เห็นด้วยครับ:sad: :cry: อันนี้ก็เห็นด้วยเหมือนกันครับ แต่มันคงเป็นเพราะเค้าแปลจากของญี่ปุ่นมาตรงๆ ซึ่งตอนนี้ (ผมคิดว่า) ญี่ปุ่นน่าจะกำลังนิยม 2 รุ่นนี้ ความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมยังคิดว่าเนื้อหาช่วงหลังๆของเล่ม (หนังสือแปลจากญี่ปุ่น) ที่เป็นเนื้อหาของรถบ้านเรา อ่านแล้วมันยังไม่แน่นเหมือนช่วงครึ่งแรกของเล่มอ่ะครับ อ่านแล้วมันขัดๆกันนิดนึง อยากให้ทีม บก. อัดข้อมูลให้แน่นกว่านี้ขึ้นไปอีก ไม่ต้องละเอียดเหมือนของญี่ปุ่นก็ได้ แต่ขอเพิ่มกว่านี้ซักหน่อย หรือผมลองคิดเองเล่นๆนะครับ ลองเอาคอลัมน์ของญี่ปุ่นเค้ามาใช้ (รูปแบบ ลักษณะการทดสอบรถ ลักษณะการนำเสนอ ฯลฯ) แต่เปลี่ยนให้ภายในคอลัมน์เป็นรถในบ้านเราเอง อะไรแบบนี้ น่าจะออกมาสนุกดี ส่วนอันนี้ฝากถึงหนังสือรถบ้านเรานะครับ อยากให้เอารถที่มาลงเป็นรถบ้านๆหน่อย บางเล่มเป็นรถที่มันสุดเกินไป จนคนอ่านทั่วๆไป (อย่างผม) ไม่อาจเอื้อมถึงน่ะครับ...เพราะนี่ก็เป็นเหตุผลนึงที่ผมไม่ค่อยซื้อหนังสือรถมาหลายปี ขอบคุณครับ
ถ้าอยากได้จริงๆก่อนซื้อก็ต้องดูเนื้อหาคร่าวๆก่อน แต่ปัญหาคือ ร้านหนังสือบางร้านห่อพลาสติก เลยเปลี่ยนจากซื้อมาเป็นยืมเพื่อนอ่านแทน อิอิ
ทางสำนักพิมพ์คงแปลผิดเล่มแล้วละครับ ซึ่งทางยุ่นเค้ามีนะครับเพราะคนส่วนมากก็ยังเล่นรถรุ้นเก่ากันอยู่เยอะจึงมีหนังสือ option2 มาเพื่อลดช่องว่างตรงนี้ แต่ถ้าจะเอาใหม่ล่าก็ option แต่ผมว่าก็ควรจะถามความต้องการของผู่อ่านด้วยก็ดีนะครับ
ถ้าจะ "ซื้อ" หนังสือรถ ผมซื้อ Auto Blind หรือ Top Gear ของไทยจะซื้อ มอเตอร์มาร์ต พวกนี้ซื้อประจำ อ่านแล้วอัพเดต ได้สาระดี รู้ว่าโลกยานยนต์มันไปไหนแล้ว ส่วนเกี่ยวกับรถแต่ง ผมเปิดเว็บอ่านเอาสนุกกว่า ถ้าไม่เจอเล่มที่สนใจจริง ๆ ก็ไม่ซื้อคับ
เรื่องไกลตัวผมก็รู้สึกนะคับ เน้นมากพวกรถที่บ้านเราแทบไม่มีใช้ อยากให้แปลแบบเล่มเก่าหน่อยก็ได้ ให้มันสอดคล้องกะรถในบ้านเรา ถ้าแก้ตรงนี้ได้ ผมว่าคนซื้อสนใจเพียบแน่ๆ
Busines is Busines ครับ ผผู้บริโภคอย่างเราทางเลือกมันน้อย แต่อีกเหตุผลที่ทำให้หนังสือบ้านเรามันเป็นแบบนี้คงเพราะธุรกิจในแวดวงนี้ มันยังไม่ได้แพร่หลายเหมือนต่างประเทศ เนื้อหาสาระ งานแข่ง หรือแนวการแต่ง มันจึงวนเวียนจนไม่รู้จะนำเสนออะไรกันดีแล้วหละครับ แต่ก็ยังเอาใจช่วยคนทำหนังสือทุกคนครับ ปล.เล่มไหนหน้าปกสวยค่อยซื้อ สาระข้างในผมว่าคล้ายๆ กันทุกเล่มเลยอะ น่าเบื่อ
เมื่อก่อนเห็นหนังสือรถนี่แทบจะวิ่งเข้าใส่ ............... เดี๋ยวนี้จำไม่ได้แล้วว่าครังสุดท้ายที่ซื้อนี่เดือนไหน สาระน้อยมากไม่ได้อะไร และไม่มีอะไรแปลกใหม่ นอกจากตู้มๆๆๆ เลยยืนดูแล้วก็.....ไม่ซื้อ ฮ่าๆๆ
เมื่อก่อนซื้อทุกเล่มที่เกี่ยวกับรถ แต่เดี๋ยวนี้เลือกซื้อเป็นบางเล่มอย่างพวกหนังสือลิขสิทธิ์ของญี่ปุ่นเนี่ยก็ดีนะเนื้อหาเยอะ อ่านจนตาลาย -*-
ก็ต้องเข้าใจเขาคับ หนังสืออยู่ได้ด้วยโฆษณาทั้งนั้น แต่ถ้าเชียร์หรืออวยกันมากไป คนอ่านเค้าก็รู้สึกนะครับ ขอนิดนึงทำไม บางเล่มถึงลงแต่BMอะคับคือชอบนะBMแต่เยอะๆมันเอียนอะ ระวังจะเสียแชมป์ให้หัวญี่ปุ่นนะครับ
ไม่ได้ซื้อนานแล้วเหมือนกัน รถสวยๆน่ะหาดูที่ไหนก็ได้ แต่ข้อมูลดีๆนี่ มันก็หาอ่านยากเหมือนกันนะนอกจากหนังสือนอก
ใจผมชอบ option นะ แรกๆลงเรื่องเทอร์โบ สาระเต็มๆได้ใจมาก ต่อๆมาจะเป็นพวกเครื่องตระกูลต่างๆ อันนี้ก็ดีมากครับขอชม แต่หลังๆหนักไปทางพวก IMหน้าแมว(อันนี้ไม่ว่าเพราะบ้านเราขับกันเยอะพอควร) , 7 , cr-z หรือ r35 มากไปหน่อย ชุดแต่งก็เทพมาก แต่บ้านเราใช้กันน้อยมาก แต่ก็ยังติดตามนะครับ ให้กำลังใจกันต่อไป เพื่อจะปรับเนื้อหาให้เข้ากับรถแต่งในบ้านเรา ส่วนเรื่องผู้หญิงไม่ขอพูดครับ ผมถือว่าธรรมดา หนังสือที่มีฮาร์ดกว่านี้มีเยอะครับเลยธรรมดา แต่น่ารักแจ่มๆทุกเล่มจะดีมากครับ งุงิๆ ส่วนหนังสือหัวอื่นๆผมไม่ค่อยได้อ่านเลยครับเลยไม่รู้ว่าเป็นยังไงขอพูดแค่หัวเดียวละกันนะ ปล. เหยี่ยวเจ้าของกระทู้งามมากครับ
เห็นด้วยอย่างแรง โดยส่วนตัวผม อ่านหนังสือ ญี่ปุ่นก็ได้ ความรู้ไม่ได้มากกว่าอ่านหนังสือของไทยเท่าไรหรอก เพราะ ของแต่ล่ะชิ้นขั้นเทพ ชุดคิดตรงรุ่นอย่างนี้ อ่านแล้ว รู้สึกว่าไม่มีปัญญาจะซื้อมาได้ เพราะ รถแต่ล่ะคันก็เทพๆ ทั้งนั้น หนังสือ บ้านเรา บ้างเล่นอ่านแล้วได้ประโยนช์เยอะกว่าอีก เพราะ รู้จักดัดแปลง เอาของที่ คนธรรมดา หาซื้อได้มาทำให้แรง ปล ความคิดเห็นส่วนตัว นะคับ
ใช่ผมก็เห็นด้วยนะ ผมเองก็เริ่มเบื่อแล้ว พักหลังๆเน้นไปที่การขายของ และรถที่เอามาลงก็เป็นรถที่คนส่วนน้อยใช่......จริงๆ ถ้าเนื้อหาไม่โดนก็ไม่ซื้อ ผมว่านะหนังสือมันต้องให้ความรุ้เรื่องรถเทคนิคการดูแลรักษา ที่อายุการใช่งานต่างๆ มีอู่ที่เป็นสปอนเซอร์แนะนำ และพาดูเทคนิคการดูแลรักษาที่ถูกต้อง รถตลาดพวกนี้ จะมีซักกี่คนทำลงทุนแต่งรถตัวเอง ด้วยเงินที่มีราคาเท่าตัวรถใหม่ จริงๆเอาแค่ เทคนิคการดูแลรักษา แล้วก็ทำเป็นสเตปไปในแต่ละส่วน....น่าจะดีกว่าปัจจุบันเลิกอ่านเลิกซื้อ ถ้าไม่โดนจริงๆก้ไม่ซื้อเพราะเนื้อหาน่าเบื่อมากและคนงบน้อยแบบผมก็คงไม่มีปัญญาไปซื้อรถราคาหลักล้าน และทำเครื่องขนาดเปิดเครื่องมาทำฝาทำแคมเปลี่ยนลุกสูบ ก้าน ข้อเหวี่ยง หรอก......อย่างมากก็ท่อไอเสีย ใส่ กล่อง ใส่กรอง ทำช่วงล่าง เพื่อให้มั่นใจในการขับรถ หนังสือรถส่วนใหญ่จะพูดแต่ภาพรวม ไม่เคยพูดถึงรายละเอียด..การขับขี้ รถบ้าน รถ ถนน แต่งเพื่อวัตถุประสงคือะไร.....ตอนนี้มันเป็นแค่การแต่งโชว์.......
เมื่อสิบปีแล้ว ซื้อหนังสือพวกแต่งรถเยอะ แต่ตอนนี้เลิกซื้อแล้วครับ เบื่อการโฆษณาเยอะเพิ่มขึ้นด้วย มาขายดีด้วยใช่ไหมครับ แต่หยิบมาอ่านฟรีๆเป็นประจำเลย ไม่เสียเงินด้วย อิอิอิ
ผมซื้อทุกเดือน xo / carper / opt thailand เท่านั้น และอีกอย่าง ถ้าไม่มีโฆษณา ก็ไม่เกิดหนังสือ มาให้ เราๆ ท่านๆ อ่าน และติเตียนแบบนี้อย่างแน่นอนครับ
ใช่ครับในเมื่อเราเปนผู้บริโภคเราต้องมีสิทธิ์เลือก ในสิ่งที่เราต้องการ ผมไม่จับต้องเลยหนังสือพวกนี้ นอกจากว่ามีของเเถมเค้าจำเปนต้องหุ้มซอง
น่าจะทำคอลั่มให้ต่างกันไปนะ ทั้งนี้ทั้งนั้นผมว่าขึ้นอยู่กับไอเดียคนทำอีกด้วยว่าจะนำเสนออะไรใหม่ๆ นอกจากรูปรถและ Layout รถบ้านๆ สวยๆ ที่นำมาแต่งกันใหม่ๆ ก็เยอะนะ น่าจะดึงคันที่มีสไตล์นอก หรือ mix & match หรือนำมาประกบคู่กันไป เจาะรายละเอียดกันไป เปิดมากี่ทีก็ มีแต่ยุโรปราคาแพง Sport ญี่ปุ่น 2 ประตูรุ่นเดิมๆ กี่เล่มๆ ก็มีแต่รุ่นนี้ อย่าลืมว่าผู้บริโภคไม่ได้มีแต่รถระดับราคาแพงๆ อย่างเดียว ความเห็นส่วนตัวครับ
1.รถคันเดียวลงในเครือหากินหลายเล่ม... 2.โฆษณาเยอะ บางทีไม่รู้ดีจิงป่าวร้านที่ลง 3.ซื้อเป็นบางเล่ม เลือกเฉพาะที่โดนๆอยากเก็บจิงๆ 4.ส่วนใหญ่ที่ห่อพลาสติกมักจะห่วย จาก ประสบการณ์
เลิกซื้อตั้งแต่มีเนื้อหา(บ้าง)ที่หน้าซ้าย และเอาหญิงจากหนังสือเครื่องเสียงมาวนลง ส่วนเล่มอื่นๆเลิกเพราะเปิดผ่านๆก็พอละ ไม่มีอะไรใหม่ แม้กระทั้งโฆษณา จะเสียตังค์เกือบร้อยเพื่ออะไร (แต่ก็ซื้อมาได้สิบกว่าปี) + อ้างถึง ตอบกลับ