เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
Articles
>
การดัดแปลงรถยนต์เพื่อเพิ่มสมรรถนะเชิงอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics Modification For Better Fuel Efficiency)
>
ตอบกลับหัวข้อ
ชื่อ:
การตรวจสอบ:
กรุณาเปิดใช้งานจาวาสคริปต์เพื่อดำเนินการต่อ
กำลังโหลด...
ข้อความ:
<p>[QUOTE="RacingWeb, post: 2080843, member: 9984"]<b>4.โบทเทลลิ่ง (Boat-tailing)</b></p><p>ในการออกแบบรถให้มีแรงต้านอากาศต่ำนั้น (Low drag vehicle) นอกจากจะต้องมีรูปทรงปราดเปรียวเพื่อให้อากาศไหลผ่านได้สะดวกแล้ว ยังต้องคำนึงถึงกระแสของอากาศที่ปล่อยออกมาทางด้านท้ายรถด้วย ปกติแล้วอากาศที่ถูกปล่อยออกมาทางท้ายรถจะมีลักษณะเป็น "ลมหมุน" (Wake at rear-end of vehicle) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของแรงต้านอากาศ ยิ่งมีลมหมุนมากก็จะมีแรงต้านอากาศมาก ดังนั้นจึงเกิดความพยายามที่จะลดขนาดของลมหมุนดังกล่าวให้มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้มีการค้นคว้าและวิจัยว่า ท้ายรถต้องมีรูปร่างแบบใดจึงจะทำให้การไหลของอากาศมีความปั่นป่วนน้อยที่สุด จากการคำนวนและทดสอบในอุโมงค์ลมครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็ได้คำตอบว่า รูปร่างของท้ายรถที่ทำให้การไหลของอากาศมีความปั่นป่วนน้อยที่สุด จะต้องมีรูปร่างคล้ายกับหางของเรือ นั่นคือ เมื่อมองจากด้านบนแล้ว ท้ายรถลู่เข้ามาหากัน จึงเป็นที่มาของคำว่า "Boat-tailing" นั่นเอง</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh6.googleusercontent.com/-NiH6NZJfVcc/Ua5X7Y-O78I/AAAAAAAABO4/jAR_dXxY7To/s414/ad-14.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://lh6.googleusercontent.com/-cqp4LEvNLxQ/Ua5X7wuI6MI/AAAAAAAABPE/_UEDXMih3uw/s640/ad-15.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">GM EV1</p><p><br /></p><p>การโมดิฟายแบบนี้ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมากที่สุด แต่ก็เป็นการโมดิฟายที่ลดแรงต้านอากาศได้มากที่สุด เรียกได้ว่า ลงทุนมากก็ได้กำไรมาก วิธีนี้จะเห็นผลมากที่สุดเมื่อโมดิฟายกับรถแฮทช์แบค เพราะว่ารถแฮทช์แบคจะสร้างลมหมุนขนาดใหญ่ที่ท้ายรถ ดังนั้นการโมดิฟายแบบ Boat-tailing จะช่วยให้ขนาดของลมหมุนลดลงอย่างมาก แรงต้านอากาศจึงลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh5.googleusercontent.com/-C-BYRGdOnSw/Ua5X9e2BqaI/AAAAAAAABPM/MSLwCgnB4Jk/s468/ad-16.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://lh6.googleusercontent.com/-bjeM9682i4g/Ua5X-0hoxII/AAAAAAAABPY/hO3zAxXjfuA/s468/ad-17.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://lh6.googleusercontent.com/-PImCmbLNUFY/Ua5X-_q02QI/AAAAAAAABPc/LOqqAG94hW4/s468/ad-18.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">Pontiac Firefly</p><p><br /></p><p>ในปี 2009 Darin Cosgrove ชาวแคนนาเดียน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ <a href="http://www.metrompg.com/" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.metrompg.com/" rel="nofollow">Home - MetroMPG.com - Geo Metro, Chevrolet Metro / Swift, Pontiac Firefly, Suzuki Swift fuel economy info</a> (เป็นเว็ปไซต์เกี่ยวกับการโมดิฟายรถยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง) ได้ทำการโมดิฟายรถ Pontiac Firefly ปี 1989 ซึ่งเป็นรถของเขาเอง โดยการประดิษฐ์ Boat-tail ขึ้นมาเอง ซึ่งมีโครงสร้างหลักเป็นอะลูมิเนียมและไม้อัด มีพื้นผิวเป็นกระดาษแข็ง น้ำหนักรวมประมาณ 5.5 กิโลกรัม อีกทั้งยังได้ติดตั้งสเกิร์ตปิดล้อหลังอีกด้วย จากนั้นได้ทำการทดสอบเพื่อหาความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการโมดิฟาย ผลปรากฎว่า สามารถลดค่า Cd จาก 0.34 เหลือเพียง 0.23 เท่านั้น นั่นเท่ากับว่าลดลงถึง 30% ซึ่งส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 15%![4] ว่าแต่...มันสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ไหม? ดูไม่ค่อยแข็งแรง แถมยังดูเทอะทะอีกต่างหาก Darin Cosgrove กล่าวว่า เวอร์ชั่นนี้เป็นเพียงเวอร์ชั่นต้นแบบเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงเวอร์ชั่นต้นแบบ แต่ผลการทดสอบที่ออกมาก็ถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างมาก เวอร์ชั่นต้นแบบนี้มีความยาวประมาณ 1.4 เมตร เมื่อติดตั้งเข้ากับรถแล้วจะทำให้รถมีความยาวมากกว่า Toyota Camry เพียงนิดหน่อยเท่านั้นเอง ถือว่าไม่ได้เกะกะอะไรมากนัก และแน่นอนว่าจะต้องมีการพัฒนาต่อไปอีก เพื่อให้มีขนาดกระทัดรัด แข็งแรงมากกว่าเดิม และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh4.googleusercontent.com/-vQnB81Zc7SI/Ua5YArurvaI/AAAAAAAABPk/5sOXJiAIic8/s640/ad-19.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">GM EV1</p><p><br /></p><p>"General Motor EV1" เป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% ผลิตและจำหน่ายในปี 1996-1999 บริษัทผู้ผลิตคือ General Motors Corporation หรือเรียกย่อๆว่า "GM" ด้วยความปราถนาอย่างแรงกล้าของ GM ที่ต้องการจะผลิตรถที่ใช้พลังงานน้อยที่สุดในโลก ทำให้ EV1 ถือกำเนิดขึ้นมา ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอัจฉริยะ ตัวถังน้ำหนักเบาและแอโรไดนามิคส์ขั้นสูง โดยเฉพาะแอโรไดนามิคส์นั้น สเกิร์ตปิดล้อหลัง ล้อที่มีแรงต้านอากาศต่ำ กระจกข้างลู่ลม และโบทเทลลิ่ง ทั้งหมดนี้ทำให้ EV1 เป็นรถที่ค่า Cd ต่ำที่สุดในโลก โดยมีค่า Cd เพียงแค่ 0.195 เท่านั้นเอง![5]</p><p><br /></p><p><b>5.การปิดช่องลมด้านหน้ารถ (Grille block)</b></p><p>เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า แรงต้านของอากาศทำให้รถเคลื่อนที่ลำบากขึ้น ใช้พลังงานมากขึ้น สรุปว่าอากาศมันมีแต่ข้อเสีย ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยใช่ไหม? จะพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนัก ความจริงแล้ว อากาศมีประโยชน์มหาศาล อยู่ที่ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากมันได้มากน้อยแค่ไหน ตัวอย่างของรถที่ใช้ประโยชน์จากอากาศได้มากที่สุด คือ รถแข่งฟอร์มูล่าวัน รถแข่งประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้สร้างแรงกดจากอากาศ (Aerodynamic down-force) ให้ได้มากที่สุด แรงกดที่ว่านี้จะทำให้รถแข่งสามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วที่สูงมาก นอกจากการสร้างแรงกดแล้ว อากาศยังมีประโยชน์ในการระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ โดยการแลกเปลี่ยนความร้อนกับน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ ซึ่งการแลกเปลี่ยนความร้อนนี้จะเกิดขึ้นที่หม้อน้ำ เมื่อแลกเปลี่ยนความร้อนไปแล้ว น้ำหล่อเย็นจะเย็นลง เพื่อไประบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ต่อไป ถึงอย่างไรก็ตาม ประโยชน์ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมา ทั้งการใช้อากาศเพื่อสร้างแรงกดและการใช้อากาศเพื่อระบายความร้อน เป็นอะไรที่ไม่ได้มาฟรีๆ แต่ต้องแลกมาซึ่งแรงต้านอากาศตามเคย</p><p><br /></p><p>เชื่อหรือไม่ว่า การใช้อากาศเพื่อระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของแรงต้านอากาศ เนื่องจากอากาศต้องไหลผ่านหม้อน้ำ ซึ่งหม้อน้ำนี่เองเป็นตัวขวางทางการไหลของอากาศ ทำให้เกิดแรงต้านอากาศขึ้น นั่นหมายความว่าถ้าเอาหม้อน้ำออก ก็จะลดแรงต้านอากาศได้ใช่ไหม? ใช่แล้ว ถูกต้องที่สุด แต่มีข้อแม้อยู่ว่า ต้องปิดช่องที่อากาศไหลเข้าไปด้วยนะ การปิดช่องอากาศเหล่านี้จะกั้นอากาศไม่ให้ไหลเข้าเครื่องยนต์ ทำให้อากาศไหลผ่านรถมีความเป็นระเบียบมากขึ้น แรงต้านอากาศจึงลดลงการปิดช่องอากาศเพื่อกั้นไม่ให้อากาศไหลเข้าห้องเครื่องยนต์นี้ เรียกว่า "Grille block" นั่นเอง</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh4.googleusercontent.com/-dLByCNdQ5is/Ua5YA1pSoqI/AAAAAAAABPs/UvJFk0wLLOk/s450/ad-20.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">Honda Civic</p><p><br /></p><p>เอ๊ะ!? แต่เดี๋ยวก่อนนะ ไปปิดช่องลมเข้าหม้อน้ำอย่างนี้ เครื่องยนต์ก็ได้โอเวอร์ฮีทกลับบ้านเก่ากันพอดี ปัญญาอ่อนป่ะเนี่ย? ฟังให้จบก่อนครับ โอเวอร์ฮีทแน่นอนถ้านำมาประยุกต์ใช้ในเมืองร้อนอย่างประเทศไทย แต่สำหรับเมืองนอกที่อุณหภูมิต่ำๆ การโมดิฟายแบบนี้ทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้นไม่มากนัก จึงนับเป็นการโมดิฟายที่นับว่ามีประสิทธิภาพที่สุดอีกวิธีหนึ่ง ความจริงแล้ว การปิดช่องลมไม่จำเป็นต้องปิดหมดทุกช่องก็ได้ จะปิดมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิเครื่องยนต์เป็นหลัก เคยมีการโมดิฟายแล้วสามารถลดแรงต้านอากาศได้มากถึง 10% โดยที่เครื่องยนต์ไม่เกิดการโอเวอร์ฮีทแต่อย่างใด และเนื่องจากการโมดิฟายแบบนี้ สามารถทำเองได้ มีค่าใช้จ่ายน้อย ติดตั้งง่าย และใช้งานได้จริง ทำให้การโมดิฟายลักษณะนี้เป็นหนึ่งในการโมดิฟายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกวิธีหนึ่ง</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh3.googleusercontent.com/-X-_QEBkvFno/Ua5YCnR63GI/AAAAAAAABP4/IG6k-EPmkn8/s640/ad-21.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">Pontiac Vibe</p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://lh4.googleusercontent.com/-_bdV_JktoCo/Ua5YCp_rAOI/AAAAAAAABP8/5xCFU5SkIgM/s455/ad-22.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">Toyota Yaris Sedan or Vios</p><p><br /></p><p>นอกจากจะช่วยลดแรงต้านอากาศแล้ว ขณะที่สตาร์ทเครื่องยนต์ในอุณหภูมิต่ำมากๆ การปิดช่องลมยังทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น จนถึง "อุณภูมิทำงาน" (Operating temperature) ได้เร็วกว่าปกติ ที่อุณหภูมินี้จะเป็นอุณหภูมิที่เครื่องยนต์สามารถใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และการที่เครื่องยนต์สามารถทำงานที่อุณหภูมิทำงานได้เร็วขึ้น นั่นหมายความว่า อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะว่าขณะที่เครื่องยนต์ทำงานที่อุณหภูมิต่ำจะมีอัตราการสึกหรอมากกว่านั่นเอง สรุปได้ว่า การปิดกระจังหน้ามีข้อดีอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกก็คือ ลดแรงต้านอากาศโดยการกั้นไม่ให้อากาศไหลเข้าไปในห้องเครื่องยนต์มากเกินความจำเป็น อย่างที่สองก็คือ ทำให้เครื่องยนต์ร้อนเร็วขึ้นหรือใช้เวลาในการวอร์มเครื่องยนต์น้อยลงนั่นเอง</p><p><br /></p><p>แล้วประเทศร้อนอย่างบ้านเราล่ะ หมดสิทธิ์โมดิฟายแบบนี้ใช่ไหม? ก็ไม่ถึงกับทำไม่ได้นะ แต่ต้องออกแบบดีๆ หน่อย ออกแบบแต่พอดีไม่ต้องโลภมาก กั้นลมแค่พอประมาณก็พอไม่ต้องปิดช่องลมทั้งหมด แต่คำถามสำคัญก็คือ แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้องกั้นแค่ไหนถึงจะพอดี? อันนี้ก็คงต้องทดลอง ทดสอบ ลองผิดลองถูกกันไป อืม...ยุ่งยากไปไหม ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ? งั้นต้องวิธีนี้เลย "Active Grille Shutters" เป็นการใช้ครีบเปิด-ปิดเพื่อรับลมเข้าหม้อน้ำอย่างอัตโนมัติ เมื่อใดก็ตามที่เครื่องยนต์ยังไม่ร้อนมาก ครีบจะปิดไม่ให้อากาศไหลผ่านหม้อน้ำ การกั้นอากาศในลักษณะนี้จะทำให้แรงต้านอากาศของรถลดลง ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงเกินไป ครีบจะเปิดเพื่อรับอากาศมาหล่อเย็นเครื่องยนต์ หากใช้วิธีนี้แล้ว รับรองว่าเครื่องยนต์ไม่มีทางโอเวอร์ฮีทลาโลกไปก่อนอย่างแน่นอน</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://lh3.googleusercontent.com/-RV54qUzz574/Ua5YDfmrpcI/AAAAAAAABQE/tOf-y2c2rwM/s593/ad-23.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://lh6.googleusercontent.com/-xxIAa753FEw/Ua5YEt1J88I/AAAAAAAABQM/XceHaBHRHBc/s640/ad-24.png" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">Ford Focus</p><p><br /></p><p>เทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง "Active Grille Shutters" เรียกย่อๆว่า "AGS" ถูกนำมาใช้กับ New Ford Focus 2012 รถยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีแห่งยุคอนาคต ฟอร์ดโฟกัสรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อน โดยเฉพาะในด้านแอโรไดนามิคส์ เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนแล้วสามารถลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศได้มากถึง 7.8%[6] ถือว่าลดได้เยอะมากๆ และแน่นอนว่าเทคโนโลยี AGS ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดแรงต้านอากาศในครั้งนี้ด้วย วัตถุประสงค์หลักของเทคโนโลยี AGS ก็คือลดแรงต้านอากาศ ซึ่งจะทำให้อัตราการบริโภคน้ำมันลดลง นอกจากนี้ ผลพลอยได้อันเนื่องมาจากแรงต้านอากาสที่ลดลง ยังทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีก 2%</p><p><br /></p><p>ย่อหน้านี้จะเป็นการอธิบายหลักการทำงานของเทคโนโลยี AGS ในฟอร์ดโฟกัส อย่างที่ได้อธิบายหลักการทำงานคร่าวๆ ไปแล้วว่า เทคโนโลยี AGS เป็นการใช้ครีบเพื่อเปิด-ปิด เพื่อรับลมเข้าหม้อน้ำ แต่สำหรับ AGS ที่ติดตั้งในฟอร์ดโฟกัสนั้นสามารถ เปิด-ปิด ได้ทั้งหมด 15 ระดับขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ ขณะที่เครื่องยนต์ต้องการระบายความร้อน ครีบจะเปิดรับลมเพื่อเข้าหมอน้ำอย่างเต็มที่ เช่น ในขณะรถติดหรือขับในเมืองด้วยความเร็วต่ำ แต่ขณะที่เครื่องยนต์มีอุณหภูมิไม่มากนัก ครีบจะปิดเพื่อกั้นไม่ให้ลมไหลผ่านหม้อน้ำ เช่น ในขณะการขับรถความเร็วสูงบนไฮเวย์ ซึ่งการปิดกั้นลมจะทำให้แรงต้านอากาศลดลง อัตราการบริโภคน้ำมันจึงลดลง นอกจากนี้ฟอร์ดยังเคลมว่า เทคโนโลยี AGS สามารถลดการใช้ก๊าซคาร์บอกไดออกไซด์ได้ 2% ซึ่งเป็นผลมาจาก การที่แรงต้านอากาศลดลง ส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องการกำลังน้อยลง ปริมาณน้ำมันที่ฉีดจึงน้อยลง ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ลดลงนั่นเอง</p><p><br /></p><p><b>บทสรุป</b></p><p>ในประเทศแคนนาดา มีคนกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบการโมดิฟายรถยนต์เป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่ใช่การโมดิฟายให้รถมีความแรงขึ้นหรือเร็วขึ้นแต่ประการใด แต่เป็นการโมดิฟายเพื่อให้รถของพวกเขาสามารถใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรียกง่ายๆว่า ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้รถประหยัดน้ำมันมากที่สุด เว็บไซต์ของพวกเขาคือ <a href="http://www.ecomodder.com" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://www.ecomodder.com" rel="nofollow">Fuel Economy, Hypermiling, EcoModding News and Forum - EcoModder.com</a> สำหรับผู้ชนะในการโมดิฟายรถให้แรงนั้น คือผู้ที่สามารถทำความเร็วได้มากที่สุด แต่สำหรับการโมดิฟายรถเพื่อให้ประหยัดน้ำมัน ผู้ที่ชนะคือผู้ที่สามารถทำระยะทางได้มากที่สุดโดยใช้เชื้อเพลิงน้อยที่สุด ที่เมืองนอกเขาเรียกว่า "MPG" ย่อมากจาก "Miles per gallon" ซึ่งหมายความว่า เชื้อเพลิง 1 แกลลอน สามารถวิ่งได้กี่ไมล์ ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านเราก็คือ กิโลเมตรต่อลิตรนั่นเอง (Km/l) เหล่านักโมดิฟายทั้งหลายต่างทำทุกอย่างเพื่อจะทำให้รถมี MPG มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับจูนเครื่องยนต์ เปลี่ยนอัตราทดเกียร์ รวมไปถึงการลดน้ำหนักรถยนต์ แต่การโมดิฟายที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ "การโมดิฟายแอโรไดนามิคส์" เหตุผลที่ได้รับความนิยมนั้นก็เป็นเพราะว่า "ทำง่ายและมีค่าใช้จ่ายน้อย" เรียกได้ว่า DIY ที่โรงรถได้เลย และการที่สามารถ DIY เองได้โดยใช้ค่าใช้จ่ายเพียงน้อยนิดนี้แหละที่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการโมดิฟายเพื่อเพิ่มแอโรไดนามิคส์</p><p><br /></p><p>การโมดิฟายเพื่อเพิ่มแอโรไดนามิคส์ เป็นเพียงวิธีหนึ่งในอีกหลายวิธีที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง นอกจากนี้ "พฤติกรรมการขับขี่" ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลโดยตรงต่ออัตราการบริโภคเชื้อเพลิง ถึงแม้จะมีรถไฮบริดประสิทธิภาพสูง มีระบบช่วยประหยัดพลังงานอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่ถ้าหากขับแบบจะไปอย่างเดียว ออกตัวก็กดคันเร่งสุด ตอนเบรคก็กดเบรคสุด ถ้าขับแบบนี้ ถึงแม้จะมีระบบไฮบริดสุดไฮเทคแต่ก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เรียกได้ว่า รถออกแบบมาให้ประหยัด แต่คนขับไม่อยากประหยัด ก็ไม่รู้จะออกแบบมาให้ประหยัดเพื่ออะไร? ก็เลือกเอาแล้วกันว่าอยากจะเห็นตัวเลขอะไรเยอะกว่ากัน ระหว่างตัวเลขกิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือว่า ตัวเลขกิโลเมตรต่อลิตร <img src="styles/default/xenforo/clear.png" class="mceSmilieSprite mceSmilie1" alt=":)" unselectable="on" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p><b>อ้างอิง (References)</b></p><p>[1] Alessandro Talamelli, Introduction of Vehicle Aerodynamics, Royal Institute of Technology; Stockholm, Sweden</p><p>[2] <a href="http://en.wikipedia.org/wiki/Honda_Insight" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://en.wikipedia.org/wiki/Honda_Insight" rel="nofollow">Honda Insight - Wikipedia, the free encyclopedia</a></p><p>[3] <a href="http://ecomodder.com/forum/showthread.php/project-geo-metro-boat-tail-prototype-15-mpg-10691.html" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://ecomodder.com/forum/showthread.php/project-geo-metro-boat-tail-prototype-15-mpg-10691.html" rel="nofollow">Project: Geo Metro boat tail prototype - 15% MPG improvement @ 90 kph / 56 mph - Fuel Economy, Hypermiling, EcoModding News and Forum - EcoModder.com</a></p><p>[4] <a href="http://ecomodder.com/forum/showthread.php/experiment-smooth-wheel-discs-tested-b-4-6-a-4368.html" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://ecomodder.com/forum/showthread.php/experiment-smooth-wheel-discs-tested-b-4-6-a-4368.html" rel="nofollow">Experiment: smooth wheel discs tested A-B-A - 4.6% mpg improvement @ 65 mph - Fuel Economy, Hypermiling, EcoModding News and Forum - EcoModder.com</a></p><p>[5] <a href="http://en.wikipedia.org/wiki/General_Motors_EV1" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://en.wikipedia.org/wiki/General_Motors_EV1" rel="nofollow">General Motors EV1 - Wikipedia, the free encyclopedia</a></p><p>[6] <a href="http://media.ford.com/article_display.cfm?article_id=33939" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://media.ford.com/article_display.cfm?article_id=33939" rel="nofollow">STREAMLINED ALL-NEW FORD FOCUS SIGNIFICANTLY REDUCES AERODYNAMIC DRAG, ADDING FUEL EFFICIENCY | Ford Motor Company Newsroom</a></p><p><br /></p><p><b>ขอขอบคุณ (Special Thanks)</b></p><p>[1] <a href="http://autospeed.com.au/" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://autospeed.com.au/" rel="nofollow">AutoSpeed - Technology, Efficiency, Performance</a></p><p>[2] <a href="http://ecomodder.com/" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://ecomodder.com/" rel="nofollow">Fuel Economy, Hypermiling, EcoModding News and Forum - EcoModder.com</a></p><p>[3] <a href="http://thenaritadogfight.com/" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://thenaritadogfight.com/" rel="nofollow">| Live for motor sport Japan</a></p><p>[4] <a href="http://world.honda.com/" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://world.honda.com/" rel="nofollow">Honda Worldwide : Honda Motor Co.,Ltd.</a></p><p><br /></p><p style="text-align: center"><span style="color: #FF0000">***ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทั้งเนื้อหาภายในบทความรวมไปถึงรูปภาพประกอบของบทความนี้ </span></p> <p style="text-align: center"><span style="color: #FF0000">ดังนั้น <b>ห้ามเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของบทความนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต</b></span></p> <p style="text-align: center"><span style="color: #FF0000">เนื่องด้วยรูปภาพประกอบบทความทั้งหลายนี้ ผู้เขียนได้ทำการขออนุญาตจากเจ้าของภาพอย่างถูกต้องแล้ว </span></p> <p style="text-align: center"><span style="color: #FF0000">ดังนั้นการนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของรูปภาพ อีกทั้งยังละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เขียนอีกด้วย </span></p> <p style="text-align: center"><span style="color: #FF0000"><br /></span></p> <p style="text-align: center"><span style="color: #FF0000">***หากต้องการนำไปเผยแพร่ ให้ขออนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้เขียนผ่านทาง E-mail ก่อนครับ ขอบคุณครับ</span></p> <p style="text-align: center"><span style="color: #FF0000">(Email : <a href="mailto:uppsala1989@hotmail.com">uppsala1989@hotmail.com</a>)</span></p><p>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="RacingWeb, post: 2080843, member: 9984"][B]4.โบทเทลลิ่ง (Boat-tailing)[/B] ในการออกแบบรถให้มีแรงต้านอากาศต่ำนั้น (Low drag vehicle) นอกจากจะต้องมีรูปทรงปราดเปรียวเพื่อให้อากาศไหลผ่านได้สะดวกแล้ว ยังต้องคำนึงถึงกระแสของอากาศที่ปล่อยออกมาทางด้านท้ายรถด้วย ปกติแล้วอากาศที่ถูกปล่อยออกมาทางท้ายรถจะมีลักษณะเป็น "ลมหมุน" (Wake at rear-end of vehicle) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของแรงต้านอากาศ ยิ่งมีลมหมุนมากก็จะมีแรงต้านอากาศมาก ดังนั้นจึงเกิดความพยายามที่จะลดขนาดของลมหมุนดังกล่าวให้มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้มีการค้นคว้าและวิจัยว่า ท้ายรถต้องมีรูปร่างแบบใดจึงจะทำให้การไหลของอากาศมีความปั่นป่วนน้อยที่สุด จากการคำนวนและทดสอบในอุโมงค์ลมครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็ได้คำตอบว่า รูปร่างของท้ายรถที่ทำให้การไหลของอากาศมีความปั่นป่วนน้อยที่สุด จะต้องมีรูปร่างคล้ายกับหางของเรือ นั่นคือ เมื่อมองจากด้านบนแล้ว ท้ายรถลู่เข้ามาหากัน จึงเป็นที่มาของคำว่า "Boat-tailing" นั่นเอง [CENTER][IMG]https://lh6.googleusercontent.com/-NiH6NZJfVcc/Ua5X7Y-O78I/AAAAAAAABO4/jAR_dXxY7To/s414/ad-14.png[/IMG] [IMG]https://lh6.googleusercontent.com/-cqp4LEvNLxQ/Ua5X7wuI6MI/AAAAAAAABPE/_UEDXMih3uw/s640/ad-15.png[/IMG] GM EV1[/CENTER] การโมดิฟายแบบนี้ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมากที่สุด แต่ก็เป็นการโมดิฟายที่ลดแรงต้านอากาศได้มากที่สุด เรียกได้ว่า ลงทุนมากก็ได้กำไรมาก วิธีนี้จะเห็นผลมากที่สุดเมื่อโมดิฟายกับรถแฮทช์แบค เพราะว่ารถแฮทช์แบคจะสร้างลมหมุนขนาดใหญ่ที่ท้ายรถ ดังนั้นการโมดิฟายแบบ Boat-tailing จะช่วยให้ขนาดของลมหมุนลดลงอย่างมาก แรงต้านอากาศจึงลดลงอย่างมากเช่นเดียวกัน [CENTER][IMG]https://lh5.googleusercontent.com/-C-BYRGdOnSw/Ua5X9e2BqaI/AAAAAAAABPM/MSLwCgnB4Jk/s468/ad-16.png[/IMG] [IMG]https://lh6.googleusercontent.com/-bjeM9682i4g/Ua5X-0hoxII/AAAAAAAABPY/hO3zAxXjfuA/s468/ad-17.png[/IMG] [IMG]https://lh6.googleusercontent.com/-PImCmbLNUFY/Ua5X-_q02QI/AAAAAAAABPc/LOqqAG94hW4/s468/ad-18.png[/IMG] Pontiac Firefly[/CENTER] ในปี 2009 Darin Cosgrove ชาวแคนนาเดียน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ [URL='http://www.metrompg.com/']Home - MetroMPG.com - Geo Metro, Chevrolet Metro / Swift, Pontiac Firefly, Suzuki Swift fuel economy info[/URL] (เป็นเว็ปไซต์เกี่ยวกับการโมดิฟายรถยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง) ได้ทำการโมดิฟายรถ Pontiac Firefly ปี 1989 ซึ่งเป็นรถของเขาเอง โดยการประดิษฐ์ Boat-tail ขึ้นมาเอง ซึ่งมีโครงสร้างหลักเป็นอะลูมิเนียมและไม้อัด มีพื้นผิวเป็นกระดาษแข็ง น้ำหนักรวมประมาณ 5.5 กิโลกรัม อีกทั้งยังได้ติดตั้งสเกิร์ตปิดล้อหลังอีกด้วย จากนั้นได้ทำการทดสอบเพื่อหาความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการโมดิฟาย ผลปรากฎว่า สามารถลดค่า Cd จาก 0.34 เหลือเพียง 0.23 เท่านั้น นั่นเท่ากับว่าลดลงถึง 30% ซึ่งส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 15%![4] ว่าแต่...มันสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ไหม? ดูไม่ค่อยแข็งแรง แถมยังดูเทอะทะอีกต่างหาก Darin Cosgrove กล่าวว่า เวอร์ชั่นนี้เป็นเพียงเวอร์ชั่นต้นแบบเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงเวอร์ชั่นต้นแบบ แต่ผลการทดสอบที่ออกมาก็ถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างมาก เวอร์ชั่นต้นแบบนี้มีความยาวประมาณ 1.4 เมตร เมื่อติดตั้งเข้ากับรถแล้วจะทำให้รถมีความยาวมากกว่า Toyota Camry เพียงนิดหน่อยเท่านั้นเอง ถือว่าไม่ได้เกะกะอะไรมากนัก และแน่นอนว่าจะต้องมีการพัฒนาต่อไปอีก เพื่อให้มีขนาดกระทัดรัด แข็งแรงมากกว่าเดิม และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม [CENTER][IMG]https://lh4.googleusercontent.com/-vQnB81Zc7SI/Ua5YArurvaI/AAAAAAAABPk/5sOXJiAIic8/s640/ad-19.png[/IMG] GM EV1[/CENTER] "General Motor EV1" เป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% ผลิตและจำหน่ายในปี 1996-1999 บริษัทผู้ผลิตคือ General Motors Corporation หรือเรียกย่อๆว่า "GM" ด้วยความปราถนาอย่างแรงกล้าของ GM ที่ต้องการจะผลิตรถที่ใช้พลังงานน้อยที่สุดในโลก ทำให้ EV1 ถือกำเนิดขึ้นมา ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอัจฉริยะ ตัวถังน้ำหนักเบาและแอโรไดนามิคส์ขั้นสูง โดยเฉพาะแอโรไดนามิคส์นั้น สเกิร์ตปิดล้อหลัง ล้อที่มีแรงต้านอากาศต่ำ กระจกข้างลู่ลม และโบทเทลลิ่ง ทั้งหมดนี้ทำให้ EV1 เป็นรถที่ค่า Cd ต่ำที่สุดในโลก โดยมีค่า Cd เพียงแค่ 0.195 เท่านั้นเอง![5] [B]5.การปิดช่องลมด้านหน้ารถ (Grille block)[/B] เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า แรงต้านของอากาศทำให้รถเคลื่อนที่ลำบากขึ้น ใช้พลังงานมากขึ้น สรุปว่าอากาศมันมีแต่ข้อเสีย ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยใช่ไหม? จะพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนัก ความจริงแล้ว อากาศมีประโยชน์มหาศาล อยู่ที่ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากมันได้มากน้อยแค่ไหน ตัวอย่างของรถที่ใช้ประโยชน์จากอากาศได้มากที่สุด คือ รถแข่งฟอร์มูล่าวัน รถแข่งประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้สร้างแรงกดจากอากาศ (Aerodynamic down-force) ให้ได้มากที่สุด แรงกดที่ว่านี้จะทำให้รถแข่งสามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วที่สูงมาก นอกจากการสร้างแรงกดแล้ว อากาศยังมีประโยชน์ในการระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ โดยการแลกเปลี่ยนความร้อนกับน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ ซึ่งการแลกเปลี่ยนความร้อนนี้จะเกิดขึ้นที่หม้อน้ำ เมื่อแลกเปลี่ยนความร้อนไปแล้ว น้ำหล่อเย็นจะเย็นลง เพื่อไประบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ต่อไป ถึงอย่างไรก็ตาม ประโยชน์ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมา ทั้งการใช้อากาศเพื่อสร้างแรงกดและการใช้อากาศเพื่อระบายความร้อน เป็นอะไรที่ไม่ได้มาฟรีๆ แต่ต้องแลกมาซึ่งแรงต้านอากาศตามเคย เชื่อหรือไม่ว่า การใช้อากาศเพื่อระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของแรงต้านอากาศ เนื่องจากอากาศต้องไหลผ่านหม้อน้ำ ซึ่งหม้อน้ำนี่เองเป็นตัวขวางทางการไหลของอากาศ ทำให้เกิดแรงต้านอากาศขึ้น นั่นหมายความว่าถ้าเอาหม้อน้ำออก ก็จะลดแรงต้านอากาศได้ใช่ไหม? ใช่แล้ว ถูกต้องที่สุด แต่มีข้อแม้อยู่ว่า ต้องปิดช่องที่อากาศไหลเข้าไปด้วยนะ การปิดช่องอากาศเหล่านี้จะกั้นอากาศไม่ให้ไหลเข้าเครื่องยนต์ ทำให้อากาศไหลผ่านรถมีความเป็นระเบียบมากขึ้น แรงต้านอากาศจึงลดลงการปิดช่องอากาศเพื่อกั้นไม่ให้อากาศไหลเข้าห้องเครื่องยนต์นี้ เรียกว่า "Grille block" นั่นเอง [CENTER][IMG]https://lh4.googleusercontent.com/-dLByCNdQ5is/Ua5YA1pSoqI/AAAAAAAABPs/UvJFk0wLLOk/s450/ad-20.png[/IMG] Honda Civic[/CENTER] เอ๊ะ!? แต่เดี๋ยวก่อนนะ ไปปิดช่องลมเข้าหม้อน้ำอย่างนี้ เครื่องยนต์ก็ได้โอเวอร์ฮีทกลับบ้านเก่ากันพอดี ปัญญาอ่อนป่ะเนี่ย? ฟังให้จบก่อนครับ โอเวอร์ฮีทแน่นอนถ้านำมาประยุกต์ใช้ในเมืองร้อนอย่างประเทศไทย แต่สำหรับเมืองนอกที่อุณหภูมิต่ำๆ การโมดิฟายแบบนี้ทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้นไม่มากนัก จึงนับเป็นการโมดิฟายที่นับว่ามีประสิทธิภาพที่สุดอีกวิธีหนึ่ง ความจริงแล้ว การปิดช่องลมไม่จำเป็นต้องปิดหมดทุกช่องก็ได้ จะปิดมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิเครื่องยนต์เป็นหลัก เคยมีการโมดิฟายแล้วสามารถลดแรงต้านอากาศได้มากถึง 10% โดยที่เครื่องยนต์ไม่เกิดการโอเวอร์ฮีทแต่อย่างใด และเนื่องจากการโมดิฟายแบบนี้ สามารถทำเองได้ มีค่าใช้จ่ายน้อย ติดตั้งง่าย และใช้งานได้จริง ทำให้การโมดิฟายลักษณะนี้เป็นหนึ่งในการโมดิฟายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกวิธีหนึ่ง [CENTER][IMG]https://lh3.googleusercontent.com/-X-_QEBkvFno/Ua5YCnR63GI/AAAAAAAABP4/IG6k-EPmkn8/s640/ad-21.png[/IMG] Pontiac Vibe [IMG]https://lh4.googleusercontent.com/-_bdV_JktoCo/Ua5YCp_rAOI/AAAAAAAABP8/5xCFU5SkIgM/s455/ad-22.png[/IMG] Toyota Yaris Sedan or Vios[/CENTER] นอกจากจะช่วยลดแรงต้านอากาศแล้ว ขณะที่สตาร์ทเครื่องยนต์ในอุณหภูมิต่ำมากๆ การปิดช่องลมยังทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น จนถึง "อุณภูมิทำงาน" (Operating temperature) ได้เร็วกว่าปกติ ที่อุณหภูมินี้จะเป็นอุณหภูมิที่เครื่องยนต์สามารถใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และการที่เครื่องยนต์สามารถทำงานที่อุณหภูมิทำงานได้เร็วขึ้น นั่นหมายความว่า อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะว่าขณะที่เครื่องยนต์ทำงานที่อุณหภูมิต่ำจะมีอัตราการสึกหรอมากกว่านั่นเอง สรุปได้ว่า การปิดกระจังหน้ามีข้อดีอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกก็คือ ลดแรงต้านอากาศโดยการกั้นไม่ให้อากาศไหลเข้าไปในห้องเครื่องยนต์มากเกินความจำเป็น อย่างที่สองก็คือ ทำให้เครื่องยนต์ร้อนเร็วขึ้นหรือใช้เวลาในการวอร์มเครื่องยนต์น้อยลงนั่นเอง แล้วประเทศร้อนอย่างบ้านเราล่ะ หมดสิทธิ์โมดิฟายแบบนี้ใช่ไหม? ก็ไม่ถึงกับทำไม่ได้นะ แต่ต้องออกแบบดีๆ หน่อย ออกแบบแต่พอดีไม่ต้องโลภมาก กั้นลมแค่พอประมาณก็พอไม่ต้องปิดช่องลมทั้งหมด แต่คำถามสำคัญก็คือ แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้องกั้นแค่ไหนถึงจะพอดี? อันนี้ก็คงต้องทดลอง ทดสอบ ลองผิดลองถูกกันไป อืม...ยุ่งยากไปไหม ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ? งั้นต้องวิธีนี้เลย "Active Grille Shutters" เป็นการใช้ครีบเปิด-ปิดเพื่อรับลมเข้าหม้อน้ำอย่างอัตโนมัติ เมื่อใดก็ตามที่เครื่องยนต์ยังไม่ร้อนมาก ครีบจะปิดไม่ให้อากาศไหลผ่านหม้อน้ำ การกั้นอากาศในลักษณะนี้จะทำให้แรงต้านอากาศของรถลดลง ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงเกินไป ครีบจะเปิดเพื่อรับอากาศมาหล่อเย็นเครื่องยนต์ หากใช้วิธีนี้แล้ว รับรองว่าเครื่องยนต์ไม่มีทางโอเวอร์ฮีทลาโลกไปก่อนอย่างแน่นอน [CENTER][IMG]https://lh3.googleusercontent.com/-RV54qUzz574/Ua5YDfmrpcI/AAAAAAAABQE/tOf-y2c2rwM/s593/ad-23.png[/IMG] [IMG]https://lh6.googleusercontent.com/-xxIAa753FEw/Ua5YEt1J88I/AAAAAAAABQM/XceHaBHRHBc/s640/ad-24.png[/IMG] Ford Focus[/CENTER] เทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง "Active Grille Shutters" เรียกย่อๆว่า "AGS" ถูกนำมาใช้กับ New Ford Focus 2012 รถยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีแห่งยุคอนาคต ฟอร์ดโฟกัสรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อน โดยเฉพาะในด้านแอโรไดนามิคส์ เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนแล้วสามารถลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศได้มากถึง 7.8%[6] ถือว่าลดได้เยอะมากๆ และแน่นอนว่าเทคโนโลยี AGS ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดแรงต้านอากาศในครั้งนี้ด้วย วัตถุประสงค์หลักของเทคโนโลยี AGS ก็คือลดแรงต้านอากาศ ซึ่งจะทำให้อัตราการบริโภคน้ำมันลดลง นอกจากนี้ ผลพลอยได้อันเนื่องมาจากแรงต้านอากาสที่ลดลง ยังทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีก 2% ย่อหน้านี้จะเป็นการอธิบายหลักการทำงานของเทคโนโลยี AGS ในฟอร์ดโฟกัส อย่างที่ได้อธิบายหลักการทำงานคร่าวๆ ไปแล้วว่า เทคโนโลยี AGS เป็นการใช้ครีบเพื่อเปิด-ปิด เพื่อรับลมเข้าหม้อน้ำ แต่สำหรับ AGS ที่ติดตั้งในฟอร์ดโฟกัสนั้นสามารถ เปิด-ปิด ได้ทั้งหมด 15 ระดับขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ ขณะที่เครื่องยนต์ต้องการระบายความร้อน ครีบจะเปิดรับลมเพื่อเข้าหมอน้ำอย่างเต็มที่ เช่น ในขณะรถติดหรือขับในเมืองด้วยความเร็วต่ำ แต่ขณะที่เครื่องยนต์มีอุณหภูมิไม่มากนัก ครีบจะปิดเพื่อกั้นไม่ให้ลมไหลผ่านหม้อน้ำ เช่น ในขณะการขับรถความเร็วสูงบนไฮเวย์ ซึ่งการปิดกั้นลมจะทำให้แรงต้านอากาศลดลง อัตราการบริโภคน้ำมันจึงลดลง นอกจากนี้ฟอร์ดยังเคลมว่า เทคโนโลยี AGS สามารถลดการใช้ก๊าซคาร์บอกไดออกไซด์ได้ 2% ซึ่งเป็นผลมาจาก การที่แรงต้านอากาศลดลง ส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องการกำลังน้อยลง ปริมาณน้ำมันที่ฉีดจึงน้อยลง ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ลดลงนั่นเอง [B]บทสรุป[/B] ในประเทศแคนนาดา มีคนกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบการโมดิฟายรถยนต์เป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่ใช่การโมดิฟายให้รถมีความแรงขึ้นหรือเร็วขึ้นแต่ประการใด แต่เป็นการโมดิฟายเพื่อให้รถของพวกเขาสามารถใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรียกง่ายๆว่า ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้รถประหยัดน้ำมันมากที่สุด เว็บไซต์ของพวกเขาคือ [URL='http://www.ecomodder.com']Fuel Economy, Hypermiling, EcoModding News and Forum - EcoModder.com[/URL] สำหรับผู้ชนะในการโมดิฟายรถให้แรงนั้น คือผู้ที่สามารถทำความเร็วได้มากที่สุด แต่สำหรับการโมดิฟายรถเพื่อให้ประหยัดน้ำมัน ผู้ที่ชนะคือผู้ที่สามารถทำระยะทางได้มากที่สุดโดยใช้เชื้อเพลิงน้อยที่สุด ที่เมืองนอกเขาเรียกว่า "MPG" ย่อมากจาก "Miles per gallon" ซึ่งหมายความว่า เชื้อเพลิง 1 แกลลอน สามารถวิ่งได้กี่ไมล์ ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านเราก็คือ กิโลเมตรต่อลิตรนั่นเอง (Km/l) เหล่านักโมดิฟายทั้งหลายต่างทำทุกอย่างเพื่อจะทำให้รถมี MPG มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับจูนเครื่องยนต์ เปลี่ยนอัตราทดเกียร์ รวมไปถึงการลดน้ำหนักรถยนต์ แต่การโมดิฟายที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ "การโมดิฟายแอโรไดนามิคส์" เหตุผลที่ได้รับความนิยมนั้นก็เป็นเพราะว่า "ทำง่ายและมีค่าใช้จ่ายน้อย" เรียกได้ว่า DIY ที่โรงรถได้เลย และการที่สามารถ DIY เองได้โดยใช้ค่าใช้จ่ายเพียงน้อยนิดนี้แหละที่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการโมดิฟายเพื่อเพิ่มแอโรไดนามิคส์ การโมดิฟายเพื่อเพิ่มแอโรไดนามิคส์ เป็นเพียงวิธีหนึ่งในอีกหลายวิธีที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง นอกจากนี้ "พฤติกรรมการขับขี่" ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลโดยตรงต่ออัตราการบริโภคเชื้อเพลิง ถึงแม้จะมีรถไฮบริดประสิทธิภาพสูง มีระบบช่วยประหยัดพลังงานอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่ถ้าหากขับแบบจะไปอย่างเดียว ออกตัวก็กดคันเร่งสุด ตอนเบรคก็กดเบรคสุด ถ้าขับแบบนี้ ถึงแม้จะมีระบบไฮบริดสุดไฮเทคแต่ก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เรียกได้ว่า รถออกแบบมาให้ประหยัด แต่คนขับไม่อยากประหยัด ก็ไม่รู้จะออกแบบมาให้ประหยัดเพื่ออะไร? ก็เลือกเอาแล้วกันว่าอยากจะเห็นตัวเลขอะไรเยอะกว่ากัน ระหว่างตัวเลขกิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือว่า ตัวเลขกิโลเมตรต่อลิตร :) [B]อ้างอิง (References)[/B] [1] Alessandro Talamelli, Introduction of Vehicle Aerodynamics, Royal Institute of Technology; Stockholm, Sweden [2] [URL='http://en.wikipedia.org/wiki/Honda_Insight']Honda Insight - Wikipedia, the free encyclopedia[/URL] [3] [URL='http://ecomodder.com/forum/showthread.php/project-geo-metro-boat-tail-prototype-15-mpg-10691.html']Project: Geo Metro boat tail prototype - 15% MPG improvement @ 90 kph / 56 mph - Fuel Economy, Hypermiling, EcoModding News and Forum - EcoModder.com[/URL] [4] [URL='http://ecomodder.com/forum/showthread.php/experiment-smooth-wheel-discs-tested-b-4-6-a-4368.html']Experiment: smooth wheel discs tested A-B-A - 4.6% mpg improvement @ 65 mph - Fuel Economy, Hypermiling, EcoModding News and Forum - EcoModder.com[/URL] [5] [URL='http://en.wikipedia.org/wiki/General_Motors_EV1']General Motors EV1 - Wikipedia, the free encyclopedia[/URL] [6] [URL='http://media.ford.com/article_display.cfm?article_id=33939']STREAMLINED ALL-NEW FORD FOCUS SIGNIFICANTLY REDUCES AERODYNAMIC DRAG, ADDING FUEL EFFICIENCY | Ford Motor Company Newsroom[/URL] [B]ขอขอบคุณ (Special Thanks)[/B] [1] [URL='http://autospeed.com.au/']AutoSpeed - Technology, Efficiency, Performance[/URL] [2] [URL='http://ecomodder.com/']Fuel Economy, Hypermiling, EcoModding News and Forum - EcoModder.com[/URL] [3] [URL='http://thenaritadogfight.com/']| Live for motor sport Japan[/URL] [4] [URL='http://world.honda.com/']Honda Worldwide : Honda Motor Co.,Ltd.[/URL] [CENTER][COLOR=#FF0000]***ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทั้งเนื้อหาภายในบทความรวมไปถึงรูปภาพประกอบของบทความนี้ ดังนั้น [B]ห้ามเผยแพร่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของบทความนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต[/B] เนื่องด้วยรูปภาพประกอบบทความทั้งหลายนี้ ผู้เขียนได้ทำการขออนุญาตจากเจ้าของภาพอย่างถูกต้องแล้ว ดังนั้นการนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจะถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของรูปภาพ อีกทั้งยังละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เขียนอีกด้วย ***หากต้องการนำไปเผยแพร่ ให้ขออนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้เขียนผ่านทาง E-mail ก่อนครับ ขอบคุณครับ (Email : [EMAIL]uppsala1989@hotmail.com[/EMAIL])[/COLOR][/CENTER][/QUOTE]
เข้าสู่ระบบด้วย Facebook
เข้าสู่ระบบด้วย Twitter
เข้าสู่ระบบด้วย Google
ชื่อผู้ใช้งานหรือที่อยู่อีเมล์ของคุณ:
คุณมีบัญชีผู้ใช้หรือไม่?
ไม่มี, สร้างบัญชีผู้ใช้ตอนนี้
มี, รหัสผ่านของฉันคือ:
ลืมรหัสผ่านของคุณ?
อยู่ในระบบตลอดเวลา
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
ฟอรั่ม
>
Portal
>
Articles
>
การดัดแปลงรถยนต์เพื่อเพิ่มสมรรถนะเชิงอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics Modification For Better Fuel Efficiency)
>
X
หน้าแรก
หน้าแรก
Quick Links
โพสต์ล่าสุด
กิจกรรมล่าสุด
ผู้เขียน
ฟอรั่ม
ฟอรั่ม
Quick Links
ค้นหาฟอรั่ม
โพสต์ล่าสุด
ประกาศซื้อขาย
ประกาศซื้อขาย
Quick Links
ค้นหาประกาศซื้อขาย
กิจกรรมล่าสุด
ผู้ค้าขายคะแนนสูงสุด
สื่อ/วิดีโอ
สื่อ/วิดีโอ
Quick Links
Search Media
New Media
สมาชิก
สมาชิก
Quick Links
สมาชิกที่โดดเด่น
สมาชิกที่ลงทะเบียน
ผู้ใช้งานในขณะนี้
กิจกรรมล่าสุด
โพสต์ข้อมูลส่วนตัวใหม่
เมนู
ค้นหาเฉพาะชื่อ
โพสต์โดยสมาชิก:
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ใหม่กว่า:
ค้นหาเฉพาะหัวข้อนี้
ค้นหาเฉพาะฟอรั่มนี้
แสดงผลเป็นหัวข้อ
การค้นหาที่มีประโยชน์
โพสต์ล่าสุด
เพิ่มเติม...