ขยันทำมากๆครับ ดีทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียวคือมันต้องล้างกระจกด้วยทุกครั้งที่จะฉีดแผงคอนเดนเซอร์สิครับ แต่ step 1 ทำแบบนี้ก่อนก็แจ่มมากแล้วครับ step 2 ขอแบบเลือกได้ครับว่าจะฉีดอะไร ผมว่าจะเลียนแบบ แต่เน้นแอร์เย็น ถอดสายฉีดกระจกออก ต่อฉีดแผงคอนเดนเซอร์อย่างเดียวเลย เอาอะไรเจาะสายยางให้เป็นรูเล็กๆครับ แล้วเอาอะไรอุดปลายสาย? แตรอันเดียวเสียงมันไม่สะใจนะครับ คนอะไร ขยันโคตร ทั้งย้ายแตร ทั้งฉีดคอยล์ร้อน โปรเจคหน้า แนะนำขยายช่องลมที่กันชนหน้า รับลมเต็มๆ
คุณหนุ่มรบกวน ลงรูปน้ำยาล้างห้องเครื่องหน่อยได้ไหมครับ ใช้แล้วมันกัดสีรถไหมครับผม พอดีอยากล้างห้องเครื่องอยู่ครับ
ผมย้ายมิกตั้งแต่ติดแกสได้สัก 1-2 เดือนนี่แหละครับ ตอนี้ติดแกสจะครบ 3 ปี ตค นี้ K แคมรีทำให้ แล้วก็ให้พี่แอ้มจูน ตอนหลังใช้ไปนานเข้าจูนเองแล้ว ค่าAF 14.7 ไม่สน เอาให้เหยียบติดเท้าเป็นพอ เคยพยายามจูนให้ AF สวยๆ แต่วิ่งในกทมไม่ได้เรื่อง อัตราเร่งแย่ หลังๆผมเล่น peak จูนสูตรพี่แอ้มตลอด หมดเรื่องเล่นแกสก็มาเล่นกับแอร์ต่อ หาอะไรทำไปเรื่อยๆ
พึ่งกลับมาครับ โคตรๆๆๆ เหนื่อยเลย เมื่อคืนนอนตี 3 ต้องตื่นตี 4:30 นัดลูกค้า 6โมงเช้า กลับมาถึงโรงงาน นั่งเครียลงานได้ 30 นาที ออกหาลูกค้าอีก กลับมาถึงโรงงานอีกที 4 โมงเย็น แอบขึ้นมานอน 20 นาที แล้วก็ต้องออก ข้างนอกอีก เพราะมีนัดกับทานข้าวกับลูกค้าต่างประเทศ พาเขาไป ทานข้าวพร้อมครอบครัวเขา ผมพาไปทานที่โชคชัยสเต็ก ตรงแถวแยก สุขุมวิทย์ (แถวๆ สถานทูตญี่ปุ่นเก่าอะคับ ) ทานกันเสร็จ ผมก็รีบแอบเดินมาจ่ายตังค์ก่อน เพราะลูกค้าเขา ไม่ยอมให้เราจ่าย (เขามาถึงบ้านเรา เราก็ต้องต้อนรับเขาให้ดีที่สุด) พอเดินมาถึงที่แคทเชีย .....Oh แม่เจ้า 8500 บาท (ผมอุทานในใจ......กูกินข้าวทั้งเดือน ยังไม่ถึง 5000 บาทเลย):cry::cry::cry: อยากจะบอกว่าตั้งแต่วันที่ได้เข้าเฝ้าท่านสมเด็จพระเทพเลยคับ กลับมาถึงบ้าน ก็มีลูกค้าเรียกไปคุยงานถึงดึกเลย แล้ววันเสาร์ ลูกค้าเข้ามาหาที่โรงงานทั้งวัน เลยคับ วันอาทิตย์ช่วงบ่ายก็ไปหาลูกค้าต่างประเทศอีก มาวันจันทร์นี้ก็พึ่งจะได้ กลับบ้านมาเนี่ยครับ แปลกคับ ลูกค้าไม่รู้มาจากไหน เยอะมากๆๆๆ งานเข้าแบบไม่ได้หยุดเลย พรุ่งนี้มีนัดกับลูกค้า 8 โมงเช้าแถวๆ รามคำแหงอีก เหนื่อยจิงๆๆ:sad::sad: พี่ยุทธนิ....ช่างคิดหาวิธีจิงๆ เลยคับ แจ่มครับ ผมไม่นึกว่า น้ำมันจะไหลตามผ้าลงไปได้เลยนะคับ เห็นที่พี่ยุทธทำแล้ว ผมก็....เออ แปลกดีแหะ เพราะตามกฎของธรรมชาติ น้ำจะไม่วิ่งขึ้นที่สูงกว่านิคับ เพราะผ้ามันจุ่มในกะระมัง แล้วขึ้นมายังปากกะระมัง (มันสูงกว่า) แล้วผ้าค่อยลงมาต่ำกว่าระดับน้ำของกะระมัง ถึงจะบอกว่ามันค่อยๆซึ่ม ตามเนื้อผ้า แต่มันก็ไม่น่าจะซึ่มขึ้นที่สูงแล้วไหลลงตามผ้าตลอดเวลา เกี่ยวกับเนื้อผ้าด้วยหรือเปล่าคับพี่ (อยากรู้จริงๆ คับ ผม งง มาก)
อย่างที่น้องลีตอบไว้เลยคับ ผมขออนุญาติแนะนำเพิ่มเติมนะคับใช้คอมR134a ได้คับแต่..... - ส่วนตัวผมแนะนำให้เติม R12 จะดีกว่า เพราะระบบเดิมทั้งหมดเป็น R12 แล้วใส่น้ำยาแอร์ R134a เข้าไปแล้วการระบายความร้อนของแผงคลอย์ร้อน ผมกลัวว่ามันจะระบายไม่พอ เพราะน้ำยาแอร์ R134a นั้นแรงดันในตัวมันสูง ก็เลยแนะนำให้ใช้น้ำยาแอร์ R12 จะ ok กว่าเพราะ R12 แรงดันในตัวมัน ยังต่ำ กว่า R134a เยอะคับ คอมเพร์สเซอร์แอร์ มีหน้าทีดูดอัด น้ำยาแอร์ภายในระบบเท่านั้นครับ แต่ถ้าเป็นคอมแอร์ที่ระบุว่าต้องใช้ R134a นั้น ตัว Body อาจจะหนากว่า คอมที่ใช้ R12 เพราะ R134a น้ำยาแอร์แรงดันมาสูงกว่า คอมแอร์ก็เลยต้อง หนากว่า ส่วนระบบภายในนั้น อาจจะมีบางส่วนแตกต่างกันนิดหน่อยคับ
คุณหนุ่ม ถ่ายรูปมาเป็นขั้นตอนงี้ แจ่มมากๆๆๆๆ เลยครับ ชอบๆๆๆ คับ คนเปิดมาดู แล้วเข้าใจง่ายดีคับ แจ่มมมม ขอตัวไปนอนก่อนนะคับ ง่วงงงงงมากกกกก
ตามรูปนั้นใช้หลัก กาลักน้ำธรรมดาครับ น้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ ปลายผ้าจะต้องวางให้ต่ำกว่าผิวน้ำเสมอ พอทำให้ผ้าทั้งผืนชุ่มน้ำ ปลายข้างที่อยู่ต่ำน้ำจะหยดลงพื้น แต่น้ำมันมีแรงยึดเหี่ยวระหว่างโมเลกุลมากมันจะด฿งน้ำในปริมาณเท่ากันจากปลายที่จุ่มในกาละมังออกมา เหมือนกับเราเอาสายยางมาสูลน้ำออกจากกาละมังนั่นล่ะครับ ตัวผ้าทำหน้าที่เป็นสายยาง หรือเป็นพาหะให้น้ำเกาะเพื่อดึงตัวออกมา ถ้าปลายผ้าสูงกว่าผิวน้ำในกาละมัง กาลักน้ำก็ไม่ทำงาน วิธีนี้กระจายน้ำไปตามความกว้างของผ้าได้ดี แก้ปัญหาการกระจายน้ำที่ใช้สายยางธรรมดาจะทำยาก นี่ถ้าผมหาแผงกระดาษแบบที่ไซโจใช้ได้เมื่อไร จะทำระบบลดความร้อนอากาศเข้าเครื่องแบบไซโจมั่ง ผ้าที่ใช้ เนื้อหนาๆฟูจะมีรูเยอะๆ อุ้มน้ำได้ดี ดูดน้ำได้เร็วกว่าผ้าบางๆครับ ลองทำเล่นดูดิ
.... step2ต้องรออีกนิครับใจเย็นๆเดี๋ยวจะมีอะไรเซอร์ไพร์55 ..... ใช้เข็มสอยผ้าเล็กๆลนไฟให้ร้อนแล้วก็เจาะ ส่วนปลายสายนั้นใช้ไฟแช็คลนไฟให้ร้อนๆแล้วหาอะไรมาบีบให้แบน รอให้เย็นก็แน่นปึ๊ก55
จริงๆแล้วน้ำยามันใช้สำหรับชำระล้างใขมันในห้องครัวอ่ะครับ แต่ผมลองเอามาล้างพวกคราบน้ำมันเครื่อง/ฝุ่น/สิ่งสกปรกต่างๆในห้องเครื่อง เดี๋ยวจะถ่ายรูปมาให้ดูครับ เรื่องกัดสีรถนี่ยังไม่รู้น่ะเพราะว่าตอนใช้ล้างก็ผสมน้ำเปล่า1:1ส่วนล้างออกดีกว่าพวกราคาแพงๆด้วยซ้ำไป
ที่ฉีดกระจกผมลองมาแล้ว ไม่ชัวร์และยึดติดตั้งลำบากด้วย(ตัวละ100บาท)ตอนนี้เก็บไว้เฉยๆ สู้ท่อสายยางไม่ได้อยากได้แบบไหนก็เจาะรูตามใจชอบ(ใครชอบรูเล็ก-รูใหญ่ ก็เลือกเอาครับ55)
ขอถามหน่อยคับพี่ คือว่ารถผมเพิ่งเปลี่ยนไดเออร์ใหม่เป็นแบบที่มีตัวตัดแรงดันอยู่ที่หัวไดเออร์อ่ะคับ จากนั้นเมื่อเสร็จแล้วก็ลองดู ปรากฎว่าแอร์เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง(ส่วนใหญ่จะไม่เย็นมีแต่ลมออกมาเท่านั้น) จึงได้ไปดูที่คอมแอร์ปรากฎว่าคอมแอร์ทำงานตลอด จึงได้ไปดูที่พัดลมปรากฎว่าก็ทำงานดี จากนั้น จึงได้ไปดูที่ตัวไดเออร์ปรากฎว่าน้ำยาแอร์วิ่งผ่านไดเออร์ไปได้ประมาณ 3 นาที จากนั้น ก็เหมือนว่าน้ำยา แอร์มาดันเต็มอยู่ที่กระจกไดเออร์ และก็เต็มตัวไดเออร์ จากนั้นแอร์ก็ไม่เย็นเลย ต้องทำการกดสวิตซ์ ตัดคอมแอร์ไว้ประมาณ 3 วินาที แล้วก็กดให้คอมแอร์ทำงานต่อแอร์ก็จะเย็นขึ้น แค่ประมาณ 3 นาที จากนั้นอาการก็เป็นแบบเดิม อาการแบบนี้มีสาเหตุมาจากอะไรคับ
ไอเดียคุณหนุ่มดีมากครับ ติดตามมาตั้งแต่แรกตอนหุ้มท่อน้ำยาแล้ว ตรงตามคอนเซ็ปท์ของผมคือง่ายและประหยัด ยิ่งทำหลาย ๆ อย่างยิ่งเห็นผลชัดเจน อิจฉาเรื่องห้องเครื่องที่สวยสะอาด และแถมยังมีเวลาคิดอะไรก็ได้ทำเลย ไม่เหมือนผม นอกจากเวลาว่างน้อยแล้วยังขี้เกียจอีกตะหาก เมื่อวานเพิ่งจูนแก๊ส+แลมด้าใหม่เอง ทนขับแบบอืด ๆ มาตั้งหลายเดือน แถมยังเบาดับอีกตั้งหลายรอบ ผมเคยซื้อที่ฉีดน้ำอินเตอร์ของรถอีโวที่ติดกับกันชนหน้าไว้ เดี๋ยวจะไปลองต่อกับมอเตอร์ฉีดน้ำดูครับ ท่าทางจะดีกว่าหัวฉีดน้ำกระจกหน้า เพราะหัวฉีดน้ำแบบนี้น่าจะพ่นเป็นฝอยและได้บริเวณกว้างกว่าหัวฉีดกระจก รถผมทำไม่ยาก เพราะผมมีอุปกรณ์จุกจิกซื้อไว้เยอะมาก พวกกระป๋องพักน้ำที่มี 2 มอเตอร์ (สำหรับกระจกปัดหลัง) และสวิทช์ฉีดน้ำตรงรุ่น ถ้ามีโอกาสจะเอาข้อมูลมาให้ดูครับ ปล.1อย่าลืมรูปน้ำยาล้างไขมันในห้องเครื่องนะครับ ช่วยบอกพิกัดที่คลองถมด้วย ผมเพิ่งไปมาเมื่อวันอาทิตย์เอง วิ่งหนีฝนขึ้นรถเมล์กลับบ้านแทบไม่ทัน ปล.2 ยังเห็นคนขายกล่องหลอกว่าดู UBซี อยู่เลย เขาเตือนกันตามเว็บต่าง ๆแล้ว คนก็ยังมุงแถมขายดีอีกซะด้วย เมื่อไหร่พวกขายของเอาเปรียบคนอื่นจะหมดไปซะทีนะเนี่ย...
แล้วคอมมันจะทำงานหนักเกินหรือป่าวครับ แต่ที่สังเกตุดูคอมไม่ตัดแล้วกินน้ำมันขึ้นเยอะเลยครับ แหะๆๆๆ และก็เป็นฝ้า.......... อิอิ
ถ้าอยากได้ฝ้าขึ้นที่กระจก ไม่ต้องเอาชิ้นส่วนอะไรๆของระบบแอร์ออกทำตามที่โพสบอกไว้รับรองรถท่านๆหนาวแน่ๆ(ระบบแอร์รถต้องสมบูรณ์ดีทุกอย่างอ่ะ)
ไอ้กล่องUBCราคาอันล่ะ200บาทใช่ป่าว....มันมั่วแหกตาชาวบ้านมานานแล้ว ไม่ลืมแน่....เดี๋ยวถ่ายรูป+พร้อมที่อยู่ของร้านขายด้วย พรุ่งนี้ๆครับ
วิธีเช็คการรั่วของน้ำยาแอร์ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบ ซ่อมรถเองมาก โดยเฉพาะ ระบบแอร์ผมทำเองมาตลอด ถูกมั่งผิดมั่ง ซื้ออุปกรณ์ เครื่องมือมาทำเอง ตลอด มีเรื่องขอ ปรึกษาครับ ตอนนี้ ระบบ แอร์ผม รั่ว ต้องเติม น้ำยาแอร์ทุก 10-15 วัน ไม่ทราบว่าจะพอ มีวิธีดู หรือ จุดที่น่าสงสัยในการเช็ครั่ว ผมใช้ AE101 เคยเปลี่ยน อุปกรณ์ ดังนี้ 1.ท่ออ่อน น้ำยา 3 เส้น ( จากดอมไปแผงคอยร้อน ) 2.Seal คอมแอร์ 3.แผงคอย์ร้อน 4.ตู้แอร์ ของใหม่ ( เทียม ) 5.dryer ตอนเช็ครั่ว เอาลม อัดเข้าระบบ 120 psi ( 8 Bar) แล้วเอาฟองสูบ่ไล่ก็ไม่เจอ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ
อาการนี้น่าจะรั่วแบบซึมตามจุดต่อต่างๆหรือไม่ก็รั่วประเภทตามด ฟองสบู่ยังไม่ดีพอครับ แนะนำให้ใช้โฟมโกนหนวด ชัวร์ :cry::cry: ถ้าหาไม่เจอจริงๆ คงต้องใช้เครื่องตรวจเช็คอิเล็คทรอนิคส์ล่ะครับ:cry::cry:
ลองเช็คตามที่คุณหนุ่ม บางบัวทองแนะนำดูก่อนครับ ถ้ายังไม่เจอ ลองกลับไปดูกระทู้ที่หน้า 35 ข้อความที่ #1033, # 1034 และ #1039ครับ
วิธีตอ่รีเลย์ [รบกวนพี่ๆเพื่อนๆหน่อยครับผมอยากทราบวิธีต่อรีเลย์ครัย จะตอ่พัดลมไฟฟ้าหน้าหม้อน้ำครับพัดลมมีสาย2เส้นเป็นไฟกับดินใช่ใหมครับและสายไหนเป็นและสายดินครับมีวิธีเช็คยังไงครับ ที่ตัวรีเลย์มีตัวเลขบอกตามขาคังนี้ครับ 30 85 87 87 ขาไหนคือไฟและขาไหนคือดินครับจะตอ่เข้ากับพัดลมยังไงครับชว่ยตอบทีครับขอบคุณครับ:cry::cry::cry::cry::cry:
รีเลย์ Bosch ใช่ไหมครับ 30 คือ ไฟ B+ ที่ต่อมาจากแบต ควรหา ฟิวส์ ใส่ก่อนเข้ารีเลย์ 86 คือ ไฟ จากสวิตซ์แอร์ (พวงจากรีเลย์พัดลมที่มีมาจากรถก็ได้ครับ การหาไฟโดยเอาหลอดเช๊คไฟดูแล้วลองปิดเปิดสวิตซ์ดู) 85 คือ Ground 87 คือ ไฟที่ต่อเข้าไปยัง พัดลม ส่วนตัวพัดลมอยากทราบว่าขั้วไหนไฟหรือ Ground ให้ลองเอาสายไฟจิ้มดูครับ พัดลมต้องดูดอากาศเข้านะครับ
ขอบคุณมากครับคุณLee:teeth: :teeth: :teeth: :teeth: ขอถามต่อนะครับ 86คือไฟจากสวิตซ์แอร์ใช้ต่อสายที่มาเข้าพ้ดลมเลยได้ใหม 86มช้สายไฟจากพัดลม 85ใช้สายดินอีกเส้นของพัดลมได้หรือเป่ลา แล้วสายดินที่มาจากตัวพัดลมต่อเข้าตรงไหนต่อเข้าขั้ว85รวมกับสายที่มืเดมได้หรือครับขอบคุณครับ:sad: :sad:
จากที่คุณLEE แนะนำพอจะเดาได้ว่า(ไม่ได้ดูตัวรีเลย์) ขา30น่าจะเป็นขา Common คือจะใช้(ไฟ+) หรือ(ไฟ-) มาต่อก็ได้แล้วแต่ไอเดียครับ ควรใช้สายไฟเส้นใหญ่หน่อยและใส่ฟิวส์ป้องกันด้วยก็จะดี ขา87,87น่าจะเป็นขา No(Normal Open) คือจุดที่เราจะต่อไปใช้งานครับ(Load)เส้นนี้ก็ควรใช้สายไฟเส้นใหญ่เหมือนกัน ขา85และ86น่าจะเป็น Coil ของรีเลย์สองขานี้จะใช้ขาไหนต่อไฟ + หรือไฟ - ก็ได้ เพราะเป็นแค่ไฟเลี้ยงCoilรีเลย์ ใช้สายไฟเส้นเล็กๆก็ได้ กินกระแสแค่มิลลิแอมป์ครับ : โดยปรกติมอเตอร์ไฟDC สามารถต่อไฟสลับขั่วได้ ถ้าเราต่อสลับขั่ว มอเตอร์ก็จะหมุนกลับทางครับ
รีเลย์เป็นข องboschมันจะมีแป้นสำหรับยึดน้อตขั้วที่อยู่ด้านเดียวกับแป้นคือขั้ว30ครับ จากคุณหนุ่มแนะนำมาขาเบอร์อะไรเป็นดินครับขอโทษนะครับไม่มีความรู้จริงๆครับ
ขอถามต่อนะครับ 86คือไฟจากสวิตซ์แอร์ใช้ต่อสายที่มาเข้าพ้ดลมเลยได้ใหม 86มช้สายไฟจากพัดลม 85ใช้สายดินอีกเส้นของพัดลมได้หรือเป่ลา แล้วสายดินที่มาจากตัวพัดลมต่อเข้าตรงไหนต่อเข้าขั้ว85รวมกับสายที่มืเดมได้หรือครับขอบคุณครับ พัดลมผมเปิดสวิตย์กุญแจพัดลมก็ทำงานตลอดจนกว่าจะดับเครื่องครับเหมือนกับว่าไม่ต่อจากคอมย์แอร์ จากรูปผมสามารถเอาดินขั้ว85ตอ่กับดินที่มาจากพัดลมได้หรือไม่ครับ ขอขอบคุณคุณหนุ่มบางบัวทองมากนะครับที่กรุณาให้คำแนะนำผมไม่มีความรู้ด้านนี้เลยครับ และต้องขอโทษด้วยนะครับที่ถามวนไปวนมาครับหวังว่าคงไม่ทำให้รำคาญนะครับ
พัดลมส่วนใหญ่สายดินจะเป็นสีดำ ให้เอาสายดินของพัดลมต่อกับน้อตยึดตัวถังรถใกล้ ๆ พัดลมก็ได้ครับ 85 ต่อมาจากไฟบวกของพัดลมแอร์ตัวเก่า 86 ต่อกับตัวถังรถ(เป็นสายกราวด์ของรีเลย์) 30 ต่อจากไฟบวกแบตเตอรี่ แนะนำใส่ฟิวส์กระบอกหรือฟิวส์เสียบก็ได้ใกล้ ๆ ที่ขั้วแบตเลย นอกนั้นต่อเหมือนรูปคุณหนุ่ม บางบัวทองโลดเลยครับ พัดลมถ้าต่อถูกขั้ว ลมจะถูกดูดจากกันชนหน้าพ่นเข้าหาห้องเครื่องนะครับ ต่อเสร็จต้องเช็คทิศทางของลมด้วย ถ้าไม่แน่ใจก็ไปให้ร้านไดนาโมต่อให้ก็ได้ ค่าแรงไม่น่าจะแพงมาก ลองถามราคาก่อนทำแล้วค่อยตัดสินใจดูครับ
มาช่วยเพิ่มเติมอีกนิด ขีด 3 ขีด ที่เห็นในรูปของคุณหนุ่ม คือ สาย Ground นะครับ จิ้มลงตัวถังเลย + อ้างถึง ตอบกลับ