาพ การทำงานในระบบน้ำมันให้สมบูรณ์นั้น น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้ แล้วเมื่อรถมีปัญหาทำอย่างไรดี เบาดับทำอย่างไร แบ๊คไฟท์ ทำไง รถอืด ทำอย่างไง รอบสวิงทำอย่างไร โอย สารพัดปัญหา ทำอย่างไร อย่าพยายามหาทางแก้เอง ครับ (ถ้าคุณเป็นอย่างผม) ออกจากโหมดแก๊ส แล้วขับน้ำมันไปหาช่าง อย่างนี้เป็นการดีที่สุด เอาล่ะมาเข้าถึงวัตถุประสงค์หลักของการติดแก๊สกันดีกว่า ทุกคน (ผมเชื่ออย่างนั้น) ต้องการความประหยัด แต่ ก็อีกหลายคน (ผมไม่เชื่อว่าทุกคนแต่ก็เยอะ) ที่ไม่มีความพอเพียง ได้ กิโลละ 1 บาท แล้ว ยังอยากได้ กิโลไม่ถึง บาท แต่อยากให้รถ วิ่งกระจายอีก โอย แก๊สนะครับ ไม่ใช่ น้ำทิพย์ที่มันจะบันดลความเป็นไปไม่ได้อย่างนั้นมาให้ท่าน หลักง่าย ๆ แก๊สบาง วิ่งไม่ค่อยออก อืด เครื่องสึกหรอเร็ว เครื่องเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ แต่ ประหยัด แก๊สพอดี เผาไหม้พอดี รับอัตราการเร่งได้พอเพียง แต่ อาจจะไม่ได้ ในย่านความเร็วสูง ประหยัดสมเหตุสมผล แก๊สหนา เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ รับอัตราการเร่งดี เปลืองแก๊ส ตอบสนองในย่านความเร็วสูงได้(มั๊ง) (อันนี้ผมใช้พื้นฐานระบบ FIX MIX นะครับ) เอาเป็นว่า เดินทางสายกลางดีกว่านะครับเพื่อน ๆ อย่าให้ประหยัดมากเกินไปเลย ปล่อย ๆ ให้เครื่องมันกินบ้าง เพราะให้มันกินให้ตายอย่างไง ผมว่าก็ไม่เกิน 1.5 บาท ต่อ กิโล คิดเฉลี่ยแล้วถูกกว่า น้ำมัน 50% ขับสบายใจ ไม่ต้องมาเหนื่อย ไอ้พวกที่มาคุยโวว่ารถวิ่งได้กิโลละ เท่านั้นเท่านี้ ไม่ถึงบาทบ้างแหละ ขอให้อย่าใส่ใจ เพราะใช่ว่า เครื่องยนต์ ของทุกท่านจะเหมือนกัน แค่ ยี่ห้อรถก็ไม่เหมือนกันแล้ว จริง อยู่ ว่า เครื่องเขา อาจจะทำได้ มันอาจจะมีเงื่อนไขหลาย ๆ อย่าง อย่างเช่น รถเขาเครื่องใหม่กว่า หรืออะไรอีกเยอะแยะ อย่าใส่ใจ เอามาตรฐานของรถเราเป็นหลัก คิดอย่างง่าย ปกติ รถเราวิ่ง กินน้ำมัน 10 กิโลลิตร แก๊สเราอาจจะทำได้ 7-8 กิโลลิตร เท่านี้ ผมว่าน่าจะพอเพียงแล้วครับผม[/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
Gas
>
รถติดแก๊ส เรื่องธรรมดา ของคนใช้รถ ที่อยากประหยัด
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...