ความในใจของคนที่เพิ่งวางเครื่อง (ความจริงที่หลายๆคนไม่เคยได้รู้ก่อนวางเครื่องงัยจ๊ะ)

การสนทนาใน 'Sunny Thailand' เริ่มโดย xxart, 25 มกราคม 2011

< Previous Thread | Next Thread >
  1. abadahey

    abadahey Active Member Moderator

    2,753
    16
    38
    เห็นบ่อยด้วยครับ สวยๆ
     
  2. xxart

    xxart New Member Member

    3,202
    193
    0
    .
    จบหัวข้อแรกเรื่องความพร้อมของเจ้าของรถไปแล้ว มาต่อหัวข้อที่ 2 เรื่องความพร้อมของรถ(รถคุณพร้อมสำหรับการวางเครื่อง หรือยัง?)

    คือต้องยอมรับความจริงกันก่อนว่ารถของพวกเรานั้นถือว่าเป็นรถเก่าแล้ว ซึ่งสภาพของแต่ละคันนั้นย่อมต้องการการดูแลบำรุงรักษาที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบเรื่องเกี่ยวกับรถ รักรถ มีความรู้ดูแลรักษารถให้มีสภาพสมบูรณ์มาตลอด อะไรเสียก็ซ่อม อะไหล่เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน ในขณะที่บางคนขับอย่างเดียว ดูแลบ้าง ซ่อมบ้างไม่ซ่อมบ้าง อันนี้ก็ว่ากันไม่ได้ เพราะรถบางคันเป็นของที่บ้านสมาชิกในครอบครัวใช้ร่วมกันหลายๆคน จะเอาไปซ่อมจะเอาไปทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวก็ไม่แน่ใจ ต้องคุยกันก่อน ไม่ใช่ว่าทำไปเพียบแต่ต่อมาถูกบังคับให้ขายทิ้ง หรือบางคนได้รับมรดกตกทอดมาอีกที สภาพดีก็ดีไป บางคันสภาพไม่ค่อยดีก็ถือว่าคุณมีต้นทุนที่สูงกว่า(ติดลบ)มากกว่าคนอื่น เช่น แอร์ไม่เย็นอยู่แล้ว วางเครื่องใหม่จะหวังให้แอร์เย็น ก็ไม่แน่เสมอไป คุณอาจจะต้องโดนเปลี่ยนตู้แอร์เพิ่ม ในขณะที่คันอื่นอาจจะเคยเปลี่ยนตู้แอร์มาแล้วก็ไม่ต้องเสียเงินตรงนี้เพิ่ม :)

    คนส่วนมากมักจะเริ่มแต่งรถจากการเปลี่ยนล้อเปลี่ยนยาง ล้อก็มีตั้งแต่ 15-16-17 (เริ่มตั้งแต่หลายๆพัน จนหลายๆหมื่น) ขึ้นอยู่กับของใหม่ หรือเชียงกง ล้อแท้ ล้อเทียม ส่วนยางก็คล้ายๆกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและขนาดเป็นหลัก ยี่ห้อแบบใช้ในสนามหรือขนาดใหญ่ขึ้น ก็ยิ่งแพงขึ้นเป็นเท่าตัว คือถ้าคุณยังใช้ล้อเดิมติดรถและคุณก็ยังอยากที่จะใช้ต่อไปหลังจากวางเครื่อง มันก็ได้นะ แต่มันจะมีปัญหาตามมาแน่นอน เพราะคุณจะไม่สามารถใส่เบรคที่ขนาดใหญ่ขึ้นได้เลย ผมเข้าใจว่าปกติวางเครื่องแล้วก็ทำเบรคกันทุกคัน ซึ่งล้อเดิมมันก็ไม่สามารถใส่เบรคขนาดใหญ่ๆได้ อย่างมากก็ได้แค่ใส่จานเบรคPlusar(ตรงรุ่นที่ใหญ่ขึ้นหน่อย) เอาแค่เรื่องล้อบวกยาง อย่างน้อยๆคุณก็ต้องมีต้นทุน(ตอนวางเครื่อง)สูงขึ้นหลายหมื่นบาท เมื่อเทียบกับคันอื่นที่เปลี่ยนล้อกะยางมาก่อนหน้าแล้ว (ขนาดบางคันเปลี่ยนล้อใหญ่มาแล้วแต่ไม่หลบเบรค ก็งานเข้าเหมือนกันนะครับ :)) และถ้ารวมเรื่องเบรคเข้าไปอีกซึ่งโดยส่วนมากก็ใช้จานกับคาลิปเปอร์ Skyline R32 (33, 34) ในล้อหน้า และก็อาจจะเปลี่ยนคานหลังเป็นแบบดิสก์เบรค(กรณีรถคุณเป็นรุ่นแบบดรัมเบรค) คุณก็ต้องมีต้นทุนสูงขึ้นอีกเกือบหมื่นเมื่อเทียบกับคันอื่นที่เคยทำเบรคมาแล้ว (อย่าลืมหาล้ออะไหล่ที่ใส่กับเบรคใหม่ได้ด้วยนะครับ ไม่งั้นถ้ายางล้อหน้าแตก ก็ต้องถอดล้อหลังไปใส่ล้อหน้า แล้วค่อยเอายางอะไหล่ไปใส่ล้อหลังอีกที :embarassed: โอ้ย.....เหงื่อแตกแน่นอน)

    นอกจากนี้พวกช่วงล่าง พวกลูกยางบูชต่างๆ ถ้ายังไม่เคยเปลี่ยนก็ควรจะเปลี่ยน ราคาต่อชิ้นก็พอรับได้ แต่ถ้าเปลี่ยนยกชุดก็หลายพันอยู่เหมือนกัน ที่ว่านี่เกรดธรรมดาติดรถ(ซึ่งก็ใช้ได้ดีแล้ว)ไม่ต้องไปพูดถึงพวกของแต่งซึ่งต่างกันหลายเท่าตัวครับ ส่วนเรื่องโช๊คอัพนี่มีตั้งแต่เอาของเดิมไปซ่อมอัดน้ำมันตัดสปริง ดีหน่อยก็โช๊คแต่งสปริงแต่ง ดีที่สุดก็พวกสตรัทปรับเกลียว ซึ่งถ้าเป็นยี่ห้อยอดนิยมในปัจจุบัน เช่น Tein รุ่นใหม่ๆอย่าง Super Street หรือ Flex คุณกะคร่าวๆไปเลยก็ได้ ว่าเหมือนกับคุณต้องซื้อล้อกับยางถึง 2 ชุด เพราะราคาล้อบวกยาง น่าจะพอๆกับโช๊คดีๆสักชุด ผมว่าแค่นี้ก็เห็นภาพชัดแล้วนะครับ ว่าความพร้อมของรถแต่ละคันนั้นเป็นที่มาของการทำเพิ่มในส่วนต่างๆจากการวางเครื่องมากน้อยต่างกันไป ยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องพวกเกจวัดต่างๆ ซึ่งถ้าใครมีอยู่แล้ว(ก็ทุ่นค่าใช้จ่ายไปได้แยะ)อย่างมากก็แค่ซื้อวัดบูสท์เพิ่ม(กรณีเครื่องเทอร์โบ) :)

    เอาแค่นี้ก็แล้วกันสำหรับหัวข้อนี้ จะได้ไปต่อในหัวข้อถัดไป(หัวข้อที่3) ที่น่าจะเป็นหัวใจสำคัญ ในเรื่องของความพร้อมของเครื่อง(คุณได้เครื่องที่จะเอามาวางหรือยัง?) :D:D:D
     
  3. abadahey

    abadahey Active Member Moderator

    2,753
    16
    38
    แค่ ข้อ 2 ราคาก็เลย ตัวรถ แล้วครับ หุหุ ไม่รักไม่ทำนะนี่ !!!
     
  4. B-2

    B-2 New Member Privilege

    3,588
    584
    0
    ตอนนี้ รถทำไฟไปถึงไหนแล้วพี่ เสร็จยัง ++
     
  5. DaySpeed

    DaySpeed New Member Moderator

    8,976
    822
    0
    ทำไปเยอะขนาดนี้เลยนะเนี่ย
     
  6. BOAM...B12

    BOAM...B12 New Member Moderator

    5,057
    775
    0
    ดีนะรถเราออกมาจาโรงงานอย่างนี้เลย:eek:
     
  7. tOon`

    tOon` Well-Known Member Member

    2,324
    43
    48
    นั่งไล่กันมะครับว่าใครทำอะไรไปเท่าไหร่มั้งผมว่าจะได้เป็นแนวทางให้คนที่กำลังจะวางเครื่องมองเป็นแนวทางดีปะครับเอาให้ครบให้หมดเลยทั้งที่ทำไปแล้วและถอดออก แล้วถอดออกมีข้อเสียอะไรดีปะครับ
     
  8. god army

    god army Legend (R.I.P.)

    3,198
    77
    0
    ใช่ครับ ชอบจริงๆมีเเนวเป็นของตัวเอง "ผม ชอบ ลง อ่าง ที่ สุด ใน โลก"
     
  9. mtts. 38

    mtts. 38 New Member Member

    1,236
    12
    0
    แนวเหมือนกัน แต่พี่เป้ชอบขัดจังหวะกำลังได้ที่เลย
     
  10. Step-Divinity

    Step-Divinity New Member Member

    3,737
    590
    0
    ใส่ครบหมดแล้วยกเว้นเครื่อง 555+5
     
  11. Crony_A

    Crony_A New Member Member

    4,017
    12
    0
    เนื้อหาดี ประเด็นจับแล้วได้ใจความ ดีมากเลยคับพี่ จะจำไว้และติดตามต่อๆ ไปคร๊าบ
     
  12. cocoa99

    cocoa99 New Member Member

    60
    3
    0
    ผมอยู่ในเมืองทองน่ะครับ เจอกันบีบแตร กระพริบไฟทักทายกันครับ
    :sad:

    ส่วนเรื่องการทำรถ สเต็ปแรกในความคิดผมนะครับ
    1. ล้อกับยางครับ เหมือนมีรองเท้าดีไปไหนมาไหนสบายใจ
    2. ท่อสวย ๆ ซักใบ เอาให้สุ่มเสียงดุดันซักนิดนึง
    3 โช๊คดี ๆ ซักชุด ตัดใจซื้อของดีไปเลย เชื่อผม ไม่ต้องลองผิดลองถูก
    4. ชุดพาร์ทสวย ๆ พร้อมทำสีทั้งคัน สรุปคือรถสวยไว้ก่อนครับ
    5. เครื่องเสียงดี ๆ ซักชุด ไม่ต้องซับก้อโอเคครับ

    สำหรับผมเครื่องเป็นเรื่องสุดท้ายครับ ทำไมน่ะเหรอ
    เพราะลองขับเดิม ๆ เดือน ๆ นึง จุกจิก ๆ ก้อหมดไปเดือนละ 1 - 2 พัน
    ถ้าไม่ทำเลย โดนเรื่องแอร์ หรือไดชาร์ทเข้าไปก้อช๊อตไปหลายเดือนครับ
    ไหนจะเบรกเอย ยางหุ้มเพลา ฯลฯ
    เห็นรถเพื่อน รถแรงวางเครื่องพอถึงเวลา ไม่มีตังค์ก้อจอดอย่างเดียวครับ
    แต่รถเราไม่แรง เอาสวย ขับสบาย รถอยู่กับเรามากกว่าอยู่อู่ครับ
    :cool:
     
  13. โอะโอ๋

    โอะโอ๋ New Member Member

    1,418
    17
    0
    ต่อเลยครับพรี่
     
  14. photo_boya

    photo_boya New Member Member

    926
    0
    0
    ข้อมูลดีๆ ขอบคุณครับ รออ่านต่อครับ
     
  15. xxart

    xxart New Member Member

    3,202
    193
    0
    .
    ก็อย่างที่ผมได้เกริ่นไว้แล้วว่าคุณพร้อมในเรื่องของเครื่องยนต์หรือยัง คำถามง่ายๆก็คือคุณมีเครื่องยนต์ตัวที่จะเอามาวางในรถคุณแล้วหรือยัง ถ้ายังแล้วคุณจะไปหามาจากที่ไหน ซึ่งคุณอาจจะซื้อเครื่องต่อมาจากคนอื่นเป็นพวกเครื่องยกลง แต่โดยส่วนมากแล้วก็คงเช่นเดียวกันกับผมที่ได้เครื่องมาจากเซียงกง โดยเป็นเครื่องเก่าที่มาจากญี่ปุ่น(ประเทศอื่นๆก็มีบ้างเช่น สิงคโปร์) ซึ่งจริงๆแล้วก็ฟังดูเหมือนไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ หรือไม่มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับเซียงกง แล้วคุณกล้าเสี่ยงที่จะไปซื้อเองหรือเปล่า ถ้ามีคนรู้จักที่เซียงกงก็สบายไป คุณก็น่าจะได้เครื่องดีราคาถูก(ถ้าเค้ามีของที่คุณต้องการ) หรือบางคนอาจจะให้เพื่อนที่มีความรู้ไปช่วยเลือกซื้อให้ แน่นอนคุณก็จะได้เครื่องสภาพดี แต่ราคาถูกหรือเปล่านั้นก็อีกเรื่องนะครับ แต่ในกรณีผมไม่รู้อะไรเลย และแม้ผมจะมีคนรู้จักเคยทำงานขายของอยู่เซียงกง แต่ตอนนี้ไปทำอาชีพอื่นแล้ว จะให้พาไปซื้อก็เกรงใจเค้า ต้องไปไหว้วานเป็นหนี้บุณคุณกันอีก แล้วก็ไม่รู้ว่าเค้าจะชำนาญหรือรู้เรื่องเครื่องตัวที่เราต้องการหรือเปล่า อาจจะรู้เรื่องนิสสันก็จริง (อาจจะชำนาญ SRแต่เป็นพวกขับหลังมากกว่าก็ได้) แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้ราคาถูกหรือเปล่าหรือถ้าวางไปแล้วเครื่องมีปัญหาก็ไม่รู้ว่าจะไปโทษใคร แต่ก็อย่าพึ่งหมดหวังนะครับ เพราะจริงๆแล้วมีสูตรสำเร็จง่ายๆ นั่นก็คือให้อู่ที่เราจะไปวางเครื่องหาเครื่องและวางเครื่องไปด้วยเลย ฟังดูก็ลงตัวดี (แต่จริงๆแล้วมีรายละเอียดอีกมากไว้ผมจะได้เล่าต่อไปในหัวข้อสุดท้ายเรื่องอู่นะครับ) :)

    แต่ผมเลือกวิธีต่างออกไป ตรงนี้ก็ต้องบอกว่าผมโชคดีที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของคลับนี้ แล้วก็ทำให้ผมรู้ว่ามีคุณหมอคนหนึ่ง(ชื่อเหมือนผมด้วยละ:p)ที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องเครื่องให้ผมได้ ถามว่าทำไมผมถึงมั่นใจนัก ตอบได้เลยว่าข้อสงสัยในใจผมถูกตอบได้หมดทุกข้อทุกประเด็นจากการที่ให้หมอไปหาเครื่องมาให้ ซึ่งในตอนแรกๆ(ก่อนที่จะได้รู้จักกับหมอ)ผมเคยได้ยินเรื่องราวของหมอมาบ้าง เช่น เค้าก็ขับนิสสันเหมือนกัน(เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าจะรู้เรื่องหรือชำนาญเครื่องที่เราต้องการหรือเปล่า) โดยปกติแล้วถ้าของสภาพไม่ดี หมอก็จะไม่เอามาให้พวกเรา เพราะฉะนั้นห้ามเร่ง (ถ้าอยากได้ของดี บางครั้งก็ต้องทำใจรอ) และที่สำคัญที่สุดที่ผมได้รับรู้(หลังจากที่ผมได้รู้จักกับหมอแล้ว) ก็คือหมอเป็นคนรักรถมาก และความรักนั้นก็เผื่อแผ่มาถึงรถคันอื่นๆรวมทั้งรถผมด้วย นั่นก็คือ ผมเคยคุยกับหมอไว้ว่าตั้งใจจะวางเครื่องใหม่เป็น SR20DET แต่ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอน แต่แล้วเกียร์(ออโต้)รถผมก็เริ่มมีปัญหา พอดีกับหมอโทรมาบอกว่าไปเจอ W11 ปี 1998 สภาพสุดๆ (ขาว สวย หมวย อึ๋ม) :) ผมก็นึกในใจว่าจริงหรือเปล่าวะ แต่หลังจากคุยรายละเอียดผมก็ตกลงโดยมีเงื่อนไขว่าหมอต้องดูแลจัดการให้เหมือนเป็นรถหมอเองเลย ซึ่งผมบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง โดยเห็นได้จากการที่หมอซื้อน้ำมันเครื่องใหม่ ไปใช้สำหรับสตาร์ทเครื่องก่อนซื้อเครื่องตัวนั้นที่เซียงกง แค่นี้ก็ประทับใจที่สุดแล้วครับ ผมก็เลยหมดห่วงเรื่องอื่นๆไปเลย เช่น เคยกังวลเกี่ยวกับการรับประกันเครื่อง(ที่ปกติร้านจะรับประกันแค่ไม่กี่วัน) ซึ่งกรณีผมกว่ารถจะเสร็จวิ่งได้ก็ตั้งหลายเดือน หมอบอก Don't worry เดี๋ยวจัดการดูแลให้

    ประเด็นต่อมาหลังจากที่คุณได้เครื่องมาแล้วก็คือ คุณต้องหาส่วนประกอบอื่นๆมาให้ครบ ซึ่งแน่นอนผมก็ต้องใช้สูตรเดิมคือใช้บริการจากหมอ ก็เริ่มตั้งแต่เกียร์ ซึ่งผมต้องการเกียร์ออโต้ และก็ได้เกียร์ออโต้เต็ด(เกียร์สาย)+ออยคูลเลอร์+เพลาขับ ต่อมาก็เป็นหม้อน้ำ+พัดลมไฟฟ้า ตามมาด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ ซึ่งหมอก็กรุณาหาของดีมาให้ (ซึ่งจริงๆผมไม่รู้หรอกครับ เห็นคนอื่นบอกมาอีกที) แล้วก็มีของเล็กๆน้อยๆอีก เช่น ปั้มติก, ปั้มน้ำ, วาล์วน้ำ, ยางตีนวาล์ว ซึ่งก็น่าจะครบแล้ว แต่ผมอยากจะทำให้เสร็จไปเลยทีเดียวในการจอดอู่ครั้งนี้ ก็เลยได้หม้อพักปลายอันใหม่ แล้วก็เทอร์โบทามเมอร์ รวมทั้งคานดิสก์หลัง(ซึ่งหมอก็ได้กรุณาไปหาแบบจานใหญ่มาให้...อีกแล้ว:)) ส่วนพวกเกจ์วัดนั้นผมได้รับมาก่อนหน้านี้แล้ว(จากเจ้าของรถแรงคันเหลืองผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Defi ใครหาอยู่รับรองไม่ผิดหวังครับ:thumbs_up:) เช่นเดียวกันกับเบรคหน้าที่ผมได้ซื้อไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็จะได้ทำไปเลยทีเดียว ก็อย่างที่บอกไว้แล้วว่าถ้ารถคุณเดิมๆ ยังไม่เคยแต่งอะไรเพิ่มเติมมาก่อน คุณก็อาจจะต้องรู้สึกว่าทำไมรถคุณต้องทำหลายอย่างเพิ่มจังเลยวะ (ก็เพราะคันอื่นเค้าได้ทำไปก่อนแล้วงัย) และอีกประเด็นที่อยากจะฝากไว้ก็คืออะไรที่หายากๆบางทีถ้าคิดว่าต้องได้ใช้ ต้องเปลี่ยนแน่ๆ ก็อาจจะต้องซื้อเก็บไว้ล่วงหน้าก่อนนะครับ :sad:

    ถูกผิดไม่รู้ เพราะเป็นความเห็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆนะครับ แต่พอแค่นี้ก่อนดีกว่าจะได้ไปต่อเรื่องสุดท้ายเรื่องอู่(จะไปวางเครื่องที่อู่ไหนดีเอ่ย?) :D:D:D
     
  16. DaySpeed

    DaySpeed New Member Moderator

    8,976
    822
    0
    หมอคนนี้ได้ข่าวว่าเจี๊ยวเล็กด้วย :D:D:D:D:D
     
  17. Denn

    Denn Well-Known Member Moderator

    9,716
    819
    113
    หมอ คนนี้ ไปยี่ปุ่น ยังติด คลัช ผมอยู่ ชุดนะ อ่า ๆ :D
     
  18. xxart

    xxart New Member Member

    3,202
    193
    0
    .
    โทษทีครับเวันช่วงไปนาน พอดีไปตจวและงานยุ่งมากช่วงนี้ครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เมื่อพูดถึงเรื่องอู่นั้นจริงๆแล้วในตอนเครื่องเดิม ผมใช้บริการอู่คุณติ่งมาตลอด และในตอนนั้นผมก็ตั้งใจว่าจะวางเครื่องที่อู่คุณติ่งนี่แหละ แต่ผมดันอยากจะทำเรื่องแก๊สให้จบไปด้วยเลยตอนวางเครื่อง ก็เลยทำให้ต้องไปวางเครื่องที่อื่น ซึ่งก่อนที่จะไปวางเครื่องผมก็ได้ไปพบเพื่อปรึกษากับคุณติ่งและได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์มาว่าเรื่องวางเครื่องไม่น่ายาก อู่ไหนๆก็น่าจะวางได้เหมือนกันเพราะแทบจะร้อยน๊อต ตรงรุ่น แต่ปัจจัยหลักน่าจะขึ้นอยู่กับเครื่องที่จะเอามามากกว่า ซึ่งพอคุณติ่งรู้ว่าหมอเป็นคนหาเครื่องมาให้ก็บอกว่าหมดห่วงได้เลย

    วกมาเรื่องแก๊สหน่อย เรื่องของเรื่องก็คือว่าเครื่องเดิมผมติดแก๊สแบบหัวฉีดอยู่แล้ว ใช้ได้ดีไม่มีปัญหาของ Autronic ติดมา 2ปีกว่า วิ่งตกประมาณ 1.30-1.40บาท/กม อัตราเร่งเรียกได้ว่าแทบจะไม่แตกต่างกับน้ำมันเลย พูดง่ายๆก็คือผม happy กับระบบแก๊สของเครื่องเดิมมาก ก็เลยตั้งใจว่าวางเครื่องใหม่ SR20det ก็จะใช้แก๊สเหมือนเดิม และก็อยากให้ระบบแก็สจบลงตัวตั้งแต่ตอนวางเครื่องเสร็จไปด้วยกันเลย ซึ่งจริงๆแล้วผมได้รับคำแนะนำจากหลายๆท่านในคลับมาว่าน่าจะวางเครื่องให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วไปลองวิ่งใช้งานดูซักพัก แก้ไขงานให้ระบบทุกอย่างลงตัวแล้วค่อยไปติดแก๊สก็ได้ แต่ผมขอสารภาพเลยว่าผมทำใจไม่ได้ ที่จะวิ่งน้ำมัน :p ผมไม่รู้ว่าทุกคนที่เคยใช้แก๊สจะเป็นเหมือนผมหรือเปล่าหนอ(ก็ต้องมีบ้างล่ะ) ที่นี้ผมก็ต้องหาอู่ที่ตอบโจทย์เรื่องแก็สให้ได้ ผมเริ่มโดยหาอู่วางเครื่องที่รับติดแก๊สของ Autronicด้วย แต่ปรากฎว่าระบบหัวฉีดแก๊สของ Autronic ไม่สามารถนำมาใช้กับเครื่องใหม่ได้ (เข้าใจว่าไม่สามารถเจาะหัวฉีดขยายรูได้) ทำให้ต้องเปลี่ยนหัวฉีดใหม่ทั้งชุด แม้ว่า Autronic จะไม่มีหม้อต้ม โดยจะใช้เป็นลักษณะสาย(ต้ม)ซึ่งสามารถใช้ของเดิมได้(อาจจะเปลี่ยนแค่ชุดซ่อม) บวกกับการใช้กล่องเดิม แต่ก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ว่ารถจะวิ่งดีหรือเปล่า แต่ที่สำคัญค่าใช้จ่ายสูง ไม่น่าจะคุ้มค่า ทำให้ในที่สุดผมต้องตัดใจเปลี่ยนยี่ห้อแก๊สไปเลย(ซึ่งก็ทำให้มีจำนวนอู่ให้เลือกมากขึ้น) ซึ่งผมก็ได้รายชื่ออู่มา 2-3อู่ แต่ในที่สุดแล้วคนรู้จักกัน(ที่เคยทำงานเซียงกง) ก็ได้แนะนำอู่แถวๆประชานุกูลมาให้ ซึ่งก็พอดีว่าเป็นหนึ่งในอู่ที่ผมได้ชื่อมาแล้วก่อนหน้าเหมือนกัน ก็เลยตกลงเลือกอู่นี้

    ผลปรากฎว่าอู่นี้รถแน่นยังไม่มีคิว ถ้าอยากได้คิวเร็วๆ(ว่าเป็นคิวต่อไปแน่ๆ) ก็ต้องยอมเอารถไปจอดทิ้งไว้ก่อน ถ้าผมจำไม่ผิดปรากฎว่าผมต้องเอาไปจอดมากกว่า 2 สัปดาห์ถึงจะได้เริ่มทำ (ก็อย่างที่บอกไว้ในหัวข้อก่อนหน้านะครับว่า ต้องเผื่อเวลาไว้ด้วยเพราะมีปัจจัยภายนอกมากมายที่เราควบคุมไม่ได้) ถึงตรงนี้ต้องบอกความรู้สึกหน่อยว่าทรมานเหมือนกันเพราะอยากให้รถออกมาดีๆ ซึ่งก็ต้องไปแวะดูที่อู่บ่อยๆ(แต่ไกลจากบ้านผมมาก) หลังจากนั้นเริ่มแรกเลยก็ต้องเอาเครื่องเก่าออกก่อน ซึ่งผมก็โชคดีมีพี่ที่รู้จักกันขอซื้อต่อเครื่องไป(โดยพี่เค้าเอาไปวางใน B13) ซึ่งเกียร์ออโต้ที่เริ่มมีปัญหานั้นผมก็ให้พี่เค้าไปด้วยเลย (พี่เค้าเอารถมาขนเครื่องไปเอง) ส่วนเครื่องใหม่ รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ หมอก็ได้เอาไปให้ไว้ที่อู่เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถวางต่อได้เลย ทีนี้ก็มาถึงเรื่องแก๊ส ก็ต้องบอกว่าเป็นความบังเอิญอีกเหมือนกัน ที่อู่นี้ติดแต่ยี่ห้อ AC ซึ่งรถในคลับอีกคัน(ที่เป็นต้นแบบสำหรับผมเลย:D)ที่วาง W11 เกียร์ออโต้ ผมก็เพิ่งจะได้คุยกับเจ้าของรถว่าเค้าก็เพิ่งเปลี่ยนหม้อต้มมาเป็นของ AC รุ่นTopสุด(KME Gold) ผมก็เลยมั่นใจขึ้นสำหรับ AC (เพราะว่าไม่เคยรู้จักยี่ห้อนี้มาก่อนเลย) สรุปผมก็เลือก หม้อต้ม KME Silver(รองTop) กับ กล่องแก๊ส รุ่น 300plus เห็นบอกว่ากล่องรุ่นนี้ทำงานแนวๆกล่องแต่ง(น้ำมัน) ระดับน้องๆพวกกล่องพ่วงต่างๆ

    ขั้นตอนต่อไปที่อยากจะเน้นสำหรับคนที่จะวางเครื่องต้องนึกถึง ก็คือ เรื่องการเดินสายไฟ และเรื่องการเดินท่อ ผลปรากฎว่าอู่นี้ใช้ช่างเดินไฟจากข้างนอก แต่ช่วงนี้ช่างติดงานยังไม่ว่างมา ก็เลยตัดสินใจว่าจะเอาไปทำท่อก่อน ซึ่งก็ต้องขึ้นรถยกทั้งไปและกลับ(ค่ารถยก2เด้ง) :sad: ผลปรากฎว่าเป็นความโชคดีบนความโชคร้าย ที่โชคดีก็คือได้ไปทำท่อที่อู่ชาญอินเตอร์ แต่โชคไม่ดีที่ไปถึงแล้วคิวเต็มต้องรอคิวอยู่หลายวันเหมือนกันกว่าจะได้ทำ เสร็จจากเรื่องท่อที่กินเวลาไปเกือบ 2อาทิตย์ แล้วก็กลับมารอช่างไฟอีกรอบ และแล้วรถก็เสร็จหลังจากผ่านไปเกือบ 3 เดือน ซึ่งหลังจากลองขับดูในครั้งแรกผมก็พบกับสัจธรรมว่าเทอร์โบมันเป็นอย่างนี้นี่เอง(รู้งี้วางไปนานแล้ว) :)

    ก็ถือว่าจบเรื่องราวที่ผมอยากจะแชร์ข้อมูลเพื่อเป็นการตอบแทนกับใครก็ได้ที่เข้ามาหาข้อมูล ณที่นี้ ซึ่งผมก็เป็นคนหนึ่งที่เคยได้รับประโยชน์มาแล้วเช่นกัน

    ปล : เดี๋ยวเอาไว้ว่างๆจะมาสรุปเรื่องต่างๆหลังจากวางเครื่อง มีทั้งปัญหาที่ต้องกลับไปแก้ มีทั้งเรื่องขำๆของคนที่ไม่เคยขับเกียร์เต็ด รวมทั้งเรื่องของการแจ้งเปลี่ยนเครื่อง และการแจ้งประกันภัยหลังจากเปลี่ยนเครื่องมาแล้ว ถ้าท่านอื่นๆมีข้อมูลในแง่มุมต่างๆก็ลองเอามาแบ่งบันกันนะครับ บางเรื่องท่านอาจจะรู้สึกว่าทุกคนน่าจะทราบแล้ว หรือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญสำหรับคนที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นก็ได้นะครับ :D:D:D
     
  19. เสก R10

    เสก R10 New Member Member

    807
    8
    0
    ชัดเจนเลยครับพี่
     
  20. Denn

    Denn Well-Known Member Moderator

    9,716
    819
    113
    จากใจผมบ้าง.....

    ก็แค่ฝันไว้ว่า ชีวิตสักครั้ง อยากมีรถ Turbo เครื่อง เบนซิน ขับสักคัน
    ขับไปที่วิวดี ๆ คลายโบว์ออฟให้ ได้บรรยากาศ
    อยากพุ่ง ก็กด อยากชิว ก็กรอ
    ลงสนาม ตามใจอยาก
    วิ่งเล่นกับ เพื่อนร่วมทางบ้าง

    และที่โม ต่อ เพราะต้องการ สวน รถสูบนอน ขับ 4 แถวบ้าน และ รถ 3 ประตู รหัส B เซ็ทโบว์ แถวบ้าน อีก (เอากันตรง ๆ)

    ผมก็แค่ พยายาม ทำตามความฝัน อ่า ๆ :D
     
  21. SR-FA-DAM

    SR-FA-DAM New Member Member

    8,331
    913
    0
    บอกแล้วไง ว่า ถ้าได้ลองแล้วจะติดใจ อิอิ :D:D:D:D
     
  22. B-2

    B-2 New Member Privilege

    3,588
    584
    0
    มาต่ออีกพี่ อาร์ต กำลังมัน ++
     
  23. xxart

    xxart New Member Member

    3,202
    193
    0
    .
    ก๊อกๆๆ หลังจากที่เอารถออกมาจากอู่กันแล้ว จริงๆแล้วก็น่าจะจบกระบวนการวางเครื่อง ก็แค่คอยดูว่ามีอะไรผิดปกติ หรือยังไม่เรียบร้อยจะได้กลับไปแก้ไขที่อู่ แต่อยากจะเน้นเพิ่มเติมอีกเกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเปลี่ยนเครื่อง และ การแจ้งเกี่ยวกับประกันภัยครับ

    เหตุผลหลักๆที่เราควรจะแจ้งเปลี่ยนเครื่อง(ซึ่งบางคนจะไม่ไปแจ้งก็ได้) ก็คือ เวลาไปตรวจสภาพเพื่อต่อภาษีประจำปีจะได้ไม่มีปัญหากวนใจ, ถ้ารถทำประกันอยู่แล้วไม่แจ้ง เวลาเกิดอะไรขึ้น ประกันอาจไม่คุ้มครอง หรือในกรณีที่มีคนซื้อต่อเครื่องเก่าเราไป ก็ต้องให้เราไปแจ้งเปลี่ยนเครื่องก่อน คนที่เอาเครื่องเราไปถึงจะสามารถไปแจ้งได้(เพราะเราต้องถ่ายหน้าสมุดทะเบียนที่เราได้ แจ้งเปลี่ยนไปแล้วให้กับคนที่ซื้อต่อ) โดยการไปแจ้งเปลี่ยนเครื่องที่ขนส่งนั้นง่ายมาก (ร้าน)ที่เราไปซื้อเครื่องมาจะให้เอกสารมา 2-3 แผ่น เราไม่ต้องทำอะไรเลยแค่แจ้งชื่อเจ้าของรถให้กับที่ร้านเอาไปกรอกในเอกสาร (ของผม หมอจัดการเอามาให้ถึงที่ :)) ถ้าในกรณีที่ชื่อคุณไม่ใช่เจ้าของรถก็ต้องทำใบมอบอำนาจเพิ่มอีกใบ เสร็จแล้วก็แค่ขับรถไปที่ขนส่ง เตรียมเอกสารไปให้พร้อม ผมไปที่จัตุจักรช่วงสายๆ ประมาณ 10 โมงกว่า ก่อนเที่ยงก็เสร็จเรียบร้อย เสียเงินไป 105 บาทเป็นค่าแจ้งเปลี่ยนเครื่องพร้อมตรวจสภาพ และจะมีการคำนวนภาษีเพิ่มตาม cc ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละคันจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้มากน้อยต่างกันตามจำนวนวันที่เหลือก่อนต่อภาษีครั้งต่อไป ในกรณีรถผมเหลืออีกเดือนกว่าๆจะต่อภาษีครั้งต่อไป คำนวนออกมาได้ประมาณ 70 กว่าบาท (ปล : ก่อนเปลี่ยนเครื่องเสียภาษีปีละ 897.75 บาท แต่หลังจากเปลี่ยนเครื่องแล้วเพิ่มเป็น 1,446.00บาท คันอื่นๆก็น่าจะเหมือนกันครับ)

    ส่วนเรื่องประกันภัย อันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน พอดีว่ารถผมนั้นที่บ้านทำประกันชั้น 1 มาตั้งแต่ออกป้ายแดง และทำเรื่อยมาจนกระทั่งผมเอามาขับ และนำมาเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งผมก็ได้ไปติดต่อบริษัทประกันภัยว่าผมได้วางเครื่องตัวใหม่และได้แจ้งทำเรื่องที่กรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว ก็เลยมาทำเรื่องแจ้งที่ประกันด้วย ตรงจุดนี้ผมไม่แน่ใจว่าประกันของบริษัทอื่นจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า(ใครทราบบอกด้วย) แต่ผมว่าน่าจะคล้ายคลึงกัน โดยทางประกันให้ผมเขียนชี้แจงรายละเอียดว่าผมได้ทำอะไรไปบ้าง เครื่องรุ่นอะไร เกียร์แบบไหน มีอินเตอร์ยี่ห้ออะไร รุ่นไหน (ผมก็งงเหมือนกันว่าเขียนไป แล้วประกันมันจะรู้เรื่องเหรอวะ :confused:) ติดเกจวัดกี่ตัว ยี่ห้ออะไร ฯลฯ ทำอะไรไปประกันบอกเขียนให้หมด หลังจากนั้น 2-3 วันทางประกันก็ส่งคนมาถ่ายรูปรถผม ซึ่งคนที่มาถ่ายก็ถ่ายตามรายการที่ผมได้ส่งไปให้ อันไหนที่ไม่รู้จักเค้าก็จะให้ผมชี้ให้ แต่ก็ถ่ายไปแยะมากเปิดหมดกระโปรงหน้า กระโปรงท้าย ถังแก๊ส แผงหน้าปัด เบาะ ล้อยาง จานเบรคถ่ายหมด หลังจากนั้นผมก็ได้รับกรรมธรรม์ (ของผมหมดอายุต้องต่อพอดี) ได้ข้อสรุป ดังนี้ เครื่องที่วางใหม่รวมทั้งอุปกรณ์ส่วนควบที่เราเขียนไปให้ + ระบบแก๊ส LPG หัวฉีด ประกันตีไว้แค่ 60,000บาท ซึ่งผมก็ถามกลับไปว่าจริงๆราคามันสูงกว่ามากนะ(เพียงแต่ว่าผมไม่มีใบเสร็จใบกำกับภาษีไปให้คุณดู) ประกันอธิบายว่ามันจะมีหลักในการคำนวนของที่เพิ่มเข้าไปในวงเงินประกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น เครื่อง แก๊ส เครื่องเสียง ก็จะใช้หลักการเดียวกันประมาณนี้ ซึ่งทางประกันก็ได้แนบรายการสิ่งของที่ผมได้แจ้งไปทั้งหมดเป็นเอกสารแนบท้ายกรรมธรรม์ไว้ด้วย (แล้วมันจะเครมได้ตามนี้เหรอวะ :sad:) สรุปปีที่แล้วผมเสียค่าเบี้ยประกัน 8,072.08บาท(ได้ส่วนลด 50% จากราคาเต็ม 17,073บาท เพราะไม่ได้เครมติดต่อกันหลายปีแล้ว) สำหรับในวงเงิน 190,000บาท ส่วนปีนี้หลังจากวางเครื่อง ได้วงเงินเพิ่มขึ้นอีด 60,000 บาท รวมเป็น 250,000บาท โดยเสียค่าเบี้ย 9,587.20 บาท สำหรับประกันชั้น 1 ลด 50% (จ่ายแพงขึ้นจากปีที่แล้ว 1,515.12 บาท)

    ใครมีข้อมูล มีประสพการณ์ก็เอามาแชร์ๆกันครับ :D:D:D
     
  24. Crony_A

    Crony_A New Member Member

    4,017
    12
    0
    เรื่องการทำประกันก็สำคัญนะคับ รถผมก็ใกล้หมดพอดีเลย อิอิ แต่ทำชั้นหนึ่งไม่ไหว แพงเหลือเกิน...ทำแค่ 3+ พอหล่ะ อิอิ แค่นี้ก็เจ็ดพันแล้วคับ
     
  25. blueday

    blueday New Member Member

    560
    12
    0
    ถูกใจ "มันคือความฝัน"
     
  26. Denn

    Denn Well-Known Member Moderator

    9,716
    819
    113
    คนเรามันต้องตามความฝัน :D
     
  27. Denn

    Denn Well-Known Member Moderator

    9,716
    819
    113
    Turbo เสาร์นี้ นะจ๊ะ :D
     
  28. Crony_A

    Crony_A New Member Member

    4,017
    12
    0
    คงต้องอาศัยพี่ๆ ทุกๆ ท่านช่วยยุให้พี่อาร์ทลงด้วยอะคับ เห็นว่าจะไม่ยอมลงคับ จะไปนั่งชมชิวๆ กลัวรถจะสวนคนอื่นซะหมดอะดิคับ อิอิ
     
  29. poomsiri

    poomsiri New Member Member

    672
    8
    0
    น้ำตาจะไหล คำพูดจากใจ ผู้ชายแต่งรถ เมิงเอาใจพี่ไปเลยหว่ะ โดดทุกเม็ด
     
  30. blueday

    blueday New Member Member

    560
    12
    0
    ได้หมอหาของให้ นอนตีขิมรอเลยครับ ไว้ใจได้ทุกชิ้น หลังการขายก็เยี่ยม ของมาวางจบครบๆลย

    ขนาดว่าเพลากะไดสตาร์ท ที่หายากๆ แกยังหาได้ แถมยังหาคลัชNISMOให้อีก

    ผมได้ w10จากหมอนี่แหละ สภาพ โคตรใหม่ ขาวๆเลย วิ่งอีกยาวววว

    ส่วนเรื่องสังคม คนรอบข้างนี่ยอมรับครับ แรกๆ มันกดดัน

    เพื่อนๆหลายคนแนะนำ "ถ้ามรึงอยากแรง เอาเงินวางเครื่อง กะเงินขายรถมรึง รวมๆแล้วนี่เอาไปซื้อ นิสสันขับหลังวางเจโบ เกียร์ธรรมดาได้เลยนะเว้ย"
    "โวสามมั๊ยมรึง ครบๆเลย กรุได้มาถูกๆเอาไปลองก่อนมั๊ย กรูให้สองห้าเลย แจ้งแล้วด้วย"
    "มรึงบ้าเปล่าเนี่ยย ห๋าาาาาาาาา รถมรึงราคาเท่าไหร่ ค่าวางเท่าไหร่ ไอบร้าาาาาา"
    "ลูกมรึงจะแดรกไรวะ มีพ่อบ้าแต่งรถ"

    ซึ่งข้อสุด้าย มันตำใจผมมาก จนอยากจะลดสเป็คลงมาเป็น DE แทนเลยทีเดียว
    ซึ่งหมอก็ใจดี เว้นระยะให้ผมทำใจอยู่พักนึง ก่อนตัดสินใจครั้งสำคัญ เพราะได้ไปขับรถของเพื่อนที่นำเสนอโวสาม กับNEON วาง20de ออโต้มา
    ลงจากนีออนก็โทรหาหมอเลย "พี่ ขอเลขที่บัญชีหน่อย "
    และก็ไม่ผิดหวังกะมันครับ มันสามารถสวนรถตลาดได้เกือบทุกยี่ห้อในบ้านเราได้หมดไม่ว่าจะเป็น เบนซิน โซล่า
    เพราะไหนๆเราก็ได้ถือว่าวางเครื่องแล้ว สนองกิเลสอีกหน่อยเป็นไรไป ลูกจะอดตายเพราะเงินวางเครื่องเพิ่มมาสามหมื่นให้มันรู้ไปสิวะ ยังไงก็ต้องวางอยู่แล้วนี่หว่า

    และมันยังสอนบทเรียนราคาแพงให้ผมอีกด้วยว่า เมื่อแรงมาก ความไม่ประมาทก็ยิ่งต้องมากขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว

    ผมไม่ตายก็บุญแล้วครับ ยังดีที่ ประกันจ่ายค่าซ่อมทั้งหมด และเครื่องก็ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไร

    รถคุณแรง แล้วต้องคุมสติให้ได้ด้วย "จงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท"

    เพราะมันเป็นความชอบส่วนตัว ที่อยากจะมีรถแรงๆซักคัน ถึงจะไม่ใช่รถสปอร์ทหรูๆก็เถอะ

    เพื่อนผม หลายคน ยังท้วงติงว่าไม่เสียดายเงินหรอวะ
    แล้วยังไงล่ะ มรึงยังแต่งมอไซค์มรึงไปเกือบแสนเลย ต่างอะไรกะกรู กรุชอบเว้ยแสด

    แรงแล้วอย่าประมาทนะครับ เงินทั้งนั้น คนข้างหลังยังรออยู่
     
< Previous Thread | Next Thread >

แบ่งปันหน้านี้